Share

ยอดนักขายซ่อนลายมังกร
ยอดนักขายซ่อนลายมังกร
Author: ธารน้ำแข็งใต้แสงจันทร์

บทที่ 1

Author: ธารน้ำแข็งใต้แสงจันทร์
ยามดึก ภายในห้องพักของโรงแรม

บนเตียงใหญ่มีแต่ร่องรอยความยุ่งเหยิง สาวสวยคนหนึ่งใช้ผ้าห่มปกปิดร่างกายอวบอิ่มของตนไว้ ใบหน้าของเธอฉายแววพึงพอใจถึงที่สุด

แต่โจวหยางผู้นั่งอยู่ข้างเตียง กลับรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง

ไม่รู้ว่าคืนนี้เขาเป็นอะไรไป ในวินาทีที่พี่ลี่ก้มตัวลง เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

“พี่ลี่! ผมขอโทษครับ! เมื่อกี้ผม...”

หลังได้สติ โจวหยางก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาวูบหนึ่ง

ใบหน้าของสาวสวยแดงระเรื่อราวแสงอาทิตย์ยามอัสดง เธอหยอกเย้าว่า “ขอโทษทำไมกัน? หรือเพราะเมื่อกี้เธอรุนแรงกับพี่เกินไปเหรอ?”

หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าสะพายที่อยู่ด้านข้าง ก่อนหยิบเงินออกมาปึกหนึ่ง แล้วโยนไปข้างตัวโจวหยาง “แต่ว่าพี่ช๊อบชอบ รับไปเถอะ!”

“พี่ลี่ เงินนี่ผมรับไว้ไม่ได้หรอก!” โจวหยางรีบปฏิเสธ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผม...ผมขอตัวก่อนนะครับ!”

“เดี๋ยวสิ!”

“พี่ลี่มีอะไรเหรอครับ?”

สาวสวยหยิบใบสัญญาออกมาจากกระเป๋าอีกสองฉบับ และวางลงข้างตัวโจวหยาง “สัญญาฉบับนี้ของเธอ พี่เซ็นให้แล้ว!”

“ขอบคุณครับพี่ลี่!”

...

โจวหยางออกมาจากโรงแรมด้วยความรีบร้อน เมื่อกลับถึงที่พัก หลี่ว์เวยแฟนสาวของเขาก็หลับไปแล้ว

เนื่องด้วยอากาศร้อน หลี่ว์เวยจึงแทบไม่ได้สวมใส่อะไร อีกทั้งผ้าก็ไม่ได้ห่ม เรือนร่างอันงดงามจึงถูกอวดโฉมออกมาเต็มตา

เมื่อมองแฟนสาวที่อยู่บนเตียง ในใจของโจวหยางก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น

เขาคบกับหลี่ว์เวยมาสี่ปีตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ ทั้งคู่ก็ได้เข้ามาเป็นพนักงานฝึกหัดที่บริษัทอีพีเอส ฟาร์มาซูติคอล กรุ๊ป โจวหยางทำงานเป็นเซลส์แมนในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนหลี่ว์เวยก็ทำงานบริการลูกค้าอยู่ในแผนกคอลเซ็นเตอร์ แต่ละวันมีเวลาเจอกันน้อยนิด

เดิมทีคืนนี้โจวหยางตั้งใจจะพาหลี่ว์เวยออกไปเดินเล่น และหาอะไรกิน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่เริ่มจืดจางลงเสียหน่อย

แต่กลับถูกเซี่ยหงเทาผู้เป็นหัวหน้าสายตรงเรียกตัวไปเป็นเพื่อนลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อหลิวเยี่ยนลี่

และเมื่อดื่มไปได้ครึ่งทาง เซี่ยหงเทาก็บอกว่ามีธุระ ขอตัวกลับก่อน

โจวหยางกับหลิวเยี่ยนลี่ดื่มไปดื่มมา สุดท้ายก็มาจบลงที่โรงแรม

“บ้าเอ๊ย ไอ้เซี่ยหงเทาเล่นฉันแล้วสินะ”

โจวหยางได้แต่เจ็บใจ แต่เพราะเหนื่อยล้าเกินไป จึงหลับใหลไปทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น โจวหยางมาที่ห้องทำงานของเซี่ยหงเทา ก่อนตบสัญญาที่เซ็นเมื่อคืนลงบนโต๊ะของเขา

