Share

บทที่ 1172

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
“เฉินชี! ปล่อยข้า! เจ้าจะพาข้าไปที่ใด!” ลั่วชิงยวนดิ้นรนสุดกำลัง

เฉินชีโอบอุ้มนางไว้ด้วยมือเดียว เหินทะยานไปบนหลังคา มุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงโดยพลัน

ท่ามกลางพายุหิมะ รอบด้านขาวโพลนพร่าเลือน ลั่วชิงยวนสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา เมื่อต้องเผชิญกับลมหนาวจัดใบหน้าก็ซีดเผือด สติเลื่อนลอย

มิรู้ว่าต้องทนหนาวอยู่ท่ามกลางสายลมเช่นนี้เนิ่นนานเพียงใด

กระทั่งถึงกระท่อมมุงจากหลังหนึ่งบนภูเขานอกเมือง เฉินชีจึงวางลั่วชิงยวนลง นางทรุดลงกับพื้นทันที ร่างกายเย็นเยียบ ขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ สติเลือนรางเต็มที

เมื่อเฉินชีเห็นดังนั้น สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยน รีบอุ้มนางเข้าไปในกระท่อมแล้ววางลงบนเตียง ก่อนจะห่มผ้าให้

แล้วรีบก่อไฟในห้อง อุณหภูมิในห้องจึงค่อย ๆ อุ่นขึ้น

เฉินชีเดินมาข้างเตียง แล้วเอามือแตะหน้าผากลั่วชิงยวนจึงพบว่าร้อนจัด

เฉินชีขมวดคิ้ว “เหตุใดร่างกายเจ้าจึงอ่อนแอถึงเพียงนี้ เพียงแค่ลมหนาวก็ทนมิได้”

กล่าวจบ เขาก็รีบออกไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

…...

ยามราตรี

เสียงลมหนาวพัดหวีดหวิว ทหารองครักษ์ล้อมห้องทรงพระอักษรไว้แน่นหนา

ฟู่เฉินหวนผู้สวมเสื้อคลุมยาวมาถึงด้วยท่าทางองอาจ

ขณะ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Meerada Sunny
แค้นแล้วนะ ทุกอย่างควบคุมฟู่เจินหวนทั้งหมด บ้าไปแล้ว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1173

    เหตุใดแม้แต่ลั่วฉิงก็สามารถควบคุมเขาได้!เหตุใดกัน!ลั่วฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ท่านสามารถขวางฟู่อวิ๋นโจวมิให้ขึ้นครองบัลลังก์ได้ แต่ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะต้านทานฤทธิ์ยาควบคุมนี้ได้?”“ข้าจะพูดอีกครั้ง ปล่อยฟู่อวิ๋นโจว!”ฟู่เฉินหวนพยายามต่อต้านคำสั่ง แต่สิ่งที่ตามมาก็คือความเจ็บปวดแสนสาหัสเขารู้ว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายของเขาคงทนมิไหวแล้วเขาจึงมิต่อต้านอีกได้แต่พยุงร่างตัวเองเดินออกจากห้องทรงพระอักษรอย่างยากลำบาก“ใครก็ได้!”“ท่านอ๋อง!”“ปล่อยฟู่อวิ๋นโจว”ในมิช้าฟู่อวิ๋นโจวก็กลับมาเขาเอามือไพล่หลัง เดินเข้ามาอย่างสงบนิ่ง จากนั้นมองเลือดที่มุมปากของฟู่เฉินหวน แล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เสด็จพี่ วันนี้ท่านถูกอาคมล่อลวงเสียหรือ?”“เป็นลั่วชิงยวนที่ใช้อาคมล่อลวงท่านใช่หรือไม่?”น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นโจวเย็นยะเยือก ทำให้สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปแล้วมองเขาด้วยความตกใจ“เจ้าคิดจะทำอะไร!”ดวงตาของฟู่อวิ๋นโจวเย็นชา ขณะพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าต้องการให้เสด็จพี่... หย่ากับลั่วชิงยวน”“เรื่องวันนี้ ข้าสามารถพูดได้ว่าเป็นความเข้าใจผิด”“ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1174

