Share

บทที่ 7

Author: ธารน้ำแข็งใต้แสงจันทร์
“จะให้ช่วยหาแฟนเหรอ?” ลอร่าตบหน้าอกตัวเอง “งั้นรับพี่สาวคนนี้ไว้พิจารณาดูหน่อยไหมจ๊ะ?”

“ยังไม่ถึงตาเธอสักหน่อย!” ถังอวี้เหมยมองค้อนลอร่า ก่อนมุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มสวยงาม “น้องชายฉันยังโสด แล้วก็เพิ่งออกจากงาน ตอนนี้ต้องการงานดี ๆ สักตำแหน่ง ไม่ทราบมีใครพอจะช่วยได้บ้างไหม?”

“พี่เหมย นี่มัน...” โจวหยางชะงักงัน

ในที่สุด เขาก็เข้าใจถึงเจตนาดีของถังอวี้เหมยแล้ว

ความจริง คืนนี้ที่ถังอวี้เหมยพาเขามาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอ ก็เพื่อจะหางานให้เขานั่นเอง

“หางานก็หางานสิ จะมาพูดเรื่องโสดทำไม ตกใจหมดเลย!” พี่ลอร่าเป็นคนร่าเริงพูดจาตรงไปตรงมา “น้องชาย มาขับรถให้พี่ไหมล่ะ เดี๋ยวพี่พาไปเก็บค่าเช่าทุกวัน”

“เก็บค่าเช่ามันดูไม่ดีหรอก! น้องเขาเพิ่งเรียนจบ เป็นช่วงวัยที่ต้องดิ้นรนสร้างตัว” ถังอวี้เหมยว่า

ถังเชี่ยนกล่าว “งั้นมาทำกับฉันสิ ผ่านช่วงทดลองงานแล้วก็ได้บรรจุ เป็นงานมั่นคง สวัสดิการดีเยี่ยม!”

“โจวหยาง ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินพี่ถังถังพูดถึงเธอ บอกว่าเธอทำงานอยู่ที่อีพีเอส” ซูซานมีบุคลิกเฉพาะตัวอย่างคนที่เป็นประธานบริษัทหญิง เธอจึงกล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเป็นบริษัทยาเหมือนกัน ฉันว่าบริษัทยาบีอาร์ก็น่าจะเหมาะกับเธอมากกว่านะ”

โจวหยางสูดหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างไร้สาระสิ้นดี

ตำแหน่งและโอกาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนตัวเล็กตัวน้อยต้องใช้เลือดเนื้อเข้าแลก เมื่อมาอยู่ในมือของไฮโซสาวเหล่านี้กลับเป็นเพียงของเล่นที่หยิบจับได้ตามใจชอบ ไม่ได้มีค่าอะไรเลย

ความแตกต่างทางชนชั้น ทำให้โจวหยางทั้งตกตะลึงและรู้สึกหมดหวัง

“ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด ซูซานของฉันนี่แหละที่พึ่งพาได้ที่สุด!” คำพูดของถังอวี้เหมยขัดจังหวะความคิดของโจวหยาง เธอยิ้มพลางควงแขนซูซาน “ประธานซู คุณว่าโจวหยางเหมาะกับตำแหน่งอะไรดีคะ?”

“เดี๋ยวครับ!” แต่แล้วโจวหยางก็พลันลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมดีใจมากที่ได้รู้จักพี่ ๆ ทุกคน แต่เรื่องงาน ผมจะหาทางด้วยตัวเอง ไม่รบกวนพวกพี่ ๆ ดีกว่าครับ”

พูดจบ เขาก็ก้มหัวคำนับทุกคน “พี่ ๆ ครับ ผมขอรับไว้เพียงน้ำใจเท่านั้น!”

เมื่อเขาพูดจบ กลุ่มหญิงสาวต่างก็ตกตะลึง

โอกาสดีงามขนาดนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็คงต้องรีบวิ่งเข้ามากอดขาพวกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ?

แต่เจ้าหนุ่มคนนี้นี่!!!

ดูเหมือนจะหยิ่งในศักดิ์ศรีไม่เบา!

เรื่องนี้กลับทำให้กลุ่มเพื่อนสาวคนสวยมองเขาในแง่ดีขึ้นมา

“น้องชายคนนี้ของเธอไม่เลวเลยนะ!” พี่ลอร่ายิ้มพลางพยักหน้า “ต่อไปถ้าอยู่ที่เมืองเซินเฉิง พวกพี่จะคอยดูแลเธอเอง!”

