공유

บทที่ 1048

작가: หูเทียนเสี่ยว
ในจวนตระกูลเหอ

ชายหนุ่มในชุดหรูหราคนหนึ่งได้ยินเนื้อหาการรายงานจากคนคุ้มกันประตู หน้าก็ถมึงทึงขึ้นทันที

"นางกล้ามาทำลายป้ายของพวกเรารึ?! บังอาจเหลือเกิน!"

"ไม่ใช่เพราะเจ้ามันเกะกะระรานหรือไง! ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง เอาแต่จะจับคนของคนอื่นอยู่นั่น! คิดว่าจะทำอะไรตามใจชอบในเมืองหยางนี้ได้รึ?" ชายกลางคนข้างๆ ตำหนิขึ้นมา "เจ้ารู้ไหมว่าอีกฝ่ายเป็นใคร! ตัวตนฐานะอะไร! กล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!"

ไม่ใช่ว่าเป็นหมอเทวดาจากเมืองหลวงคนหนึ่งหรือ ได้ยินว่าวิชาแพทย์ในเมืองหลวงสุดยอดมาก สั่นคลอนไปทั้งเมืองหลวงเลย กระทั่งตระกูลเหยียนก็ยังทานไม่ไหว

ชายหนุ่มเอ่ยต่อ "ดังนั้นจึงอยากจะเชิญนางมาตรวจอาการข้าเสียหน่อย เลยจับคนของนางมาก เป็นเรื่องใหญ่ตรงไหนักน? แล้วที่จับมาก็แค่คนขับรถเท่านั้น คน คนทีนางใช้ประโยชน์ได้เหล่านั้น ข้าไม่ได้แตะต้องเลย!"

"เจ้ามันโง่! นางไม่ใช่แค่หมอเทวดาในเมืองหลวงนะ นั่นเป็นหมอเทวดาของฝ่าบาท! หัวหน้าสถาบันแพทย์หลวง! ข้าราชการในราชสำนัก! แล้วยังเป็นโหวหญิงอีก!" ชายกลางคนเอ่ยขึ้น "คนขับรถของนางล่ะ? รีบมาตัวมานี่เดี๋ยวนี้!"

เจิ้นเจียงถูกคนดึงมาจากในห้องฟืน เขายังสับสนทิศทางอยู่ ไม่รู้ว่
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1049

    และสภาพของเจิ้นเจียงตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบเจิ้นเจียงเองก็รู้สึกปวดไปทั้งตัวจริงๆ แต่ว่า เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คนเองเป็นแค่คนใช้นี่นะเดิมทีก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร หลังจากถูกคนลักพาตัว นายท่านยังมาช่วยเขาด้วยตนเองอีก นี่ก็ทำให้เขารู้สึกโชคดีมากแล้ว ยังจะกล้ามีความคิดอื่นอีกเสียที่ไหนตอนนี้พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน เจิ้นเจียงก็ตาร้อนผ่าวความคิดแรกของเขาคือจะบอกว่า ตนเองไม่เป็นไรแต่ก็ได้สติอย่างรวดเร็ว ว่าตนเองอย่างน้อยก็ไม่ควรขัดใจคุณหนูที่นี่พอเจิ้นเจียงได้สติกลับมาแล้ว คุณหนูในเมื่อมาที่นี่ ก็คงจะรู้แล้วแน่ๆ ว่าเขาถูกลักพาตัวมาเช่นนั้นไม่มีทางสมบูรณ์แบบไร้ริ้วรอยดังน้้น ข้อเรียกร้อง 'สมบูรณ์แบบไร้ริ้วรอย' ในคำพูดคุณหนูเมื่อครู่ เดิมทีคือจงใจพูดออกมา ไม่คิดจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปง่ายๆชายกลางคนหน้าแข็งไป "เอ่อ ลูกน้องที่ลูกชายข้าส่งออกไป เป็นคนใช้ที่เพิ่งเข้าจวนมา มือหนักบ้างเบาบ้าง ดังนั้นอาจทำให้คนขับรถของท่านบาดเจ็บโดยไม่ทันระวัง ใต้เท้าจั๋วโปรดให้อภัยด้วย..."จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็หัวเราะเย็นชาขึ้นมาทีหนึ่ง เลิกตาพญาหงส์คู่งาม จ้องมองพ่อลูกตระกูลเหอด้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1050

    "เจ้าโง่!" ชายกลางคนตะคอกขึ้นอย่างหมดความอดทน "ไม่ใช่ข้าปล่อยนางไป! แต่เป็นนางที่ปล่อยพวกเราต่างหาก!"ลูกชายเขาเบ้ปาก มองอย่างไม่แยแส เอ่ยขึ้นว่า "ในเมื่อนางร้ายกาจขนาดนี้ ก็น่าจะเชิญนางมาดื่มชาเสียหน่อยสิ...""ไอ้เด็กเหลือขอไม่ได้เรื่อง นับจากวันนี้เจ้าถูกกักบริเวณ! ในสามเดือนนี้ห้ามออกจากจวนแม้เพียงก้าวเดียว! จะสิ้นสุดลงวันที่สำนักเมฆาวารีมีงานรับสมาชิกใหม่!" ชายกลางคนเอ่ยขึ้น พอกำลังจะยกเท้าก้าวเข้าไปในจวนก็ได้ยินเสียงอึกอักผิดปกติ เป็นเสียงเหมือน...ติดอยู่ในลำคอ เหมือนคอถูกบีบเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดและการดิ้นรนอย่างหนักคนใช้ที่อยู่ข้างๆ ร้องตกใจขึ้นมา "คุณท่าน! คุณชายน้อยเขา...!"ชายกลางคนพอหันกลับมา ก็เห็นสีหน้าลูกชายตนเองเปลี่ยนเป็นขาวซีดไร้สีเลือด หน้าผากกับคอเส้นเลือดนูนเป่ง!เหมือนกำลังอดทนกับความเจ็บปวดทรมานมหาศาล! แต่กระทั่งเสียงร้องก็เปล่งออกมาไม่ได้ ทั้งหมดค้างอยู่ในลำคอจนเป็นเสียงอึกอักยืนก็ยืนไม่อยู่ ถ้าไม่ใช่ข้างๆ มีคนใช้คอยประคองอยู่ คงจะร่วงพับลงไปบนพื้นแล้วแต่ต่อให้มีคนใช้ประคองอยู่ เขาก็ยังคงดูซมซานอย่างหนัก กางเกงเปียกชื้นขึ้นทันที

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1051

    "ยังเจ็บอยู่หรือ?" จั๋วซือหรานถามเจิ้นเจียงโบกไม้โบกมือ "ไม่เจ็บไม่เจ็บแล้ว คุณหนูไม่ต้องห่วง คุณหนูหาข้าเจอได้อย่างไรกัน?"พอถามคำนี้ออกไป เจิ้นเจียงก็เห็นว่าคุณหนูเสกขนมข้าวเหนียวดอกกุ้ยฮวาถุงหนึ่งออกมา นิ้วขาวหยิบออกมาครึ่งชิ้นจากในถุง ส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ"หาเจอด้วยแบบนี้" จั๋วซือหรานเอ่ยตอบเจิ้นเจียงมองออกทันทีว่านี่คือขนมข้าวเหนียวดอกกุ้ยฮวาที่ตนเองซื้อมา ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นเขารีบุพูดว่า "คุณหนูอย่ากินเลย ของมันหล่นลงพื้นไปแล้ว"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขา "สิ้นเปลืองของกินมันไม่ดีนะ"เจิ้นเจียงถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ คิดๆ แล้วจึงเอ่ยว่า "ข้าไม่รู้ว่าเพวกเขาทำไมจึงมาหาข้า ข้าเป็นแค่คนใช้คนหนึ่งเท่านั้น ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...""ง่ายๆ เจ้าน่าจะถูกพวกเขาจ้องไว้ตั้งแต่ออกจากโรงเตี๊ยมแล้ว ส่วเพราะอะไรถึงถูกจับจ้องนั้น..." จั๋วซือหรานแหงนตามองเหลือบตามองยังโถงใหญ่ชั้นหนึ่งที่เป็นร้านอาหารและร้านชาของโรงเตี๊ยม "โรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นของพวกเขาไงล่ะ"เจิ้นเจียงตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง เสียงอดกดต่ำลงมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "คุณหนู แล้วจะทำอย่างไรดี? พวกเราต้องรีบออกไปไหม? นี่ถูกหลอกแล้วไม่ใช

