Share

บทที่ 356

Author: หว่านชิงอิ๋น
"มันคืออันใดกันพ่ะย่ะค่ะ?"

ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นบนโต๊ะอีกครั้ง "น่าจะเป็นถุงหอมนั้นแล"

"ทีแรกข้าก็คิดว่ามันเป็นแค่ถุงหอมธรรมดา ทว่ายามนี้ลองนึกดูแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วชิงยวนกลับมีปากเสียงกันอยู่หลายครั้งหลายคราเพราะถุงหอมใบนี้"

"คราที่ลั่วชิงยวนเข้ามาในห้องตำราก็พยายามที่จะขโมยถุงหอม จนถึงขั้นคิดจักสังหารลั่วเยวี่ยอิงปิดปาก นี่แสดงให้เห็นว่าถุงหอมมีความสำคัญต่อนางมากเพียงใด!"

"ชะรอยจักมีผู้บงการให้นางเอาถุงหอมใบนั้นมาให้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว!"

เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้ก็ให้รู้สึกตื่นตะลึง "ท่านอ๋องสงสัยว่า เป็นตระกูลเหยียนที่คอยยุยงปลุกปั่นกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ตระกูลเหยียนจับตามองพระชายาหลีมานานแล้ว!"

"เช่นนั้นท่านอ๋องก็มิควรคืนถุงหอมให้แก่ลั่วเยวี่ยอิง! หากตระกูลเหยียนลงมืออีกครั้งล่ะก็..."

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว "ข้ามิอาจฝืนแย่งชิงเอาถุงหอมมาได้"

เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตื่นตะลึง

"นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอ๋องยอมให้ท่านอัครเสนาบดีพาตัวพระชายาไปใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"

หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของซูโหยวก็ออกจะขรึมเคร่งขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็อดมิได้ที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 357

    ทว่าลั่วไห่ผิงเพียงแค่นเสียงแล้วหันกลับไป "เจ้าคิดเอาเองเถอะ!" หลังจากเขาพูดจบก็ขึ้นรถม้าไปทันที ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด ถึงแม้ว่าแม่นมกู้จะคอยรับใช้มารดาของนาง แต่นางเองก็เป็นแม่นมของลั่วไห่ผิงเช่นกัน! เขาเอ่ยวาจาไร้มนุษยธรรมเช่นนั้นออกมาได้อย่างไรกัน? ลั่วชิงยวนตระหนักได้ถึงความต่ำช้าไร้ยางอายของบิดาตนอีกครั้ง! รถม้าจอดนิ่งอยู่ตรงนั้นมิได้ขยับเขยื้อน ราวกับคาดว่านางจะต้องกลับมาจึงรอคอยนางอยู่ตรงนั้น ลั่วชิงยวนสะกดกลั้นโทสะแล้วเดินกลับไป เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจือเฉา ลั่วชิงยวนก็เอ่ยปากพูดสองสามคำ ถึงจะไม่มีเสียงดังขึ้นมา แต่นางก็หวังว่าจือเฉาจะเข้าใจ หลังจากกลับมาที่รถม้าก็นั่งลง ลั่วเยวี่ยอิงจึงยิ้มเยาะขึ้นมา "นับว่าเจ้ายังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง จึงมิได้ลากผู้บริสุทธิ์เข้ามาพัวพัน!" ลั่วชิงยวนเหลือบมองลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วไห่ผิงด้วยสายตาเย็นชา "ข้ามีมโนธรรมอยู่แล้ว แต่พวกเจ้าสองพ่อลูกกลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่" "เจ้ายังปากดีอยู่อีกรึ? ข้าหวังว่าเจ้าจักปากดีต่อไปได้อีกก็แล้วกัน!" ลั่วเยวี่ยอิงโมโหเสียจนกัดฟันกรอด ๆ หากตอนนี้นางมิได้อยู่บนรถม้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 358

