Share

บทที่ 685

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าฟู่อวิ๋นโจวอาจชอบนาง อย่างไรนางกับฟู่อวิ๋นโจวก็เป็นสหายสนิทกันก่อนที่นางจะอภิเษกกับฟู่เฉินหวน

แต่นางมิใช่ลั่วชิงยวน นางมิต้องการการดูแลของฟู่อวิ๋นโจว นางอยากให้ฟู่อวิ๋นโจวอยู่เพื่อตัวเองและใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่

ฟู่อวิ๋นโจวรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย

เขาอดมิได้ที่จะหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว”

ลั่วชิงยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบผัก ขณะกำลังจะกินก็ได้กลิ่นแปลก ๆ อีกครั้ง

แม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่กลิ่นอันคลุมเครือขณะเขาเข้ามาใกล้ทำให้ลั่วชิงยวนหยุดการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง

นางจงใจขมวดคิ้วและถามว่า “สุราในจอกของหม่อมฉันหกลงไปหรือ? ไฉนมันถึงมีกลิ่นเหมือนสุราด้วย?”

“ฮัดชิ่ว!”

ขณะที่พูดนางก็จามขึ้มาอีกครั้ง

การแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหยิบตะเกียบจากมือของนางทันทีแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็มิต้องกินแล้ว"

“คืนนี้แสงจันทร์งดงามนัก ออกไปชมพระจันทร์กันเถอะ”

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็พยุงลั่วชิงยวนขึ้นมาแล้วรีบออกไป

เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของฟู่อวิ๋นโจว ลั่วชิงยวนก็เข้าใจอะไรบางอย่างทันที

นางลุกขึ้นและจากไปพร้อมกับฟู่อวิ๋นโจว

แต่ทันใดนั้น ก็มีร่างทมิฬเข้ามาทางหน้าต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 686

    ลั่วชิงยวน กัดฟันและรีบวิ่งไปหาหมอกู้ด้วยความโกรธ และต่อยหมอกู้เข้าที่หน้าหมอกู้เตะฟู่อวิ๋นโจวออกไปด้วยเข่าเขาจับกริชไว้แน่นและตวัดไปทางลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหลบไปด้านข้าง และมีเส้นผมสองสามเส้นร่วงหล่นลงพื้นหลังจากนั้นทันที หมอกู้ก็โจมตีด้วยเจตนาสังหารอีกครั้ง เขาโจมตีอย่างรุนแรง ลั่วชิงยวนยังคงตื่นตัว ไม่กล้าลดการป้องกัน และหลีกเลี่ยงกริชสังหารอันดุเดือดมาได้อย่างหวุดหวิดทักษะวรยุทธของหมอกู้หาได้อ่อนแอไม่ ทว่าลั่วชิงยวนรู้สึกว่านางยังสามารถรับมือกับเขาได้ และทักษะวรยุทธของนางก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกันแต่กริชจันทร์เสี้ยวในมือของหมอกู้นั้นคมกริบ อีกทั้งหมอกู้ยังสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญอีกด้วย การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความชำนาญ หมุนกริชอย่างรวดเร็วจนทำให้ตาพร่า ทำให้มองไม่เห็นว่ากริชเคลื่อนจากมือข้างหนึ่งไปอีกมือหนึ่งอย่างไรเพียงเห็นแสงดาบอันแหลมคมก็ทำให้เกิดประกายวาบ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงภัยคุกคามรุนแรง ราวกับพวกเขาอยู่ท่ามกลางแสงและเงาของดาบนับพันลั่วชิงยวนระมัดระวังอย่างยิ่งและต่อสู้กับหมอกู้หลายรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันกริชจันทร์เสี้ยวได้ มันทิ้งรอยแผลและเลือดไว้มากมาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 687