แต่ถังอวี้เหมยกลับถอนหายใจ ก่อนลุกขึ้นพูดว่า “โจวหยาง เธอมานี่หน่อยสิ”

ถังอวี้เหมยพาโจวหยางมาที่ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง แล้วปิดประตู

“โจวหยาง โอกาสดีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ลองดูละ?”

แสงไฟสลัวส่องกระทบใบหน้างดงามของถังอวี้เหมย ทำให้เธอดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ เธอไม่ได้โกรธที่โจวหยางปฏิเสธ แต่กลับถามเขาด้วยความอ่อนโยน

โจวหยางขมวดคิ้ว “พี่เหมย ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ แต่ผมว่ามันไม่เหมาะกับผมเท่าไหร่”

“บีอาร์เป็นบริษัทที่ดีมากเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วก็ตรงกับสายงานที่เธอเรียนมาด้วย จะไม่เหมาะได้ยังไง?” คิ้วเรียวของถังอวี้เหมยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

ที่เธอช่วยโจวหยางหางาน ก็เพื่อตอบแทนที่เขารักษาอาการป่วยให้เธอ

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการครับ” โจวหยางกล่าว

ถังอวี้เหมยเม้มริมฝีปากแดงเบา ๆ ก่อนนิ่วหน้า “ฉันว่าเธอคงห่วงเรื่องศักดิ์ศรี คิดว่าการพึ่งพาผู้หญิงมันน่าอายใช่ไหม?”

พูดจบ เธอดูเหมือนจะโกรธขึ้นมาเล็กน้อย จึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ถ้าเธอเป็นแบบนี้ ฉันก็คงช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้ว!”

จากนั้น เธอก็บิดสะโพกเดินตรงไปที่ประตู

“พี่เหมย!” โจวหยางเรียกถังอวี้เหมยไว้ทันที

“มีอะไร?” น้ำเสียงของถังอวี้เหมยยังคงเย็นชาอยู่บ้าง

“พี่เหมยครับ ก่อนหน้านี้พี่เคยถามผมใช่ไหม ว่าทำไมตระกูลของผมถึงห้ามประกอบอาชีพแพทย์มาหลายชั่วอายุคน? ตอนนี้ผมจะบอกพี่ครับ!”

ในวินาทีนี้ สีหน้าของโจวหยางดูจริงจังมากขึ้น จนถังอวี้เหมยต้องหยุดชะงัก

เธอไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของโจวหยางมาก่อน

“มันเกี่ยวกับที่เธอจะไม่ไปทำงานที่บีอาร์หรือเปล่า?” ถังอวี้เหมยถาม

“ใช่แล้วครับ!”

“ถ้างั้นฉันก็อยากฟังดูสักหน่อย!”

ถังอวี้เหมยกลับมาอยู่ตรงหน้าโจวหยาง และนั่งลงอีกครั้ง

โจวหยางกล่าวว่า “บรรพบุรุษของผมเปิดสถานพยาบาลจินหลิน ประกอบอาชีพแพทย์มาหลายชั่วอายุคน ต่อมาในสมัยสาธารณรัฐจีน เกิดสงครามขุนศึก บรรพบุรุษของผมได้เดินทางไปรักษาผู้ประสบภัยและทหารที่บาดเจ็บตามที่ต่าง ๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ช่วยชีวิตคนไว้นับไม่ถ้วน แต่มีครั้งหนึ่งขณะรักษาขุนศึกผู้หนึ่ง ท่านทวดของผมกลับเลินเล่อเรื่องส่วนผสมในตำรับยา จนทำให้อาการของขุนศึกผู้นั้นทรุดหนักลง”

“ท่านทวดของผมได้สำนึกผิดและปรับปรุงตำรับยาจนรักษาขุนศึกผู้นั้นหายดี แต่ใครจะรู้ว่าขุนศึกผู้นั้นเป็นทรราช เขากลับคิดว่าท่านทวดของผมตั้งใจกลั่นแกล้ง จึงจับตัวท่านไปยิงเป้า”

“หา?” แววตาของถังอวี้เหมยปรากฏความตกตะลึง

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ผมพาครอบครัวหนีไปก่อน ทั้งตระกูลของพวกเราคงถูกฆ่าล้างโคตรไปแล้วในตอนนั้น!” โจวหยางถอนหายใจก่อนเล่าต่อ “หลังจากนั้น ครอบครัวของพวกเราก็ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ และไม่เคยทำใจเรื่องของท่านทวดได้เลย คุณปู่ผมเสียใจถึงขั้นล้มป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนสิ้นใจ ท่านได้สั่งเสียไว้ว่า การรักษาและช่วยชีวิตคนนั้นเป็นเรื่องดี แต่หากพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว ก็เท่ากับทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเมื่อสิ้นท่านไปแล้ว ก็ไม่ให้ตระกูลเราประกอบอาชีพแพทย์อีก หากใครไม่เชื่อฟัง ก็ให้ตัดออกจากวงศ์ตระกูลทันที”

“แม้ว่าครอบครัวของเราจะยังคงสืบทอดตำรับยาจินหลินของบรรพบุรุษ แต่หลังจากนั้น ก็ไม่เคยเปิดสถานพยาบาลรักษาใครอีกเลย”

เมื่อถังอวี้เหมยฟังจบ สีหน้าของเธอก็ดูเคร่งขรึม “สรุปก็คือปู่ของเธอใช้บทเรียนของปู่ทวด เพื่อปกป้องลูกหลานในอนาคตสินะ”

“ใช่ครับ!” โจวหยางถอนหายใจ “แต่ว่าผมไม่ยอม!”

“แม้ว่าตระกูลโจวของพวกเราจะไม่ได้เป็นหมออีกแล้ว แต่ผมเรียนแพทย์แผนจีนกับคุณปู่และคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก ผมมองออกว่าความรักที่พวกท่านมีต่อศาสตร์แพทย์แผนจีนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ผมจึงมีความฝันมาตั้งแต่เด็ก ต่อให้คนในตระกูลผมจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีก แต่ตำรับยาจินหลินก็ไม่ควรถูกกลบฝัง ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเรานับพันปี จะต้องไม่ถูกลืมเลือนครับ!”

วินาทีนี้ ดวงตาของโจวหยางพลันสาดประกายเจิดจ้า

“ผมจะใช้ตำรับยาสูตรจินหลิน เผยแพร่ศาสตร์แพทย์แผนจีนให้กว้างไกล สร้างคุณประโยชน์แก่เพื่อนร่วมชาติ และสร้างชื่อเสียงให้ก้องโลก”

ถังอวี้เหมยเองก็รู้สึกใจสั่นสะท้าน

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า ชายหนุ่มผู้อยู่ตรงหน้า จะมีความฝันและปณิธานอันยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้

“ดังนั้น ผมจึงมาที่บริษัทยาอีพีเอส เพราะที่นี่เป็นกลุ่มบริษัทยาจีนที่ใหญ่ที่สุด” โจวหยางกล่าว “และมีเพียงบนเวทีที่ยิ่งใหญ่นี้เท่านั้น ที่ตำรับยาจินหลินจะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และมีโอกาสเผยแพร่ไปทั่วประเทศ และทั่วโลกครับ”

“เข้าใจแล้ว!” ในดวงตาของถังอวี้เหมยเต็มไปด้วยความนับถือ

“ดังนั้น เป้าหมายของผม ก็คือการไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของบริษัทอีพีเอส กรุ๊ปและมีอำนาจที่มากพอให้ได้!” โจวหยางกล่าว “มีแค่วิธีนั้น ผมถึงจะทำตามแผนการของผมได้สำเร็จ”

ไม่เคยมีวินาทีไหน ที่แววตาของโจวหยางจะแน่วแน่ถึงเพียงนี้

ถังอวี้เหมยเองก็สั่นสะท้านไปทั้งกายใจ ในดวงตางดงามของเธอทอประกายระยิบระยับ

ในที่สุด เธอก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมโจวหยางถึงได้ปฏิเสธตำแหน่งงานที่ดีขนาดนั้นจากกลุ่มเพื่อนของเธอ

เพราะว่า สิ่งที่โจวหยางต้องการไม่ใช่ตำแหน่งงาน แต่เขาต้องการเวทีและโอกาสที่จะทำให้ความฝันและปณิธานอันยิ่งใหญ่ของตนเองกลายเป็นจริง

เช่นเดียวกับชื่อตำรับยาที่สืบทอดกันมาในตระกูลของเขาอย่างตำรับยาจินหลิน ซึ่งหมายถึงเกล็ดทองคำ

พญามัจฉาเกล็ดทองคำย่อมไม่ใช่ลูกปลาน้อยทั่วไป เมื่อพบเมฆาและวายุก็กลายร่างเป็นมังกรใหญ่

ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลายเป็นมังกรทะยานฟ้าแน่นอน

แม้แต่สาวแกร่งผู้ยิ่งใหญ่อย่างถังอวี้เหมย วินาทีนี้ ก็ยังต้องตกตะลึงในความมุ่งมั่นของโจวหยางแล้ว

“โจวหยาง ฉันผิดไปแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นฉันเองที่ดูถูกเธอเกินไป!” ถังอวี้เหมยพูด “ขอโทษด้วยนะ”

“พูดอะไรอย่างนั้นครับ คุณก็แค่ต้องการช่วยผม!” โจวหยางกล่าว “อ้อ จริงสิ เมื่อกี้ที่ผมปฏิเสธเพื่อน ๆ พี่ไป พวกเธอคงไม่โกรธผมใช่ไหม?”

