공유

บทที่ 334

작가: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วเยวี่ยอิง!

นางมาได้อย่างไรกัน?

ลั่วชิงยวนเปิดประตูออกด้วยท่าทีแน่นิ่ง นางต้อนรับลั่วเยวี่ยอิงเข้าไปด้านใน และนั่งที่โต๊ะเล็กข้าง ๆ

"แม่นางมาดูดวงหรือ?​" ลั่วชิงยวนถามอย่างสงบ

ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้า “ข้าอยากทำนายพรหมลิขิต”

“ข้าอยากรู้ คนที่ข้ารัก เขารักข้าหรือไม่?”

ฟังถึงตรงนี้ ลั่วเยวี่ยอิงชะงักเล็กน้อย นางตอบ “แม่นาง ข้าทำนายได้เพียงชะตาชีวิต ทำนายความคิดคนมิได้หรอก”

“คนที่ท่านรักจักรักท่านหรือไม่ ขออภัยที่ข้ามิสามารถช่วยท่านได้”

ลั่วชิงยวนเองก็ประหลาดใจ ลั่วเยวี่ยอิงนางมาทำนายหรือตั้งใจมาหาเรื่องกันแน่?

“เช่นนั้นท่านช่วยทำนายอนาคตของข้าว่าจะร่ำรวยไปทั้งชีวิตหรือไม่?” ลั่วเยวี่ยอิงยื่นกระดาษ

ด้านบนนั้นคือวันเกิดของนาง

ลั่วชิงยวนทำนายให้นางจริง ๆ ชีวิตของลั่วเยวี่ยอิง แท้จริงแล้วมิย่ำแย่นัก

เพียงแต่ นางเห็นทางแยกในชีวิตของลั่วเยวี่ยอิง

ทางหนึ่งมีปลายทางเป็นหงส์แดงโบยบินรอบเทวาเก้าชั้น และมีนกขาวเป็นบริวาร ซึ่งรุ่งโรจน์เป็นอย่างมาก

ส่วนอีกทางหนึ่งมีกระดูกขาววางกอง บนพื้นเต็มไปด้วยโลหิต เส้นทางไร้ซึ่งปลายทาง มีเพียงคาวเลือดและความมืดมิดที่ไร้ที่สิ้นสุด

สี
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 335

    ลั่วชิงยวนกล่าวขมวดคิ้วเนียน ๆ “ของชิ้นนี้ข้าสามารถจัดการแทนท่านได้! สิ่งชั่วร้ายในถุงหอมนี้มิธรรมดา แม่นางจักพกติดตัวต่อไปมิได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นท่านจะประสบภัยในเร็ววัน!” นางคิด ลั่วเยวี่ยอิงคงจะปล่อยถุงหอมนี้ได้แล้วกระมัง นี่มิใช่ของของลั่วเยวี่ยอิงอยู่แล้ว คงมิใช่เรื่องใหญ่หรือสำคัญอันใดสำหรับนาง หลังรู้ว่าของชิ้นนี้ส่งผลเสียต่อนาง คงมีแต่จะโยนทิ้งให้ไกล! แต่ที่คิดไม่ถึงคือ แม้สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงจะลนลาน แต่นางยังคงลังเล สุดท้ายนางยื่นมือคว้าถุงหอมนั้นจากในมือของลั่วชิงยวนอย่างเด็ดขาด หัวใจของลั่วชิงยวนดิ่งลง “แม่นาง?” ลั่วเยวี่ยอิงกำถุงหอมไว้ในมือแน่น พูดขึ้นด้วยความกลัวและความกังวลเล็กน้อย “ข้าก็ยังมิเชื่อ ข้าขอคิดอีกดีกว่า!” พูดจบ นางจึงถือถุงหอมพร้อมรีบวิ่งออกไป ท่าทีลนลานเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกกลัวจริง ๆ แต่ไฉนนางยังต้องเอาถุงหอมนั่นคืนอีก? ไฟที่เพิ่งลุกไหม้ขึ้นในใจของลั่วชิงยวน ดับมอดลงอีกครั้ง อีกนิดเดียวนางก็สามารถเอาเครื่องหอมกลับมาได้แล้ว! เพียงแต่นางไม่มีทางล้มเลิกแน่ เรื่องในวันนี้ทำให้นางมีแผนในใจ วิญญาณชั่วร้ายที่จับมาได้ก่อนหน้านี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 336

