แชร์

บทที่ 923

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนติดตามกลิ่นไปจนสุดทาง

จนมาถึงด้านนอกพระตำหนักโช่วสี่แล้ว

นางเดินผ่านพระตำหนักโช่วสี่อย่างเงียบ ๆ และพบกับบรรยากาศอันมืดมนในสวนอันเงียบสงบด้านหลังพระตำหนักโช่วสี่

ไฟของเรือนกลางสวนส่องสว่างอยู่ และลั่วชิงยวนก็เตะประตูให้เปิดออก

ใบหน้าของร่างที่นั่งบนเก้าอี้ซีดด้วยความตกใจ จ้องมองนางอย่างตะลึง

“บังอาจ!” อีกฝ่ายตะโกนขึ้น

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ปรากฏว่าเป็นสตรีในวัยสี่สิบคนหนึ่ง

ลั่วชิงยวนคิดอย่างรอบคอบ นางเคยเห็นสตรีนางนี้มาก่อน แต่มิเคยสังเกตอะไรมากนัก

“นี่คือพระตำหนักโช่วสี่ กล้าบุกเข้ามาได้อย่างไร!”

อีกฝ่ายตะโกนด้วยความโกรธ

แล้วรีบจะหนีทันที

ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางพุ่งเข้าไปขวางและเข้าปะทะกับอีกฝ่าย

“ข้ามิสนว่าจะเป็นพระตำหนักโช่วสี่หรือไม่ ข้ามาที่นี่ในคืนนี้เพื่อจัดการกับเจ้าเท่านั้น! เจ้าหนีมิพ้นแล้ว!”

เสียงของการต่อสู้ของทั้งสองดังชัดเจนเป็นพิเศษในคืนอันเงียบสงบเช่นนี้

มินานก็มีคนได้ยินเสียงจึงเข้ามา

“บังอาจ! ใครกล้าบุกตำหนักข้า!” เสียงอันสง่างามของไทเฮาดังมาจากด้านนอกประตู

มีเสียงฝีเท้ามากมาย และมีองครักษ์หลายคนมา

เมื่อไทเฮารีบเข้ามา ลั่วชิงยว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Ao Potjanee
อ่านสนุกชอบเนื้อเรื่อง แต่แอบลำคาญนางเอง กับ พระเอก เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน และลงเอยกันซะที
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 924

    ฟู่เฉินหวนมาพร้อมกับทหารองครักษ์จำนวนมากในลักษณะก้าวร้าวเมื่อไทเฮาหันเห็นเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดนางพูดด้วยความโกรธ “อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือ?”“เจ้ากล้านำคนบุกเข้ามาในพระตำหนักโช่วสี่ได้อย่างไร เจ้ามิเห็นแก่หน้าข้าแล้วรึ?”ฟู่เฉินหวนมีใบหน้าที่เย็นชา สั่งการอย่างมิไว้หน้า “ล้อมพระตำหนักโช่วสี่ไว้ จากนี้ไปแม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็มิอนุญาตให้บินออกไป!”ไทเฮาโกรธมาก เมื่อเห็นว่าฟู่เฉินหวนสั่งให้ล้อมพระตำหนักโช่วสี่ของนาง ใบหน้าของนางก็เขียวคล้ำ “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนมิสนใจสิ่งที่ไทเฮาจะเอ่ย และตรงไปหาลั่วชิงยวนแทน “เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?”ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงสัย “เหตุใดท่านถึงมาด้วยตนเอง? แล้วองค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า?"ฟู่เฉินหวนตอบว่า “ฟู่จิ่งหลีกำลังดูแลอยู่”ฟู่เฉินหวนพูด แล้วมองไปยังคนที่ลั่วชิงยวนจับเอาไว้ แล้วถามว่า “ใช่นางหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า หันมองกลับไปมองในเรือน “สิ่งที่อยู่ข้างในก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้”ฟู่เฉินหวนส่งคนไปตรวจค้นเรือนดังกล่าวทันทีมีการรวบรวมขวด ไห กระถางธูป และเครื่องรางของขลังจำนวนมากถูกนำออกมาเรียงบนพื้นสิ่งสำคัญ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 925

