แชร์

บทที่ 1014

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ถูจิน หงเซียว พวกเจ้าคิดกบฏหรือ? จับตัวลั่วชิงยวนมาให้ข้า!”

ลั่วชิงยวนตกใจ

เป็นไปมิได้

ราชาเผ่านอกด่านมิได้ตั้งใจจะสู้รบต่อไป แม้ว่าจะต้องต่อต้านกองทัพที่ล้อมรอบเพื่อปกป้องตนเอง แต่ก็เป็นไปมิได้ที่จะมอบบัลลังก์ให้แก่หล่างชิ่น

หล่างมู่วิ่งเข้าไปในเมืองเพื่อช่วยนาง แต่กลับถูกจับตัวไป อาจเป็นฝีมือของหล่างชิ่นก็ได้

นางต้องการเป็นรัชทายาทเพียงคนเดียวในยามวิกฤติครั้งนี้

สายตาเฉียบคมของถูจินและหงเซียวสบกัน

แล้วกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “หล่างชิ่น เจ้าทำอะไรลงไป?”

“องค์ราชาได้มอบบัลลังก์ให้แก่หยวนหนิงแล้ว เป็นไปมิได้ที่จะมอบให้แก่เจ้า!”

แววตาของหล่างชิ่นฉายแววโหดเหี้ยม

“หยวนหนิง หยวนหนิง! พวกเจ้าบ้าไปแล้วรึ? คิดว่าลูกสาวอัครเสนาบดีแคว้นเทียนเชวียเป็นลูกสาวราชาเผ่านอกด่านงั้นรึ?”

“นางคือลั่วชิงยวน! เป็นชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”

“ดี ในเมื่อพวกเจ้ายอมรับลั่วชิงยวนแล้ว ข้าก็จะมิเกรงใจความเป็นพี่น้องอีกต่อไป”

“ทหาร! จับตัวไปให้หมด!”

ลู่หยิ่งก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

ลั่วชิงยวนถูกปิดล้อมอย่างหนัก นางรับมืออย่างตึงเครียด พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปในกระโจมเพื่อดูว่าราชาเผ่านอกด่านเป็นอย่างไรบ้า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1015

    “แม้เจ้าจะมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของข้า แต่ตลอดหลายปีมานี้ ข้ามิเคยปล่อยให้เจ้าต้องลำบากเลย”“และยังปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนลูกสาวแท้ ๆ เสมอ”แววตาของราชาเผ่านอกด่านมีความเจ็บปวด หล่างชิ่นเพิ่งรู้ในตอนนี้ว่าทุกสิ่งที่นางทำไปล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาดวงตาของหล่างชิ่นเต็มไปด้วยน้ำตาขณะหัวเราะเยาะ “ใช่! ข้าเป็นเพียงตัวแทนที่ท่านรับมาเลี้ยงเพื่อปลอบใจตัวเองเท่านั้น”“ดังนั้นข้าจะยังมีทางรอดอยู่อีกหรือ ข้าทำได้เพียงเท่านี้เพราะท่านเป็นคนบังคับข้าเอง!”นางรู้มาตั้งแต่เด็กว่าพ่อมีลูกสาวที่ล่วงลับไปแล้วในห้องที่พ่อของนางอยู่มีภาพวาดของหยวนหนิงมากมาย รวมถึงมีสิ่งของของหยวนหนิงอยู่ทุกหนทุกแห่งนางอิจฉายิ่งนัก นางคิดว่าตราบใดที่นางพยายามอย่างหนักและแข็งแกร่งพอ พ่อก็จะลืมหยวนหนิงและมีเพียงนางในใจแต่ในวันนี้นางเพิ่งรู้ว่านางมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อดังนั้นความพยายามทั้งหมดของนางจึงสูญเปล่านางไม่มีวันแข่งกับหยวนหนิงที่ตายไปแล้วได้ราชาเผ่านอกด่านถอนหายใจ “ทุกอย่างเป็นทางเลือกของเจ้าเอง ไม่มีใครบังคับเจ้า”“เมื่อเจ้าลอบสังหารเหยี่ยนหลัว ข้ายังให้โอกาสเจ้า”“แต่เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวัง”รา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1016

