Share

บทที่ 14

Author: ฉินอันอัน
บุตรีของแม่นมจางมีนามว่าผูเถา ปีนี้วัยเพิ่งครบสิบขวบเต็ม และเพิ่งเข้ามาทำงานรับใช้ในจวนเมื่อปีที่แล้ว

เพราะอายุยังน้อย งานที่ต้องทำจึงน้อยตามไปด้วย แค่คอยปรนนิบัติรับใช้งานเบ็ดเตล็ดทั่วไปในเรือนเท่านั้น

ได้ยินว่าชีอวิ๋นถิงใช้วาจาโหดเหี้ยมขู่กรรโชก ว่าจะทำให้ชีหยวนทนอยู่ที่เรือนแห่งนี้ต่อไม่ได้ นางรู้สึกไม่สบายใจทันที

ชีอวิ๋นถิงเป็นใครหรือ? ก็เป็นคุณชายใหญ่ไงเล่า!

และเป็นว่าที่เจ้าของจวนในอนาคต หากทำให้เขาไม่พอใจ สักวันต้องไม่เหลือที่ยืนในจวนแห่งนี้จริงๆ แน่

เดิมที เห็นชีหยวนเจ้าเล่ห์เก่งกาจเพียงนี้ แม่นมจางรู้สึกตื่นเต้นดีใจอยู่บ้าง คิดว่าชั่วดีอย่างไรท่านโหวก็เป็นคนมารับตัวนางกลับไปด้วยตนเอง และยังให้ความสำคัญกับนางมากถึงเพียงนี้ด้วย

ไม่แน่ว่าคุณหนูใหญ่อาจจะยังพอมีที่ยืนอย่างมั่นคงในจวนนี้ได้จริงๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การไปทำงานเป็นแม่นมเคียงกายคุณหนูใหญ่ จริงๆ แล้วก็นับว่าเป็นหนทางที่ไม่เลวร้ายเลย

แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าทีโต้ตอบของชีอวิ๋นถิงจะรุนแรงเพียงนี้

แต่เมื่อพินิจพิจารณาให้ละเอียดแล้วนางก็เข้าใจ

ความผูกพันระหว่างชีอวิ๋นถิงและชีจิ่นล้ำลึกแน่นแฟ้นมาตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว

ตอนที่ชีหยวนยังไม่กลับมา ชีอวิ๋นถิงก็แสดงออกว่าไม่ต้องการให้นางหวังรับตัวนางกลับมาตลอด

บัดนี้ชีหยวนกลับมาแล้ว แต่แม่นมฮวาก็ตายไปแล้ว อวิ๋นเชวี่ยเองก็จวนจะถูกขายออกไปแล้วด้วย

ชีอวิ๋นถิงย่อมต้องรู้สึกว่าชีจิ่นได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง

พอคิดแบบนี้ หัวใจของแม่นมจางที่เพิ่งเริ่มต้นคล้อยตามที่พึ่งพิงผู้นั้น พลันหยุดชะงักลงในพริบตา

ในเมื่อนางอยากได้ความมั่งคั่งร่ำรวย เช่นนั้นก็ต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้เสียก่อน

ด้วยเหตุผลนี้เมื่อหันกลับไปนางก็เดินไปหยุดเบื้องหน้าชีหยวน บอกว่าจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว ให้คุณหนูใหญ่พักผ่อนตามสบาย

ชีหยวนหย่อนตะขอเต็มที่แล้ว ทว่าแม่นมจางกลับไม่มีท่าทีว่าจะงับเหยื่อแม้แต่น้อย

มองแม่นมจางที่อยู่เบื้องหน้า ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจชีหยวนไม่นานก็ดับลงแล้ว

ที่ยืนของตนยังไม่มั่นคง จะถูกเมินเฉยก็เป็นเรื่องธรรมดา

นางผุดยิ้มเล็กน้อย ก็บอกให้แม่นมจางออกไปเสีย

แม่นมจางเมื่อเดินพ้นเรือนของชีหยวนออกมาแล้ว ก็ทอดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งอย่างอดไม่ได้

