ตอนที่33
พี่ชายเป็นคนทำ
“พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ”
“หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”
หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลย
โสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดี
เสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่ง
หญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนละเอียด มีเห็ดหอมหมูสับและกุ้งตัวโต ๆ แบบที่เธอชอบกิน ก่อนจะตักโจ๊กเข้าปากไปคำหนึ่งแล้วก็ต้องตาโต
“อื้อ อร่อยจังเลยค่ะคุณแม่ ขอบคุณนะคะที่ทำโจ๊กอร่อย ๆ แบบนี้มาให้หนู” พูดจบก็ตักโจ๊กเข้าปากอีกหลายคำ ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้รู้สึกหิวสักนิด แต่พอได้กินก็หิวมากชนิดที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองหิวขนาดนี้มาก่อน
โสภานั่งมองด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขจนน้ำตาซึม ที่ได้เห็นลูกสาวเพียงคนเดียว ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและพูดคุยกับเธออีกครั้ง เพราะภาพที่วุ้นเย็นนอนแน่นิ่งเป็นผักอยู่ในห้องไอซียูเมื่อสามวันก่อนยังติดตาและทำให้เธอหวาดกลัวไม่หายเลย เธอได้แต่ภาวนาให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นภาพแบบนั้นของลูก
เมื่อวุ้นเย็นกินโจ๊กจนหมดชามแล้ว โสภาก็ยื่นแก้วน้ำส้มคั้นที่เย็นเจี๊ยบไปให้ อีกฝ่ายก็รับไปและค่อย ๆ จิบ เพราะจำได้ว่าเคยสำลักหนักมากมาก่อน
“กินเสียหมดชามเชียว แสดงว่าโจ๊กต้องอร่อยมากเลยล่ะซิ” โสภาพูดพลางกวาดตามองชามเปล่าด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและพึงพอใจ
วุ้นเย็นพยักหน้าก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใส เหมือนไม่เคยเป็นคนไข้อาการหนักมากมาก่อน
“อื้อ อร่อยค่ะอร่อยมาก น้ำส้มคั้นนี่ก็อร่อย หอมหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ มีเนื้อส้มปนมาด้วยค่ะ ฮือ...ตอนที่หนูหลับไปคุณแม่คงต้องเหนื่อยแย่เลยนะคะ ทั้งต้องดูแลหนู ทั้งยังต้องเตรียมโจ๊ก เตรียมน้ำส้มคั้นให้หนูด้วย แต่ถ้าคราวหน้าหนูหลับไปอีก คุณแม่ไม่..”
เธอพูดได้แค่นั้น ผู้เป็นแม่ก็เอามือบางมาปิดปากเธอเสียก่อน พร้อมกับดุเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“อย่านะ อย่าพูดแบบนี้อีก หนูจะต้องไม่เป็นอะไร เข้าใจไหม” น้ำเสียงตอนท้ายเริ่มสั่นเครือ
วุ้นเย็นหลับตาลง อยากจะเอาไม้เคาะหัวตัวเองสักป้าบ ที่เผลอพูดไม่คิด ทำให้แม่ต้องเสียใจอีกจนได้
“อ๋อคือหนูหมายถึงตอนที่หนูได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอย่างไรล่ะคะ” ดีที่เธอหัวไว นึกแก้ไขคำพูดได้ทัน ทำให้สีหน้าของผู้เป็นแม่ดีขึ้นมาได้
“แล้วไป” โสภาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเลื่อนโต๊ะกินข้าวออกมาพลาง พูดไปพลาง
“แม่น่ะไม่ได้เป็นคนทำโจ๊กกับน้ำส้มคั้นนี่หรอกนะ จะไปเหนื่อยได้อย่างไรกัน”
“อ้าว! แล้วใครเป็นคนทำล่ะคะ ถ้าไม่ใช่แม่”
ตากลมเบิกกว้างขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่คำตอบของแม่ทำให้แก้วน้ำส้มในมือแทบร่วงลงบนพื้น
“เป็นคุณธัชต่างหากล่ะที่ทำ และทำมาส่งให้ทุกวันเลยนะลูก พอมาถึงเห็นหนูยังไม่ตื่นก็จะเอากลับไปและทำใหม่มาแทน สลับกันแบบนี้ทุกวันเลย อย่างวันนี้ก็เช่นกัน แล้วที่หนูตื่นมาไม่เจอแม่ก็เพราะว่าแม่ออกไปส่งคุณธัชมานั่นแหละ”