    นางลุกขึ้นยืนด้วยกำลังทั้งหมดของนาง หมอกู้เองก็ยืนขึ้นเช่นกันในขณะนั้น นางยกเข่าขึ้นและเตะเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หมอกู้ปล่อยมือข้างหนึ่งของเขาทันที และลั่วชิงยวนก็เหยียบลงบนหลังเท้าของหมอกู้อีกครั้งนางแย่งกริชจันทร์เสี้ยวออกไปและเหวี่ยงมันไปที่คอของหมอกู้ด้วยกำลังทั้งหมดความคมของกริชจันทร์เสี้ยวและความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวนทำให้นางเกือบจะตัดหัวของหมอกู้ได้เลือดกระเซ็นไปทั่วใบหน้าของลั่วชิงยวนเมื่อมองดูศพที่นอนอยู่บนพื้น กริชจันทร์เสี้ยวในมือของลั่วชิงยวนก็หล่นลงเช่นกัน นางล้มลงกับพื้นอย่างเหนื่อยล้าทันทีที่นางนั่งลง นางก็หันกลับมาเห็นฟูอวิ๋นโจวนอนจมกองเลือดใบหน้าที่ซีดเซียวของเขาก็ไม่ต่างจากใบหน้าของคนตายนางคลานไปหาเขาอย่างรวดเร็ว“ฟู่อวิ๋นโจว! ฟู่อวิ๋นโจว!”นางยกนิ้วอังจมูกของเขา ยังมีลมหายใจแผ่วเบานางหันกลับไปมองฟู่อวิ๋นโจว และมองไปที่บาดแผลบนหลังของเขา โชคดีที่กริชจันทร์เสี้ยวนั้นแตกต่างจากกริชธรรมดา เช่นนั้นจึงเจาะได้ไม่ลึกและไม่ทำลายส่วนสำคัญใด ๆแต่บาดแผลใหญ่มากจนต้องเย็บนางลุกขึ้นวิ่งออกไปทันทีและตะโกนว่า “มีใครอยู่บ้าง มีใครบ้าง?!”แต่ไม่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 688

    “ว๊าย!” ลั่วเยวี่ยอิงตกใจเมื่อเห็นบุรุษคนนั้นมีเลือดอยู่บนหน้านางตกเข้าสู่อ้อมแขนของฟู่เฉินหวน“ท่านอ๋อง...”ในขณะนี้ลั่วเยวี่ยอิงดูราวกับกระต่ายที่หวาดกลัวแต่ฟู่เฉินหวนจำลั่วชิงยวนได้ในทันที และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาเห็นนางเต็มไปด้วยเลือดและดูสะบักสะบอมอย่างยิ่งเขาผลักลั่วเยวี่ยอิงออกไปทันที และก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วและเอื้อมมือไปรับฟู่อวิ๋นโจวจากด้านหลังของนางลั่วชิงยวนถอยไปสองก้าวเป็นการปัดป้องและเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางเย็นชาอย่างยิ่ง“เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับท่าน?”ดวงตาที่เย็นชาของนางไร้อารมณ์และว่างเปล่า ปราศจากแววมีความผิดหวังและความเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ในใจของนางเหตุใดนางต้องฝากข้อความถึงฟู่เฉินหวน? มอบให้ฉินเชียนหลี่ไปเลยยังดีกว่าเหตุใดฟู่เฉินหวนจึงเป็นคนแรกที่นางนึกถึงในเวลานั้น?ขณะที่คิดว่านางกำลังต่อสู้กับหมอกู้ นางคิดว่าฟู่เฉินหวนอาจจะมาช่วยนางในไม่ช้าแต่เขากลับยืนชมจันทร์อยู่กับลั่วเยวี่ยอิงความคาดหวังทั้งหมดในใจของนางมลายหายไปทันทีลั่วชิงยวนแบกฟู่อวิ๋นโจวไว้บนหลัง และเดินต่อไปโด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 689

    พูดไม่ออกแต่เขาอดไม่ได้ที่จะกำมือแน่นเพื่อระงับความโกรธและความรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจ ความหึงหวงก็เช่นกันหมอหลวงเตรียมทุกอย่างและส่งให้นางอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนหยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วตัดอาภรณ์ด้านหลังของฟู่อวิ๋นโจวออก จนเผยบาดแผลให้เห็น นางทำความสะอาดและเช็ดอย่างระมัดระวัง ฟู่เฉินหวนเฝ้าดูจากด้านข้างและรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังของนางนั้นคล่องแคล่วมากเขาหันหลังกลับและจากไปด้วยความโกรธลั่วชิงยวนรีบเย็บแผล ใส่ยา และพันผ้าพันแผลไว้อย่างรวดเร็วหมอหลวงกำลังทำงานอยู่ด้านข้าง เมื่อมองดูการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่แอบถอนหายใจในใจ นางมีฝีมือดีกว่าหมอคนนั้นเสียอีกทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็หยิบยาที่ต้มแล้วป้อนให้ฟู่อวิ๋นโจวด้วยตัวเองสถานการณ์ของฟู่อวิ๋นโจวไม่ค่อยดีนัก ลั่วชิงยวนกังวลและอยู่ในห้องทั้งคืนยามรุ่งสางมาเยือน ตำหนักก็ได้ความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาลั่วชิงยวนนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน นางสัมผัสได้ถึงชีพจรของฟู่อวิ๋นโจว แต่เขายังคงอ่อนแอมากจนดูเหมือนเขาพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ นางไม่กล้าละสายตาไปแม้เพียงเสี้ยวนาทีแต่เรื่องของเหยียนหน่ายซินยังไม่จบ และเรื่องของห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 690