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ปฏิเสธชีหยวนไปเช่นนี้ แม่นมจางกลับรู้สึกหนักอึ้งในใจ แม้เดินมาจนถึงเรือนบ่าวรับใช้ของตนเองแล้ว นางก็ยังคงรู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวไม่เป็นส่ำ

รินน้ำชาจอกหนึ่งให้ตนเองด้วยความอึดอัด ทว่ายังไม่ทันถึงริมฝีปาก ก็ได้ยินเสียงสาวใช้คนหนึ่งวิ่งโร่เข้ามา “แม่นมจางอยู่หรือไม่เจ้าคะ?”

แม่นมจางมีเรื่องหนักอกหนักใจอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยสิ่งนี้ แม้แต่น้ำชาที่ถืออยู่ในมือยังแทบประคองให้มั่นคงไม่ได้ น้ำเสียงพลันเจือความหงุดหงิดออกมา “มีเรื่องอะไร ถึงได้เงอะงะงุ่มง่ามเช่นนี้!”

สาวใช้แลบลิ้นออกมา และเอ่ยอย่างระมัดระวัง “แม่นม พี่หญิงจื่อจิงจากเรือนของคุณชายใหญ่ฝากมาแจ้งว่า หากแม่นมกลับมาแล้ว ให้ไปที่เรือนของคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ”

ไปที่เรือนของคุณชายใหญ่?

แม่นมจางใจหล่นวูบถึงตาตุ่ม

หากเป็นเมื่อก่อน ใครเล่าจะไม่อยากมีโอกาสได้ออกหน้าออกตาเช่นนี้?

ยิ่งเป็นโอกาสได้เข้าตาเจ้านายยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

แม่นมจางใช้ชีวิตอยู่ในจวนนี้ผ่านไปวันๆ มานานหลายปีแล้ว แม้แต่หน้าที่จัดซื้อในครัวยังไม่มีโอกาสได้ทำ

ดังนั้นนางจึงพยายามแสวงหาช่องทางเพื่อผลประโยชน์อย่างไม่ลดละมาตลอด

ไม่พอยังเพ้อฝันถึงหนทางจะได้เกาะเกี่ยวอำนาจบารมีของคุณชายใหญ่และคุณหนูรองตลอดเวลา

ไม่ว่าใครต่างก็รู้ดีกว่าพวกเขาสองคนพี่น้องเป็นที่รักและเป็นที่ชื่นชมอย่างยิ่ง

แต่ยามนี้ แม่นมจางกลับไม่เหลือความคิดนั้นอยู่แม้แต่น้อย

นางรู้ดีแก่ใจ ที่คุณชายใหญ่เรียกตนเองเข้าพบเช่นนี้ เกรงว่าเป็นเพราะตนเองกลับเรือนมาพร้อมชีหยวน และคอยช่วยชีหยวนจัดข้าวของในหอหมิงเยว่

แต่ไม่ว่าจิตใจอยากไปหรือไม่อยากไป ในเมื่อเจ้านายมีคำสั่ง พวกนางก็ได้แต่ทำตาม

แม่นมจางไม่มีกะจิตกะใจจะจิบน้ำชาแล้ว จำใจต้องไปที่สวนฉางชิงของคุณชายใหญ่อย่างกระวนกระวาย

ชีอวิ๋นถิงเป็นคุณชายใหญ่ที่สมเกียรติยิ่งนัก นับแต่เยาว์วัยก็ได้รับความรักความชื่นชมอย่างหาที่สุดไม่ได้ และเรือนที่เขาได้รับเมื่อตอนโตขึ้นแล้วก็ยังเป็นเรือนส่วนที่ดีที่สุดของเรือนหน้า มีสวนบุปผาน้อยเป็นที่แบ่งเขตให้เขา ด้านในยังมีต้นสนหนึ่งต้นที่ชีเจิ้นเป็นคนพาเขาไปปลูกด้วยกัน เพราะเขียวชอุ่มตลอดเวลาดังนั้นมันจึงมีชื่อเรียกว่าสวนฉางชิง