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1052

    ตระกูลใต้สังกัดเจ็ดสำนักใหญ่ ล้วนเป็นพวกที่ทั้งลึกลับและแข็งแกร่งแต่อย่างสำนักเล็กๆ ชั้นรองอย่างสำนักเมฆาวารี มีตระกูลใต้สังกัดอย่างตระกูลเหอในเมืองหยางแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเป็นสำนักเล็ก ในด้านนี้จึงไม่ได้พิถีพิถันนักเหมือนพวกสำนักใหญ่ๆหรือก็คือ อาจจะมีตระกูลเล็กๆ ไม่น้อยที่เป็นใต้สังกัดของสำนักเมฆาวารีก็ได้ ดังนั้นศิษย์สำนักเมฆาวารีที่เป็นเชลยของจั๋วซือหรานตรงหน้าเหล่านี้ ต่อให้ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเหอกับสำนักเมฆาวารีในเมืองหยาง ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เมื่อครู่ข้าเพิ่งวางของน่าสนใจใส่เข้าไปบนตัวคุณชายน้อยตระกูลเหอ เป็นโรคและการบาดเจ็บที่ไม่อาจรักษาได้ เป็นพิษที่ไม่ทำให้ตาย แต่ก็เจ็บปวดทรมานเป็นพิเศษ"เจิ้นเจียงตาเป็นประกาย เขาเคยได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนบางส่วนในเมืองหลวงมาแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ความเจ็บปวดของพวกพ้อง กระตุ้นความหวาดกลัว...กับความโกรธคนเราได้มากที่สุด ข้ารู้สึกว่าถ้าเป็นคุณชายน้อยเหอ ต้องมาเห็นพ่อของเขาเจ็บปวดทุกข์ทรมานแบบนั้น ก็อาจจะหวาดกลัว แต่สำหรับผู้เฒ่าเหอเห็นลูกชายตัวเองเป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1053

    คนสำนักเมฆาวารีเหล่านี้ทั่งอยู่ตรงข้ามจั๋วซือหราน เดิมทีก็รู้สึกเคารพต่อตัวจั๋วซือหรานมากตอนนี้พอได้ยินคำนี้ ในใจก็ยิ่งเคาระเพิ่มขึ้นไปอีกในนี้มีคนที่ไม่ค่อยเข้าใจต่อนางอยู่ อดถามขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้ "แม่นางยังรู้ทฤษฎียาด้วยหรือ?"แม้จะบอกว่าการรักษากับยารักษานั้นไม่แยกจากกัน หญิงสาวคนนี้ความสามารถในด้านวิชาแพทย์นั้นได้ยินมานานแล้ว แต่เขาก็อาจจะคิดไม่ถึงว่า ในด้านทฤษฏียานางก็รู้ด้วยเช่นกัน...จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็แหงนตามองเขาผาดหนึ่งยังไม่ทันที่จั๋วซือหรานจะตอบ เจิ้นเจียงก็เอ่ยขึ้นมาข้างๆ "แน่นอนสิ คุณหนูของเราเป็นนักกลั่นยาด้วยนะ! ไม่ใช่แค่วิชาแพทย์ แต่ในด้านทฤษฏียาทฤษฏีพิษ ก็รู้ด้วยเหมือนกัน"ตอนที่คนของสำนักเมฆาวารีมองนาง สายตาก็เปลี่ยนไปแล้วสีหน้าจั๋วซือหราน กลับไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ชะงักไปครู่หนึ่ง ถามขึ้นแค่คำเดียวเท่านั้น "เจ้านายพวกเจ้าส่งพวกเจ้าเข้ามา ขนาดข้าเป็นคนแบบไหน ก็ไม่ได้สำรวจให้ชัดเจนก่อนเลยหรือ?"ไม่พูดออกมายังพอว่า พอพูดออกมา พวกเขาก็โมโหกันจนคันยุบยิบสำนักเมฆาวารีคือสำนักของพวกขเา และสำนักก็ไม่สนใจเลยว่าพวกเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง! กระทั่งอีกฝ่ายเป็นค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1054

    "คณหนู ท่านคิดจะไปไหนหรือ?" เจิ้นเจียงถามขึ้น"ออกจากเมืองหน่อยน่ะ ใกล้ๆ เมืองหยางมีป่าทวนแสงอยู่ ในป่าทวนแสงเองก็มีผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นอยู่หลายอย่างด้วย เมืองหลวงทางนั้นไม่ค่อยได้เห็นนัก"ป่าลึกลับมีผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นของป่าลึกลับ ที่ป่าทวนแสงเองก็เช่นกันสรุปคือ จริงๆ แล้ว...จั๋วซือหรานตั้งใจจะหาพืชพันธุ์ใหม่ๆ มาปลูกไว้ในมิติของตนเองหน่อยป่าลึกลับกับป่าทวนแสงมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของตนเองอยู่ เป็นเพราะพื้นที่และสภาพอากาศแตกต่างกัน จึงทำให้พวกมันชอบสภาพแวดล้อมเติบโตที่ต่างกันแต่ในมิติน้ำพุวิเศษของจั๋วซือหราน กลับไม่มีข้อจำกัดนี้ดังนั้นขอแค่หาต้นพันธุ์ที่ดีสุขภาพแข็งแรงเจอ เรื่องดูแลภายหลังก็ง่ายขึ้นมาก"อา ถ้าอย่างนั้น..." เจิ้นเจียงคิดว่าตนเองเพิ่งออกจากโรงเตี๊ยมก็ถูกคนจับตัวไปแล้ว จนทำให้คุณหนูต้องวุ่นวายขึ้นมาดังนั้นเขาจึงกังวลว่าถ้าคุณหนูจะออกเมือง ถึงอย่างไรตระกูลเหอก็เป็นเจ้าถิ่นของเมืองหยาง ถ้าหากเข้ามาหาเรื่องเขาอีกล่ะ...ดังนั้นเจิ้นเจียงจึงคิดว่าจะออกไปกับคุณหนูดีไหมแต่จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้ บอกกับเจิ้นเจียงว่า "เจ้าไม่ต้องออกไปกับข้าหรอก ในป่าทวนแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1055