    “กรี๊ด” เสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าสยดสยองดังก้องกังวานไปทั่ว พร้อมกับเสียงร้อนฉ่าที่น่าสะพรึงกลัว ภาพอันน่าเวทนาปรากฏอยู่เบื้องหน้าลั่วชิงยวนมิได้กะพริบตาแม้แต่น้อย เมื่อวางเหล็กเผาไฟลง ใบหน้าของหล่างชิ่นก็ปรากฏบาดแผลไหม้เป็นรูปอักขระหนึ่งทาส“เจ้าชอบบังคับให้ผู้อื่นเป็นทาสของเจ้านักมิใช่รึ? บัดนี้จงลิ้มลองรสชาติของการเป็นทาสดูบ้างแล้วกัน”“ทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำต่อฉินเชียนหลี่ เจ้าจะได้รับผลตอบแทนเป็นสองเท่า”ดวงตาของหล่างชิ่นแดงก่ำ โซ่ตรวนที่พันธนาการร่างกายไว้สั่นไหว“ลั่วชิงยวน! หากเจ้ามิสังหารข้า สักวันข้าจะต้องสังหารเจ้า!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น”ลั่วชิงยวนชักดาบออกมา ดาบที่เปล่งประกายราวกับแสงจันทร์ถูกปลดจากฝักจากนั้นค่อย ๆ แทงไปยังข้อมือของหล่างชิ่น คมดาบแทงทะลุข้อมือแล้วเฉือนเส้นเอ็นอย่างแช่มช้า เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วคุกแล้วลั่วชิงยวนก็ค่อย ๆ เฉือนเส้นเอ็นที่มือและเท้าของหล่างชิ่นครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือฟาดลงไปที่ไหล่ของหล่างชิ่นอย่างแรง เสียงกระดูกหักดังกังวานอึกเลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากหล่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1017

    ลั่วชิงยวนยิ้มแล้วพยักหน้านางคิดว่าอาจเป็นเพราะราชาเผ่านอกด่านได้ประกาศสละบัลลังก์ให้แก่นางแล้ว หล่างมู่จึงหมดทางเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ และเปลี่ยนทัศนคติต่อนางไปมากถึงเพียงนี้เลยหรือ?เพราะอย่างน้อยนางกับเขาก็เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ครั้งนั้นนางถึงขั้นเกือบเอาชีวิตมิรอดเลยทีเดียวเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า กองทัพก็หยุดพักตั้งค่ายพักแรม คนออกล่าสัตว์ก็ไปล่าสัตว์ ส่วนคนทำอาหารก็ทำอาการ กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งค่ายลั่วชิงยวนเดินเล่นแล้วบังเอิญไปพบกับบ่อน้ำพุร้อนจึงอยากอาบน้ำ เพราะต้องเฝ้าปกป้องเมืองมาสิบกว่าวัน ตอนนี้ตัวนางจึงเหม็นจนแทบทนมิไหวแล้วเนื่องจากไม่มีใครอยู่ใกล้ นางจึงแอบลงไปในน้ำอย่างเงียบเชียบ แต่มินานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น มีผู้ชายหลายคนมาตักน้ำที่นี่“เอ๊ะ เหมือนว่าจะมีคนอยู่ในน้ำ”ลั่วชิงยวนจึงตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ในน้ำ มิกล้าโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ“ลงไปดูเลย! ขอให้อย่าเป็นศัตรู”หัวใจของลั่วชิงยวนเต้นแรงทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้น “ทำอะไรกันอยู่!”“พวกเราพี่หญิงน้องหญิงจะมาอาบน้ำที่นี่ พวกเจ้าออกไปกันก่อนเถิด”เหล่าชายหนุ่มจึงจากไป สักพักก็ได้ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1018

    “จึงได้ช่วยให้เรารอดพ้นจากความตายหนีรอดออกมาได้”“พี่หญิงได้รับบาดเจ็บเพราะข้า มีไข้สูงติดต่อกันหลายวันจนเกือบเสียชีวิต แต่ขณะที่พี่หญิงหมดสติก็เอ่ยสั่งเสียอย่างหนักแน่น มิให้หมอแจ้งความจริงแก่เสด็จพ่อและเสด็จแม่”“สาเหตุพี่หญิงได้รับบาดเจ็บจึงถูกปกปิดไว้”“เพื่อช่วยให้ข้ารอดพ้นจากการลงโทษ”“ภายหลังที่พี่หญิงสิ้นชีพ ข้าเกือบจะตามไปด้วยแล้ว”“เสด็จพ่อบอกข้าว่า มีนักบวชผู้ทรงฤทธิ์สามารถช่วยพี่หญิงให้ฟื้นคืนชีพได้”“ดังนั้นจึงมีหล่างชิ่นมา”“เสด็จพ่อกล่าวว่า นางคือพี่หญิงที่ฟื้นคืนชีพแล้ว เพียงแต่สูญเสียความทรงจำในวัยเยาว์ไป ข้าจึงเชื่อ”“ถึงแม้ว่านิสัยของนางจะเปลี่ยนไป แต่ข้าก็ยังพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะชดเชยและทำดีกับนาง”“อาจเป็นเพราะข้าหลอกตัวเองเพื่อลดความรู้สึกผิดในใจของตัวข้าเองมาโดยตลอด”น้ำเสียงของหล่างมู่หนักอึ้งเมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังจบก็รู้สึกตกตะลึงในใจดังนั้นหล่างชิ่นจึงมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของราชาเผ่านอกด่าน การปรากฏตัวของนางเป็นเพียงการหลอกลวงของราชาเผ่านอกด่าน เพื่อเป็นกำลังใจให้หล่างมู่มีชีวิตอยู่ต่อไปจึงมิน่าแปลกใจที่หล่างมู่ไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน มิได้คิด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1019

    เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจยิ่งนัก “หมายความว่าอย่างไร?”หล่างมู่ครุ่นคิดแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เผ่านอกด่านของเรานั้น นอกจากเผ่าที่ท่านเห็นแล้วยังมีเผ่าเร่ร่อนอีกหลายเผ่า พวกเขามิได้ยอมสวามิภักดิ์และมิเชื่อฟังคำสั่งของเรา”“ดังนั้นจึงมักจะโจมตีผู้คนของแคว้นเทียนเชวียที่ชายแดนเพื่อแย่งชิงเสบียง”“หล่างชิ่นก็เคยทำเช่นนั้นมาแล้ว”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉินเชียนหลี่ปักหลักอยู่ที่เมืองผิงหนิงและต่อสู้กับหล่างชิ่นหลายร้อยครั้ง หล่างชิ่นน่าจะหลงรักฉินเชียนหลี่ แต่ก็เกลียดชังเขาด้วยเช่นกัน”“นางมองฉินเชียนหลี่เป็นคู่ต่อสู้ ต้องการพิชิตเขาให้ได้ แต่ฉินเชียนหลี่มีจิตใจที่เข้มแข็ง มิยอมจำนน”“ด้วยความหลงใหลจนบ้าคลั่ง นางจึงร่วมมือกับตระกูลเหยียนด้วยเป้าหมายเพียงเพื่อจับฉินเชียนหลี่”“ข้าเคยได้ยินนางพูดกับฉินเชียนหลี่ว่า หากเขายอมสวามิภักดิ์ หล่างชิ่นจะรับเขาเป็นสามี เพียงแต่เขาต้องละทิ้งความคิดที่จะกลับไปแคว้นเทียนเชวีย”“แต่ฉินเชียนหลี่มิยอมตกลง ดังนั้นนางจึงลงโทษฉินเชียนหลี่อย่างโหดร้าย”“เป็นหล่างชิ่นเองที่เสนอแนะต่อเสด็จพ่อว่าให้โจมตีแคว้นเทียนเชวีย นางรบเร้าเสด็จพ่อมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1020

    พระราชวังหลังหนึ่ง! มิใช่พระราชวังที่โอ่อ่าตระการตาเหมือนในแคว้นเทียนเชวีย แต่เป็นพระราชวังที่เงียบสงบและงดงามราวกับภาพวาด คล้ายคลึงกับที่พำนักที่อาจารย์เคยอาศัยอยู่มากอย่างมิน่าเชื่อ! แม้กระทั่งการจัดวางสิ่งของ ภาพเขียนและของสะสมต่าง ๆ ก็เหมือนกันทุกประการ เมื่อก้าวเข้ามาแล้ว ความรู้สึกคุ้นเคยที่หายไปนานก็ทำให้ใจของลั่วชิงยวนหวั่นไหว อารมณ์ที่ซับซ้อนหลั่งไหลออกมา“ดูเหมือนว่าที่นี่จะสร้างมานานแล้วสินะ”ราชาเผ่านอกด่านกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะเอามือไพล่หลัง “ที่นี่คือที่ที่พ่อสร้างให้นาง นางกล่าวว่า นี่คือรูปลักษณ์ของบ้านนางในแคว้นหลี”“ในอดีต นางได้เสียสละเพื่อพ่อมากมาย พ่อเกรงว่านางจะคิดถึงบ้านจนเศร้าใจ จึงสร้างที่นี่ให้เหมือนกับบ้านเดิมของนางทุกประการ”“การจัดวางสิ่งของ แม้กระทั่งโต๊ะและเก้าอี้ ล้วนเป็นฝีมือของพ่อเอง”ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก “ฝีมือของท่านหรือ?”“ท่านกับนางมีความสัมพันธ์เช่นไรกัน?”“หรือว่านางตามท่านมา...”ดวงตาของราชาเผ่านอกด่านฉายแววเศร้าหมองขณะกล่าวด้วยความเสียใจ “หากจะกล่าวว่าไม่มีความรู้สึกรักเลยก็เป็นเท็จ หากปราศจากความรู้สึกรัก เราจะยอมท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1021