หากเป็นเมื่อก่อน แม่นมจางไม่มีสิทธิ์เข้ามาได้อย่างเด็ดขาด

ทว่าหนนี้เข้ามาได้แล้ว นางไม่รู้สึกตื่นเต้นดีใจเลย ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ใต้ต้นสนต้นนั้นอย่างประหวั่นพรั่นพรึง

ชีอวิ๋นถิงกำลังฝึกฝนวรยุทธ์

ในที่สุดก็ได้ระบายโทสะในใจออกมาจนหมดสิ้นแล้วเสียที รับผ้าเช็ดหน้าที่สาวใช้ยื่นมาให้ซับเหงื่อบนหน้าผากแล้ว ก็นั่งลงบนเก้าอี้โยก “เรียกนางเข้ามา”

บนโต๊ะขนาดเล็กยามนี้ถูกจัดวางด้วยน้ำชาอุ่นร้อนพร้อมขนมกินเล่นจำนวนหนึ่ง ชีอวิ๋นถิงไม่แม้แต่ปรายสายตามอง กระทั่งแม่นมจางเข้ามาแล้ว เขาค่อยผงกศีรษะ “วันนี้เจ้าปรนนิบัติคุณหนูใหญ่จัดห้องหรือ?”

หัวใจของแม่นมจางเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอกแล้ว นางคุกเข่าลงกับพื้นดังฟุ่บ “เรียนคุณชายใหญ่ บ่าวเพียงทำตามคำสั่งของท่านโหวและฮูหยินเท่านั้น…”

“พอได้แล้ว!” ชีอวิ๋นถิงตัดบทด้วยความรำคาญ “ข้ายังไม่ได้ตำหนิอะไรเจ้า! นับจากวันนี้ เจ้าจงไปทำงานรับใช้ที่หอหมิงเยว่!”

แม่นมจางเตรียมจะโขกศีรษะขอเว้นโทษอยู่รอมร่อ ได้ยินชีอวิ๋นถิงเอ่ยเช่นนี้ ใบหน้าพลันฉายแววงงงันทันที

ครู่หนึ่งผ่านไปแล้วแต่ยังคงไม่ได้สติกลับมา

ชีอวิ๋นถิงยิ้มเยาะมองนางด้วยสีหน้าเยือกเย็น “ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อย เจ้าทำได้หรือไม่?”

แม่นมจางเพิ่งได้สติกลับมาตอนนี้เอง ชีอวิ๋นถิงต้องการส่งคนเข้าไปในเรือนของชีหยวน

นางตอบรับคำทันทีโดยไม่ยืดยาด

อันที่จริงก็ไม่เห็นมีอะไรต้องเลือกเลย

ชีหยวนแม้มีฝีมือไม่เลว แต่มีผลประโยชน์อะไรหรือ?

นางเป็นแค่เด็กสาว เป็นแค่ดรุณีคนหนึ่งเท่านั้น ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องแต่งงานออกเรือนไปอยู่ดี

ว่ากันตามตรงแล้วจวนโหวแห่งนี้ สุดท้ายคำพูดของชีอวิ๋นถิงก็ถือเป็นที่สุดอยู่ดี

หากต้องเลือกข้างระหว่างแม่นางกับคุณชายแล้ว แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้ว่าควรจะเลือกข้างไหน

ชีอวิ๋นถิงไม่แปลกใจแม้แต่น้อย นอกจากเด็กบ้านนอกเหลือขอคนนั้น ใครมีลูกตาก็มองสถานการณ์ออกทั้งนั้น