    เสียงแส้ดังบาดหูก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องมืด เมื่อลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงนี้เข้า นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกโล่งใจได้ในที่สุด! คราวนี้ตีลั่วชิงยวนให้ถึงตายเป็นดีที่สุด! นางก้มมองถุงหอมที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าขรึมเคร่ง วันนี้ท่านพ่อของนางเป็นพยานยืนยันว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นของดูต่างหน้าของมารดานาง ดังนั้นนางย่อมมิอาจทิ้งขว้างได้ตามใจอีกแล้ว มิฉะนั้นท่านอ๋องอาจสงสัยเอาได้ แต่หากมีวิญญาณร้ายในถุงหอมใบนี้จะทำเช่นใดเล่า? ลั่วชิงยวนมิอาจทนความเจ็บปวดแสนสาหัสทั่วร่างได้ ถึงแม้ว่านางจะสวมอาภรณ์หนาชั้น แต่เรี่ยวแรงของลั่วไห่ผิงหาได้ธรรมดาสามัญเลยสักนิด นางจึงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดผ่านฝ้ายหนา ๆ นางมิทราบว่าโดนเฆี่ยนตีมากี่ครั้งกี่หนแล้ว แต่ท่าทางแบบนั้นของลั่วไห่ผิงคงคิดจะตีนางให้ตายเป็นแน่ ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบดังขึ้นข้างนอก จากนั้นก็มีน้ำเสียงแฝงแววโทสะดังขึ้น "เปิดประตูให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้!" เมื่อลั่วไห่ผิงได้ยินเสียงก็รู้สึกตื่นตกใจ พอเปิดประตูออกมา เขาก็เห็นแม่ทัพใหญ่ฉินเดินเข้ามาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด "แม่ทัพใหญ่ฉิน..." ลั่วไห่ผิงขมวดคิ้วพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 359

    หากมิใช่เพราะใบหน้าเสียโฉมจนมิอาจพบปะผู้ใด ไฉนเลยจะต้องสวมผ้าคลุมหน้าด้วยเล่า? "ครั้นเมื่อบิดาของเจ้ามาขอให้ข้าช่วยเหลือ ข้าสั่งให้เขาไปพาตัวเจ้าออกมาจากตำหนักอ๋อง ผู้ใดเลยจะล่วงรู้ว่าบิดาของเจ้าจักใจคอโหดเหี้ยมยิ่งกว่า!" "เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าได้รับความอยุติธรรมอักโข หากเจ้าแต่งเข้ามาในตระกูลของข้าได้ก็คงดีมิน้อย!" แม่ทัพใหญ่ฉินรู้สึกเสียดายที่สตรีดี ๆ เช่นนั้นกลับแต่งงานแล้วเสียได้ ต่อให้นางเป็นบุตรีของเขามิได้ ก็น่าจะเป็นสะใภ้ของเขาได้! ลั่วชิงยวนยิ้มให้ "แม่ทัพใหญ่ฉินล้อเล่นแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าดวงตาของฉินไป๋หลี่น่าจะดีขึ้นแล้วกระมัง?" แม่ทัพใหญ่ฉินส่ายหน้า "ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ บางครั้งก็เห็นแสงสีขาวได้บ้างแล้ว แต่บางทีก็ยังมองไม่เห็นสิ่งใดเลย" "แต่หลังจากเขาตาบอดก็หาได้รู้สึกสิ้นหวังอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว แต่เขากลับบังเกิดจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ และฝึกฝนวรยุทธในลานอยู่ทุกวันเชียวแล! ถึงแม้ว่าเขายังชอบวาดภาพอยู่ แต่กลับมิดื่มสุราอีกแล้ว บางครั้งเขาก็จะออกไปเดินเพื่อฝึกการฟังเสียงของตัวเอง" "ทำให้ข้าคลายกังวลไปได้มากเลยเชียว!" ลั่วชิงยวนนึกกับตัวเองว่าเป็นเพราะคนรักที่เขาเสียไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 360

    ดึกดื่นป่านนี้ท่านอ๋องมาที่นี่ด้วยเหตุใดกัน? ลั่วชิงยวนรีบกลับไปท้ายเรือนแล้วผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ ทันทีที่นางเดินออกมาก็ได้ยินเสียง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นด้านนอก ซ่งเชียนฉู่ขยิบตาให้นางแล้วถามว่าควรจะทำเช่นใด ลั่วชิงยวนส่ายหน้าเพื่อบ่งบอกว่านางจะไม่เปิดประตูให้ แต่ฟู่เฉินหวนที่อยู่ข้างนอกในยามนี้ กำลังถือสุราขวดหนึ่งแล้วทุบประตูร้านด้วยท่าทีเมามาย "ฉู่ลั่ว! ออกมาสิ!" ซ่งเชียนฉู่รีบวิ่งไปหาลั่วชิงยวน จากนั้นพวกนางทั้งสองคนก็ยืนอยู่ท้ายเรือนเพราะตื่นตระหนกกับเสียงที่ดังขึ้นทางด้านหน้า "เกิดอันใดขึ้นกับเขากันแน่? หรือว่าเขาจะล่วงรู้ตัวตนของท่านแล้ว?" ซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความเป็นกังวล ลั่วชิงยวนส่ายหน้า เพราะนางก็มิทราบเช่นกัน เสียงทุบประตูยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำเสียงของฟู่เฉินหวนก็ฟังดูเมามาย ซึ่งยามปกติเขาคงไม่กระทำเช่นนี้เป็นแน่ "ท่านจักมิให้เขาเข้ามาหรือ?" ซ่งเชียนฉู่ลังเลใจ เมื่อเหลือบไปเห็นรอยเลือดบนหลังมือ ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ฉายแววเย็นชา "ห้ามเปิดเชียว!" แต่เสียงข้างนอกกลับยิ่งมาก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทุบประตูจนแทบจะพังประตูอยู่แล้ว ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 361