    “บัดนี้ตัวตนของข้าถูกเปิดเผย พวกเขาต้องการให้ข้าออกไปจากเผ่านอกด่าน” “ข้ามิปรารถนาจะยื้อยุด แต่สุดท้ายผลแห่งความทุ่มเทนานหลายปีก็สูญเปล่า” “วันนี้ข้ากระทำการบางอย่างที่อาจนำมาซึ่งความเสียใจ แต่เพื่อกระบี่งูวิญญาณ ข้ามิอาจสนใจได้มากนัก” “ข้าล่อหลอกหล่างมู่ให้เข้าสู่หุบเขาอสูร หยวนหนิงจึงตามไปช่วยเหลือเขา...”ลั่วชิงยวนถึงกับตะลึงงันเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หล่างมู่เข้าไปในหุบเขาอสูรและหยวนหนิงตามไปช่วย ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของอาจารย์ นั่นหมายความว่าสิ่งที่หล่างมู่กล่าวไว้เป็นความจริง หยวนหนิงจึงสิ้นชีพ และอาจารย์ทำข้อตกลงกับราชาเผ่านอกด่านเพื่อชุบชีวิตหยวนหนิงแลกกับกระบี่งูวิญญาณต่อมาเป็นเรื่องราวหลายปีต่อมา อาจารย์ออกจากเผ่านอกด่านไปพร้อมกับกระบี่งูวิญญาณ แต่กลับมาอีกครั้งหลังจากนั้นหลายปี ข้อความบนกระดาษเขียนไว้ว่า “ข้าทำตามที่สัญญาไว้กับเจ้าแล้ว หยวนหนิงจะฟื้นคืนชีพในมิช้า แต่อาคมนี้เป็นการฝืนลิขิตสวรรค์ ย่อมต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล” “นางอาจมีชีวิตอยู่มิถึงสิบเจ็ดปี และในที่สุดข้าก็จะต้องเผชิญกับหายนะจากสวรรค์” “ข้าจะไปยังแคว้นเทียนเชวียเพื่อเลี้ยงดูนางให้เติบใหญ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1022

    เมื่อมองไปที่ยาเม็ดบนโต๊ะ นางก็ลองหยิบขึ้นมาดม กลิ่นยาแรงมาก แต่ดมแล้วก็มิรู้ว่าใช้ทำอะไร ลั่วเยวี่ยอิงกินยาเม็ดในกล่องก่อนหน้านี้ไปแล้ว นางคิดว่าความลับของอาจารย์ซ่อนอยู่ในกล่อง มิใช่อยู่ในยาเม็ด แต่ในกล่องนี้ก็มียาเม็ดเช่นเดียวกัน มันเป็นสิ่งสำคัญหรือไม่? นางจึงเก็บยาเม็ดไว้ เพราะยาเม็ดนี้อาจใช้ประโยชน์ได้หลังออกจากพระราชวัง นางเห็นราชาเผ่านอกด่านนั่งอยู่ใต้ต้นไม้บนเนินเขา เงาร่างโดดเดี่ยวและอ่อนแอ ดูอ้างว้างมาก บัดนี้เมื่อรู้ถึงอีกอัตลักษณ์หนึ่งของตนเอง ลั่วชิงยวนกลับมิรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร แต่ราชาเผ่านอกด่านเป็นฝ่ายเห็นนางก่อน จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “ออกมารวดเร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ? สิ่งที่เจ้าสงสัย ได้คำตอบแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนเดินไปนั่งลงด้วย“หลังจากที่ท่านมอบกระบี่งูวิญญาณให้ลั่วอิงแล้ว ท่านเคยพบกับนางอีกหรือไม่?” ราชาเผ่านอกด่านส่ายหน้าด้วยความเสียใจ “มิได้พบอีกเลย นางคงเกลียดพ่อแล้วจึงมิได้กลับมาอีกเลย” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “แล้วท่านรู้หรือไม่ว่ามีห้องลับในวัง?” ราชาเผ่านอกด่านตอบว่า “รู้ แต่พ่อมิเคยเข้าไป” “เหตุใดหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว รา

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status