“โอ้โฮ ไม่เลวนี่เสี่ยวโจว เซ็นสัญญาได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” ดวงตาเล็กตี่ของเซี่ยหงเทาทอประกายเจ้าเล่ห์ “ฉันบอกแล้วไง ถ้านายเป็นคนลงมือเอง ไฮโซสาว ๆ พวกนั้นจะหนีไปไหนพ้น”

“ผู้จัดการเซี่ย เมื่อคืนในเหล้ามีอะไรผสมอยู่หรือเปล่าครับ?” โจวหยางถาม

ไม่งั้น เขาก็คงไม่สูญเสียความยับยั้งชั่งใจไปง่าย ๆ แบบนั้นแน่

“เสี่ยวโจวเอ๊ย! นายอย่าคิดมากสิ!” เซี่ยหงเทาหัวเราะร่า “นายมันคนหล่อยังหนุ่มยังแน่น หุ่นก็ดี ลูกค้าผู้หญิงในเขตเราน่ะ ขอแค่นายพยายามเข้าหน่อย รับรองว่าจัดการได้ทุกคน!”

โจวหยางยิ่งฟังก็ยิ่งขยะแขยง เขาใช้ความสามารถของตัวเองในการหาลูกค้าเสมอ แล้วจะให้ใช้วิธีสกปรกแบบนี้ได้ยังไง

ในขณะที่โจวหยางกำลังจะอ้าปากเถียง ก็ได้ยินเซี่ยหงเทาถามขึ้นว่า “อยากผ่านโปรหรือเปล่าล่ะ?”

คำพูดนั้นทำให้โจวหยางถึงกับจุกอก ตอบกลับไปว่า “อยากสิครับ! อยากแน่นอน!”

“ดี! ถ้านายจัดการเป้าหมายต่อไปได้สำเร็จ ก็ถือว่าผ่านโปรแล้วนั่นแหละ!” เซี่ยหงเทาชี้ไปที่โจวหยาง “เป้าหมายคนต่อไป ก็คือไฮโซสาวสวยชื่อดังในพื้นที่ดูแลของนาย ถังอวี้เหมย”

...

ตอนเที่ยง โทรศัพท์มือถือของโจวหยางแบตหมด บังเอิญว่าที่ชาร์จอยู่ในห้องเช่า เขาจึงขี่จักรยานกลับไปเอา

แต่เมื่อเปิดประตู ภาพที่เห็นตรงหน้า กลับทำให้เขาไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

ห้องเช่ามีขนาดเล็กแคบ ประตูจึงหันหน้าเข้าหาห้องนอนพอดี

บนเตียงในห้องนอน หลี่ว์เวยแฟนสาวของเขากำลังนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียน

หลี่ว์เวยผู้ไม่เคยยอมเปิดแอร์เลยสักครั้ง ตอนนี้กลับเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสิบหกองศา

“โจวหยาง นี่นายยังไม่ไปทำงานเหรอ? กลับมาทำอะไรเวลานี้?” สีหน้าของหลี่ว์เวยตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

ขณะนั้น ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ซ่าดังมาจากในห้องน้ำ

เพียงชั่วพริบตา โจวหยางก็เข้าใจทุกอย่าง เลือดในกายพลันเดือดพล่าน เขาพุ่งตรงไปที่ห้องน้ำด้วยความเคียดแค้นสุดขีด

“โจวหยาง นายจะทำอะไรน่ะ?”

หลี่ว์เวยรีบลงจากเตียง กระโดดเข้ามาขวางหน้าโจวหยาง

หลี่ว์เวยในตอนนี้ สวมชุดชั้นในลูกไม้สีดำแสนเซ็กซี่ ซึ่งแทบปิดอะไรไม่ได้เลย

“หลี่ว์เวย เธอยังมียางอายอยู่บ้างไหม!”

เขาไม่เคยเห็นหลี่ว์เวยใส่อะไรแบบนี้มาก่อน

ชั่วขณะนั้น ความโกรธและความอัปยศก็เข้าครอบงำสติสัมปชัญญะของโจวหยางหมดสิ้น

“ใจเย็นก่อนเพื่อน มีอะไรค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากัน!”

ชายคนหนึ่งพลันเดินออกมาจากห้องน้ำ จ้องมองโจวหยางด้วยความระแวดระวัง

“มึงเองเหรอ?”