“ไม่หรอก เพื่อนฉันไม่ใส่ใจเรื่องแบบนั้นแน่!” มุมปากของถังอวี้เหมยยกขึ้นเป็นรอยยิ้มลึกลับ “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ป่านนี้พวกเธอคงกำลังสนุกกันสุดเหวี่ยงแล้วล่ะ!”

โจวหยาง: “สนุกสุดเหวี่ยง? หมายความว่ายังไงครับ?”

ถังอวี้เหมยใช้ริมฝีปากเซ็กซี่บุ้ยใบ้ไปทางนอกประตู “เธอออกไปดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 30

    เมื่อหมดหวัง เธอจึงทำได้เพียงกวักมือเรียกโจวหยางที่ยืนตัวตรงอยู่ด้านข้างด้วยความเก้อกระดาก “เอ่อ... มานี่หน่อยสิ!”“ครับ!”“ช่วยสาธิตให้ดูที ว่าจุดฝังเข็มสองจุดนี้มันอยู่ตรงไหน?” ซูจิ้งพูดโจวหยางขมวดคิ้วพลางมองอย่างจริงจัง ก่อนใช้ปลายนิ้วสัมผัสซูจิ้งแผ่วเบา “ตรงนี้ กับตรงนี้ครับ!”ใบหน้าของซูจิ้งพลันแดงระเรื่อราวแสงอาทิตย์ยามอัสดง ดูงดงามน่าทะนุถนอม“เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว!”เธอรีบนั่งตัวตรง ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย “สรุปคุณมาห้องทำงานฉันมีธุระอะไร?”“คือผมอยากจะบอกว่า เกณฑ์การคัดคนออกนั่นมันไม่ยุติธรรมกับผมเลย!” โจวหยางประท้วง “ผมเพิ่งย้ายมา ยังไม่รู้อะไรสักอย่าง!”“เดี๋ยวมีคนสอนงานให้ แป๊บเดียวก็ทำเป็นแล้วน่า!” ซูจิ้งยกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรหาหลิวเยี่ยน “คุณมาที่ห้องทำงานฉันเดี๋ยวนี้”ครู่ต่อมา หลิวเยี่ยนก็มาถึงห้องทำงานของซูจิ้ง“โจวหยาง ทำความรู้จักกันไว้นะ นี่คือหลิวเยี่ยน ยอดนักขายอันดับหนึ่งของแผนกเรา!” ซูจิ้งแนะนำ“สวัสดีโจวหยาง!”หลิวเยี่ยนเดินเข้ามา ก่อนจับมือกับโจวหยางอย่างยิ้มแย้ม แถมยังโค้งตัวลงเล็กน้อย ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนดีเยี่ยมโจวหยางอยากจะซัดเบ้าหน้าสักหมัดจริงๆเสแส