    ลั่วชิงยวนมิได้หลบเลี่ยงทว่าในจังหวะที่เฉินชีโน้มกายเข้ามาใกล้ นางกลับฉวยโอกาสชักกริชที่เอวของเฉินชีออกมา แล้วแทงเข้าใส่กลางอกของเขาอย่างแรงทว่ากริชกลับปักเข้าไปเพียงแค่ส่วนปลายเท่านั้นเพราะเฉินชีคว้าใบมีดไว้ได้ทันควันเลือดหลั่งรินจากฝ่ามือของเขาหยดลงบนอาภรณ์สีขาวของลั่วชิงยวนทีละหยดลั่วชิงยวนออกแรงสุดกำลัง ทว่าเฉินชีกลับยังคงจับใบมีดไว้แน่น เขาแย่งกริชไปจากนางแล้วเหวี่ยงมันลงพื้นอย่างแรงเฉินชีใช้นิ้วเปื้อนเลือดจับปลายคางของลั่วชิงยวน เลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนริมฝีปากของนางลั่วชิงยวนใช้เท้าถีบอกของเขา แต่เฉินชีกลับทำราวกับมิรู้สึกเจ็บปวดเลยเขากระชากข้อมือของนางขึ้นเหนือศีรษะ“เฉินชี! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะฉีกเจ้าให้เป็นชิ้น!” ลั่วชิงยวนตวาดด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำแต่ในดวงตาของเฉินชีกลับฉายแววตื่นเต้น “เช่นนั้นข้าก็ยิ่งอยากลิ้มลอง!”เขาก้มลงโน้มกายเข้าหานางลั่วชิงยวนสะบัดมือจนหลุด แล้วตบเขาด้วยฝ่ามืออย่างแรงเฉินชีคว้าข้อมือของนางไว้ได้อีกแต่ในชั่วพริบตานั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปแล้วมองนางด้วยความตกตะลึง “เจ้าตั้งครรภ์แล้ว!”แววตาของเขาราวก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1175

    แม้ว่าจะกินยาลงไปแล้วแต่อาการของลั่วชิงยวนก็มิได้ทุเลาลง ร่างของนางยังคงสั่นเทามิหยุด พร้อมกับไอเป็นระยะ“แค่ก แค่ก แค่ก...”เฉินชีขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียด “เหตุใดร่างกายของเจ้าจึงอ่อนแอเช่นนี้”“ต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ยา... แค่กแค่กแค่กแค่ก...”เฉินชีเอื้อมมือแตะหน้าผากของนาง แม้กินยาลงไปแล้วแต่ร่างกายก็ยังคงร้อนผ่าวและอ่อนแรงเช่นนี้ ดูท่าว่าสมุนไพรธรรมดาที่เก็บมาจากภูเขาคงมิอาจช่วยได้“เฉินชี... เฉินชี...” นางร้องเรียกชื่อเขาราวกับขอความช่วยเหลือ สติเริ่มเลือนรางเสียงเรียกชื่อนี้ทำให้ใจของเฉินชีอ่อนยวบลงในทันใดเขาก้าวออกจากห้องแล้วปิดประตูเขาออกไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาอีกครั้งค้นหาอยู่นานกว่าจะพบสมุนไพรบางชนิด จึงนำกลับมาต้มเป็นยาต่อไปกว่าจะรู้ตัวราตรีก็มาเยือนอีกครั้งลั่วชิงยวนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ ยังคงไอมิหยุดเมื่อเฉินชีต้มยาเสร็จก็ป้อนให้นางกินเขาเฝ้าอยู่ในห้องและก่อไฟให้แรงขึ้นเฉินชีร้อนจนเหงื่อไหล แต่ลั่วชิงยวนบนเตียงกลับยังคงหนาวจนพูดเสียงสั่นในยามสะลึมสะลือ ลั่วชิงยวนก็ร้องเรียกอีกครั้ง “เฉินช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1176