โจวหยางชะงักกึก

เขารู้จักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

ถังอวี้เหมยผู้เป็นไฮโซคนสวยเคยมาซื้อเครื่องสำอางที่ร้านอยู่บ่อยครั้ง โดยมีผู้ชายคนนี้เดินตามข้างกาย

แต่เขาไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน

“โจวหยาง ในเมื่อนายเห็นหมดแล้ว ฉันก็จะไม่ปิดบังอีก!” หลี่ว์เวยยกมือขึ้นเสยผม “ฉันกับเซี่ยเฟิงคบกันแล้ว”

หลี่ว์เวยพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ราวกับว่าการนอกใจเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควรแล้ว

“ฮึ!” โจวหยางพบว่าเรื่องนี้ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี “ความรักสี่ปีตั้งแต่เรียนมหาลัย ไม่ได้มีค่าเลยสักนิดสินะ!”

“โจวหยาง ฉันต้องขอโทษนายจริง ๆ แต่นายให้สิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้เองนี่!” หลี่ว์เวยพูดน้ำตาคลอเบ้า “พวกเราเรียนจบมาสองเดือนกว่าแล้ว นายดูสิว่าแต่ละเดือนตัวเองหาเงินได้เท่าไหร่?”

“ด้วยความสามารถของนาย ทั้งชีวิตนี้คงซื้อบ้านในเมืองเซินเฉิงไม่ได้ แล้วจะให้ฉันทำยังไง ให้ทนลำบากกับนายไปตลอดเหรอ?”

“แล้วนายก็รู้ว่ากว่าจะเข้าอีพีเอส กรุ๊ปได้น่ะมันยากแค่ไหน พอหมดช่วงทดลองงาน อย่างน้อยก็ต้องมีคนถูกคัดออกเกินครึ่ง”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็มองไปที่เซี่ยเฟิงด้วยความอ่อนโยน “แต่พี่เฟิงมีเส้นสาย เขารับปากว่าจะฝากคนให้ช่วยฉันผ่านโปร หลังจากนั้นก็จะย้ายฉันเข้าสำนักงานใหญ่ของอีพีเอสทันที”

ถ้าสามารถผ่านโปร และได้เป็นพนักงานประจำของอีพีเอส กรุ๊ป ก็จะได้รับสวัสดิการชั้นยอดระดับโลก

ต่อไปเวลาอยู่ต่อหน้าญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วมรุ่น ก็จะมีหน้ามีตามากแล้ว

“สรุปคือ เพื่อเรื่องแค่นี้ เธอก็เลยยอมทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองงั้นสินะ?”

โจวหยางชี้ไปที่ชุดชั้นในเซ็กซี่บนตัวหลี่ว์เวยด้วยความเกรี้ยวกราด

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าล่ะ?” เซี่ยเฟิงเดินเข้ามา พูดด้วยแววตาท้าทาย “ชุดนี้ฉันเป็นคนซื้อให้เสี่ยวเวยใส่เอง เพราะว่าฉันรู้จักชื่นชมความงามของเธอ...”

“ชื่นชมแม่มึงเถอะ!”

เซี่ยเฟิงไม่พูดก็แล้วไป แต่เมื่อพูดขึ้นมาไฟโทสะในใจโจวหยางก็พลันลุกโชน จนเขาเงื้อมือหมายซัดหมัดใส่เซี่ยเฟิงทันที

แต่เซี่ยเฟิงนั้นมือไวใจกล้า ยกเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาฟาดใส่หัวของโจวหยางเต็มแรง

ผลั่ก!

โจวหยางโดนเก้าอี้ฟาดล้มลงกับพื้น ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาจากศีรษะ

ในที่สุด เซี่ยเฟิงก็เลิกเสแสร้งและสบถด่ารัวเร็ว “มึงชื่อโจวหยางใช่ไหม กูจะบอกให้นะว่าเมื่อกี้ บนเตียงที่พวกมึงเคยนอนกกกันนั่นแหละ กูเพิ่งตอกแฟนมึงไปดอกใหญ่ มึงนี่มันโง่บัดซบ โดนสวมเขาแบบนี้คงขายหน้าคนอื่นไปทั้งชีวิต”

“พี่เฟิง อย่าพูดอะไรอีกเลยค่ะ!” หลี่ว์เวยเริ่มรู้สึกเสียหน้า

แต่เซี่ยเฟิงยังไม่หายโกรธ เขาพูดกับหลี่ว์เวยว่า “เสี่ยวเวย เธอยังไม่รู้สินะว่าแม่ฉันเป็นลูกค้ารายใหญ่ในพื้นที่ดูแลของมัน แค่แม่ฉันร้องเรียนคำเดียว มันก็ต้องไสหัวไปแล้ว”

โจวหยางใจกระตุกขึ้นมา เขานึกถึงหลายครั้งที่ถังอวี้เหมยมาที่ร้าน โดยมีเซี่ยเฟิงมาด้วยเสมอ