เขามองจื่อจิงปราดหนึ่ง

จื่อจิงจึงหยิบกระเป๋าดอกบัวซึ่งหนักอึ้งใบหนึ่งออกมาเนิบๆ และยัดใส่ในมือของแม่นมจางโดยไม่รีบร้อน “ฟังว่าหลานชายของแม่นมจวนจะครบเดือนเต็มแล้ว แม่นมนำสิ่งนี้ไปสั่งทำกุญแจทองมงคลให้เด็กน้อยสักเส้นหนึ่งเถิด”

แม่นมจางไม่คิดฝันว่าจะได้รับความชื่นชมเพียงนี้เลยจริงๆ รีบโขกศีรษะเสียงดังให้ชีอวิ๋นถิง “เป็นพระคุณยิ่งนักเจ้าค่ะคุณชายใหญ่! เป็นพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะคุณชายใหญ่!”

ชีอวิ๋นถิงผุดยิ้ม “หากทำธุระที่ข้ามอบหมายให้เจ้าไปสำเร็จ ยังมีรางวัลอีกมากรอเจ้าอยู่! แต่หากเจ้าทำเสียเรื่อง ก็อย่าโทษว่าข้าไม่เหลือน้ำใจแล้วกัน!”

ตอนที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงช้าๆ ชีหยวนยืนอยู่ใต้ชายคาเรือน มองดูเหล่าสาวใช้และบรรดาหญิงชรารับใช้ซึ่งมีทั้งดีและเลวปะปนกันกลุ่มหนึ่งที่ถูกส่งตัวมาจากในจวน ก็ถามด้วยเสียงขรึมว่า “จะให้ข้าเลือกผู้ปรนนิบัติหรือ?”

เกาเจียแม่นมผู้ดูแลซึ่งเป็นผู้รับใช้เคียงกายนางหวังผุดยิ้มตาหยีพลางผงกศีรษะ “ตามประเพณีแล้ว ข้างกายคุณหนูใหญ่ควรมีสาวใช้ใหญ่สี่คน สาวใช้รองสองคน และสาวใช้เล็กซึ่งรับผิดชอบงานเบ็ดเตล็ดอีกสี่คน หญิงชราทำความสะอาดหนึ่งคน และแม่นมผู้ดูแลอีกหนึ่งคนเจ้าค่ะ…”

นางยิ้มพลางกวาดสายตามองชีหยวนปราดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว “คุณหนูใหญ่เห็นว่าผู้ใดเข้าตาแล้ว ก็เลือกผู้นั้นไว้ได้เลยเจ้าค่ะ”

ชีหยวนยังไม่ทันเอ่ยวาจาใด ทันใดนั้นแม่นมจางรีบสืบเท้าเดินฉับๆ เข้ามาจากด้านนอก เดินมาหยุดตรงเบื้องหน้าชีหยวน “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ท่านเพิ่งมาใหม่ไม่นาน ยังไม่ทราบอุปนิสัยของแต่ละคนดี หรือว่า ให้บ่าวช่วยท่านตรวจสอบดูแลอีกแรง เห็นเป็นอย่างไรเจ้าคะ?”

ตอนบ่ายยังเดินออกไปเหมือนลี้ภัย บัดนี้กลับมาพร้อมท่าทางเหมือนขอที่พึ่งพิง

ชีหยวนมองแม่นมจางนิ่งๆ ไม่รีบร้อน มุมปากกระตุกขึ้น เผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมา “จริงหรือ? เช่นนั้นต้องขอบคุณแม่นมจางแล้ว”

 
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 801

    ชีฉางถิงถึงกับตะลึงงันเขามั่นใจคิดไปเองว่า วันนี้เพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ออกมาดูตัว ออกมาพบหญิงสาวที่อาจเป็นภรรยาในอนาคตของตนแต่ไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับไม่ใช่ท่าทีความอ่อนโยนหรือความเอียงอายของหญิงสาว หากแต่เป็นคมดาบอันวาววับเย็นเยียบเขาอย่างไรเสียก็เป็นคนเกิดในตระกูลแม่ทัพ ขณะที่ตนเองแม้ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเตรียมสอบบัณฑิต แต่ทักษะการฝึกกายให้แข็งแรงก็ยังได้ฝึกมาอยู่บ้าง ทันใดนั้นจึงง้างขาเตะออกไปเต็มแรงช่องทางแคบเพียงเส้นเดียวนี้ เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ถนัดจริง ๆชีฉางถิงถอยร่นไม่หยุด เท้ายกเตะถีบต่อเนื่องไม่ขาด เฝิงไฉ่อินตัวปลอมกลับไม่อาจลงมือได้ในทันใด จึงโกรธเกรี้ยวตวาดว่า “เจ้าหาเรื่องตายงั้นหรือ!”เอ่ยพลางควักเอาลูกดอกจากเอว กระโจนขว้างไปยังชีฉางถิงอย่างแรงที่ตรงนั้นคับแคบยิ่งนัก ชีฉางถิงไม่มีทางหลบพ้น ลูกดอกปักเข้าที่บ่าของเขาเต็ม ๆ เจ็บจนร้องลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ล้มตัวลงนั่งกองกับพื้น“เตะสิ ทำไมไม่เตะต่อเล่า?” ‘เฝิงไฉ่อิน’ สีหน้าเย็นเยียบ เอียงศีรษะย่อตัวลง คว้าจับปกเสื้อชีฉางถิง แล้วชกหมัดหนึ่งเข้าที่จมูกของชีฉางถิงชีฉางถิงเลือดกำเดาทะลักออ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 800

    จะมีหนทางใดในการล้างแค้นตระกูลชีเล่า ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ?ชีหยวนคือนักฆ่า ดังนั้นนางจึงพิจารณาปัญหาจากมุมของนักฆ่า แล้วก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ เร่งฝีเท้าไปยังหลังเขาเฝิงอวี้จางก็กำลังนั่งดื่มชาอยู่กับนายท่านรองชีเขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ใครจะคิดเล่า ว่าตระกูลเราจะได้มาดองกันเช่นนี้? นี่ช่างเป็นวาสนาแท้ ๆ!”แต่นายท่านรองชีกลับรู้สึกแปลก ๆ อยู่ลึก ๆ เพราะยังมิได้ตกลงกันแท้จริง จะกล้าพูดว่าเป็นดองแล้วได้อย่างไร?เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “สุดท้ายก็ยังต้องดูว่าเด็ก ๆ จะชอบพอกันหรือไม่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หาใช่เรื่องจะสะเพร่าได้”เวลานี้คนตระกูลชีกล่าวว่าอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามนั้นเฝิงอวี้จางย่อมไม่โต้เถียง เพียงยิ้มรับคำ แต่ในใจกลับวางใจลงไปมากต่างกับไฉ่เวย ไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใครจริง ๆนางชอบอ่านตำรา และยังชอบทำความดีช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นน้องชายหรือน้องสาวถูกรังแก ก็มักออกหน้าปกป้องพวกเขาเสมอเด็กสาวเช่นนี้ เขามั่นใจว่าชีฉางถิงต้องชอบเป็นแน่ขณะนั้นเอง ชีฉางถิงกลับยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางมือไว้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 799

    ไป๋จื่อยังไม่รู้ว่ามีสิ่งใดผิดปกติ เพราะนางไม่รู้จักเฝิงไฉ่อิน แต่จนกระทั่งเห็นสีหน้าของชีหยวนเปลี่ยนไป ขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้ตรวจดูบนใบหน้าของเฝิงไฉ่อินอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋จื่อถึงเพิ่งตระหนักขึ้นมาจนอุทานเสียงหลง “คุณหนู! นาง นางไม่ใช่คุณหนูไฉ่อิน ที่เมื่อครู่เพิ่งตามคุณชายฉางถิงของเราไปยังหลังเขาหรือเจ้าคะ?!”ครานี้แม้แต่ไป๋จื่อก็รู้สึกถึงความผิดปกติ รีบกำชายเสื้อชีหยวนไว้แน่นด้วยความร้อนรน “คุณหนู ตอนนี้ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”สีหน้าของชีหยวนเยียบเย็น นางกดนิ้วลงบนจุดเหรินจง[1]ของเฝิงไฉ่อิน พลางควักเข็มทองออกมา กดให้เลือดไหลที่ปลายนิ้วของนาง ไม่นานนัก เฝิงไฉ่อินก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมานางยังคงงงงันสับสน เห็นชีหยวนกับไป๋จื่อก็เผลอพยายามจะดิ้นรนต่อต้าน ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรง ร่างจึงทรุดลงไปอีกครั้ง“เจ้าถูกวางยาสลบ” ชีหยวนเก็บเข็มทองเอียงศีรษะมองไปทีหนึ่ง แล้วถามเสียงเบา “เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”เฝิงไฉ่อินรู้สึกราวศีรษะจะแตกเป็นเสี่ยง ยกมือกดลำคอไว้ นานพอควรจึงพอมองเห็นใบหน้าชีหยวนกับไป๋จื่อได้ถนัด ก็รีบลุกขึ้นเอ่ยขอบคุณชีหยวนเพียงส่ายศีรษะเบา ๆ “ไม่เป็นไร คุณหนูเฝิง เจ้าร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 798

    ไป๋จื่อเบิกตากว้าง รีบหันไปมองไป๋อินทันทีไป๋อินก็รีบส่งสายตากะพริบตอบนางใต้เท้าไล่นี่ไม่ชอบมาพากลนัก!นี่คือ!ชีหยวนขมวดคิ้ว กวาดสายตานิ่งเรียบ พลางดันหีบกลับไปทางไล่เฉิงหลง “ไร้ความชอบไม่ขอรับรางวัลใต้เท้าไล่ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามิจำเป็นต้องมอบของกำนัลให้”แต่ไล่เฉิงหลงกลับมีท่าทีอึดอัดขึ้นมา แววตาฉายแววลังเล เงียบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ข้าตามหาของสิ่งนี้มานานนักกว่าจะได้มา ข้ามิได้มีความหมายอื่นใด เพียงหวังให้เจ้ารับไว้ เป็นน้ำใจจากสหายคนหนึ่งเท่านั้น”เขาพูดอย่างจริงใจและยังแฝงความมุ่งมั่นไม่ยอมถอยชีหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอื้อมมือรับมา เปิดฝาออกดูไป๋จื่อถึงกับรีบยกมือปิดปาก กักเสียงอุทานไว้แทบไม่ทันโอ้สวรรค์!นี่คือไข่มุกราตรีกลมเกลี้ยงเม็ดใหญ่ช่างงดงามเหลือเกิน!แถมยังเป็นสีชมพู!ไยถึงมีไข่มุกราตรีที่งามได้ถึงเพียงนี้?!ใต้เท้าไล่ไปเสาะหาของสิ่งนี้มาได้อย่างไร?!ชีหยวนเองก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน นางคิดว่าไล่เฉิงหลงกล่าวอย่างถ่อมตนเกินไป ตามหามานานกว่าจะได้มางั้นหรือ?ไม่หรอก ของเช่นนี้ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต คนส่วนมากก็ยังไม่อาจพบเจอได