    “กระหม่อมมิคู่ควรกับความไว้วางใจของท่านเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางมิต้องการได้รับความไว้วางใจจากฟู่เฉินหวน“เจ้าใสซื่อบริสุทธิ์นัก ข้าเชื่อว่าเจ้าจักมิเอ่ยปากเรื่องนี้ต่อผู้ใด” เสียงทุ้มลุ่มลึกของฟู่เฉินหวนเจือเมาบางส่วนดังเข้ามาลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยฟู่เฉินหวนนอนกระดกเหล้าอยู่บนบันไดหิน เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "วันนี้ข้าอาจทำให้ชีวิตนึงสิ้นไปเพื่อบางสิ่งบางอย่าง"“ข้ามิรู้ว่าข้ากระทำอันใดผิดไปหรือไม่...”จิตใจของฟู่เฉินหวนเต็มไปภาพแววตาของลั่วชิงยวน บัดนี้เขาคิดว่า คืนนี้ลั่วชิงยวนอาจถูกทรมานจนสิ้นใจในจวนอัครเสนาบดีหากนางร่วมกับตระกูลเหยียนก่อเรื่องร้ายแรงก็สมควรตายแล้วแต่จะเกิดอะไรขึ้นหากนางแค่ถูกตระกูลเหยียนหลอกใช้เล่า?จิตใจของเขาสับสนยิ่งนักเหมือนมีบางส่วนขาดหายไปจากหัวใจ รู้สึกเหมือนถูกหินก้อนใหญ่กดทับลงไป ยากจะอธิบายว่ารู้สึกอย่างไรมันแค่ไม่สบายใจลั่วชิงยวนมองดูชายผู้นี้ด้วยความตกใจทำให้ชีวิตนึงสิ้นไปหรือ?เขากำลังพูดถึงนางงั้นหรือ?นางเพียงแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก็พลันสงบลง พลางคิดว่าจะเป็นตัวนางเองได้อย่างไรฟูู่เฉินหวนเกลียดนางฝังลึก ครั้นเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 362

    ได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็พลันตกตะลึงฟู่เฉินหวนนอนหงายอยู่บนพื้น เปลวไฟสะท้อนในดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความรู้สึกสูญเสีย“ครานั้นเวทมนตร์คาถาแพร่หลายในแคว้นหลี ท่านแม่ของข้าเป็นเหตุของเรื่องทั้งหมด เนื่องนางเป็นนางสนมคนโปรดของเสด็จพ่อ จึงถูกกล่าวหาว่าใช้เวทมนตร์คาถาหลอกองค์จักรพรรดิ”“เสด็จพ่อทรงปกป้องนางจนกระทั่ง… เกิดกลียุคในวัง”ลั่วชิงยวนตกใจอีกครั้งกลียุคในวัง?ครั้นพวกเขาอยู่ที่จวนมหาราชครู ฟู่เฉินหวนและท่านอาลั่วหรงได้กล่าวถึงกลียุคในวังหลวง ครานั้นนางเอ่ยถามท่านอาลั่วหรง แต่ท่านอาปฏิเสธที่จะเปิดเผยเธอสับสนมาโดยตลอด ความวุ่นวายในวังคืออะไรกันแน่?“กลียุคในวัง?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองไปที่ฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนเอ่ยช้า ๆ “ความโกลาหลในวังหลวงทำให้องค์ชายหลายพระองค์สิ้นพระชนม์ในคืนนั้น ภายนอกไม่มีผู้ได้รับอันตราย คืนที่ฟ้าโปร่ง แต่ฟ้าร้องและฟ้าผ่าก็โหมกระหน่ำทำให้ผู้คนล้มตายและบาดเจ็บนับไม่ถ้วนในวังหลวง”“พวกเขาพบหลักฐานในห้องท่านแม่ของข้า อ้างว่านางเป็นแม่มดที่นำหายนะมาสู่แคว้นและความทุกข์ยากมาสู่ราษฎร จึงถูกต้องโทษประหารด้วยการตรึงร่างเผาบนเสาเข็ม”ขณะที่ฟู่เฉินหวนพูด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 363