    ในช่วงเวลาคับขันนั้น ทันใดนั้นก็มีขบวนม้าควบออกมาจากประตูเมืองและในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ลมหนาวก็พัดม่านรถม้าเปิดออก เฉินชีเห็นลั่วชิงยวนที่อยู่ภายในส่วนลั่วชิงยวนก็เห็นเฉินชีเช่นกันทั้งสองสบตากันสายตาของเฉินชีเย็นเยียบทันใดนั้น ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในสายตาของลั่วชิงยวน“เซียวชู!”เมื่อเซียวชูซึ่งกำลังสั่งการให้คนออกตามหาพระชายาอยู่ได้ยินเสียงเรียกก็พลันเปลี่ยนสีหน้า“พระชายา!”เซียวชูรีบลงจากหลังม้า “พระชายา! ท่านปลอดภัยดีหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนรีบลงจากรถม้า แล้วชี้ไปที่เฉินชี “จับเขาไว้!”เฉินชียิ้มเยาะ แล้วเหาะหายไปในพริบตา“อาเหลา เจ้าหนีข้ามิพ้นหรอก” เสียงหัวเราะของเฉินชีดังเข้ามาในโสตประสาทของลั่วชิงยวน ทำให้นางรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโชคดีที่เซียวชูรีบสั่งให้คนออกตามล่า จึงมิได้สนใจคำว่าอาเหลาที่เฉินชีเอ่ยเพียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “พระชายา ท่านหายไปไหนมาขอรับ? ข้าร้อนใจแทบตาย”“ท่านอ๋องก็มิกลับมาสองวันแล้ว ท่านก็ยังจะหายไปอีก...”ลั่วชิงยวนตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น “ว่ากระไรนะ? ท่านอ๋องก็หายไปสองวันแล้วหรือ? เขาอยู่ที่ใด?”เซียวชูมีสีหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1177

    จดหมายหย่าร่วงหล่นลงพื้น บนนั้นเขียนไว้ชัดเจนว่าหนังสือหย่าลั่วชิงยวนชะงัก ยังคงตกตะลึงมิหาย แต่นางก็รีบหันหลังวิ่งตามฟู่เฉินหวนไป“เพราะเหตุใดกัน? เกิดอะไรขึ้นกับท่านในวัง? แผนการล้มเหลวหรือเพคะ?”“เหตุใดจู่ ๆ ก็เขียนหนังสือหย่า?”ลั่วชิงยวนร้อนใจ ต้องการคำอธิบายแต่แววตาของฟู่เฉินหวนกลับเย็นเยียบ มองนางด้วยสายตาเย็นชา “ลั่วชิงยวน ตอนนี้ข้ามิอยากพูดกับเจ้าแม้แต่คำเดียว มิอยากเห็นหน้าเจ้าด้วย!”“เจ้ารีบเก็บข้าวของออกไปเองเสีย อย่าบีบบังคับให้ข้าลงมือเลย!”ฟู่เฉินหวนกล่าวจบก็เดินจากไปลั่วชิงยวนยืนนิ่งอึ้งนี่มันเรื่องอะไรกัน?นางมิยอมแพ้ วิ่งตามไปที่ห้องตำราของฟู่เฉินหวน แต่กลับพบว่าเขาปิดประตูลงกลอนจากด้านในมิว่าลั่วชิงยวนจะทุบประตูอย่างไร เขาก็มิยอมเปิด“ฟู่เฉินหวน! ท่านพูดมาให้ชัดเจน! เหตุใดจึงจู่ ๆ จะหย่ากับหม่อมฉัน?”“มิได้ตกลงกันแล้วหรอกหรือว่ามีเรื่องใดก็จะร่วมกันฝ่าฟัน!”“เหตุใดท่านจึงผลักไสหม่อมฉันอีก?”“ท่านอธิบายมาให้ชัดเจน!”เสียงเย็นชาที่แฝงด้วยความโกรธของฟู่เฉินหวนดังมาจากด้านใน “เจ้าหลอกลวงข้า ยังมิพออีกรึ!”ลั่วชิงยวนตกใจ “หม่อมฉันหลอกลวงท่านอย่างไร?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1178