    ลั่วชิงยวนเข้าไปในห้อง และค้นหาอย่างระมัดระวังแต่ทุกสิ่งที่ควรตรวจค้นในห้องก็พบแล้วและนำออกไปแล้วลั่วชิงยวนมิพบสิ่งใดเลย และมิพบที่ซ่อนลับใด ๆ ในห้องเช่นกันตอนที่กำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็พบว่ามีห้องเล็ก ๆ สองห้องตรงมุมสวน ซึ่งดูเหมือนครัวเล็ก ๆ หรือห้องเก็บฟืนลั่วชิงยวนเดินไปโดยมิคาดหวังอะไร และผลักประตูให้เปิดออกแต่เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในห้อง นางก็ได้แต่ตกใจนี่ก็เป็นห้องที่มีคนอาศัยอยู่และการจัดห้องนั้นประณีตมาก มิเหมือนห้องที่คนรับใช้อยู่ แม้แต่ห้องของต่งชูก็มิดีเท่านี้นางค้นหาทั่วห้อง และเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าก็ต้องตกใจจริง ๆ แล้วมีเสื้อผ้ามากมายในตู้ มันเป็นแค่ชุดชั้นใน มีทั้งสำหรับชายและหญิงมิใช่ของคนคนเดียวกัน!เป็นไปได้หรือไม่ว่า ต่งชูลอบติดต่อกับใครบางคนในวังอีก?นางยังค้นต่อไปในตู้และกล่องต่าง ๆ แล้วพบยาทา ยาหอม และยาเม็ดหลังจากตรวจสอบทีละอย่างแล้ว ก็พบว่าล้วนเป็นของที่ใช้ในการสมสู่ระหว่างชายหญิงลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ต่งชูกำลังมีความสัมพันธ์กับใครบางคนจริง ๆ!นางหยิบรองเท้าผู้ชายคู่หนึ่งขึ้นมาแล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็วต่งชูอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิด หากต่งชูปฏิเสธที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 926

    ทุกคนมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสังสัย มิรู้ว่านางพูดอะไรกับต่งชูแต่แล้ว ก็ได้ยินเสียงต่งชูกัดฟันพูดว่า “ข้ายอมพูดแล้ว!”ทุกคนต่างตกตะลึงลั่วชิงยวนพูดอะไร ถึงสามารถงัดปากของต่งชูให้เปิดได้ในประโยคเดียว?ทั้งไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนเริ่มกังวลทั้งสองมองหน้ากัน และทำได้เพียงพยายามสงบสติอารมณ์เท่านั้นทุกคนจับจ้องมองต่งชูอย่างคาดหวัง และรอคำพูดต่อไปของนางฟู่จิ่งหานตั้งตารออย่างคาดหวัง โดยรอให้ต่งชูเปิดโปงไทเฮาในเวลานั้น แม้ว่าไทเฮาจะแก้ต่าง เพื่อรักษาชีวิตคนตระกูลเหยียนทั้งหมดได้ แต่มหาราชาจารย์เหยียนจะต้องมอบอำนาจทางทหารคืนให้เขาจากนี้ไป เขาจะเป็นจักรพรรดิที่แท้จริงไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือควบคุมเขาได้อีก“ข้าคือคนจากแคว้นหลี ข้าเป็นคนที่ทำร้ายองค์จักรพรรดิสูงสุด ข้าเป็นคนที่หว่านเมล็ดปีกพญามัจจุราชในสวนเอง”“ข้าทำทั้งหมดนี้เพียงเพื่อแก้แค้น”ฟู่จิ่งหานถามเสียงเฉียบขาด “แก้แค้นให้ใคร?”ต่งชูเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างหนักแน่น "พระชายาหลี!"ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา การแสดงออกของลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปอย่างมากหัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียด และทันใดนั้นเขาก็รู้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 927

    “เมื่อครู่ต่งชูปฏิเสธที่จะพูด เป็นลั่วชิงยวนที่พูดอะไรบางอย่างกับนาง จนทำให้นางตัดสินใจสารภาพ”“ว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็น่าสงสัย ข้าอยากรู้ว่าลั่วชิงยวนพูดอะไรกับต่งชู ถึงทำให้นางสารภาพออกมาจนหมดเปลือก”“ความสามารถเช่นนี้ การเป็นเพียงชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการดูจะเป็นการใช้คนมิคุ้มค่า น่าจะมอบตำแหน่งทางราชการให้นางจะดีกว่า”คำพูดของมหาราชาจารย์เหยียนพยายามหว่านความมิลงรอยกันระหว่างลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนอย่างมิต้องสงสัยฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว และมองดูลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยหัวใจของลั่วชิงยวนถูกแทงอย่างแรงในขณะนั้นนางต้องการอธิบาย แต่นางก็มิรู้ว่าต้องอธิบายอย่างไรนางประมาท ยังมิทันที่นางจะได้สอบสวนต่งชูให้ถ้วนถี่ กลับไปขู่ว่าจะเปิดเผยบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนางเสียก่อนมิคาดคิดต่งชูจะแว้งกัดพระชายาหลีที่ถูกเผาทั้งเป็นไปแล้วเช่นนี้และต่งชูก็ยอมรับว่า นางมาจากแคว้นหลี พระชายาหลีถูกประหารชีวิตเพราะกลียุคในวังที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับมิถ้วน ต่งชูอ้างว่านางล้างแค้นให้พระชายาหลีและเป็นคนลงมือทำร้ายจักรพรรดิสูงสุดฟังดูมีเหตุผลทีเดียวมิพบสิ่งที่น่าสงสัยเลย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 928