อึก! ในเมื่อเกลียดเธอขนาดนั้น ทำไมถึงต้องมาทำดีด้วย หรือแค่มาเช็คว่าเธอได้ตายสมใจเขามากกว่ากันแน่ แต่พอคิดถึงสัมผัสใกล้ชิดที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความหยาบคาย แต่ก็ทำให้รู้สึกวาบหวามได้เช่นกัน แต่วันนั้นเธอเสียใจและตกใจจึงไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้
นิ้วเรียวเผลอยกขึ้นแตะริมฝากเล็กเบา ๆ มันยังรุมร้อน คล้ายกับริมฝีปากของเมธัชกำลังสัมผัสอยู่
จู่ ๆ พวงแก้มที่ซีดเซียวเพราะนอนไปหลายวัน ก็แดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“อ้าวแล้วนั่น ทำไมจู่ ๆ ก็หน้าแดงล่ะลูก ไม่สบายหรือเปล่า” โสภารีบเข้ามาหาพร้อมกับยกมือบางไปแตะไปที่ใบหน้าของลูกสาวเพื่อเช็คดูว่าตัวร้อนหรือไม่
หญิงสาวเพิ่งจะรู้ตัว รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติทันที
“เปล่าค่ะเปล่า หนูไม่ได้เป็นอะไร แค่แปลกใจว่าทำไมจู่ ๆ พี่ชายที่เกลียดหนูนักหนา ถึงกลับมาทำอะไรแบบนี้ให้หนูได้น่ะค่ะ” เธอพูดเพื่อกลบเกลื่อนและหยั่งเชิงดูว่าแม่จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่คอนโดในวันนั้นมากแค่ไหน ในระหว่างที่เธอหลับไปถึงห้าวัน แล้วเมธัชได้พูดถึงเรื่องสมุดจิ๋วเล่มนั้นหรือไม่
ตอนที่33 พี่ชายเป็นคนทำ “พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ” “หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลยโสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดีเสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่งหญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนล
ตอนที่32 หนูขอโทษค่ะแสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้วแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีกความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง “วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของ
ตอนที่31อยากได้พี่เป็นผัววุ้นเย็นขยับได้เพียงก้าวเดียว เอวเล็กคอดกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนากระชากร่างของเธอเข้าไปปะทะกับแผ่น อกกว้างอย่างแรงมือหนาอีกข้ากำหลังคอบางเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนพูดลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาชวนขนลุก “เธอรู้ไหมว่าดุจดาวเป็นคนดีและรักเธอมากแค่ไหน แล้วมันสมควรแล้วหรือที่จะให้คนอย่างเธอ มาพูดถึงแบบนี้ ฮะ”เมธัชตะคอกจนวุ้นเย็นได้กลิ่นมิ้นต์จากปากของเขา เธอตกใจมาก แต่เพราะความริษยาที่เก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ภายใน แทรกขึ้นมาเหนือเหตุผลตามความเป็นจริง ทำให้หญิงสาวลืมกลัว ตะโกนกลับไปอย่างโมโหเช่นกัน “ทำไม พี่ดุจดาวสูงส่งมากอย่างนั้นหรือ แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น หรือว่าติดใจเรื่องบนเตียงมากจนถึงกับ อื้อ..”วุ้นเย็นร้องอู้อี้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด เมื่อถูกริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายบดขยี้ปากเล็กอิ่มด้วยความรุนแรง จูบแรกของเธอช่างไร้ความอ่อนโยน อ่อนหวา
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต