Share

บทที่ 13

Author: ฉินอันอัน
นางหวังยังคงประหลาดใจไม่หาย ก็ได้ยินชีเจิ้นเอ่ยกับนางอีกครั้งว่า “ยังมีอีกสิ่ง นางบ่าวรับใช้อวิ๋นเชวี่ยคนนั้น จัดการส่งตัวนางไปที่เหมืองถ่านหินทางเหนือเสีย”

บทลงโทษของบ่าวรับใช้ในทุกตระกูล เบาสุดคือโบยด้วยไม้และหักเงินเดือน

หนักกว่านั้นหน่อย ก็คือการขายทาสออกไป

และที่หนักที่สุด หนีไม่พ้นถูกส่งตัวไปที่เหมืองถ่านหิน

สตรีตัวคนเดียว ไหล่แบกไม่ไหวมือยกไม่ขึ้น ไปอยู่ที่นั่นแล้วจะทำอะไรได้ ไม่ต้องให้อธิบายก็เห็นภาพชัดเจนอยู่แล้ว

นางหวังอึดอัดเกินทน “ท่านโหว พวกนางต้องเหิมเกริมกระทำผิดด้วยตนเองแน่นอนเจ้าค่ะ ไม่ใช่ความคิดของจิ่นเอ๋อร์อย่างเด็ดขาด ข้าเลี้ยงจิ่นเอ๋อร์มากับมือ ข้าเชื่อใจนาง”

จะเชื่อใจหรือไม่เชื่อใจ ชีเจิ้นไม่สนใจแม้แต่น้อย ทำเพียงเอ่ยอย่างเยือกเย็นออกมา “ข้ามองเพียงผลลัพธ์ เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้น เจ้านายหากควบคุมบ่าวรับใช้ไม่ได้ นั่นถือว่าไร้ความสามารถแล้ว”

นางหวังพลันกัดริมฝีปากด้วยความตกใจ

อีกด้านหนึ่งชีอวิ๋นถิงเดือดดาลมากถึงขั้นด่ากราดสาปแช่งคนทันทีเมื่อกลับถึงห้อง

คนที่ถูกเขาด่ามากที่สุดยังคงเป็นชีหยวนเหมือนเดิม

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดอยากให้เจ้าเด็กเหลือขอคนนี้ได้กลับเรือน ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่ากลับเรือนแล้วจะยิ่งรู้สึกรังเกียจมากกว่าเดิม!

นางคิดว่านางเป็นใครกัน

เอาแต่พูดเรื่องการวางตัว เรื่องมารยาท!

ตอนที่เขากำลังเรียนรู้มารยาทการวางตัว เจ้าเด็กเหลือขอคนนี้คงจะยังเลี้ยงสุกรอยู่ที่บ้านนอกกระมัง!

เขาโกรธจนหมดอารมณ์กินข้าวแล้ว แม้แต่อวิ๋นเยี่ยนบ่าวรับใช้ข้างกายชีจิ่นที่ถูกตามใจมากที่สุดมาขอเข้าพบ ยังไม่ได้พบหน้าคุณชายใหญ่ด้วยซ้ำไป

ตอนที่อวิ๋นเยี่ยนกลับมาในเรือน ชีจิ่นกำลังดูเนื้อผ้าที่จะใช้สำหรับตัดอาภรณ์

นางหวังรักบุตรีคนนี้มาก ยอมให้นางได้เลือกสรรแพรพรรณผืนใหม่ไปใช้ตัดอาภรณ์ได้ตามใจทุกฤดูกาล

แม้ว่าจะทราบความจริงแล้ว แต่ความรักที่นางหวังมีให้บุตรีคนนี้ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย

ยามนี้พวกบ่าวรับใช้กำลังกอบผืนผ้าหลายผืน พลางแนะนำให้ชีจิ่นฟังตรงหน้า

ทั้งผ้าไหมสู่จิ่น แพรต่วนเหลียวหลิง ผ้าไหมทอดิ้นเงินดิ้นทอง ทุกผืนล้วนทำให้ผู้คนมองจนลายตา

ทว่าหัวใจของชีจิ่นกลับมิได้อยู่ที่ตรงนี้ นางเลือกอย่างใจลอยอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเมื่อเห็นอวิ๋นเยี่ยนที่กลับมาถึงแล้ว ก็สั่งให้คนเหล่านั้นออกไปทันที

อวิ๋นเยี่ยนไม่รอให้นางถาม ก็รีบสาวเท้าเข้าไปเบื้องหน้านาง และเอ่ยด้วยเสียงกระซิบว่า “คุณหนู เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”

ชีจิ่นเป็นคุณหนูใหญ่ผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาหลายปีแล้ว พวกบ่าวรับใช้ข้างกายนาง ล้วนแต่เป็นคนที่นางหวังคัดเลือกให้นางด้วยตนเอง

และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนภายในเรือนของนางหวัง

ไม่ว่าเรื่องจะเป็นมาอย่างไร ขอเพียงถามไถ่ก็ได้ความแล้ว

สีหน้าของชีจิ่นหมองหม่นลงทุกเสี้ยวขณะ หลังจากได้ยินว่าชีอวิ๋นถิงถูกตบหน้าหนึ่งฉาด เรื่องที่ชีเจิ้นตั้งใจเรียนเชิญญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมเปิดศาลบรรพชน มิหนำซ้ำยังเปลี่ยนชื่อแซ่ให้สวี่อินอินเป็นชีหยวนด้วยแล้ว สีหน้าของนางหมองคล้ำราวพายุฝนกำลังตั้งเค้าพร้อมกระหน่ำ