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชา “หากต่งชูมีความสัมพันธ์กับลั่วชิงยวน นางคงมิวางกับดักจนสามารถจับต่งชูได้หรอก”“หากนางต้องการฆ่าปิดปากอีกฝ่าย นางก็สามารถทำได้อย่างไร้ร่องรอย จะมิปล่อยให้เรื่องลุกลามถึงขั้นนี้”“พวกท่านเพียงอยากกล่าวหาว่าข้ามิใช่หรือ? เช่นนั้นข้าจะเข้าคุกเอง!”“แต่ลั่วชิงยวน มิว่าผู้ใดก็ห้ามแตะต้องนาง!”“นางยังต้องการรักษาเสด็จพ่อต่อไป!”หลังจากพูดอย่างนั้น ฟู่เฉินหวนโบกแขนเสื้อแล้วจากไปมหาราชาจารย์เหยียนและไทเฮาเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่แล้วพวกเขาก็มองหน้ากันและรู้สึกสบายใจมากขึ้นลั่วชิงยวนตกตะลึงเป็นฟู่เฉินหวนที่ริเริ่มจะเข้าคุกเองเพื่อมิให้นางต้องพัวพันด้วยเมื่อฟู่เฉินหวนอยู่ในคุกแล้ว มหาราชาจารย์เหยียนจะได้มิจ้องจับผิดลั่วชิงยวนอีก คืนนี้ก็ถือว่าพวกเขารอดจากเคราะห์ร้ายมาได้แล้วฟู่จิ่งหานขมวดคิ้ว พยายามจะปกป้องฟู่เฉินหวน “หากพี่สามรู้จักต่งชูจริง ๆ ไม่มีทางที่เขาจะจับต่งชูให้ข้าเช่นนี้!”มหาราชาจารย์เหยียนมิได้ร้อนรนแม้แต่น้อย ทั้งยังยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า “มิว่าอย่างไร อ๋องผู้สำเร็จราชการก็เป็นฝ่ายเลือกเข้าคุกเอง เช่นนั้นก็แสดงว่า เรื่องนี้เขามิอาจห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 929

    “หงเฉิน มือของท่านเขียนหนังสือได้แล้วมิใช่หรือ? เหตุใดถึงไร้เรี่ยวแรงเพียงนี้? แม้แต่จะกำหมัดท่านยังทำมิได้เลย”ไทเฮากล่าวอย่างเสียใจแต่ภายใต้แสงจันทร์ แสงสีเงินวาบบนข้อมือของจักรพรรดิสูงสุด และเห็นได้ชัดว่ามีเข็มปักอยู่ที่มือนั้น!ฟู่จิงหลี่ก็เห็นเช่นกัน เขาตกใจมาก “พระนาง…”ลั่วชิงยวนปิดปากของเขาทันที และทำท่าทางให้เขาเงียบตอนนี้ฟู่เฉินหวนถูกขังอยู่ในคุก องค์จักรพรรดิมิอาจปราบปรามไทเฮาเหยียนได้เลย หากไทเฮาเหยียนรู้ว่าพวกเขากำลังดักฟังอยู่ มิว่าอย่างไรนางก็จะฆ่าพวกเขาแน่ไทเฮาถอนหายใจ “หม่อมฉันรู้ว่าตอนนี้ในใจท่านมิได้คิดถึงหม่อมฉันเลย”“แต่เป็นบุตรชายท่าน อ๋องผู้สำเร็จราชการ ฟู่เฉินหวนคนนั้น”“ตอนนั้นท่านมอบตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการให้เขา โดยมิสนคำค้านของหม่อมฉัน เพียงเพื่อจะฝึกฝนเขาให้มาต่อต้านตระกูลเหยียนของเรา”“ท่านคาดหวังในตัวเขาอย่างมาก หากมิใช่เพราะแม่ของเขาเป็นชายาปีศาจแห่งแคว้นหลี บัลลังก์นี้คงตกมิถึงมือของลูกชายหม่อมฉัน”“เมื่อเขามิอาจเป็นจักรพรรดิได้ ท่านทำให้เขาเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการเพื่อกระจายอำนาจ ท่านคำนวณได้กว้างไกลนัก”“น่าเสียดาย ที่สุดท้ายเขาก็ยังพ่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 930