“แม่มึงคือถังอวี้เหมยใช่ไหม?” โจวหยางถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

“มึงมีสิทธิ์อะไรมาเรียกชื่อแม่กู?” เซี่ยเฟิงยกเก้าอี้ขึ้นทำท่าจะฟาดโจวหยางอีกครั้ง

“พอเถอะค่ะ พอแล้ว พี่เฟิง อย่าไปสนใจเขาเลย เราไปกันเถอะ!” หลี่ว์เวยห้ามไว้ “ฉันเลิกกับเขาแล้ว คืนนี้ฉันจะย้ายไปอยู่กับพี่!”

“ได้ พวกเราไปกันเถอะ!”

เซี่ยเฟิงไม่เซ้าซี้ต่อ เขาถ่มน้ำลายลงพื้น ก่อนลากกระเป๋าเดินทาง แล้วทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องเช่าไป

เมื่อมองดูคนทั้งสองเดินจากไป หัวใจของโจวหยางกลับเยือกเย็นมากขึ้นอย่างน่าประหลาด

“ไม่น่าเชื่อว่าเซี่ยเฟิงจะเป็นลูกชายของถังอวี้เหมย อะไรจะโลกกลมขนาดนี้วะ!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 30

    เมื่อหมดหวัง เธอจึงทำได้เพียงกวักมือเรียกโจวหยางที่ยืนตัวตรงอยู่ด้านข้างด้วยความเก้อกระดาก “เอ่อ... มานี่หน่อยสิ!”“ครับ!”“ช่วยสาธิตให้ดูที ว่าจุดฝังเข็มสองจุดนี้มันอยู่ตรงไหน?” ซูจิ้งพูดโจวหยางขมวดคิ้วพลางมองอย่างจริงจัง ก่อนใช้ปลายนิ้วสัมผัสซูจิ้งแผ่วเบา “ตรงนี้ กับตรงนี้ครับ!”ใบหน้าของซูจิ้งพลันแดงระเรื่อราวแสงอาทิตย์ยามอัสดง ดูงดงามน่าทะนุถนอม“เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว!”เธอรีบนั่งตัวตรง ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย “สรุปคุณมาห้องทำงานฉันมีธุระอะไร?”“คือผมอยากจะบอกว่า เกณฑ์การคัดคนออกนั่นมันไม่ยุติธรรมกับผมเลย!” โจวหยางประท้วง “ผมเพิ่งย้ายมา ยังไม่รู้อะไรสักอย่าง!”“เดี๋ยวมีคนสอนงานให้ แป๊บเดียวก็ทำเป็นแล้วน่า!” ซูจิ้งยกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรหาหลิวเยี่ยน “คุณมาที่ห้องทำงานฉันเดี๋ยวนี้”ครู่ต่อมา หลิวเยี่ยนก็มาถึงห้องทำงานของซูจิ้ง“โจวหยาง ทำความรู้จักกันไว้นะ นี่คือหลิวเยี่ยน ยอดนักขายอันดับหนึ่งของแผนกเรา!” ซูจิ้งแนะนำ“สวัสดีโจวหยาง!”หลิวเยี่ยนเดินเข้ามา ก่อนจับมือกับโจวหยางอย่างยิ้มแย้ม แถมยังโค้งตัวลงเล็กน้อย ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนดีเยี่ยมโจวหยางอยากจะซัดเบ้าหน้าสักหมัดจริงๆเสแส

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 29

    ซูจิ้งชะงักกึก ไม่คิดเลยว่าเจ้าหนุ่มพนักงานขายคนใหม่จะใจกล้าขนาดนี้มือนี้น่ะ นอกจากเอาไว้จับมือกับลูกค้าเรื่องงานแล้ว ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยได้สัมผัสมาก่อนแต่ตอนนี้เธอไม่มีแรง จึงได้แต่ปล่อยให้โจวหยางจับมือ แล้วใช้นิ้วนวดคลึงตรงง่ามนิ้วให้เธอพลันความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นปราดขึ้นมาตรงง่ามนิ้ว“โอ๊ย!”ซูจิ้งครางออกมาแผ่วเบา ก่อนรีบเม้มปาก ตีสีหน้าหยิ่งยโสเย็นชาโจวหยางนวดอยู่ประมาณสองสามนาที ก็พลันย่อตัวลงนั่ง สายตาจับจ้องไปที่เรียวขางามของซูจิ้ง“คุณจะทำอะไร?”ซูจิ้งรู้สึกว่าตัวเองถูกล่วงเกิน จึงจ้องมองโจวหยางด้วยสายตาเย็นเยียบ“ผู้อำนวยการซู คุณไม่รู้สึกเหรอครับว่า ตอนนี้คุณมีแรงพูดมากกว่าเมื่อกี้แล้ว!” โจวหยางเลิกคิ้วยิ้มเมื่อครู่ซูจิ้งกำลังเครียด เมื่อถูกทักเช่นนี้ ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้จริง ๆ“นี่แสดงว่าวิธีของผมได้ผลไงครับ!” โจวหยางกล่าว “ตอนนี้เรามากดจุดต่อไปกันเลย จุดนี้เรียกว่าซานอินเจียว อยู่ตรงข้อเท้าครับ!”เขานั่งยอง ๆ และดึงข้อเท้าของซูจิ้งเข้ามาหาตัวอย่างเชื่องช้าข้อเท้าของซูจิ้งขาวเนียนไร้ตำหนิ แถมข้อเท้าขวาด้านนอกยังมีรอยสักรูปดอกกุหลาบสีแดง ทำให้ดู

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 28

    ซูจิ้งมีใบหน้างดงามราวเทพธิดาและรูปร่างเย้ายวนใจดั่งนางมารร้าย ที่ล้ำค่ายิ่งกว่านั้นคือ เธอยังผสมผสานความสวยงามของหญิงสาววัยเยาว์และความเป็นหญิงสาวที่โตเต็มวัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีรัศมีของผู้กุมอำนาจที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมืออีกด้วยผู้หญิงเช่นนี้ ถือเป็นสุดยอดของสุดยอดในหมู่สตรี แทบเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบตอนนี้ ซูจิ้งถือปากกาเลเซอร์พลางเปิดสไลด์นำเสนอ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยอดขายในไตรมาสที่สองย่ำแย่มาก ฉันไม่รู้ว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา พวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่?”ริมฝีปากสีแดงของเธอเม้มเป็นเส้นตรง ขณะเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคน เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบพื้นดังก้องกังวาน ในรูหูของพวกเขา มันช่างน่ากลัว คล้ายเป็นเสียงระฆังมรณะในที่ทำงานไม่มีผิดพนักงานขายทุกคนต่างก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้าส่งเสียง ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับซูจิ้งด้วยซ้ำ“ฉันว่า คงถึงเวลาต้องใช้อาวุธเด็ดของฝ่ายการตลาดและการขายแล้ว!” ซูจิ้งกดไปยังสไลด์หน้าถัดไป “ระบบคัดคนออก!”“หา?”บรรดาพนักงานในทีมขาย ต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาทันทีระบบคัดคนออก มีความหมายตามชื่อ คือคนที่ทำผลงานรั้งท้ายสุด จะต้อ

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 27

    ชายคนนั้นดูอายุไม่น่าถึงสามสิบปี เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปกับกางเกงสแล็คสีเทาเข้ม ทั้งยังสวมแว่นตากรอบดำ ทำให้ดูสุภาพเรียบร้อยแต่ดวงตาเรียวยาวหลังกรอบแว่นคู่นั้น กลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย แค่สบตาก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจแล้ว“ไป๋ลู่ บังเอิญจัง ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหม?”ชายคนนั้นพูดจบ ก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายไป๋ลู่หน้าตาเฉยนัยน์ตาของไป๋ลู่ฉายแววรังเกียจออกมาวูบหนึ่ง เธอไม่สนใจชายคนนั้น แต่หันมายิ้มให้โจวหยาง “โจวหยาง ฉันอิ่มแล้ว ไว้เจอกันตอนเย็นนะ”“ไว้เจอกันตอนเย็นครับ!”โจวหยางร่ำลาไป๋ลู่ ตัวเขาก็ไม่ได้สนใจชายคนนั้นเช่นกัน จึงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารเช้าต่อไป“โจวหยางใช่ไหมเรา?” ชายคนนั้นทำลายความเงียบขึ้น “นายกับไป๋ลู่รู้จักกันได้ไง? จริงสิ แล้วที่บอกว่าเจอกันตอนเย็นน่ะ พวกนายจะไปทำอะไรกันเหรอ?”โจวหยางขมวดคิ้วมุ่น สำหรับคนประเภทที่ไม่รู้จักเว้นระยะห่างแบบนี้ เขาค่อนข้างรู้สึกรังเกียจ“ขอโทษทีครับ พอดีนี่เป็นเรื่องของเรา ไม่สะดวกบอกคนอื่นน่ะ!” โจวหยางตอบ“ฮ่า ๆ ๆ สมแล้วที่เป็นเด็กเส้น คำพูดคำจาแข็งกร้าวเชียวนะ!” ชายคนนั้นกล่าวแดกดันโจวหยางเงยหน้าขึ้นถาม “เด็กเส้นอะไรครั