    ผู้เฒ่าเหอตะคอกอย่างโกรธเคือง เขาขาดสติไปเพราะความโกรธในตอนนี้แล้วถ้าหากยังมีสติอยู่บ้าง อันที่จริงก็จะตั้งสติกลับมาได้ ว่าคนผู้นี้...ก็ยโสโอหังแบบนี้มาตลอดผู้เฒ่าเหอหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "ข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักเมฆาวารีแล้ว คิดว่าข้ากลัวนางจริงหรื? นางจะรออีกสองวันสินะ? สองวันก็พอแล้ว! สองวันจากนี้ข้าจะดูว่านางตายอย่างไร!"ไม่นานนัก ก็มีคนเข้ามารายงานข่าวกับผู้เฒ่าเหอว่าจั๋วซือหรานออกจากโรงเตี๊ยมและออกจาเมืองไปแล้วผู้เฒ่าเหอพอได้ยินคำนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึม หัวเราะเย็นชา "เฮอะ คงไม่ใช่มาพูดจาข่มขู่ข้า แต่จริงๆ กำลังคิดจะทิ้งพวกพ้องพวกนั้นแล้วหนีไปคนเดียวหรอกนะ?"ผู้เฒ่าเหอครุ่นคิด ความโกรธพุ่งขึ้นหัว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้จากนั้นจึงให้ผู้ใต้บัญชาไปเรียกคนคุ้มกันชั้นยอดในตระกูลมา คนคุ้มกันชั้นยอดพวกนี้ ล้วนฝึกฝนมาอย่างยาวนาน เป็นระดับเดียวกับพวกนักรบเดนตายองครักษ์ลับพวกนั้นเลยไม่ถึงเวลาสำคัญจะไม่นำออกมาใช้งานผู้เฒ่าเหอสั่งการกับพวกเขา "พวกเจ้าตามร่องรอยหญิงสาวคนนั้นไป อย่าให้นางหนีล่ะ ดูว่านางคิดจะทำอะไร ใครจะรู้ว่านางคิดจะเอากองหนุนเข้ามาหรือเปล่า...""รับท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1056

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ "แน่นอนว่าข้ายอดที่สุด ดังนั้นข้าก็เลยทิ้งบทเรียนหนึ่งไว้ให้พวกเจ้าด้วย เอาล่ะ..."จั๋วซือหรานแผ่พลังวิญญาณออกมา คิดจะค้นหาร่องรอยของวัตถุดิบยาพืชวิญญาณเหล่านั้นยังไม่กางยังพอว่า แต่พอกางออก สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ..."อื๋อ?""นายท่านทำไมหรือ?" ขนมถั่วแดงถามขึ้นจั๋วซือหรานตอบ "ไม่มีอะไร มีพวกน่ารำคาญตามออกมาน่ะ""เจ้าคนชั่วพวกนั้นส่งมาหรือเปล่า?""น่าจะใช่นะ ปัญหาไม่ใหญ่มาก" จั๋วซือหรานสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามา กระทั่งยังเว้นระยะไว้เสียห่างเลยบนความรู้สึก น่าจะแค่สะกดรอยตามนางมาเท่านั้นอีกฝ่ายถ้าหากจะระวังตัวและป้องกันขนาดนี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าเข้ามารบกวนนางก็พอ นางก็จะไม่หันไปสนใจชั่วคราว"นายท่านจะทำอย่างไร?" ขนมถั่วแดงถามจั๋วซือหรานปล่อยหมาป่าน้ำแข็งออกมาจากในมิติ ขึ้นไปขี่จากนั้นจึงเอ่ยว่า "ไม่ทำอะไร ถ้าพวกเขาตามมาได้ก็ตามมา"จั๋วซือหรานตบเบาๆ ที่คอของหมาป่าน้ำแข็ง เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า "เด็กดี ไปที่ป่าทวนแสงเลย"หมาป่าน้ำแข็งเหยียบเท้าหลังแล้วพุ่งทะยานออกไป"เร็ว! รีบตามไป! นางยังไม่เจอตัวพวกเรา

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status