Share

บทที่ 613

Author: หว่านชิงอิ๋น
“เจ้ายังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหรือเปล่า? เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่? เจ้าถูกวางยาพิษได้เช่นไร? หมอมาตรวจดูหรือยัง? หมอให้ยาถอนพิษเจ้าหรือไม่?” ลั่วอวิ๋นสี่ร้อนใจเป็นอย่างมาก

ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เคยเห็นเจ้าใส่ใจข้ามากเพียงนี้มาก่อนเลยหนา”

ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าเกรงว่าหากเจ้าตาย จะไม่มีใครช่วยข้าแก้แค้นต่างหากเล่า”

“นี่! เจ้าบอกความจริงกับข้ามาเถอะ”

ลั่วชิงยวนยิ้มและตอบว่า “หากข้ายังสามารถพูดคุยกับเจ้าได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าข้าจะมิตายในเร็ววันนี้”

“วันนี้ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว นางก็ขยิบตาให้จือเฉา จากนั้นจือเฉาก็ออกจากห้องไป นางยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก

“ไฉนเจ้าต้องระมัดระวังนัก?” ทันใดนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็เริ่มจริงจัง นางขยับเข้ามานั่งใกล้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ก่อนหน้านี้ ที่ข้าเคยบอกเจ้าว่า ข้าจะหาปรมาจารย์วรยุทธให้เจ้า บัดนี้ข้าพบเขาแล้ว เพียงแต่เขามิใช่มนุษย์ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรับได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนพูดอย่างตรงไปตรงมา

ลั่วชิงยวนอุทานด้วยความตกใจ “เจ้าหมายถึงอะไร? มิใช่มนุษย์?”

“หากมิใช่มนุษย์ แล้วเป็นสิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 614

    จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงทั้งคู่จ้องมองกันและกันฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอให้เขาตรวจชีพจรของนางหลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไรภายในห้องตำราหมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 615

    “เหอะ ข้าเคยเพลิดเพลินกับการปฏิบัติเช่นนี้ในตำหนักอ๋องตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ และเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหารจือเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ท่านอ๋องได้ยึดครองหอร่ำเมลัยทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเขาจึงปิดหอและเชิญพ่อครัวผู้นี้มายังตำหนัก จากนี้ไปเขาจะทำอาหารให้พระชายาเพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “เขารับช่วงต่อหอร่ำเมลัยหรือ?”เยี่ยมมาก นางสามารถสร้างกำไรได้อีกแล้วนางครุ่นคิดขณะรับกินอาหาร “เช่นนี้ข้าต้องคิดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะกินอะไร”ไม่กี่วันต่อมา ลั่วชิงยวนก็ได้รับการดูแลอย่างพิถิพิถัน อีกทั้งคนรับใช้ทุกคนในตำหนักอ๋องยังให้ความเคารพต่อนาง ไม่ว่านางต้องการอะไรหรืออยากกินอะไร เพียงแค่พูดทุกคนก็พร้อมตามใจนางแล้วหมอหลวงมาตรวจชีพจรของนางทุกวันและสั่งยาให้แก่นางฟู่เฉินหวนยังมาหานางทุกคืน เขานั่งลงแล้วคุยกับนางเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องคดีตระกูลฝูฝูว่านเจิงและฝูจ้าวถูกประหารชีวิตด้วยกันทั้งคู่ และด้วยการสอบสวนเชิงลึกของฟู่เฉินหวนทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่เพียงแต่เจ้ากรมกลาโหมเท่านั้น แต่ยังม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 616

    ในที่สุดซ่งเชียนฉู่ก็มาถึงแล้วเมื่อซ่งเชียนฉู่ปรากฏตัวอย่างปลอดภัยต่อหน้าต่อตานาง หัวใจอันหนักอึ้งที่ลั่วชิงยวนแบกอยู่ก็ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด“ท่านได้รับบาดเจ็บเหมือนกันหรือ? ท่านเป็นเช่นไรบ้าง?” ซ่งเชียนฉู่เดินเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยถามด้วยความกังวล ลั่วชิงยวนผงะเล็กน้อย “เหมือนกัน? มีใครได้รับบาดเจ็บอีกอย่างนั้นรึ? เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"นางมองไปยังใบหน้าของซ่งเชียนฉู่ที่ค่อนข้างซีดเซียว“คนเหล่านั้นยังคงไล่ตามดีงูอย่างไม่ยอมแพ้ เวลานี้สถานการณ์แย่ลงเรื่อย ๆ ในครั้งนี้ข้าและเฉินเซี่ยวหานขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขา แต่แล้วพวกเรากลับถูกซุ่มโจมตี”“ข้าไม่เป็นไร แต่เฉินเซี่ยวหานได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้อาการบาดเจ็บของเฉินเซี่ยวหานหายดีขึ้นเล็กน้อย เช่นนั้นข้าจึงพาเขากลับมา”“ข้าได้ยินมาว่าตำหนักอ๋องกำลังตามหาข้า ข้าจึงวิตกกังวลยิ่ง”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ท่าทีของลั่วชิงยวนก็ดูเคร่งขรึมขึ้นทันที นางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คนเหล่านั้นน่าจะเป็นคนของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋ พวกเขาสูญเสียอำนาจไปมากในยามนี้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะส่งนักฆ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 617

    หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วอวิ๋นสี่ก็เข้ามาอย่างมีความสุข ลั่วชิงยวนมอบสิ่งที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าให้อีกฝ่าย ก่อนจะสอนวิธีใช้ให้นาง แม้ว่าลั่วอวิ๋นสี่จะลองพยายาม เตี่ยฉุยก็เข้าสู่ร่างของลั่วอวิ๋นสี่ได้อย่างราบรื่นเขารีบออกจากประตูด้วยความตื่นเต้นและชกต่อยอากาศอย่างดุเดือดลั่วชิงยวนมองดูเขาด้วยตาเป็นประกาย พละกำลังและการเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างสมกับเป็นนักฆ่าจริง ๆ!นางยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู ก่อนจะเห็นว่าลั่วอวิ๋นสี่กำลังฝึกมีดสั้นอยู่ในลาน รวมทั้งตัวของเตี่ยฉุยเองก็ไม่ได้สัมผัสถึงการเหยียบบนพื้นหินมาเป็นเวลานานแล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะนี้ การเคลื่อนไหวของเขานั้นก็รุนแรงมากเช่นกันซ่งเชียนฉู่อุทานขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เจอเจ้ามานานแล้ว นับว่าน่าแปลกใจจริง ๆ”“เป็นเรื่องยากที่จะหานักฆ่าที่มีวรยุทธสูงเช่นนี้”ลั่วชิงยวนยิ้มการถูกผู้อื่นควบคุมร่างกายทำให้ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกแปลกประหลาดและน่าขนลุก แต่ทว่า นางก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเริ่มจดจำตำแหน่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไว้ในใจลั่วชิงยวนเฝ้าดูอยู่ที่ประตูอย่างตั้งใจ จือเฉาจึงตัดสินใจยกเก้าอี้มาไว้ให้นาง ทว่า หลังจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 618

    ในเวลานี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “หยุดพูดได้แล้ว”นางมองไปที่ลั่วชิงยวนอีกครั้งแล้วพูดว่า “พี่หญิง อย่าได้ถือสาสิ่งที่พวกนางพูดเลยเจ้าค่ะ”“หากพี่หญิงลดน้ำหนักได้เช่นนี้ ใบหน้านั่นก็ต้องหายได้ด้วยใช่หรือไม่?”การถามถึงใบหน้าของลั่วชิงยวนอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ก็ดูคล้ายจงใจจะเน้นเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของนางให้ผู้อื่นเอาไปเป็นประเด็น พลังการเย้ยหยันนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคำพูดของผู้อื่นเลยลั่วอวิ๋นสี่ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาก่อนหน้านี้นางเย้ยหยันลั่วชิงยวนว่าอ้วนพอ ๆ กับหมู แต่เมื่ออีกฝ่ายผอมลงแล้ว นางกลับล้อเลียนอีกฝ่ายเรื่องใบหน้าอันอัปลักษณ์แทน เมื่อมองดูสีหน้าของคนที่กำลังชมการแสดงเหล่านั้น ความภาคภูมิใจซ่อนเร้นอยู่ในดวงตาของลั่วอวิ๋นสี่ ลั่วอวิ๋นสี่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลั่วชิงยวนจะถอดหน้ากากของนางออกแล้วเผยใบหน้านั้นให้อีกฝ่ายได้เห็นทำให้พวกนางรู้สึกละอายใจและแสดงให้เห็นว่าพวกนางนั้นไร้สาระมากเพียงใด!“ข้ามิได้ต้องการให้เจ้ามาสนใจหน้าข้า” ลั่วชิงยวนตอบลั่วเยวี่ยอิงอย่างเย็นชาเมื่อนางเห็นท่าทีของลั่วเยวี่ยอิงเช่นนี้ นางก็รู้ทันทีว่าคำพูดข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 619

    ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นนางก็ตบอีกฝ่ายเต็มแรงโดยไม่ลังเลใจ เสียงตบดังลั่นชัดเจนทำให้ทั้งบริเวณเงียบลงในทันที“กล้าตีข้าหรือ!”สตรีผู้นั้นโกรธมากพร้อมทั้งรีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กลับ แต่ถูกลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของนางไว้ ก่อนจะผลักนางอย่างแรง ทำให้ร่างกายของนางร่วงหล่นจากศาลานางตกลงไปในสระน้ำทันที“อ๊ะ ช่วยด้วย!” สตรีผู้นั้นกระเสือกกระสน ทุกคนตกใจและลุกขึ้นยืนรวมตัวกันทันที แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้ากระโดดลงไปช่วยนางคนรับใช้ของตำหนักรีบไปช่วยเหลือสตรีนางนั้นทันที แต่เมื่อนางได้รับการช่วยเหลือแล้ว ร่างกายของนางก็ไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใดเลย“เอ่อ นางคงไม่ตายใช่หรือไม่?”ฝูงชนตื่นตระหนกเป็นอย่างมากคนรับใช้ตรวจสอบลมหายใจของอีกฝ่ายทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนที่เขาจะเอ่ยรายงานว่า "พระชายา นางไม่หายใจแล้ว!"“นางตายแล้วจริงหรือ?” ทุกคนอุทานด้วยความตกใจลั่วเยวี่ยอิงตกตะลึง ดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องมองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความไม่เชื่อ “พี่หญิง ท่านฆ่าคน!” “เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้ นางมีความผิดก็จริง แต่นางไม่ควรต้องมาจบชีวิตเช่นนี้!” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 620

    เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ซ่งเชียนฉู่ก็รีบวิ่งมาเช่นกัน หลังจากสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ นางก็ได้ให้คนนำศพออกไปเก็บไว้ก่อนเมื่อผู้คนในศาลาเห็นว่าลั่วชิงยวนยังไม่ได้ถูกช่วยเหลือมาเป็นเวลานาน พร้อมกันนั้นพวกนางก็เห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี พวกนางจึงต้องการหลบหนีออกไป ทว่า พวกนางกลับถูกซ่งเชียนฉู่หยุดไว้และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พระชายาตกลงไปในน้ำ ไม่อาจรู้ได้ว่านางเป็นหรือตาย เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่อาจออกไปจากที่นี่ได้แม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนไม่ได้หมดสติ นางกลั้นหายใจ แต่การตอบสนองของร่างกายทำให้นางรออย่างเงียบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือการตอบสนองเช่นนี้อาจมาจากการทดลองยาในวันนี้ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ทางยาของหญ้าเทพวสันต์นั้นรุนแรงเกินไปจึงไม่อาจปรับเข้ากับสมุนไพรชนิดอื่นได้อย่างสมดุล นำไปสู่การตอบสนองของร่างกายทำให้รู้สึกราวกับถูกแช่แข็ง ในความมืดมิด มือข้างหนึ่งคว้าแขนของนางไว้แล้วดึงนางขึ้นจากใต้น้ำ ในขณะที่นางถูกดึงขึ้นจากน้ำ ลั่วชิงยวนก็ตัวสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ผิวของนางซีดขาว และหนาวสั่นจนดูราวกับหายใจไม่ออก หัวใจของฟู่เฉินหวนคล้ายกับถูกบีบจนขึ้นมาที่ลำคอ เขาเดินจากไปพร้อมลั่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 621

    ทุกคนมองหน้ากัน ด้วยความไม่แน่ใจว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการจะทำอะไรกับพวกนาง ในเวลานี้ แม่บ้านเติ้งก็มาถึงพร้อมกับกลุ่มนางรับใช้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูทั้งหลายรบกวนช่วยยืนข้างกันด้วยเจ้าค่ะ ต่อจากนี้พวกท่านจะถูกตรวจค้นร่างกาย เช่นนั้นแล้วพวกท่านอย่าได้เอะอะไป”“อย่าพูดหากไม่มีใครถาม! ไม่ต้องส่งสายตาให้ใคร”“ไม่อนุญาตให้สบตากัน มิฉะนั้นหากพบว่าพวกท่านสบตากัน พวกท่านทั้งหมดจะถูกปฏิบัติไม่ต่างจากผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องโทษ!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้เอื้อนเอ่ยออกมาบรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างมาก ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางซ้ายและขวารอให้ใครสักคนแสดงความไม่พอใจออกมาเสียก่อน ตัวตนของพวกนางล้วนไม่ธรรมดาจะถูกตรวจค้นร่างกายเช่นนี้ได้อย่างไร?“ไม่ต้องสอดส่ายสายตา ก้มหน้าลง!” แม่บ้านเติ้งดุทุกคนถอนสายตาและก้มหน้าด้วยความตกใจ นางรับใช้ก้าวไปข้างหน้า ดึงคนเหล่านั้นทั้งหมดออกให้ห่างกัน ก่อนที่จะเริ่มค้นร่างกายพวกนางทีละคนลั่วเยวี่ยอิงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นกันนางยังถูกนางรับใช้ตรวจค้นร่างกายอีกด้วยลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง นางไม่เพียงแต่เป็นคุณหนูรองจวนอัครเสนาบดีเท่านั้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status