เข้าสู่ระบบ“แม่ขา... ขอโทษนะคะที่มาช้า วันนี้หนูไปสัมภาษณ์งานมาน่ะค่ะ” ฉันคุยกับแม่ที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย สีหน้าแม่ซีดเซียวเพราะโรคมะเร็งที่กำลังเผชิญอยู่
ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้ว่าแม่ป่วย เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงจะโทรหากันบ้างแต่แม่ก็ไม่เคยบอกอะไรฉันเลย และนานมากแล้วด้วยที่ฉันไม่ได้กลับไทย แม่เองก็ไม่อยากให้กลับเท่าไหร่เพราะท่านไม่อยากให้ฉันกังวลใจนี่เอง
“สัมภาษณ์วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงหวานของคุณหมอสุดสวยที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ก็ดีค่ะ แต่ต้องรอฟังผลอีกที ว่าแต่แม่พี่เป็นไงบ้างคะน้องหงส์”
“หมอเพิ่งเปลี่ยนยาตัวใหม่ไปค่ะ ตอนนี้ยังบอกอะไรเยอะไม่ได้ ต้องรอดูอาการและผลข้างเคียงก่อนนะคะ”
“พี่ฝากน้องหงส์ด้วยนะ พี่คงไม่ได้มาหาคุณแม่บ่อยขนาดนี้แน่ ๆ เพราะต้องทำงาน” ฉันพูดออกไปทั้งที่เพิ่งไปสัมภาษณ์วันนี้เอง ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะรับทำงานหรือเปล่า แต่ถึงที่นี่ไม่รับก็ยังมีที่อื่น เพราะตอนนี้มีบริษัทอื่นอีกสองที่เรียกฉันเข้าไปทำงานแล้ว
แต่เหตุผลที่ฉันอยากรอที่นี่เพราะว่าชื่อเสียงของบริษัท ฐานเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ มันดีกว่าที่อื่น ฉันเลยยื้อเวลากับบริษัทอื่นไปก่อนเพื่อรองานนี้
“พี่เพียวสบายใจได้เลยนะคะ หงส์จะช่วยดูแลคุณป้าอย่างเต็มที่ค่ะ” น้องหงส์ยิ้มให้ฉัน ยิ้มแบบจริงใจ หน้าสวย ๆ ยิ้มหวาน ๆ จนตาเป็นสระอินั่น น่ารักจริงเลยเด็กคนนี้ ฉันล่ะอยากให้เธอเป็นน้องสาวของฉันจัง
“ได้ข่าวมาว่าเมื่อวานพี่เพียวเจอคุณเพชรที่โรงพยาบาลเหรอคะ เค้าทำอะไรพี่เพียวรึเปล่า”
“เค้ายังไม่ทันได้ทำอะไรพี่หรอกค่ะ พี่บอดี้การ์ดสองคนลากคอเค้าออกไปก่อนน่ะ”
“ค่อยโล่งใจหน่อย”
จากนั้นเราสองคนไปหาข้าวกินกันที่ร้านอาหารใกล้โรงพยาบาล เสร็จแล้วน้องหงส์ก็ไปทำงาน ส่วนฉันแยกย้ายไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่ห้างนิดหน่อยโดยมีบอดี้การ์ดสองคนติดตามไม่ห่างเหมือนเดิม
ตกลงกันไว้ว่าวันนี้จะรอน้องหงส์เลิกงานแล้วกลับบ้านไปพร้อมกัน แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับใครบางคนเข้า
ผู้ชายคนนั้น… คนที่สัมภาษณ์งานฉันวันนี้
“กลับกันมาแล้วเหรอลูก” คุณป้าหันมาทักทายฉันกับน้องหงส์ด้วยรอยยิ้มสดใสแสนใจดีอย่างเคย วันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า
“ค่ะมัมมี๊... Hi พี่ชาย กลับมาได้แล้วเหรอคะ” น้องหงส์ที่ตอบแม่ตัวเองเสร็จก็หันไปคุยกับผู้ชายคนนั้น
เดี๋ยวนะ พี่ชายเหรอ? นั่นคุณเสือลูกชายคนโตของคุณป้าสินะ ถึงว่าทำไมหน้าคุ้นจัง เบ้าเดียวกันขนาดนี้ทำไมฉันถึงไม่นึกเอะใจอะไรเลยนะ
จะว่าไปแล้วก็หล่องานดีกันทั้งบ้านจริง ๆ นั่นแหละ แม้แต่คุณลุงวัยหกสิบกว่ายังหน้าเด็กกว่าอายุและหุ่นเป๊ะอยู่เลย
“เข้ามานั่งเร็วลูก” ป้าเวเนสซ่าลุกจากโซฟาเดินตรงมายังฉันที่ยืนเอ๋ออยู่ พร้อมกับจูงมือฉันเข้าไปนั่งข้างท่าน
“นี่พี่เสือ ลูกชายคนโตของป้าเอง... พี่เสือนี่ไงหนูเพียวลูกสาวของเพื่อนแม่” ป้าเวเนสซ่าแนะนำเราให้รู้จักกัน
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทักทายเขาตามมารยาท เพราะถ้าเป็นพี่ชายคนโต ก็คงแก่กว่าฉันหลายปีสินะ
ตอนนี้ฉันอายุ 26 ปีส่วนคุณสิงห์ 30 แล้ว คุณเสือนี่คงปาเข้าไป32-33 ปีเลยกระมัง ถึงหน้าตาพวกเขาจะดูไม่แก่ตามอายุเลยก็ตาม
คุณเสือมองหน้าฉันนิ่งครู่หนึ่งแล้วก็หันสายตาไปมองทางอื่น นี่เขาไม่ชอบขี้หน้าฉันเหรอ?
“พี่เสือ!” คุณมังกรสะกิดเรียกคุณเสือ
“ว่า?” คุณเสือหันมองคุณมังกรด้วยหางตา น้ำเสียงเหมือนคนเบื่อชีวิต
“แม่พูดด้วยน่ะ ไม่ได้ยินเหรอ”
“ได้ยิน...”
“…ผมไปนะครับพ่อ แม่” เขาแทบไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปทันที
“ไปไหนลูก ไม่นอนบ้านอีกแล้วเหรอเสือ” คุณป้าตะโกนถามเขา
“ครับ นอนคอนโดสะดวกกว่า”
“ปกติก็เห็นแกนอนบ้านตลอดนะ ทำไมช่วงนี้ถึงอยากนอนคอนโด” คราวนี้เป็นคุณลุงที่ถาม ทั้งที่สายตายังจดจ่ออยู่กับมือถือ รูดขึ้นรูดลงดูโน่นนี่นั่นไปตามสไตล์สบาย ๆ ของท่านเวลาอยู่ที่บ้าน
“ก็ตอนนี้ไม่ปกตินี่ครับ” พูดจบก็เดินออกไป จากสายตาที่เขามองมา คงเพราะฉันสินะ เรื่องไม่ปกติที่ว่า
“ไอ้ลูกคนนี้! เฮ้อ... อย่าถือสาพี่เขาเลยนะลูก ช่วงนี้คงงานยุ่งน่ะจ้ะ” คุณป้าพยายามแก้ตัวให้ลูกชาย
@เช้าวันต่อมา…“เรียกมาทำไมแต่เช้าเลยวะ” ไอ้สิงห์มันถามอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่วันนี้ผมเรียกทุกคนมารวมตัวทานข้าวพร้อมหน้ากันแต่เช้าที่บ้านใหญ่ ซึ่งช่วงนี้ไอ้น้องบ้านี่มันก็เหมือนจะมีเรื่องให้คิดให้หงุดหงิดใจอยู่ผมเลยไม่ได้ถือสาอะไรมันมากมายโดยตอนนี้มีทั้งครอบครัวผมและป๊ากับแม่ของเพียวอยู่ด้วย เพราะผมตั้งใจจะบอกข่าวดีเรื่องที่กำลังมีลูกอีกคนหรือสองคนไม่แน่ใจ อยู่ในท้องเมียผม กะว่าตั้งใจจะบอกให้รู้พร้อม ๆ กันเลยทีเดียว “ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้ว ผมก็จะขอแจ้งเลยแล้วกันนะครับ” ลุกขึ้นยืนแล้วทำน้ำเสียงจริงจังจนเพียวถึงกับหลุดขำพรืด“อะไรกันลูก ทำไม? มีเรื่องอะไรสำคัญเหรอ” แม่ผมหันมาถามในขณะที่มือก็ยังห้ามสองแฝดไม่ให้แย่งแตงกวาชิ้นเดียว ไม่รอช้าผมก็ยกที่ตรวจครรภ์ขึ้นมาวางไว้กลางโต๊ะอาหาร“กรี๊ส... เจ้จะมีน้องให้สองแฝดแล้วเหรอเนี่ย” แต่คนที่สายตาไวสุดดันเป็นยัยหงส์ตัวแสบนี่สิ ที่ยื่นมือมาปาดหน้าทุกคนแล้วหยิบที่ตรวจครรภ์ไปดูแล้วหวีดออกมาท่าทางดีใจ “เว่อร์ไปมั้ย ได้ข่าวว่าไม่ชอบเด็ก” ไอ้มังกรมันพูดว่าน้องสาวพลางยกมือกอดอกทำหน้าเอือมระอาใส่ ช่วงหลัง ๆ ไอ้สองคนนี้มันเป็นอะไร เหมือนคนที
ผมรู้ว่ามันคืออะไร แต่แค่อยากมั่นใจโดยการได้ยินออกมาจากปากเธอ“สองขีดค่ะ หนูเพิ่งตรวจมาเมื่อเช้านี้ ดีใจมั้ยคะ”“...” “ปะป๊า...”“...”“พี่เสือ!”“ห หา? ขา!” ผมผละสายตาออกจากขีดสีแดง ๆ สองขีดนั่นแล้วหันกลับไปมองหน้าเธอแบบอึ้ง ๆ“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ หรือว่าพี่ยังไม่อยากมี”“เปล่าค่ะ”“หนูขอโทษนะคะที่หยุดกินยาคุมโดยที่ไม่ได้ปรึกษาพี่ หนูแค่คิดว่าอยากมีอีกท้องตอนนี้ ให้ลูกได้โตไล่ ๆ กัน ไม่อยากให้เค้าอายุห่างกันเกินไป แต่หนูลืมคิดไปว่าพี่อาจจะไม่โอเค” หลังจากที่ผมนิ่งเงียบไปสักพักเพียวก็พูดขึ้นมา น้ำตาเริ่มรื้นจนต้องก้มหน้าก้มตาอย่างคนไม่มั่นใจแล้วขอโทษผม“ไม่ใช่ค่ะ อย่าพูดแบบนั้น” ผมดึงเธอมากอดเอาไว้ในอ้อมอกอย่างเต็มรักแล้วลูบหัวปลอบใจก่อนที่เธอจะคิดน้อยใจไปมากกว่านี้จะขอโทษผมทำไม ผมนี่อยากมีลูกกับเธอใจจะขาด ไม่งั้นคงไม่ถึงขั้นต้องวางแผนแอบสลับยาคุมให้เธอท้องด้วยตั้งแต่แรกหรอก“พี่ไม่ได้ไม่พร้อมสักหน่อย คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย หืม” “ก็เห็นพี่เงียบไม่พูดอะไรเลยนี่นา”“พี่แค่กำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี แล้วพี่จะขออะไรจากพวกอา ๆ มันให้รับขวัญลูกของเราต่างหากล่ะ” ผมไม่ได้ตั้งใจ
“หนูยังกินยาคุมอยู่ไหมคะ” ปากถามออกไป มือก็เริ่มลูบไล้หน้าขาอ่อนขาว ๆ แล้วเลื่อนมือสอดใต้สาบกระโปรงชุดนอนเข้าไปยังท้องแบนราบ กดน้ำหนักมือบีบขย้ำเอวบางเบา ๆ จนเธอเริ่มหายใจถี่ขึ้นเบา ๆ ผมจึงขยับตัวขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ ผมรู้ดีว่าควรปรนเปรอเธอยังไงให้เธอมีอารมณ์ร่วมด้วยไวที่สุด“ถามทำไมเหรอคะ?” เพียวใช้สองมือประคองใบหน้าของผมไว้แล้วทำสายตายั่วยวนใส่อย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลาเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองบนเตียงนอน บอกเลยว่าเมียผมแม่งโคตรร้อนแรงอะ ขนาดตอนไม่ทำสายตาแบบนี้ใส่ยังน่าขย้ำแล้วนี่ยิ่งทำผมจะเอาอะไรไปอดใจไหวกันละครับอยากรีดน้ำออกสุด ๆ แล้วตอนนี้ ไอ้เสือร้ายในกางเกงนี่แข็งปั๊กจนปวดหนึบแทบจะแตกอยู่แล้ว“มาทำน้องให้สองแฝดกันเถอะนะครับ คนดี” “หึ ไม่ทันแล้วละค่ะ” เพียวส่ายหน้าให้หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ แล้วยกยิ้มหวานส่งมาให้ผม“ไม่ทันอะไรเหรอคะ น่า... นะ พี่ไม่ไหวแล้วเนี่ย” พูดไปก็เสยสะโพกสอบให้แก่นกายที่กำลังพองขยาดใหญ่ให้เบียดเสียดกับเนินเนื้ออวบอูมกลางกายสาว ตอนนี้ผมไม่มีสติจะมาสงสัยอะไรกับคำพูดเธอหรอกนะ เพราะว่าในสมองพร่าเบลอไปหมดแล้วหน้าก็ยั่ว ตัวก็โคตรหอม นมก็ใหญ่ ช่วงล่างนี่ก็ฟิต
“เป็นอะไรคะ ไปค้อนใส่เพื่อนหนูทำไมกันเนี่ย?” เพียวยื่นหน้ามากระซิบกระซาบใกล้หูผมให้พอได้ยินกันสองคนด้วยความสงสัย เธอคงเห็นแหละว่าผมมองหน้าไอ้แดเนียลตาเข้มขนาดไหน “เพื่อนอะไร แฟนเก่าชัด ๆ” ทำมาพูดว่าเพื่อน เหอะ! “รู้ได้ไงคะ ว่านั่นแฟนเก่าหนู” เพียวหันขวับมาถาม ทำหน้าเลิ่กลั่ก ร้อนตัวทำไม ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย เมียใครวะน่ารักชะมัด แต่ไหน ๆ ก็ไหนแล้ว แกล้งเล่นใหญ่ทำเป็นไม่พอใจให้เมียง้อสักหน่อยดีกว่า ถือว่าขอล้างตาที่เมื่อคืนไม่ได้เอาเพราะเมาหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้“ก่อนจะถามว่าพี่รู้ได้ยังไง ตอบมาก่อนดีมั้ยว่าทำไมถึงไม่บอก ตั้งใจปิดพี่เหรอ หืม?”“ปะ เปล่านี่คะ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดสักหน่อย แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว เลยไม่รู้จะพูดขึ้นมาทำไมให้พี่ไม่สบายใจนี่นา” เพียวพูดตอบมาพลางทำหน้าออดอ้อนให้ผมไม่ใจร้อนยิ่งไปกว่าเดิม ซึ่งพักหลัง ๆ เธอใช้ไม้นี้บ่อยมาก เพราะว่า มันได้ผล เห็นสายตาอ้อนปนยั่วยวนของเมียทีไร ไข่ขึ้นทุกทีเลยเว้ย ใครจะไปมีอารมณ์โกรธลงวะ มีแต่อารมณ์หื่นมากกว่า“ไม่โกรธหนูนะคะ”“ง้อพี่ก่อนสิคะ สัญญาว่าจะไม่โกรธถ้าหนูทำให้พี่พอใจได้” “ง้อยังไงเหรอคะ”“ไม่เอาน่า... อย่ามาทำซื่อบื้อ” “ห