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 797

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากนัก ไล่เฉิงหลงก็อธิบายต่อว่า “คุณหนูใหญ่ อย่ามองเพียงจำนวนคนที่บาดเจ็บล้มตายว่ามีน้อยนัก เทียบไม่ได้แม้แต่การรบราฆ่าฟันระหว่างกลุ่มอันธพาลในหมู่บ้านของแผ่นดินต้าโจว เดิมทีพวกเขามีกำลังคนไม่มากอยู่แล้ว”เรื่องเหล่านี้ชีหยวนรู้ดีอยู่แล้วชาติก่อนนางก็เคยปะทะกับพวกโจรสลัดมาแล้วดังนั้นพอได้ฟังคำของไล่เฉิงหลง นางจึงเพียงตอบรับเสียงเบา “ข้ารู้ อีกทั้งคนที่ตายไปล้วนเป็นนักรบและนักสู้พเนจร สำหรับพวกเขาแล้ว คนพวกนี้ล้ำค่ามากนัก”แววตาที่ไล่เฉิงหลงมองชีหยวนจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่คาดคิดเลยว่าชีหยวนจะมีความรู้กว้างไกลถึงเพียงนี้ เขารู้เพราะเดินทางข้ามทะเลไปตงอิ๋งด้วยตัวเองแต่ชีหยวนกลับรู้อยู่แล้ว!นี่จึงนับว่าความสามารถแท้จริงเขาพยักหน้า ก่อนกล่าวต่อ “ฝ่ายชินอ๋องหวยเหลียงนั้น ตอนนี้บรรดาผู้สนับสนุนก็ผลักดันให้น้องชายของเขาขึ้นครองอำนาจแทน ใช้พระนามว่าชินอ๋องชิ่งโย่ว บัดนี้พวกเขากับตระกูลซานหมิงเป็นศัตรูกันแล้ว ส่วนตงอิ๋งเวลานี้ นอกจากสองฝ่ายนี้แล้ว ยังมีอีกสามกองกำลัง หนึ่งคือราชวงศ์ เพียงแต่ทุกวันนี้องค์จักรพรรดิเป็นเพียงหุ่นเชิด ไร้อำนาจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 796

    ฮูหยินรองชีอ้าปากค้าง กัดริมฝีปากเอ่ยว่า “แต่ว่า…”ฮูหยินผู้เฒ่าชีปลอบโยนสะใภ้ “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนรน ยังมิได้ตัดสินใจแน่นอนเลย แม่หนูหยวนบอกว่า เฝิงไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ดีนัก รู้ความและว่านอนสอนง่าย อุปนิสัยก็อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย เหมาะกับฉางถิงอย่างยิ่ง”ฮูหยินรองชีจึงคลายกังวลลงบ้าง ไม่รู้ด้วยเหตุใด นางมักจะเชื่อใจชีหยวนเสมอฮูหยินผู้เฒ่าชีเห็นดังนั้นก็อดยิ้มมิได้ “อีกอย่างต้องให้เด็กทั้งสองได้พบหน้ากัน ดูใจกันก่อน แม่หนูหยวนมิใช่คนเผด็จการดันทุรัง นางก็หวังให้เรื่องคู่ครองของฉางถิงเป็นไปอย่างราบรื่น”เมื่อได้ยินดังนี้ ฮูหยินรองก็เบาใจลงในที่สุดนางถอนหายใจออกมา “เช่นนั้น ข้าจะไปถามหยวนหยวนสักหน่อย”ในตอนนี้ชีเจิ้นก็เอ่ยขึ้น “อย่าเพิ่งไปเลย ฝั่งนางกำลังยุ่งอยู่มาก”และก็เป็นเช่นนั้นจริง ชีหยวนกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในลานกับไล่เฉิงหลง เวลานี้ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ใบไม้เริ่มเหลืองซีด ร่วงหล่นลงมาอยู่บนโต๊ะหินอยู่เนือง ๆไล่เฉิงหลงมองขนมหลายจานที่วางอยู่บนโต๊ะหิน ก็หัวเราะจนตาหยี “พูดตามตรง ช่วงที่ข้าไปอยู่ที่ตงอิ๋งนั้น ทุกวันช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน! นานแล้วที่ข้าไม่ได้กิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status