ตอนที่32
หนูขอโทษค่ะ
แสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้ว
แต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง
ใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีก
ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง
“วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของเธอหยุดชะงักทันที รู้สึกเหมือนชีวิตและวิญาณรวมตัวกันอีกครั้ง
เสียงนี้เหมือนน้ำเย็นที่ชโลม ลงบนหัวใจที่กำลังรุ่มร้อนและเจ็บปวด และเสียงนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าทุกลมหายของเธอยังมีค่ามากแค่ไหน
สองมืออันบอบบางสอดเข้ามาที่เรือนผมของเธอ พร้อมกับใบหน้าสวยงามแต่ตอนนี้แสดงถึงความทุกข์ร้อนใจเป็นอย่างมาก ลอยเข้ามาตรงหน้า พร้อมกับหยดน้ำตาที่รินไหลลงบนผิวแก้มเย็น ๆ ของเธอ
“คุณแม่” เธอร้องออกมาเบา ๆ พร้อมกับหยาดน้ำตาใสเช่นกัน
“แม่อยู่ตรงนี้แล้วลูก หนูห้ามหลับไปหลายวันแบบนี้อีกนะลูก แม่ใจจะขาดอยู่แล้ว ฮึก...ฮือ...แม่รักหนูนะลูก..ฮือ..”
เสียงร่ำไห้ปานใจแทบขาดของผู้เป็นแม่นั้น มันสะเทือนหัวใจของเธอเหลือเกิน ความรู้สึกผิดที่มีต่อแม่ กำลังเล่นงานเธออย่างหนัก ที่เธอเห็นแก่ตัวคิดจะหนีจากโลกใบนี้ไป เพราะแค่เสียใจกับผู้ชายเพียงคนเดียว คนที่ไม่เห็นชีวิตและลมหายใจของเธอมีค่าเท่ากับคนที่ให้กำเนิด
“คุณแม่ขา หนูขอโทษ หนูจะไม่ทำให้คุณแม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว ฮือ...คุณแม่อย่าร้องเลยนะ..ฮึก...ยิ่งหนูเห็นคุณแม่..ฮือ..ร้องไห้ หัวใจของหนู..มันยิ่งเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...ฮือ..”
โสภาได้ยินดังนั้น ก็รีบปาดน้ำตาทิ้งทันที
“จ้ะ ๆ แม่จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว แม่นี่ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ ลูกตื่นแล้วก็ยังมาร้องไห้อยู่อีก” พูดจบก็ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับลูกสาว ก่อนจะพูดต่อเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“จริงสิ แม่มัวแต่ดีใจจนลืมไปว่า ต้องรีบไปบอกหมอว่าหนูตื่นแล้ว รอแม่แป๊บเดียวนะลูก เดี๋ยวแม่มานะ” พูดจบก็เดินแกมวิ่งออกไปจากห้อง ไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับอาจารย์หมอคนเดิม และนักศึกษาแพทย์อีกสองคน
“ไงฮึ หลับสบายไปหลายวันเลยนะ แม่เราร้องไห้จนตาชอบตาช้ำหมดแล้วเห็นไหม แล้วนี่รู้สึกเหนื่อยอยู่เหรือเปล่า”
วุ้นเย็นส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา
“ไม่เหนื่อยค่ะ แต่เจ็บคอ” เธอบอกอาการตามจริง เพราะตั้งแต่ตื่นมานอกจากเจ็บคอ เธอก็ไม่ได้มีอาการอะไรกลับรู้สึกสดชื่นเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม
“อ๋อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หายเพราะเป็นอาการข้างเคียงจากการใช้เครื่องช่วยหายใจน่ะ” คำตอบของอาจารย์หมอ ทำให้เธอรู้สึกตกใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่เธอโกรธจนเป็นลม จะต้องถึงกับใช้เครื่องช่วยหายใจเลยหรือ
“หือ คราวนี้ถึงกับต้องใส่ท่อเลยหรือคะ” เธอเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ก็หนูขี้เกียจไม่ยอมหายใจเอง ลุงหมอก็ต้องใส่ท่อแบบนี้แหละ ดีนะที่พอใส่ครบสามวันหนูก็เลิกขี้เกียจมาหายใจเองได้ ไม่อย่างนั้นลุงหมอก็อาจพิจารณาให้เจาะคอเลยนะ”
วุ้นเย็นหดคอด้วยความหวาดเสียว อาจารย์หมอ ตรวจอาการอื่น ๆ อีกนิดหน่อย ก่อนจะออกไปจากห้อง ปล่อยสองแม่ลูกให้อยู่ด้วยกันสองคน
“หนูหลับไปกี่วันคะ” วุ้นเย็นเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเมื่อกี้อาจารย์หมอก็บอกว่าเธอใส่ท่อไปสามวัน แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกับเพิ่งหลับไปแค่แป๊บเดียวเอง
โสภาหน้าเสียลงนิดหนึ่ง ความจริงเธอไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ความน่ากลัวเมื่อห้าวันที่แล้วนั้นเลย ภาพของลูกสาวเพียงคนเดียว หยุดหายใจแล้วหมอต้องช่วยกันทำซีพีอาร์กันให้วุ่น ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนจะตายเสียให้ได้
“ห้าวัน หนูหลับไปถึงห้าวัน แต่ใส่ท่อแค่สามวันแรก อีกสองวันต่อมาก็ถอดออก แต่...” เสียงของโสภาหายเข้าไปในลำคอ เธอกลืนน้ำลายนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อเสียงเครือ
“แต่...หนูไม่ยอมตื่น เพิ่งมาตื่นวันนี้แหละ” พูดพลางน้ำตาก็ร่วงพรูออกมาอีก
วุ้นเย็นยื่นมือออกไปซับน้ำตาให้ผู้เป็นแม่อย่างอ่อนโยน ทั้งที่น้ำตาของตัวเองก็รินไหลไม่หยุด
“หนูขอโทษค่ะที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้เพราะหนู”
ตอนที่33 พี่ชายเป็นคนทำ “พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ” “หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลยโสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดีเสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่งหญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนล
ตอนที่32 หนูขอโทษค่ะแสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้วแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีกความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง “วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของ
ตอนที่31อยากได้พี่เป็นผัววุ้นเย็นขยับได้เพียงก้าวเดียว เอวเล็กคอดกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนากระชากร่างของเธอเข้าไปปะทะกับแผ่น อกกว้างอย่างแรงมือหนาอีกข้ากำหลังคอบางเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนพูดลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาชวนขนลุก “เธอรู้ไหมว่าดุจดาวเป็นคนดีและรักเธอมากแค่ไหน แล้วมันสมควรแล้วหรือที่จะให้คนอย่างเธอ มาพูดถึงแบบนี้ ฮะ”เมธัชตะคอกจนวุ้นเย็นได้กลิ่นมิ้นต์จากปากของเขา เธอตกใจมาก แต่เพราะความริษยาที่เก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ภายใน แทรกขึ้นมาเหนือเหตุผลตามความเป็นจริง ทำให้หญิงสาวลืมกลัว ตะโกนกลับไปอย่างโมโหเช่นกัน “ทำไม พี่ดุจดาวสูงส่งมากอย่างนั้นหรือ แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น หรือว่าติดใจเรื่องบนเตียงมากจนถึงกับ อื้อ..”วุ้นเย็นร้องอู้อี้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด เมื่อถูกริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายบดขยี้ปากเล็กอิ่มด้วยความรุนแรง จูบแรกของเธอช่างไร้ความอ่อนโยน อ่อนหวา
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต