Share

บทที่ 809

Author: หว่านชิงอิ๋น
จือเฉารู้สึกงุนงง “พระชายา แต่เหตุใดท่านมิเสนอเงื่อนไขและให้นางทำงานให้กับพระชายาต่อจากนี้เล่าเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนยิ้มและพูดว่า “หากข้าหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเสียเอง นางจะคิดว่าข้ามีเจตนาแอบแฝง”

“แค่ทำดีกับนาง ดีจนกระทั่งนางรู้สึกละอายใจไปเอง นางจะรู้สึกผิดหากนางมิทำอะไรตอบแทนความเมตตาของข้า”

“นี่คือวิธีเอาชนะใจผู้คน”

จือเฉาเข้าใจในทันทีและพยักหน้า “อย่างนี้นี่เอง! บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

ต่อจากนั้นอีกหลายวัน ลั่วชิงยวนมิได้ไปเยี่ยมทาสใบ้อีกเลย

จือเฉาแค่ส่งอาหารและยาทุกวัน โดยมิพูดอะไร

เมื่อทาสใบ้เริ่มขยับตัวได้ นางเดินออกจากลานเรือนแล้วจึงได้พบว่าไม่มีใครเฝ้าดูนาง หรือขวางนางไว้เลย

นางเดินออกจากลาน ก่อนจะเห็นลั่วชิงยวนกำลังอาบแดดอยู่ในสวนมิไกล

ลั่วชิงยวนลืมตาขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินมาตรงหน้า

“มีธุระอะไรหรือ?” ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย

ทาสใบ้ยืนนิ่ง มิรู้จะถามออกไปอย่างไร

ที่นี่ไม่มีปากกาและกระดาษ

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “เห็นเจ้าเดินได้เช่นนี้ เจ้าจะไปแล้วหรือ? เดินออกจากประตูหลังได้เลย จะไม่มีใครขัดขวางเจ้าหรอก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทาสใบ้ก็สะดุ้งเล็กน้อย

มองนางด้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 810

    “ไปคุยกันในห้องของข้าดีกว่า” ลั่วชิงยวนพาทาสใบ้ไปที่ห้องนางนำกระดาษกองหนาไปให้ทาสใบ้โชคดีที่ทาสใบ้รู้หนังสือ มิเช่นนั้นคงสื่อสารกันลำบากลั่วชิงยวนรอทาสใบ้เขียนบนกระดาษอย่างอดทน นางเขียนลงบนกระดาษว่า : อัครเสนาบดีลั่วให้นักพรตเต๋ามาสะกดแม่ของท่านเอาไว้การแสดงออกของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป เมื่อได้เห็นข้อความนั้น “ว่ากระไรนะ?”ทาสใบ้ยังคงเขียนต่อ : ข้ามิรู้รายละเอียด รู้เพียงว่ามินานหลังจากที่ท่านกลับมา เขาขอให้นักพรตเต๋ามาสะกดนางเอาไว้ ข้าเองก็มิรู้ว่าอยู่ที่ใดจู่ ๆ ลั่วชิงยวนนึกย้อนไปว่าตอนที่นางขุดโลงศพของมารดาขึ้นมา ในโลงศพกลับว่างเปล่าตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่ของนางมิได้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกลั่วไห่ผิงสะกดไว้ที่อื่น“เจ้าอยู่ในตระกูลลั่วมานานแล้ว เจ้ารู้จักแม่ของข้ามากน้อยเพียงใด?”ทาสใบ้เขียนว่า : ข้ามิรู้ ข้าถูกลั่วไห่ผิงซื้อมาเพื่อให้ปกป้องคุณหนูรอง บางครั้งเขาก็ถามข้าว่า คุณหนูรองทำอะไรบ้าง เรื่องอื่นเขามิได้บอกข้าลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ลั่วไห่ผิงจัดให้เจ้าอยู่กับลั่วเยวี่ยอิง แล้วเซี่ยหว่านก่อนหน้านี้เล่า?”ทาสใบ้พยักหน้าและเขียนว่า : อัครเสนาบดีลั่วรู้เรื่องเซี่ยหว่านมาโดย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 811

    “กระหม่อมได้ยินพระชายาบอกว่า อย่าให้ท่านอ๋องรู้”“ว่ากันว่าใช้ทำยาที่ทำให้คนหยุดมิได้” ซูโหยวพูดพร้อมขมวดคิ้ว เขินอายอย่างหนักทันใดนั้นมือของฟู่เฉินหวนก็แข็งตัว ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อยโดยมิได้ตั้งใจ“ยาอะไร?”ซูโหยวก้มหน้าลง “ยาที่ทำให้คนหยุดมิได้!”“นั่นคือสิ่งที่พระชายากล่าว! กระหม่อมเองก็มิรู้ว่าเป็นยาอะไรพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “เข้าใจแล้ว เจ้าไปได้”“พ่ะย่ะค่ะ” ซูโหยวรีบถอยออกไปฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ใบหน้ามืดมน ลั่วชิงยวนคิดจะทำอะไรอีก?เขาอยากเห็นนักว่ามันจะทำให้คนหยุดมิได้ได้อย่างไร!…… ลั่วชิงยวนยุ่งจนหัวหมุนอยู่สองวันเต็ม ก่อนที่จะเตรียมขวดโอสถปรารถนานิรันดร์ในที่สุดไม่มีสีและไม่มีกลิ่น สามารถผสมลงในสุราและชาได้อย่างลงตัว ตรวจสอบมิพบเพื่อความปลอดภัย ลั่วชิงยวนได้เตรียมยาแก้พิษไว้ขวดหนึ่งด้วยโอสถปรารถนานิรันดร์มีหลากหลายสูตร ดังนั้นยาถอนพิษก็มีหลายแบบเช่นกัน หากใช้ยาแล้วจะไม่มีเวลาเตรียมยาถอนพิษได้ทันโอสถพร้อมแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นวันนี้อากาศดี ลั่วชิงยวนกำลังอาบแดดอยู่ที่สนามหญ้าอีกครั้ง นางถามแม่นมเติ้งว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 812

    ลั่วชิงยวนมิสนใจ หลังจากดื่มแล้วก็คีบผักขึ้นมากิน และพูดว่า “ช่วงนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำเลย”“อากาศก็ค่อนข้างดี ดอกไม้ก็เบ่งบาน”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ดูเหมือนหลังจากดื่มสุราจะไม่มีความรู้สึกแปลก ๆ แต่อย่างใด เขาพยักหน้าและตอบอย่างเฉยเมยว่า “อืม”ฟู่เฉินหวนมองไปที่จานกับข้าวบนโต๊ะอีกครั้ง หรือว่ายานั่นจะอยู่ในอาหาร?เขาจึงคีบผักขึ้นมาและเริ่มกินเข้าไปเขากินทีละจานลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนกินอาหารอย่างรีบร้อน “ท่านหิวมากหรือ?”ฟู่เฉินหวนตอบเบา ๆ “นิดหน่อย”นางนำจานอาหารมาวางไว้ข้างหน้าฟู่เฉินหวน “เช่นนั้นก็กินให้เยอะ ๆ เพคะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว หรือว่ายาอยู่ในจานนี้?ฟู่เฉินหวนเริ่มคับกับข้างอีกครั้ง“หม่อมฉันได้ยินมาว่า ในวังมีงานชมบุปผา ท่านจะไปหรือไม่?” ลั่วชิงยวนเข้าประเด็นอันที่จริงแล้ว นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมิค่อยชอบเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้แต่นางอยากไปหากนางมิไป แล้วจะเปิดโอกาสให้ลั่วเยวี่ยอิงทำร้ายนางได้อย่างไรเล่า?แต่งานนี้ไทเฮาเป็นคนจัดขึ้น นางมิได้รับเชิญก็ไปมิได้ฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น “ข้ามิสนใจเรื่องพวกนี้”แน่นอนว่าเขามิอยากไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 813

    ในอีกสองวันต่อมา ฟู่เฉินหวนก็จัดการงานราชการอยู่ในตำหนัก มิได้ออกไปข้างนอกแต่มันทำให้ลั่วชิงยวนมีโอกาสนางสืบทราบมาแล้วว่าอีกเจ็ดวันในวังจะมีงานชมบุปผาดังนั้นนางจึงต้องรีบทำให้ฟู่เฉินหวนตอบตกลงดังนั้นนางจึงนำอาหารมาให้ฟู่เฉินหวนอย่างขยันขันแข็ง วันหนึ่งไปห้องตำราของเขาสามหรือสี่ครั้ง เพราะต้องการเข้าร่วมในงานชมบุปผาเป็นอย่างมากแต่นางมิเข้าใจว่า เหตุใดฟู่เฉินหวนถึงสนใจอาหารและชาที่นางส่งไปนัก เขากินจนเกลี้ยงทุกครั้งไปแต่งานชมบุปผาเขากลับยังมิตอบตกลงยิ่งลั่วชิงยวนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งแปลกใจ เมื่อเข้าวันที่สามจึงมิส่งอาหารไปอีกมิคิดว่าฝูเฉินหวนจะเป็นฝ่ายมาหานางเองบอกว่ามาลองชิมอาหารในเรือนของนางคนครัวก็คนเดียวกัน จะต่างกันตรงไหน?ลั่วชิงยวนคิดไปว่าฟู่เฉินหวนคงเสียสติกะทันหันหรือไม่ก็คงป่วยหรืออย่างไร?หลังจากมากินอาหารที่นี่หนึ่งวันในวันรุ่งขึ้นฟู่เฉินหวนก็กลับมาอีก ลั่วชิงยวนขอให้จือเฉาเก็บอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดออกไปฟู่เฉินหวนนั่งอยู่ที่ลานเรือน ชาสักถ้วยก็มิได้ดื่มฟู่เฉินหวนเริ่มหมดความอดทน เขาให้โอกาสกับลั่วชิงยวนตั้งมากมาย เหตุใดนางถึงยังมิว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 814

    ขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงคิดว่าจะเข้าร่วมงานชมบุปผาได้อย่างไร ซูโหยวก็มาบอกนางว่า ฟู่เฉินหวนจะเข้าร่วมงานชมบุปผาด้วยยามนี้ลั่วชิงยวนจึงคลายใจได้แล้วนางรีบติดต่อลั่วอวิ๋นสี่ทันทีและมอบขวดโอสถปรารถนานิรันดร์ให้กับลั่วอวิ๋นสี่“บอกลั่วเยวี่ยอิงว่าข้าจะไปงานชมบุปผา”ลั่วอวิ๋นสี่หยิบขวดยาแล้วออกไปทันทีเมื่อข่าวนี้ไปถึงหูของลั่วเยวี่ยอิง ลั่วเยวี่ยอิงก็เริ่มลงมือทันทีก่อนอื่น นางต้องไปพบเหยียนผิงเซียวเมื่อมินานมานี้ เพื่อปกป้องลั่วฉิง เหยียนผิงเซียวถูกคนของฟู่เฉินหวนไล่ล่าไปตามถนนเหมือนกับหนูตัวหนึ่ง ซึ่งนับว่าวุ่นวายมากและตอนนี้ลั่วฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องเปลี่ยนที่หลบซ่อนตัวไปเรื่อย ๆ มิได้พักผ่อนอย่างสงบ นั่นทำให้เหยียนผิงเซียวโกรธยิ่งกว่าเดิมดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงสมรู้ร่วมคิดกันว่าจะโจมตีฟู่เฉินหวนในงานชมบุปผานี้ให้หนัก!และทำให้ลั่วชิงยวนเสียชื่อเสียงด้วย!…… งานชมบุปผากำลังจะเริ่มแล้วงานชมบุปผาในครั้งนี้ ลั่วชิงยวนสืบทราบมาว่า ตัวเอกของงานน่าจะเป็นเหยียนซุยซินน้องสาวแท้ ๆ ของเหยียนหน่ายซินเรื่องของเหยียนหน่ายซินกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ดังนั้นนางย่อมมิอาจเป็นฮองเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 815

    เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเร่งเร้า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ! มิซื้อก็ออกไปเสีย!"เป็นผลให้แขกทุกคนในศาลารุ้งเมฆาถูกขับออกไปอย่างรวดเร็วศาลารุ้งเมฆาทั้งหมดถูกยึดครองโดยลั่วเยวี่ยอิงและพรรคพวกแล้วเมื่อลั่วชิงยวนมาที่ศาลารุ้งเมฆาอีกครั้ง เถ้าแก่ก็บอกกับนางอย่างช่วยมิได้ว่า “ขออภัยด้วยจริงๆ พระชายา อาภรณ์ทั้งหมดในร้านตอนนี้ขายหมดแล้ว”“ชุดที่ข้าชอบล่ะ?”“ขายไปแล้วเหมือนกัน”“ขายไปแล้วรึ? ข้าเลือกก่อนแท้ๆ! เจ้าทำการค้าเช่นนี้ได้อย่างไร?!”“ข้าขออภัยจริง ๆ เจ้าค่ะ พระชายา” เถ้าแก่เอ่ยปากขอโทษลั่วชิงยวนจากไปด้วยความโกรธเมื่อลั่วเยวี่ยอิงรู้เรื่องนี้ นางก็ยิ้มอย่างพอใจ มองดูอาภรณ์อันงดงามตรงหน้านาง และยิ้มเยาะ“ลั่วชิงยวน คนตายอย่างเจ้ามิจำเป็นต้องสวมอาภรณ์ดี ๆ พวกนี้หรอก”…… ตอนกลางคืนหลังอาหารเย็นจือเฉากลับมาอย่างเร่งรีบ “พระชายา คุณหนูลั่วเอ๋อร์ได้จัดการประมูลเล็ก ๆ ที่ภัตตาคารหงเฟิงเพื่อประมูลอาภรณ์ที่ซื้อที่ศาลารุ้งเมฆาไปวันนี้ในราคาสูงเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “นางช่างรู้วิธีหาเงินจริง ๆ”จือเฉาพยักหน้า “งานชมบุปผากำลังจะเริ่มแล้ว ต้องมีคนจำนวนมากที่ยอมจ่ายแพงเพื่อซื้อ นี่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 816

    สวนหลวงในพระราชวังในวันที่อากาศแจ่มใส งานชมบุปผาในพระราชวังก็ได้เริ่มขึ้นแล้วไทเฮาเป็นประธานในงานชมบุปผา ผู้ที่นั่งถัดจากนางคือเหยียนซุยซิน ในวันนี้นางแต่งกายอย่างอลังการซึ่งเป็นที่น่าจดจำวันนี้มีบุตรหลานจากตระกูลชนชั้นสูงมาร่วมด้วย ในขณะนี้ บุรุษและสตรีรูปงามในสวนกำลังชื่นชมบุปผาและแต่งบทกวีในสวน น่าดูเป็นอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเดินไปกับฟู่เฉินหวน ตามมาด้วยฟู่อวิ๋นโจว เพราะฟู่อวิ๋นโจวเองก็ได้รับเชิญในครั้งนี้เช่นกันแม้ว่าฟู่เฉินหวนจะมิพอใจที่มีฟู่อวิ๋นโจวติดตามเขามมาด้วย แต่เขามิอาจขังฟู่อวิ๋นโจวให้อยู่แต่ในตำหนักอ๋องได้ในขณะนี้ฟู่เฉินหวนเดินอยู่ระหว่างลั่วชิงยวนและฟู่อวิ๋นโจว มองดูการแต่งกายของลั่วชิงยวนในวันนี้อย่างพอใจและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าสายตาของข้าจะมิเลวเลย อาภรณ์เมฆารัตติกาลที่เจ้าสวมอยู่นี้ ดูดีกว่าอีกชุดมาก”ลั่วชิงยวนเหลือบมองเขาอย่างอดมิได้อีกชุดเป็นของขวัญจากฟู่อวิ๋นโจวเนื่องจากเขารู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงซื้ออาภรณ์ทั้งหมดจากศาลารุ้งเมฆา ฟู่อวิ๋นโจวจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการซื้ออาภรณ์จากศาลารุ้งเมฆาให้นางแต่ฟู่อวิ๋นโจวคงคิดมิถึงว่าฟู่เฉินหวนซื้อศาลารุ้งเมฆาไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 817

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลั่วชิงยวนนางก็ตกใจทันทีลั่วชิงยวนยังสามารถสวมอาภรณ์ของศาลารุ้งเมฆาได้อย่างนั้นหรือ?ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้วในขณะนี้ ลั่วชิงยวนรู้สึกว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นางปล่อยแขนลงลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองฟู่เฉินหวน เพียงเพื่อจะเห็นว่าดวงตาของเขากำลังมองไปยังลั่วเยวี่ยอิงอย่างมิละสายตาดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา และเดินจากไปทันที นางเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งหินข้าง ๆการปรากฏตัวของลั่วเยวี่ยอิง ได้กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจในสวนแห่งนี้ไปอย่างมิต้องสงสัย"ชุดนี้งดงามมาก"“ใช่ ชุดนี้ทำให้คนดูงามกว่าดอกไม้เสียอีก”ในศาลา ไทเฮาวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะอย่างแรง “ช่างงามกว่าดอกไม้เสียจริง!”“ลั่วเยวี่ยอิงคิดว่าตัวเองเป็นฮองเฮาหรืออย่างไร?”เหยียนซุยซินรีบปลอบไทเฮา “ไทเฮา อย่าทรงกริ้วไปเลยเพคะ”“วันนี้มีคนมามากมาย ให้หน้าตระกูลลั่วสักหน่อยเถิดเพคะ”ไทเฮาทำได้แค่กลั้นใจอดทนเท่านั้นที่นี่ ลั่วเยวี่ยอิงนั่งอยู่ข้างหน้าฟู่เฉินหวน และทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันลั่วชิงยวนนั่งอีกด้านหนึ่ง ดื่มชาและเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆฟู่เฉินหวนคงกำลังเตือนลั่วเยวี่ยอิง​​มิให้แต่งตัวเช่นนี้ใช่ห

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status