    “เซียนฉู่ สิ่งนี้เป็นสิ่งชั่วร้ายจริง ๆ ช่วงนี้ข้ามักพบเรื่องแปลก ๆ ข้ากำลังจะประสบภัยแล้วใช่หรือไม่?” ใต้ตาของลั่วเยวี่ยอิงดำคล้ำ สีหน้าทรุดโทรม นางกำมือแน่น และเป็นกังวลอย่างมาก ลั่วชิงยวนรับถุงหอมมา และพูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “สิ่งนี้ไอชั่วร้ายรุนแรงนัก จนกระทบไปถึงดวงชะตาของแม่นางนานแล้ว โชคดีที่ยังไม่สาย สิ่งนี้ข้าช่วยท่านจัดการเอง” “หากแม่นางต้องการถุงหอม รอให้ข้าเสกมนตร์ขจัดสิ่งชั่วร้ายก่อน อีกเจ็ดวันท่านค่อยมาเอากลับไป” ลั่งชิงยวนหลอกนางอย่างจริงจังต่อ สัญลักษณ์สุริยันจันทราที่นางจับโดนผ่านถุงหอม ทำนางตื่นเต้นอย่างห้ามมิได้ ไม่นานนักนางก็จะสามารถเปิดสัญลักษณ์สุริยันจันทรา เพื่อดูว่าด้านในมีของอะไรได้แล้ว บางทีนางอาจสามารถรู้ตัวตนของท่านแม่ได้ ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้า จากนั้นถามขึ้น “ข้าได้ยินว่าท่านเคยทำนายให้ฮูหยินแม่ทัพมาก่อน หลังจากนั้นโชคของท่านฮูหยินแม่ทัพก็ยิ่งอยู่ยิ่งดี” “ท่านช่วยทำนายสิ่งใดดีต่อดวงของข้าให้ข้าบ้างได้หรือไม่?” บัดนี้ ลั่วเยวี่ยอิงได้ลืมสิ่งที่เหยียนผิงเซียวมอบหมายไว้จนสิ้น นางรู้สึกเพียงเซียนฉู่เก่งกาจเช่นนี้ บางทีนางอาจสามารถขอความช่วยเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 337

    “ท่านอ๋อง ของสิ่งนี้...” ลั่วเยวี่ยอิงค่อนข้างกังวล ก่อนหน้านี้นางบอกว่านี่เป็นของของแม่นาง บัดนี้นางกลับเอาของที่แม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายให้นักทำนายคนหนึ่ง นางกังวลจนไม่รู้แก้ต่างคำโกหกอย่างไร “เยวี่ยอิง อากาศหนาวเช่นนี้ รีบกลับตำหนักเถอะ อย่าให้ไข้ขึ้น” ประโยคห่วงใยของฟู่เฉินหวนขัดนางเอาไว้ ลั่วเยวี่ยอิงชะงักเล็กน้อย นางเงยหน้ามองฟู่เฉินหวน ขอบตาแดงก่ำขึ้นมาทันใด นางจับแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนไว้อย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง ท่านมิโกรธเคืองหม่อมฉันแล้วหรือเพคะ?” ฟู่เฉินหวนยิ้มอ่อนโยน ยกมือปัดลูกผมที่ถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงของนาง “ย่อมมิโกรธเคืองเจ้าอยู่แล้ว” เห็นท่าทีหวานซึ้งของทั้งคู่ ในใจลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกโกรธ นางเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อใช้ชีวิตใหม่แล้วแท้ ๆ เหตุใดสองคนนี้จึงมิปล่อยนางไปอีก ต้องทำนางรู้สึกขยะแขยงโดยการมาพลอดรักกันต่อหน้านาง ถุงหอมที่อยู่ในมือเมื่อครู่ถูกแย่งกลับไป หนำซ้ำยังเจอฉากที่น่าสะอิดสะเอียนอีก ในใจของนางราวกับถูกหินก้อนใหญ่ทับไว้ ทรมานจนอยากปล่อยโฮออกมาเสียงดัง เพื่อให้ความรู้สึกที่แสนซับซ้อนระบายออกมาจนหมด แต่นางกลับต้องข่มไว้ และให้ตนสงบจิตใจ นางอุตส่าห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 338

