ตอนที่22
ถ้าไม่ตื่นมา พี่จะไม่ให้อภัยตลอดไป
ญาดาพูดจบ ก็ดึงลูกสาวเข้ามากอดปลอบโยน แม้เธอเองจะเอ็นดูวุ้นเย็นไม่น้อย แต่ดุจดาวจะยึดติดจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุขก็ไม่ได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรความสุขของลูกก็ต้องมาก่อน และความสุขของลูกก็คือการได้แต่งงานกับเมธัช มีลูกหลานสืบไป
..........................................................................
ปลายนิ้วเรียว ไล้ไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาวของวุ้นเย็นอย่าแผ่วเบา ไล่ไปถึงเปลือกตาบางที่ปิดสนิท ก่อนที่จะลูบขนตางอนหนา ที่เวลาที่เจ้าตัวพูด ขนตานี้ก็จะสั่นไหวราวปีกผีเสื้อดึงดูดสายตาของผู้คนได้เสมอ
เมธัชหดมือกลับมา ก่อนจะโน้มตัวลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ริมใบหูบาง
“ถ้าไม่ตื่นมา พี่ก็จะไม่ให้อภัยเธอตลอดไป”
ในตอนนั้นหมอก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อตรวจดูอาการของวุ้นเย็น เมธัชจึงออกมาจากห้อง ก่อนจะเข้าไปถอดชุดปลอดเชื้อของโรงพยาบาลออก แล้วกดลิฟต์เพื่อกลับไปที่บริษัท เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามาหาวุ้นเย็น ซึ่งสวนทางกับดุจดาว ที่มาพร้อมกับญาดา วิชัยและโสภาพอดิบพอดี
ทั้งสี่คนตรงไปยังห้องพักฟื้นที่วุ้นเย็นพักรักษาตัวอยู่ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ห้องปลอดเชื้อก็ออกมาแจ้งว่า
“คุณวุ้นเย็นพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ คุณหมอได้ส่งเข้าพักฟื้นที่ห้องพิเศษ ที่ญาติได้จองไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้คุณวุ้นเย็นอยู่ที่ห้อง...”
ด้วยความดีใจ ที่วุ้นเย็นพ้นขีดอันตราย โสภาจึงลืมไปเสียสนิทว่า ยังไม่เคยจองห้องพิเศษให้วุ้นเย็นเลย ทั้งหมดจึงรีบไปที่ห้องพิเศษ ตามที่เจ้าหน้าที่บอก โดยไม่ได้เอะใจอะไร
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเรือนร่างบอบบางยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผู้ป่วย มีสายน้ำเกลือที่ค่อย ๆ หยดช้า ๆ อยู่บนหลังมือเล็ก แต่ไม่ต้องครอบ ออกซิเจนแล้ว สีหน้าก็ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย นั่นพอที่จะทำให้หัวใจของโสภาดีขึ้นมาบ้าง
“ยายวุ้น ๆ ตื่นสิลูก”
โสภาเรียกซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง พร้อมกับเขย่าแขนเบา ๆ แต่วุ้นเย็นก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ที่ยังพอเป็นสัญญานว่าลูกสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่
“ไหนคุณหมอคนเมื่อกี้บอกว่ายายวุ้นดีขึ้นแล้วไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไมลูกถึงยังนอนหลับอยู่แบบนี้ล่ะ” โสภาหันมาถามวิชัย พร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วย
“คุณทำใจดี ๆ ไว้ก่อน เดี๋ยวผมโทรคุยกับอาจารย์หมอเพื่อสอบถามสักครู่นะ” วิชัยบอก เมื่อโสภาพยักหน้าจึงปลีกตัวไปยืนโทรศัพท์อยู่ริมผนังกระจก
ดุจดาวขยับเขาไปลูบเรือนผมนุ่มของวุ้นเย็นด้วยความเอ็นดู พร้อมกับกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคนที่ริมใบหูของบอบบาง
“พี่ทำตามที่น้องวุ้นขอได้สำเร็จแล้วนะ ธัชเข้าใจและหายโกรธน้องวุ้นแล้วจริง ๆ แต่วันนี้พี่เขาติดงานที่บริษัทแทนคุณลุงวิชัย เลยมาเยี่ยมไม่ได้ รีบหายนะ จะได้ไปฉลองกัน”
นิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ จากวุ้นเย็นที่ยังคงนอนหลับสนิท ทำให้ดุจดาวใจหายอย่างบอกไม่ถูก
ในตอนนั้นวิชัยก็ก้าวเข้ามาหา พร้อมกับใบหน้าที่ระบายด้วยรอยยิ้ม
“คุณหมอว่าอย่างไรบ้างคะคุณ” โสภารีบเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ
“ไม่มีอะไรต้องห่วง อาจารย์หมอท่านบอกว่าหนูวุ้นพ้นขีดอันตรายแล้วจริง ๆ แต่หมอยังคงให้ยานอนหลับอ่อน ๆ เพื่อให้ร่างกายได้ เดี๋ยวเย็น ๆ ก็ตื่นแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล ร่างกายคงค่อย ๆ พักฟื้น”
สิ้นเสียงของวิชัยทุกคนจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาพร้อมกัน
“ดีใจด้วยนะคุณโสภา เดี๋ยวหนูวุ้นก็ลุกมาซนได้แล้ว” ญาดาบีบมือของโสภาเพื่อแสดงความยินดี
“ขอบคุณมากนะคะ หนูดาวด้วย แล้วนี่ได้ยินว่าวันนี้จะไปดูฤกษ์แต่งงานกันไม่ใช่หรือคะ”
ดุจดาวพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะตอบเสียงหวานปนเขินนิด ๆ
“ใช่ค่ะ คุณแม่จะพาไปที่วัดป่าแถวชานเมือง ซึ่งเป็นวัดที่คุณพ่อเคยไปบวชน่ะค่ะ”
“ใช่แล้วค่ะ หลวงพ่อวัดนี้ท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ ที่บ้านพากันไปทำบุญกันบ่อย ๆ เลยกลายเป็นลูกศิษย์ท่านไปแล้ว ชื่อยายดาวท่านก็เป็นคนตั้งให้นะคะ” ญาดาพูดเสริมตามความเชื่อและความศรัทธาที่มี
โสภากับวิชัยหันมายิ้มให้กันด้วยความยินดี
“ดีละ ๆ ได้เรื่องอย่างไรก็บอกนะญาดา ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้นก็เรียกมาได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจล่ะ ขอแค่มีหลานให้ปู่เร็ว ๆ ก็พอ”
เมื่อถูกว่าที่พ่อสามีแซว ดุจดาวก็หน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุดอย่างขวยเขิน
“ยายวุ้นตื่นขึ้นมา รู้ว่าพี่ชายจะแต่งงาน คงจะดีใจมาก และมีกำลังใจสู้ต่อ คุณธัชก็คงให้อภัยน้องเสียทีนะคะ” โสภาพูดอย่างมีความหวัง
ทั้งหมดสนทนากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดุจดาวและญาดาจะขอตัวไปวัดเพื่อดูฤกษ์ดูยาม วิชัยกับโสภาจึงเดินออกไปส่งที่หน้าลิฟต์ และถ้ามีใครหันกลับมามองบนเตียงคนไข้ ก็จะพบว่ามีน้ำตาใสไหลเป็นทางออกมาจากหางตาของวุ้นเย็น พร้อมกับเสียงสะอื้นแผ่วเบา เพราะได้ยินหมดทุกคำที่พวกเขาสนทนากัน
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
ตอนที่24 ซ้อมตาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย “โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย “วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้ห
ตอนที่23 ดูฤกษ์ดูยามบริเวณวัดป่ายังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงใบและกิ่งไม้แห้งในฤดูแล้ง ที่โดนลมพัดปลิดปลิวตกลงบนพื้นดังแกรกกราก สามเณรน้อยที่มาบวชในระหว่างปิดเทอมสององค์ กำลังช่วยกันถือบาตรจะไปล้างที่ลำธาร ด้านหลังกุฏิ แต่เสียงเจ้าอาวาสร้องห้ามด้วยน้ำเสียงดุ ๆ “ห้ามเอาบาตรไปล้างในลำธารนะ มันจะทำให้น้ำสกปรก แต่ถ้าจะเอาข้าวที่เหลือไปให้ปลากินนั้นย่อมได้” “ครับพระอาจารย์” สามเณรรับคำอย่างเคร่งครัด ก่อนจะรีบเดินไปที่โรงครัว ในตอนนั้นก็มีรถหรูที่คุ้นเคยเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้ากุฏินายสนคนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้ญาดาเละดุจดาว ก่อนจะเดินนำไปที่กุฏิ ทั้งสามกราบนมัสการเจ้าวาสเรียบร้อย แล้วญาดาก็พูดตามความประสงค์ที่มาในทันที “นมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ ดิฉันมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะให้หลวงพ่อ ดูฤกษ์งานแต่งงานให้กับลูกสาวเจ้าค่ะ”ท่านเจ้าอาวาสรู้จักกับทั้งสามคนที่มาเยือนดี ท่านเหลือบมองดุจดาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงประมาณสองถึงสามนาที พอลืมตาขึ้นมาใหม่ ก็พูดเบาๆ “โยมดุจดาว จงยึดมั่นในความตั้งใจดีที่มีอยู่ และหมั่นทำบุญตักบาตร คิดและทำแต่สิ่งดี ๆ ต่อไป ให้ธรรมะอยู่ในทุกช่วงของล