    “มิว่าท่านจะทำสิ่งใด ท่านปล่อยพวกเราไปมิได้หรือ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยแล้วก็ไอหนักอีกครั้งฟู่อวิ๋นโจวได้ยินเสียงไอของนางแล้วรู้สึกเจ็บปวดในใจ จึงลูบหลังนางเบา ๆ “บาดแผลของเจ้ายังมิหาย เจ้าเป็นหวัดอีกแล้วหรือ? ในเมื่อเขาหย่ากับเจ้าแล้ว เจ้าก็พักอยู่ในวัง รักษาตัวให้หายดีก่อนเถิด”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วปัดมือเขาออก“มิต้องมาเสแสร้ง”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นเดินจากไปเดิมทีตั้งใจจะออกจากวัง แต่เมื่อใกล้ถึงประตูวังก็พบกับขันทีเฉิน ซึ่งเป็นขันทีที่คอยรับใช้ข้างกายจักรพรรดิสูงสุด“องค์หญิง จักรพรรดิสูงสุดทรงทราบว่าท่านเข้าวัง จึงเชิญท่านไปพบพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แม้แต่คำเรียกขานก็เปลี่ยนไปแล้วด้วยดูท่าว่าจักรพรรดิสูงสุดคงทราบเรื่องที่ฟู่เฉินหวนหย่ากับนางแล้ว“ช่วงนี้จักรพรรดิสูงสุดทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ข้ายังมีธุระอยู่ ไว้คราวหน้าจะไปเข้าเฝ้า”ขันทีเฉินคลี่ยิ้ม “อาการประชวรขององค์หญิงยังมิหายดี ฤดูหนาวเช่นนี้ ยากที่จะทนได้ องค์หญิงควรพักรักษาตัวในวังก่อน จักรพรรดิสูงสุดก็ทรงเป็นห่วงองค์หญิงมากพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนลังเล แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง บังเอิญว่านางก็อยาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1179

    จักรพรรดิสูงสุดเคลื่อนไหวช้า การเดินหมากก็เชื่องช้า ลั่วชิงยวนก็รอด้วยความเบื่อหน่ายทันใดนั้นขันทีเฉินก็รีบร้อนเข้ามา “จักรพรรดิสูงสุด องค์ชายห้าทรงถามว่า ท่านจะเสด็จร่วมพิธีขึ้นครองราชย์หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นพิธีขึ้นครองราชย์หรือ?ฟู่อวิ๋นโจวจะขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว!จักรพรรดิสูงสุดตอบ “มิไปหรอก แขนขาของข้าเป็นเช่นนี้ เดินเหินมิไหวแล้ว”“พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นกระหม่อมจะไปแจ้งให้ทราบ”ขันทีเฉินจากไปแล้ว จักรพรรดิสูงสุดก็เล่นหมากรุกต่อ แต่ลั่วชิงยวนกลับนิ่งเฉยฟู่เฉินหวนมิได้ขัดขวางการขึ้นครองราชย์ของฟู่อวิ๋นโจว เขาสังหารฟู่จิ่งหานแต่กลับมิได้รับโทษใด ๆแต่ยังทำให้ฟู่เฉินหวนหย่ากับนางแทน!ฟู่อวิ๋นโจวใช้วิธีใดกันแน่!นางมองจักรพรรดิสูงสุดด้วยสายตามิพอใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุด ท่านทรงทราบทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่เพคะ? การกระทำของฟู่อวิ๋นโจว ท่านจะทรงปล่อยไปเช่นนี้หรือเพคะ?”“ฟู่จิ่งหานมิใช่โอรสของท่านแล้วหรือเพคะ?”น้ำเสียงของลั่วชิงยวนแฝงไปด้วยความมิพอใจจักรพรรดิสูงสุดมิได้โกรธเคืองแต่กลับเผยรอยยิ้ม “เจ้าเก็บคำพูดนี้ไว้นานแล้วสินะ”“อดทนมาจนถึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1180

    “เพราะเหตุการณ์กลียุควังหลัง”“แต่เหตุการณ์กลียุควังหลัง พระชายาหลีก็ถูกใส่ร้าย ทั้งหมดเป็นฝีมือของไทเฮา! นางใส่ร้ายพระชายาหลีเพื่อกำจัดศัตรู ทำให้เกิดกลียุควังหลัง มีคนบริสุทธิ์ล้มตายนับมิถ้วน”“นางมีสายเลือดบริสุทธิ์ เป็นคนของแคว้นเทียนเชวีย ชาติตระกูลก็มิธรรมดา แต่สุดท้ายแล้ว นางทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้หรือเพคะ?”“ท่านก็ยังต้องให้ฟู่เฉินหวนเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อถ่วงดุลอำนาจของตระกูลเหยียนมิใช่หรือเพคะ?”เมื่อลั่วชิงยวนเอ่ยเช่นนี้ จักรพรรดิสูงสุดก็ชะงักรู้สึกตกใจมิรู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรไปครู่หนึ่งสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดล้วนถูกต้อง เขาเกือบจะถูกโน้มน้าวแล้วแต่เมื่อนึกถึงวันที่ฟู่เฉินหวนมาเข้าเฝ้า แล้วให้เขาดูบาดแผล บอกว่ามิรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดแคว้นเทียนเชวียมิสามารถมีจักรพรรดิที่อาจจะสิ้นพระชนม์ได้ทุกเมื่อได้ดังนั้น เขาจึงเป็นได้เพียงอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน คอยช่วยเหลือฟู่อวิ๋นโจวให้ขึ้นครองราชย์ เพื่อให้แคว้นเทียนเชวียสงบสุขตลอดไปแต่สิ่งที่ปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวคือ มิอยากให้ลั่วชิงยวนต้องลำบากด้วยจักรพรรดิสูงสุดยึดมั่นในใจลั่วชิง