    ใกล้เทศกาลโคมไฟ ในเมืองยิ่งอยู่ยิ่งคึกคัก ลั่วชิงยวนดเองก็แขวนโคมไฟไว้ที่หน้าร้านของตนหลายใบเพื่อให้ดูครึกครื้นขึ้น หรงอี้เฉี่ยนชอบเล่นไพ่ ดวงของนางนับวันยิ่งอยู่ยิ่งดี จึงเรียกลูกค้ามาให้ลั่วชิงยวนได้ไม่น้อย มักมีรถม้าโอ่อ่าขับเคลื่อนเข้ามาในตรอกฉางเล่อแบบวันเว้นวัน เพื่อมาเชิญลั่วชิงยวน หากที่ตรอกฉางเล่อมีคนมีฐานะปรากฏ ต่างไปหาลั่วชิงยวนกันทั้งสิ้น มิกล้าพูดว่ารู้จักกันทั้งเมืองหลวง แต่ในถนนที่ห่างออกไปจากตรอกฉางเล่อถึงสี่ห้าเส้น ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่านเซียนฉู่ นับตั้งแต่ที่ฟู่เฉินหวนเอาถุงหอมไป ลั่วชิงยวนก็ไม่เคยแสดงสีหน้าดี ๆ ให้เขาอีกเลย มีหลาย ๆ ครั้งที่นางเมินเมื่อเขามา จากนั้นฟู่เฉินหวนจึงไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกต่อไป เดิมทีนางคิดว่าจะผ่านฤดูเหมันต์นี้ไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าเช้านี้จะมีคนใช้คนหนึ่งส่งเทียบเชิญมาให้นาง “ท่านเซียน​ฉู่ อีกเจ็ดวันคุณหนูในจวนข้าน้อยจักแต่งงาน จึงมาเชิญท่านให้ไปดื่มเหล้ามงคล” ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนรู้สึกตะลึง “คุณหนูจวนเจ้ารึ?” นางเปิดเทียบเชิญดู ก็รู้สึกตกตะลึง ลั่วหลางหลางแต่งงาน! เมื่อมองลงไปอีก เจ้าบ่าวชื่อฟ่านซ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 339

    จากนั้นจึงขมวดคิ้วและกล่าว “แต่ท่านผอมเช่นนี้แล้ว หากท่านไปงานฉลองด้วยร่างนี้ ฟู่เฉินหวนก็มองท่านออกได้ง่าย ๆ เสียกระมัง” ลั่วชิงยวนไตร่ตรองครู่หนึ่ง และกล่าว “ร่างกายรึ ข้ามีวิธี!” “ส่วนเรื่องหน้า คงต้องใส่หมวกเอาแล้ว” ซ่งเชียนฉู่ลังเลเล็กน้อย “ได้หรือ หากความแตกจักทำเช่นไรเล่า” ลั่วชิงยวนตบไปที่บ่าของนาง “คนที่จักความแตกมีแค่ข้า พวกเขามิเคยเห็นเสียหน่อยว่าฉู่ลั่วหน้าตาอย่างไร ต่อให้มีคนเห็นเจ้า เจ้าก็สามารถอ้างว่าเจ้ามางานฉลองแทนเซียนฉู่ได้ มิมีใครสนใจเสียหรอก” เพราะสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีผู้ใดจะไปสนใจนักทำนายคนหนึ่ง นางเพียงแค่แสดงบทบาทของพระชายาอ๋องให้ดี มิให้ความแตกเป็นพอ “ก็ได้” ดังนั้นทั้งคู่จึงเริ่มเตรียมตัวกัน เพื่อทำให้ตนกลับไปอ้วนเช่นเดิม ลั่วชิงยวนตัดเย็บชุดมาตัวหนึ่งด้วยตัวนางเอง ด้านในชุดยัดฝ้ายเอาไว้จำนวนมาก เอาไว้ใส่ด้านใน ส่วนด้านนอกก็ใส่อีกสองชั้น และคลุมผ้าคลุมตัวหนึ่ง ร่างของนางก็จะขยายขึ้นหลายเท่า ส่วนใบหน้า นางทำหน้ากากสำหรับหน้าทั้งใบขึ้น และใส่หมวกเพิ่ม ซ่งเชียนฉู่และจือเฉาทั้งคู่มองซ้ายมองขวา ลั่วชิงยวนกระแอมและพูดด้วยเสียงปกติ ซ่งเชียน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 340

    ลั่วชิงยวนกลับตำหนักอ๋องแล้ว ข่าวนี้รู้กันทั่วตำหนัก มีคนใช้ไม่น้อยที่ออกมาต้อนรับนาง ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ได้รับข่าวจึงตามมาดูเช่นกัน มิคิดเลยว่า ลั่วชิงยวนยังสามารถรอดกลับมาที่ตำหนักอ๋องได้ รถม้าหยุดลง ซูโหยวเปิดประตูรถออก “พระชายา ถึงแล้วขอรับ” หน้าประตูมีสาวใช้กลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ พวกนางยังไม่ทันเห็นร่าง กลับได้ยินเสียงไอที่แสนอ่อนแอก่อน จากนั้นจึงเห็นจือเฉาค่อย ๆ พยุงลั่วชิงยวนเดินลงมา “พระชายา!” แม่นมเติ้งรีบเดินขึ้นหน้าไปต้อนรับ ลั่วชิงยวนลากสังขารหนักอึ้งเดินเข้าตำหนักไป เบื้องหน้า ลั่วเยวี่ยอิงเดินออกมาประจันหน้ากับลั่วชิงยวน ลั่วเยวี่ยอิงเผยยิ้มอ่อนโยนให้ “ท่านพี่กลับมาแล้วหรือ มิรู้ว่าท่านพี่อาศัยในจวนนอกเมือแล้วเป็นอย่างไรบ้าง” “แค่ก ๆ ๆ ” ลั่วชิงยวนมิได้ตอบ และไอผ่านลั่วเยวี่ยอิงไป เห็นว่าลั่วชิงยวนไม่สนใจนาง สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงย่ำแย่ พลันจับแขนของลั่วชิงยวนไว้ทันใด วินาทีนั้น หมวกของลั่วชิงยวนถูกลมพัดปลิว ลั่วเยวี่ยอิงจึงเห็นหน้ากากของนางเข้าอย่างจัง นางตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว และเกือบจะล้มลงพื้น “ที่พระชายากลับมารอบนี้แค่เพื่อเข้าร่วมงานแต่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 341