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 29

    ซูจิ้งชะงักกึก ไม่คิดเลยว่าเจ้าหนุ่มพนักงานขายคนใหม่จะใจกล้าขนาดนี้มือนี้น่ะ นอกจากเอาไว้จับมือกับลูกค้าเรื่องงานแล้ว ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยได้สัมผัสมาก่อนแต่ตอนนี้เธอไม่มีแรง จึงได้แต่ปล่อยให้โจวหยางจับมือ แล้วใช้นิ้วนวดคลึงตรงง่ามนิ้วให้เธอพลันความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นปราดขึ้นมาตรงง่ามนิ้ว“โอ๊ย!”ซูจิ้งครางออกมาแผ่วเบา ก่อนรีบเม้มปาก ตีสีหน้าหยิ่งยโสเย็นชาโจวหยางนวดอยู่ประมาณสองสามนาที ก็พลันย่อตัวลงนั่ง สายตาจับจ้องไปที่เรียวขางามของซูจิ้ง“คุณจะทำอะไร?”ซูจิ้งรู้สึกว่าตัวเองถูกล่วงเกิน จึงจ้องมองโจวหยางด้วยสายตาเย็นเยียบ“ผู้อำนวยการซู คุณไม่รู้สึกเหรอครับว่า ตอนนี้คุณมีแรงพูดมากกว่าเมื่อกี้แล้ว!” โจวหยางเลิกคิ้วยิ้มเมื่อครู่ซูจิ้งกำลังเครียด เมื่อถูกทักเช่นนี้ ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้จริง ๆ“นี่แสดงว่าวิธีของผมได้ผลไงครับ!” โจวหยางกล่าว “ตอนนี้เรามากดจุดต่อไปกันเลย จุดนี้เรียกว่าซานอินเจียว อยู่ตรงข้อเท้าครับ!”เขานั่งยอง ๆ และดึงข้อเท้าของซูจิ้งเข้ามาหาตัวอย่างเชื่องช้าข้อเท้าของซูจิ้งขาวเนียนไร้ตำหนิ แถมข้อเท้าขวาด้านนอกยังมีรอยสักรูปดอกกุหลาบสีแดง ทำให้ดู

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 28

    ซูจิ้งมีใบหน้างดงามราวเทพธิดาและรูปร่างเย้ายวนใจดั่งนางมารร้าย ที่ล้ำค่ายิ่งกว่านั้นคือ เธอยังผสมผสานความสวยงามของหญิงสาววัยเยาว์และความเป็นหญิงสาวที่โตเต็มวัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีรัศมีของผู้กุมอำนาจที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมืออีกด้วยผู้หญิงเช่นนี้ ถือเป็นสุดยอดของสุดยอดในหมู่สตรี แทบเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบตอนนี้ ซูจิ้งถือปากกาเลเซอร์พลางเปิดสไลด์นำเสนอ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยอดขายในไตรมาสที่สองย่ำแย่มาก ฉันไม่รู้ว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา พวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่?”ริมฝีปากสีแดงของเธอเม้มเป็นเส้นตรง ขณะเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคน เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบพื้นดังก้องกังวาน ในรูหูของพวกเขา มันช่างน่ากลัว คล้ายเป็นเสียงระฆังมรณะในที่ทำงานไม่มีผิดพนักงานขายทุกคนต่างก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้าส่งเสียง ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับซูจิ้งด้วยซ้ำ“ฉันว่า คงถึงเวลาต้องใช้อาวุธเด็ดของฝ่ายการตลาดและการขายแล้ว!” ซูจิ้งกดไปยังสไลด์หน้าถัดไป “ระบบคัดคนออก!”“หา?”บรรดาพนักงานในทีมขาย ต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาทันทีระบบคัดคนออก มีความหมายตามชื่อ คือคนที่ทำผลงานรั้งท้ายสุด จะต้อ

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 27

    ชายคนนั้นดูอายุไม่น่าถึงสามสิบปี เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปกับกางเกงสแล็คสีเทาเข้ม ทั้งยังสวมแว่นตากรอบดำ ทำให้ดูสุภาพเรียบร้อยแต่ดวงตาเรียวยาวหลังกรอบแว่นคู่นั้น กลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย แค่สบตาก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจแล้ว“ไป๋ลู่ บังเอิญจัง ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหม?”ชายคนนั้นพูดจบ ก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายไป๋ลู่หน้าตาเฉยนัยน์ตาของไป๋ลู่ฉายแววรังเกียจออกมาวูบหนึ่ง เธอไม่สนใจชายคนนั้น แต่หันมายิ้มให้โจวหยาง “โจวหยาง ฉันอิ่มแล้ว ไว้เจอกันตอนเย็นนะ”“ไว้เจอกันตอนเย็นครับ!”โจวหยางร่ำลาไป๋ลู่ ตัวเขาก็ไม่ได้สนใจชายคนนั้นเช่นกัน จึงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารเช้าต่อไป“โจวหยางใช่ไหมเรา?” ชายคนนั้นทำลายความเงียบขึ้น “นายกับไป๋ลู่รู้จักกันได้ไง? จริงสิ แล้วที่บอกว่าเจอกันตอนเย็นน่ะ พวกนายจะไปทำอะไรกันเหรอ?”โจวหยางขมวดคิ้วมุ่น สำหรับคนประเภทที่ไม่รู้จักเว้นระยะห่างแบบนี้ เขาค่อนข้างรู้สึกรังเกียจ“ขอโทษทีครับ พอดีนี่เป็นเรื่องของเรา ไม่สะดวกบอกคนอื่นน่ะ!” โจวหยางตอบ“ฮ่า ๆ ๆ สมแล้วที่เป็นเด็กเส้น คำพูดคำจาแข็งกร้าวเชียวนะ!” ชายคนนั้นกล่าวแดกดันโจวหยางเงยหน้าขึ้นถาม “เด็กเส้นอะไรครั

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 26

    โจวหยางจึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ “พี่เหมย ไม่เห็นมีอะไรเลย! ตรงนี้แห้งสนิทดีอยู่นะครับ!”“อ้อ! แล้วรอบนี้ล่ะ?”ถังอวี้เหมยรีบเปิดฝักบัวทันทีสายน้ำอุ่นจึงเทรดลงมาดั่งฝนห่าใหญ่ อาบทั้งร่างของโจวหยางและถังอวี้เหมยจนเปียกโชกไปพร้อมกัน“อ๊ะ! พี่เหมย พี่ทำอะไรเนี่ย?”“อาบน้ำไง! อิอิ!”“พี่เหมยใจร้ายจัง!”“ผู้หญิงไม่ร้าย ผู้ชายไม่รักหรอก! ฮ่า ๆ ๆ!”ถังอวี้เหมยพูดไปหัวเราะไป เอนตัวพิงกำแพงนั่งลงใต้ฝักบัว ก่อนเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้สายน้ำราดรดลงมาในวินาทีนี้ เธอมีความงดงามดุจดั่งบัวพ้นน้ำเสื้อผ้าที่บางราวปีกจั๊กจั่นของเธอ ขณะนี้เมื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัว ก็ยิ่งเผยให้เห็นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบถึงไหนต่อไหนภาพนี้ ทำให้เลือดลมในกายโจวหยางพลันสูบฉีด แม้จะอยู่ใต้ฝักบัว แต่เขาก็ยังรู้สึกลำคอแห้งผากตอนนั้นเอง ถังอวี้เหมยก็หันมามองเขา ใบหน้าที่แดงเรื่อจากฤทธิ์สุรา เวลานี้ช่างดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างร้ายกาจ“พี่เหมย มองผมแบบนี้ทำไมเหรอ?” โจวหยางชะงักกึกแต่ถังอวี้เหมยกลับโผเข้ามากอดโจวหยาง ก่อนประทับริมฝีปากสีชมพูเข้ามาโดยตรงครู่ต่อมา โจวหยางก็เดินออกจากห้องน้ำในสภาพเปียกปอนเสียงของถังอวี้เห

  • ยอดนักขายซ่อนลายมังกร   บทที่ 25

    ตอนนี้ ภายใต้แสงไฟสลัว ถังอวี้เหมยยิ้มอย่างมีความสุข ใบหน้าฉายแววเปี่ยมเสน่หา“ว่าแต่เธออยากขึ้นเตียงกับฉันจริง ๆ เหรอ?” เธอถามโจวหยางที่ขับเคลื่อนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เกือบโพล่งคำว่า “อยาก” ออกไปแล้ว!แต่พอดีเขายังมีสติ ถังอวี้เหมยเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แม้ชีวิตคู่ของเธอจะไม่มีความรัก แต่ถ้าเขาไปหลับนอนกับเธอจริง ๆ ก็เท่ากับเป็นการทำลายครอบครัวคนอื่น เรื่องแบบนี้ทำไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะ เซี่ยยงก็หวังให้พี่เหมยนอกใจอยู่แล้ว พี่เหมยคงไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นแน่นอนที่เธอถามแบบนี้ ก็คงแค่อยากลองใจดูว่าฉันบริสุทธิ์ใจจริงหรือเปล่าเท่านั้นเองแต่ว่า ถ้าให้โจวหยางตอบว่าไม่อยาก ก็เท่ากับพูดโกหกใจตัวเองแม้ถังอวี้เหมยจะเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว แต่ในเรื่องรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้แพ้พวกเด็กสาวแต่อย่างใด ทั้งยังไม่เคยมีลูก เซี่ยเฟิงก็เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้วบวกด้วยการอุ้มบุญ สาวสวยมีระดับเช่นนี้ ใครบ้างไม่อยากลิ้มลอง?ดังนั้น หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โจวหยางจึงเลือกที่จะไม่ตอบ และเปลี่ยนเรื่องคุยทันที“พี่เหมย พี่เล่าแผนของพี่มาเถอะ ผมจะให้ความร่วมมือเต็มที่เลยครับ!” โจวหยางกล่าว“วัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status