    แต่ลั่วไห่ผิงคงมิสามารถเข้าถึงราชลัญจกรหยกนั้นได้!เกิดอะไรขึ้นกันแน่?นางมิเข้าใจจึงหยุดคิดถึงเรื่องนี้“ท่านอ๋อง แล้วท่าน...” นางหันกลับมากำลังจะเอ่ยบางสิ่งทันใดนั้นก็พบว่าฟู่เฉินหวนหลับไปแล้วลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อมองดูขวดเหล้าที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น นางก็มิสามารถอธิบายความรู้สึกในใจของนางได้ฟู่เฉินหวนถือว่าลั่วชิงยวนเป็นศัตรูแต่เขาถือว่าฉู่ลั่วเป็นมิตรสหายที่สามารถพูดคุยความกังวลด้วยได้หากวันหนึ่งเขารู้ว่าฉู่ลั่วคือลั่วชิงยวน เขาจะตอบสนองอย่างไร?บางทีเขาอาจจะคิดว่านางเข้าหาเขาอย่างมีเจตนาแฝงด้วยการเป็นฉู่ลั่วนางนั่งอยู่ในลานเป็นเวลานานแล้ว และเมื่อไฟค่อย ๆ ดับลง นางก็พยายามดึงฟู่เฉินหวนขึ้นมาจากพื้นนางต้องการช่วยเขาเข้าไปในห้อง แต่ความเจ็บปวดทั่วร่างของนางและน้ำหนักของฟู่เฉินหวนทำให้นางเคลื่อนไหวลำบากเมื่อนางพยายามจะก้าวขึ้นบันได ก็ล้มลงไปพร้อมกับฟู่เฉินหวนทันใดทันทีที่นางก้าวพลาดไถล ทันใดนั้นแขนแกร่งก็คว้าเอวนางป้องมิให้ล้มลงเมื่อนางหันหน้าไป ก็พลันสัมผัสกับใบหน้าที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่นิ้วทันใด สบเข้ากับดวงตาแดงก่ำ ลึกล้ำ และเมาเล็กน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 364

    คร่อกกกก!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นพลางเหลือบมองเขาด้วยความหงุดหงิด ดึงผ้าห่มมาคลุมเขาไม่แม้แต่จะถอดรองเท้าให้ แล้วเดินออกจากห้องไปเมื่อนางเดินออกจากห้องมา ก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากข้อมือของนางนางกลับมาที่ห้องของตน หยิบล่วมยาออกมา ใส่ยาแล้วพันผ้าพันแผลทีละน้อยเสียงดังมากจนซ่งเชียนฉู่ตื่นขึ้นมา นางลุกขึ้นแล้วเดินไป “เหตุใดท่านถึงได้รับบาดเจ็บ ฝีมือผู้ใดกัน?”ลั่วชิงยวนถอนหายใจ “เรื่องมันยาว”“วันนี้เจ้ามิได้เจอปัญหาอันใดที่จวนมหาราชครูใช่หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหัว “จักมีปัญหาอันใดได้อีกเล่า คนมิน้อยกรูมาหาข้าให้ทำนายดวงชะตา ข้าก็ปฏิเสธพวกเขา แล้วบอกให้พวกเขามาหาท่านที่ร้านเอง”“ท่านอ๋องเล่า? ไฉนพระองค์จึงเสด็จมาพบท่านคืนนี้กัน?”“อาการบาดเจ็บของท่านเกี่ยวข้องกับ่ท่านอ๋องใช่หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่จับมือนางแล้วเลิกแขนเสื้อขึ้นมีรอยเลือดที่หลังมือและข้อมือรอยแผลที่อยู่บนมืออันยุติธรรมนั้นชวนให้ตกตะลึงลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและพึมพำ "จิตใจบุรุษนั้นยากแท้ที่จะหยั่งถึงได้ ข้ามิรู้ว่าเขาต้องการทำกระไร คนที่น่าสงสัยเช่นนั้นสามารถคุยเปิดใจกับคนที่เขามิรู้จักดีด้วยซ้ำได้อย่างไร?"สิ่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status