    เขาหมุนร่างจากไปอย่างผิดหวัง แต่ก็ยังหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทด้วยความเป็นห่วง จากนั้นจึงยกขาจากไป แต่ข่าวที่ฟู่อวิ๋นโจวมาหาลั่วชิงยวนจะปิดมิดได้อย่างไรกัน ข่าวนี้ส่งถึงหูของฟู่เฉินหวนแทบจะในเวลาแรก ถุงหอมที่อยู่ในมือพลันกำแน่น “เร็วเพียงนี้เชียว พวกเขาเจอกันแล้วหรือ?” นัยน์ตาฟู่เฉินหวนแผ่ไปด้วยความเหน็บ หลังกลับถึงตำหนัก มิได้มารายงานแก่เขาในเวลาแรก แต่กลับเจอฟู่อวิ๋นโจวก่อนงั้นหรือ? พวกเขาอดใจรอมิไหวเช่นนี้เชียว! แววตาของฟู่เฉินหวนเหน็บหนาวและเอ่ยสั่งเสียงเย็น “เรียกลั่วชิงยวนมา!” ซูโหยวพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ!” …… เมื่อตอนซูโหยวมาเชิญ ลั่วชิงยวนก็เริ่มมีลางไม่ดี ต้องเป็นเพราะฟู่อวิ๋นโจวมาแน่ เขาจึงเรียกหานางอย่างรีบร้อนเช่นนี้ และคงตักเตือนนางดังเคย นางสวมหน้ากาก ตามซูโหยวมาที่ห้องตำรา ทันทีที่ประตูห้องปิดลง บรรยากาศภายในห้องก็พิลึกขึ้นมา ฟู่เฉินหวนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประเมินนางด้วยสายตาเย็นชา ทำคนรู้สึกขนลุกทั้งที่มิได้หนาว ลั่วชิงยวนเองก็ยืนนิ่งมิเอ่ยปาก แสดงท่าทีราวกับหวาดกลัวมาก นานมาก กว่าเสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนจะดังขึ้น “ถอดหมวกกับหน้ากากออก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 342

    “เจ้า!” ฟู่เฉินหวนตะลึงแรง จนฝีเท้าแน่นิ่งกับที่ ลั่วชิงยวนจ่อมีดสั้นไว้ที่คอของตน อ้อนวอนขอท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ท่านอ๋อง ท่านปล่อยหม่อมฉันไปเถิด” “ได้โปรด หม่อมฉันผิดไปแล้ว หากท่านจะดูหน้าของหม่อมฉันจริง ๆ เช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องตาย!” “หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันมิควรแต่งงานแทน มิควรหาเรื่องท่านและลั่วเยวี่ยอิง ทุกอย่างที่หม่อมฉันเป็นอยู่ตอนนี้ หม่อมฉันสมควรทั้งนั้น!” “ท่านช่วยรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!” ประโยคสุดท้ายลั่วชิงยวนตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและการขัดขืนจากหัวใจที่แตกสลายของนาง กรีดลงที่กลางใจของฟู่เฉินหวนราวกับมีดคมทุกคำทุกประโยค นางกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? นี่ใช่ลั่วชิงยวนที่เขารู้จักหรือไม่? ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฟังเสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความผวา คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดมุ่น เสียงที่ส่งออกมาจากในห้องตำรา คนที่อยู่ภายนอกต่างได้ยิน ไม่มีผู้ใดที่มิรู้สึกตะลึง พระชายาในอดีตยโสเช่นนั้น กล้าขัดท่านอ๋อง และมิเคยยอมแพ้ ต่อให้โดนทำโทษนางก็มิเคยก้มหัว บัดนี้กลับร้องไห้อ้อนวอน กระทั่งใช้ความตายมาขู่เพียงเ

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status