    “ไทเฮาไม่มีหลักฐาน ต่งชูก็ตายไปแล้ว ไม่มีพยานอีกต่อไป ต่อให้พวกเขาปลอมแปลงหลักฐานก็ย่อมต้องใช้เวลา“ท้ายที่สุดแล้ว อ๋องผู้สำเร็จราชการก็เป็นตำแหน่งสูงและสถานะมิธรรมดา หลักฐานที่พวกเขาปลอมแปลงจะต้องสมเหตุสมผลและไร้ช่องโหว่ เพื่อจะได้ตบตาเหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนัก”“เช่นนั้นถึงจะสามารถประหารฟู่เฉินหวนได้”“ดังนั้น พวกเขาน่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างหลักฐาน และฟู่เฉินหวนที่อยู่ในคุกตอนนี้น่าจะปลอดภัย”“แต่คงจะหลีกเลี่ยงการทนทุกข์ทางกายมิได้ หม่อมฉันต้องขอให้จักรพรรดิมีราชโองการมิอนุญาตให้มีการทรมานในเรือนจำ”หลังจากฟังการวิเคราะห์ของลั่วชิงยวน ฟู่จิ่งหลีก็สงบลงเขาพยักหน้า “เรื่องคุก ข้าจะไปหาองค์จักรพรรดิเอง”ลั่วชิงยวนคิดเรื่องนี้และพูดต่อ “ตราบใดที่เราหาหลักฐานและจุดอ่อนของพวกเขาเจอก่อนที่พวกเขาจะปลอมแปลงหลักฐานได้ เราก็สามารถบีบให้พวกเขาปล่อยตัวฟู่เฉินหวนออกมาได้”ฟู่จิ่งหลีอดมิได้ที่จะถาม “แต่เสด็จพี่สามเข้าไปแล้ว และตอนนี้พวกเขายังสามารถควบคุมวังหลวงได้อย่างเบ็ดเสร็จ พวกเราจะยังหาหลักฐานและจุดอ่อนของพวกเขาได้หรือ?"ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดและค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า “หม่อมฉันอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 931

    “ท่านอ๋องยอมเข้าคุกด้วยตัวพระองค์เองก็เพื่อปกป้องลั่วชิงยวน ดูเหมือนว่าเขาจะมิได้เกลียดลั่วชิงยวนมากอย่างที่ลือกัน”มหาราชาจารย์เหยียนสงสัยว่า ลั่วชิงยวนอาจเป็นจุดอ่อนของฟู่เฉินหวนก็เป็นได้ในที่สุดฟู่เฉินหวนก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปยังมหาราชาจารย์เหยียนด้วยสายตาดุดัน“ข้าจะมิพูดซ้ำ ใครก็อย่าได้คิดจะแตะต้องลั่วชิงยวน!”มหาราชาจารย์เหยียนอดมิได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนยอมเปิดปากในที่สุดเขาถามอย่างมิใส่ใจ "แม้ว่ากระหม่อมจะแตะต้องนาง สถานการณ์ของท่านอ๋องในตอนนี้จะเปลี่ยนไปหรือ?"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความอาฆาต เขามองไปยังมหาราชาจารย์เหยียนด้วยสายตาที่คมกริบ น้ำเสียงเย็นชาและอันตรายเปล่งออกมาอย่างปฏิเสธมิได้ “เช่นนั้นมหาราชาจารย์เหยียน จะลองดูก็ได้”“หากไทเฮาทรงจะละทิ้งลูกชายของพระนางอย่างฟู่อวิ๋นโจว มหาราชาจารย์เหยียนจะทำอะไรก็เชิญ”มหาราชาจารย์เหยียนตกใจเป็นอย่างมากฟู่อวิ๋นโจวเขาเกือบลืมฟู่อวิ๋นโจวไปแล้วดูเหมือนว่าฟู่อวิ๋นโจวจะถูกคนจากตำหนักอ๋องควบคุมอีกครั้งแต่แล้วเขาก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “ใช้ฟู่อวิ๋นโจวแลกชีวิตกับลั่วชิงยวนได้ แล้วตัวท่านอ๋องเองเล่า?”“เบี้ย

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status