    ป้ายอาญาสิทธิ์ของจักรพรรดิ!เหตุใดองค์จักรพรรดิจึงคิดว่านางสังหารองค์ชายห้า? ฟู่เฉินหวนรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?นอกจากนี้ จักรพรรดิมักจะฟังคำพูดของฟู่เฉินหวนเสมอชั่วขณะหนึ่ง ลั่วชิงยวนตกอยู่ในความสับสนช่วงเวลาต่อมา องครักษ์ก็รีบรุดไปข้างหน้าอีกครั้งโดยพยายามจับลั่วชิงยวน นางไม่มีเวลาคิดและต่อสู้กลับทันทีคนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบตัวลั่วชิงยวนไว้ แต่พวกเขาไม่สามารถจับลั่วชิงยวนได้ เมื่อเหยียนหน่ายซินเห็นฉากนี้ นางก็กังวลในขณะที่ลั่วชิงยวนถูกองครักษ์เบี่ยงเบนความสนใจ นางก็รีบไปที่ข้างเตียง ดึงกริชออกมาแล้วหย่อนลงบนคอของฟู่อวิ๋นโจว“ลั่วชิงยวน!”เสียงตะคอกดังขึ้นลั่วชิงยวนหยุดเมื่อนางเห็นเหตุการณ์ข้างเตียง หัวใจของนางก็บีบรัด “เหยียนหน่ายซิน เจ้ากล้าดีอย่างไร?!”เหยียนหน่ายซินเยาะเย้ย “ข้ากล้าควักตาของฉินไป๋หลี่ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าแตะต้ององค์ชายห้าผู้ไม่มีนัยะสำคัญผู้นี้รึ?”“ยิ่งกว่านั้น ใครจะรู้ว่าตอนนี้เขาตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ บางทีเขาอาจถูกเจ้าฆ่าไปแล้วก็ได้”เหยียนหน่ายซินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แม้ว่านางจะฆ่าฟู่อวิ๋นโจว แต่ลั่วชิงยวนก็ต้องรับผิดชอบต่อการตายของฟู่อวิ๋นโจว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 691

    เหยียนหน่ายซินค่อย ๆ เดินไปหาลั่วชิงยวน เชยคางของลั่วชิงยวนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่คือผลลัพธ์ของคนที่คิดจะเป็นปรปักษ์กับข้าอย่างเจ้า!”ลั่วชิงยวนก้มศีรษะลงอย่างอ่อนแรงและเป็นหมดสติไปเหยียนหน่ายซินโยนแส้ทิ้งและคิดจะหยุดพักขณะที่นางกำลังจะเดินออกไป จู่ ๆ นางรับใช้ก็นำถังน้ำมาด้วยมันคือ ถังน้ำเกลือ“คุณหนูใหญ่ นี่จะทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีกนะเจ้าคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้นเหยียนหน่ายซินก็เหลือบมองถังน้ำเกลือแล้วขมวดคิ้ว “มิต้องหรอก เดี๋ยวนางจะตายเอาเปล่า ๆ”นางรับใช้กลับยิ้มแล้วพูดว่า “มิต้องห่วงเจ้าค่ะ นางมิตายหรอก หากมิทำเช่นนี้ คุณหนูใหญ่จะแสดงถึงความเย่อหยิ่งของตนออกมาได้อย่างไร ยิ่งท่านเอาแต่ใจและไร้เหตุผลมากเท่าไร โอกาสที่ท่านจะได้เป็นฮองเฮาก็จะยิ่งน้อยลง”“มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่จะทำให้คุณหนูใหญ่มีโอกาสได้ครองคู่กับคนที่ท่านรักเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้เหยียนหน่ายซินมิต้องการเป็นฮองเฮาอย่างนั้นหรือ?แปลว่านางกำลังตั้งใจสร้างปัญหา เพื่อจะทำให้ตนเองหลุดจากตำแหน่งฮองเฮาและได้ครองคู่กับคนที่ตนรักอย่างนั้นหรือ?แต่เหตุใดนางถึงเห็นความทะเยอทะย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 692