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 26

    โจวหยางจึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ “พี่เหมย ไม่เห็นมีอะไรเลย! ตรงนี้แห้งสนิทดีอยู่นะครับ!”“อ้อ! แล้วรอบนี้ล่ะ?”ถังอวี้เหมยรีบเปิดฝักบัวทันทีสายน้ำอุ่นจึงเทรดลงมาดั่งฝนห่าใหญ่ อาบทั้งร่างของโจวหยางและถังอวี้เหมยจนเปียกโชกไปพร้อมกัน“อ๊ะ! พี่เหมย พี่ทำอะไรเนี่ย?”“อาบน้ำไง! อิอิ!”“พี่เหมยใจร้ายจัง!”“ผู้หญิงไม่ร้าย ผู้ชายไม่รักหรอก! ฮ่า ๆ ๆ!”ถังอวี้เหมยพูดไปหัวเราะไป เอนตัวพิงกำแพงนั่งลงใต้ฝักบัว ก่อนเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้สายน้ำราดรดลงมาในวินาทีนี้ เธอมีความงดงามดุจดั่งบัวพ้นน้ำเสื้อผ้าที่บางราวปีกจั๊กจั่นของเธอ ขณะนี้เมื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัว ก็ยิ่งเผยให้เห็นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบถึงไหนต่อไหนภาพนี้ ทำให้เลือดลมในกายโจวหยางพลันสูบฉีด แม้จะอยู่ใต้ฝักบัว แต่เขาก็ยังรู้สึกลำคอแห้งผากตอนนั้นเอง ถังอวี้เหมยก็หันมามองเขา ใบหน้าที่แดงเรื่อจากฤทธิ์สุรา เวลานี้ช่างดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างร้ายกาจ“พี่เหมย มองผมแบบนี้ทำไมเหรอ?” โจวหยางชะงักกึกแต่ถังอวี้เหมยกลับโผเข้ามากอดโจวหยาง ก่อนประทับริมฝีปากสีชมพูเข้ามาโดยตรงครู่ต่อมา โจวหยางก็เดินออกจากห้องน้ำในสภาพเปียกปอนเสียงของถังอวี้เห

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 25

    ตอนนี้ ภายใต้แสงไฟสลัว ถังอวี้เหมยยิ้มอย่างมีความสุข ใบหน้าฉายแววเปี่ยมเสน่หา“ว่าแต่เธออยากขึ้นเตียงกับฉันจริง ๆ เหรอ?” เธอถามโจวหยางที่ขับเคลื่อนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เกือบโพล่งคำว่า “อยาก” ออกไปแล้ว!แต่พอดีเขายังมีสติ ถังอวี้เหมยเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แม้ชีวิตคู่ของเธอจะไม่มีความรัก แต่ถ้าเขาไปหลับนอนกับเธอจริง ๆ ก็เท่ากับเป็นการทำลายครอบครัวคนอื่น เรื่องแบบนี้ทำไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะ เซี่ยยงก็หวังให้พี่เหมยนอกใจอยู่แล้ว พี่เหมยคงไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นแน่นอนที่เธอถามแบบนี้ ก็คงแค่อยากลองใจดูว่าฉันบริสุทธิ์ใจจริงหรือเปล่าเท่านั้นเองแต่ว่า ถ้าให้โจวหยางตอบว่าไม่อยาก ก็เท่ากับพูดโกหกใจตัวเองแม้ถังอวี้เหมยจะเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว แต่ในเรื่องรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้แพ้พวกเด็กสาวแต่อย่างใด ทั้งยังไม่เคยมีลูก เซี่ยเฟิงก็เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้วบวกด้วยการอุ้มบุญ สาวสวยมีระดับเช่นนี้ ใครบ้างไม่อยากลิ้มลอง?ดังนั้น หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โจวหยางจึงเลือกที่จะไม่ตอบ และเปลี่ยนเรื่องคุยทันที“พี่เหมย พี่เล่าแผนของพี่มาเถอะ ผมจะให้ความร่วมมือเต็มที่เลยครับ!” โจวหยางกล่าว“วัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status