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1424

    “ท่านอยู่ต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ออกไปก่อนเถิด” ลั่วชิงยวนกล่าวกับชายชราจากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกไปชายชราลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าลั่วชิงยวน “ท่านเจ้าเมืองมีสิ่งใดจะสั่งหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “บนเขาแห่งนี้มีคนมาแย่งชิงยาสมุนไพรไปจริงหรือ? ที่ส่งคนไปตามหา มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”“มีคนมาจริง ๆ ขอรับ พรรคพวกของพวกมันมีประมาณสิบคนได้ แต่พวกมันหนีไปเร็วมาก ตอนนั้นทุกคนมัวแต่สนใจด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนบุกเข้าไปในคลังโอสถ”“พวกเขาถึงได้หนีรอดไปได้ขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ยิ่งสงสัยว่าเป็นคนของสำนักเทียนฉยง และจงใจมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง จึงได้ชิงบัวถวายไปก่อนมองดูชายชราตรงหน้าแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยังมิเข้าใจเขาดีนักนางจึงถามว่า “บนหลังของท่านมีรอยประทับทาสหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “มีขอรับ”ลั่วชิงยวนรู้ว่าคำพูดของนางย่อมทำให้เขาเคลือบแคลงใจว่านางมิใช่อวี๋ตันเฟิ่งแต่นางก็มิได้คิดจะแสร้งเป็นอวี๋ตันเฟิ่งเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้“ท่านควรรู้ว่าข้ามิใช่อวี๋ตันเฟิ่ง”ชายชราผู้นั้นอึ้งไป มิรู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ในเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1423

    หวังเพียงว่าจะกักขังโหยวจิ้งเฉิงไว้บนเขาได้ เพราะหากเขาไปสิงอยู่ในร่างผู้อื่นแล้วหนีลงเขาไปได้ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงแต่ในตอนนี้ นางไม่มีแรงพอที่จะไล่ตามแล้ว จึงไปหายาในคลังกับคนใบ้เมื่อไปถึง โฉวสือชีและอวี๋โหรวก็อยู่ที่นั่นอวี๋โหรวปรุงโอสถเสร็จแล้วโฉวสือชีกำลังค้นหาสมุนไพรอยู่ข้าง ๆ“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โฉวสือชีถามด้วยความเป็นห่วงลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ข้ามิเป็นอะไร”โฉวสือชียื่นกล่องในมือออกมา แล้วพูดว่า “เจอโสมมังกรเพียงกิ่งเดียวเอง”ลั่วชิงยวนรับกล่องมา แล้วส่งให้คนใบ้ “รอจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อน ข้าจะจัดยาให้เจ้าชุดหนึ่ง แม้จะมิสามารถรักษาอาการของเจ้าให้หายขาดได้ แต่ก็พอจะยืดชีวิตได้”คนใบ้พยักหน้า รับโสมมังกรมาด้วยสีหน้าซับซ้อนภายใต้หน้ากากโฉวสือชีกล่าวเสียงหนักแน่น “คลังโอสถนี่ใหญ่โตเกินไป ข้าหาบัวถวายมิเจอจริง ๆ”“และเมื่อดูแล้วในนี้ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้น ต่งอวิ๋นซิ่วคงมิได้หลอกพวกเรา บัวถวายคงถูกใครบางคนชิงไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “บังเอิญเกินไปแล้ว บัวถวายถูกชิงไปตอนที่เรามาถึงพอดี”“แถมยังถูกกวาดไปจนเกลี้ยง”“สมุนไพรอื่นก็มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status