ตอนที่22 ถ้าไม่ตื่นมา พี่จะไม่ให้อภัยตลอดไปญาดาพูดจบ ก็ดึงลูกสาวเข้ามากอดปลอบโยน แม้เธอเองจะเอ็นดูวุ้นเย็นไม่น้อย แต่ดุจดาวจะยึดติดจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุขก็ไม่ได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรความสุขของลูกก็ต้องมาก่อน และความสุขของลูกก็คือการได้แต่งงานกับเมธัช มีลูกหลานสืบไป..........................................................................ปลายนิ้วเรียว ไล้ไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาวของวุ้นเย็นอย่าแผ่วเบา ไล่ไปถึงเปลือกตาบางที่ปิดสนิท ก่อนที่จะลูบขนตางอนหนา ที่เวลาที่เจ้าตัวพูด ขนตานี้ก็จะสั่นไหวราวปีกผีเสื้อดึงดูดสายตาของผู้คนได้เสมอเมธัชหดมือกลับมา ก่อนจะโน้มตัวลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ริมใบหูบาง “ถ้าไม่ตื่นมา พี่ก็จะไม่ให้อภัยเธอตลอดไป”ในตอนนั้นหมอก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อตรวจดูอาการของวุ้นเย็น เมธัชจึงออกมาจากห้อง ก่อนจะเข้าไปถอดชุดปลอดเชื้อของโรงพยาบาลออก แล้วกดลิฟต์เพื่อกลับไปที่บริษัท เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามาหาวุ้นเย็น ซึ่งสวนทางกับดุจดาว ที่มาพร้อมกับญาดา วิชัยและโสภาพอดิบพอดีทั้งสี่คนตรงไปยังห้องพักฟื้นที่วุ้นเย็นพักรักษาตัวอยู่ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ห้องปลอดเ
ตอนที่21ความลับในกระเป๋าตุ๊กตาแมวนิ้วเรียวค่อย ๆ ดึงสมุดจิ๋วนั้นออกมา แล้วเปิดหน้าแรก เป็นรูปการ์ตูนเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ที่วาดด้วยดินสอดูตลก และมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘สวัสดีค่ะพี่ชาย’ พร้อมระบุวันที่ เขาจำได้ดีว่าเป็นวันแรกที่ได้เจอกับวุ้นเย็นรูปนี้ไม่ได้สวยงามหรือมีศิลปะที่โดดเด่นใด ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจแปลก ๆเขาเปิดผ่านไปที่กระดาษแผ่นที่สอง เป็นรูปการ์ตูนเหมือนเดิม แต่เป็นรูปที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงโอบเอว จับมือกันคล้ายกำลังเต้นรำ พร้อมข้อความเศร้า ๆ ว่า ‘อยากเต้นรำกับพี่ชายแทนพี่ดาวแต่เต้นไม่เป็น’มาถึงหน้านี้หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง เขาไม่รอช้าที่จะเปิดดูหน้าต่อไป และหน้าต่อไป ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ที่เขากับวุ้นเย็นเคยทำด้วยกัน เช่นเล่นน้ำฝน สอนตีเทนนิส แต่รูปสุดท้ายนั้น ทำให้เขารู้สึกราวกับหัวใจกำลังบีบรัดจนรู้สึกเจ็บ เพราะเป็นภาพที่เด็กผู้หญิงนอนอยู่บนพื้นมองเด็กผู้ชายที่หันหลังให้ พร้อมกับข้อความ ‘หนูขอโทษค่ะพี่ชาย’เมธัชรู้สึกว่าข้อความ
ตอนที่20 เพราะอะไรกันแน่ดุจดาวตัดสินใจบอกเมธัช เรื่องที่วุ้นเย็นทักไอจีหาเธอตลอดมา เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกเขามาก่อน เมธัชยังคงนิ่งเงียบ วุ้นเย็นจึงยื่นมืออีกข้าง ไปวางลงบนมือทั้งของเธอและเขาที่จับกันอยู่ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนและจริงใจ “น้องรักธัชมากนะ และดาวเชื่อว่าธัชก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าดาวด้วยซ้ำ น้องยังเด็กและคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะร้ายแรงบานปลายถึงกับทำร้ายธัชขนาดนั้น ดาวเชื่อว่าน้องรู้สึกผิด เสียใจและเครียดมากจนทำให้โรคหัวใจกำเริบ แต่น้องจะยังมีชีวิตต่อไปได้ หากได้รับกำลังใจดี ๆ จากธัชนะ ถึงธัชกับน้องจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ แต่ก็เคยมาเติมเต็มให้กันไม่ใช่หรือ ดาวจำได้ว่าธัชอยากมีน้องสาว แล้ววุ้นเย็นก็เข้ามา แววตาของธัชที่มองน้องเต็มไปด้วยความรักความอ่อนโยน จนบางครั้งดาวยังแอบอิจฉาเลย แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างความอบอุ่นเหล่านั้นให้กลับมาอีกครั้งละคะ และครั้งนี้ก็สำคัญกับชีวิตของน้องมากด้วย เพราะธัชจะเป็นกำลังใจสำคัญให้น้องกลับมาเข้มแข็ง ตั้งใจรักษาตัว ธัชรู้ไหมว่า