    แต่นางกลับหยุดการเคลื่อนไหวกะทันหันเมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ดวงตาของนางก็สว่างขึ้นเหยียนหน่ายซินยกมุมริมฝีปากขึ้นแล้วค่อย ๆ วางมือลง “จู่ ๆ ข้าก็นึกถึงสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านี้ขึ้นมาได้”“ข้าเดาว่าข้าคงมิใช่คนผู้เดียวที่อยากรู้ว่าหน้าตาเจ้าน่าเกลียดเพียงใด ให้ทุกคนได้ดูด้วยจะดีกว่า”“ให้ทุกคนได้ค้นพบสิ่งที่อยู่ภายใต้หน้ากากลึกลับนี้ด้วยกัน ดูจะเป็นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า”“จริงหรือไม่?”ลั่วชิงยวนสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายเล็ก ๆ ในน้ำเสียงหยิ่งผยองของเหยียนหน่ายซินเหยียนหน่ายซินออกจากห้องเก็บฟืน เมื่อนางกลับมาอีกครั้ง นางก็นำชุดคลุมสีดำมาให้ลั่วชิงยวนใส่นางหยิบหมวกม่านยาวอีกใบมาสวมให้หญิงสาว ขดริมฝีปากแล้วพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ว่า “เจ้าสังหารองค์ชายห้า ก่ออาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้ย่อมต้องโทษตัดศีรษะ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้มีชีวิตอยู่ หากเจ้ารอดไปได้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าและทำเหมือนเรื่องนี้มิเคยเกิดขึ้น!” ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าเหยียนหน่ายซินต้องการจะทำอะไร แต่มันคงมิใช่เรื่องดีแน่ หลังจากนั้นมินาน เหยียนหน่ายซินก็นำชามน้ำซึ่งมีกลิ่นหอมพิเศษมามีคนหลายคนกดหัวไหล่ของลั่วชิงยวนเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 693

    ลั่วชิงยวนที่กำลังพิงกรงอยู่ ถูกเฆี่ยนมาจากด้านนอกดวงตาของนางแดงก่ำและเต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะหลีกเลี่ยงการโจมตีของหมาป่าอีกครั้งสิ่งที่เหยียนหน่ายซินทำนั้นน่ารังเกียจนัก!ลั่วชิงยวนเผชิญกับการกัดและการคุกคามของหมาป่าในกรง และยังต้องรับแส้ยาวของเหยียนหน่ายซิน จากนอกกรงด้วย!ทันทีที่นางเข้าใกล้กรงเหยียนหน่ายซินจะเฆี่ยนแส้ใส่อย่างไร้ความปรานีเสียงคำรามและแส้ยาวดังก้องอยู่ในห้องโถงอันเงียบสงบนี้ ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะท้าน“มัวแต่หลบอยู่ไย! ลุกขึ้นมาเอาชนะข้าให้ได้สิ! เจ้าแข็งแกร่งมากมิใช่รึ?!” เหยียนหน่ายซินเฆี่ยนตีนางอีกครั้งลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บ นางจะกล้าต่อสู้กับหมาป่าจนตายกันไปข้างได้อย่างไร นางคงทำได้เพียงลดทอนความแข็งแกร่งทางกายภาพของหมาป่าเท่านั้นตอนนั้นนางถึงจะหาโอกาสสู้กลับได้กรงไม่ได้มีขนาดใหญ่เลยแม้แต่น้อย และเหยียนหน่ายซินก็เฝ้าดูอยู่นอกกรงอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย นั่นทำให้พื้นที่สำหรับลั่วชิงยวนยิ่งแคบลงไปอีกลั่วเยวี่ยอิงที่กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงนั้นแตกต่างจากคนรอบข้าง นางยิ้มและสนุกสนานคนที่อยู่ในกรงคือลั่วชิงยวนนางก็มีวันแบบนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน!

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status