เสือ พยัคฆินทร์ | talk : ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวหนักท้ายทอยสุด ๆ หันไปมองเวลาในนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียงก็พบว่าเป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่าแล้วก้มลงมองตัวเองก็พบว่ายังใส่เสื้อผ้าชุดเจ้าบ่าวแบบลำลอง เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีเดียวกันชุดเดิมที่ใส่เมื่อคืนนี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่เมาจนภาพตัด หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้แล้วขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไงวะ เท่าที่จำได้ตอนตีสามยังตั้งวงเมาอยู่กับเพื่อน ๆ น้อง ๆ อยู่เลยนี่ว่าเมื่อคืนโดนยื่นน้ำเมาให้หลายขนาน เจ้าบ่าวอย่างผมจะปฏิเสธได้ยังไง แขกผู้ใหญ่ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้บรรดาเพื่อน ๆ ผมที่มีตั้งแต่เพื่อนสมัยอนุบาลยันปริญญาโทที่พร้อมใจกันมารวมตัวร่วมแสดงความยินดีให้ เราเลยเอาให้สุดกันไปข้างหนึ่ง เรียกได้ว่ายิ่งกว่างานเลี้ยงรวมรุ่นเสียอีก และไหนจะพรรคพวกเพื่อน ๆ ของไอ้สิงห์กับไอ้มังกรที่ผมรู้จักอีกเพียบ ผมนี่กระดกเบียร์กระดกเหล้าแทนน้ำเปล่ากันเลยทีเดียวแต่จะว่าไปงานนี้มันเป็นความทรงจำที่ดีของผมครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก แล้วก็มีครอบครัวและเพื่อนทุกคนที่สำคัญในชีวิตผมมาร่วมแสดงความยินดี มีโมเมนต์ที่ดี ๆ ร่วมกัน ถึงกว่าจะจบงา
“กอดทักทายคงไม่เป็นไร แต่ถ้ากอดภรรยาผมนานเกินไปคงจะดูไม่ดีนะครับ” คุณเสือก็ตอบกลับไป ทั้งคู่สนทนากันพักใหญ่ คำพูดที่สนทนากันมันฟังออกแนวจิกกัดและเกทับกันมากกว่าที่จะเป็นมิตรด้วยคืออะไร? ทำไมเป็นงี้ แดเนียลอะฉันพอเข้าใจ เหมือนเขาจะตั้งใจยั่วโมโหพี่เสือนิดหน่อยนั่นแหละ ตามประสาแฟนเก่าและนิสัยเขาก็เคยเป็นคนหวงของใช้ได้เลยอาจจะโดนลมกับไอ้เฮียเพชรมันเป่าหูมาด้วยเลยเป็นอย่างนี้มั้ง แต่พี่เสือนี่สิตาเขียวปั๊ด ท่าทางคือพร้อมบวกมากแต่ต้องสะกดอารมณ์ไว้ เขาไม่เคยรู้เสียหน่อยว่าแดเนียลเป็นใคร ทำไมเหมือนหึงและไม่พอใจขนาดนั้น ..แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องรีบห้ามศึกก่อน“มาค่ะ มาถ่ายรูปกัน”หลังจากนั้นไม่นานฉันต้องแยกตัวออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ กว่าจะออกมาอีกทีก็เกือบเย็น ตอนนั้นเองที่ฉันได้เห็นแสง สี เสียงอลังการ แขกเหรื่อเยอะมากกว่าตอนกลางวัน พนักงานเสิร์ฟที่จ้างมาก็เดินกันให้วุ่นวายละลานตาเลยก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมที่บ้านพี่เสือถึงมีบอดี้การ์ดเยอะแยะไปหมด เพราะดูการใช้ชีวิตของทุกคนปกติดีมีการมีงานทำที่ถูกกฎหมาย ไม่ใช่มาเฟียหรือพวกทำงานสีเทาอะไรแต่วันนี้เริ่มเข้าใจแ