เสียงของอวิ๋นเยี่ยนยิ่งเบาลงเรื่อยๆ ครั้นเห็นเมฆครึ้มปกคลุมบนใบหน้าชีจิ่นแล้ว ก็รีบร้อนปลอบโยนด้วยเสียงเบาหวิว “คุณหนู พวกเราไม่จำเป็นต้องลดตัวไปเทียบกับนางเจ้าค่ะ! อย่างนางจะมีอะไรเหนือไปกว่าท่าน?”

ชีจิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงคับแค้นและแดกดันออกมา “แต่นางเป็นบุตรโดยกำเนิด บุตรโดยกำเนิดก็คือบุตรโดยสายเลือดเดียวกัน ข้ามันก็แค่บุตรีของคนขายเนื้อสัตว์เท่านั้น!”

บัดนี้นางโกรธแค้นชีเจิ้นจนกัดฟันกรอดๆ

ปากพล่ามแต่วาจาไพเราะน่าฟัง บอกว่านางเป็นบุตรีของเขาตลอดไปบ้าง เป็นคุณหนูใหญ่ของจวนโหวตลอดไปบ้าง!

แต่เผลอครู่เดียวก็ยกย่องเทิดทูนชีหยวนไว้สูงส่งเพียงนี้แล้ว!

หากว่ารักนางตามใจนางจริง แค่ให้ชีหยวนกลับมาเงียบๆ ก็สิ้นเรื่องแล้ว แต่ตอนนี้เล่าเป็นอย่างไร? ตั้งใจเปิดศาลบรรพชนบันทึกชื่อเข้าวงศ์ตระกูล มิหนำซ้ำยังต้องการเชื้อเชิญญาติมิตรมาทำความรู้จักกันด้วย!

แบบนี้จะให้ตนเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? จงใจหักหน้าทำให้ตนเองเสื่อมเสียเกียรติยศชัดๆ!

ถ้อยคำนี้ทำคนไปต่อไม่ถูก อวิ๋นเยี่ยนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนแล้ว ทว่าเพียงเสี้ยวพริบตาผ้าม่านกั้นประตูกลับถูกเลิกขึ้นมา

ชีอวิ๋นถิงหอบรอยฝ่ามืออันหนึ่งบนใบหน้าเดินเข้ามา เห็นสีหน้าของชีจิ่นแล้วก็รู้สึกสงสารจนอดไม่ไหว รีบย่างเท้าเดินดุ่มๆ เข้าไปนั่งลงตรงหน้านาง “เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ? อยู่ดีๆ ไยเจ้าจึงร้องไห้ออกมาเช่นนี้?”

พวกเขาสองคนพี่น้องกินด้วยกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ความใกล้ชิดสนิทสนมมีมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ

เห็นชีอวิ๋นถิงเข้ามา หยาดน้ำตาบนดวงหน้าของชีจิ่นยิ่งไหลพรากรุนแรงกว่าเก่า แต่ปากกลับบอกว่า “ท่านพี่มองผิดแล้ว ร้องไห้ที่ไหนกัน?”

“ยังจะพูดว่าไม่ได้ร้องไห้อีกหรือ?!” ชีอวิ๋นถิงร้อนรนกระวนกระวาย “เจ้าดูสิร้องไห้จนตาของเจ้าบวมเป่งแล้ว! เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าบอกข้ามาตรงๆ เถิด!”

ชีจิ่นฝืนยิ้มเต็มประดา “ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เจ้าค่ะ”

อวิ๋นเยี่ยนกระแอมออกมาเสียงหนึ่ง “เพราะคุณหนูใหญ่ที่เพิ่งกลับมาไม่ใช่หรือเจ้าคะ…”

ใบหน้าของชีอวิ๋นถิงพลันฉายประกายโกรธเคืองขึ้นทันใด

ชีจิ่นรีบออกปากตำหนิอวิ๋นเยี่ยนทันที “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? เจ้านายกำลังคุยกัน มีที่ไหนให้เจ้าสอดปากเข้ามาแทรก?”

ชีอวิ๋นถิงเคยเห็นน้องหญิงเป็นทุกข์เช่นนี้มาก่อนที่ไหน? ไม่ต้องถามถึงสาเหตุอะไร ก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ข้าจะไปคิดบัญชีกับนาง!”

ชีจิ่นรีบดึงเขาไว้ หยาดน้ำตายิ่งไหลพรากๆ ลงมา “ท่านพี่ใหญ่! ยิ่งท่านกล่าววาจาเช่นนี้ ยิ่งทำให้ข้ารู้สึกอับอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดแล้ว! คนผู้นั้นเป็นคุณหนูใหญ่ผู้สูงศักดิ์ที่แท้จริงของจวนโหว เป็นน้องสาวสายเลือดเดียวกับท่าน ส่วนข้าหรือ? ข้าก็เป็นแค่นกเขาที่มายึดรังนกกางเขนอาศัยเท่านั้น…”

เพียงเอ่ยคำว่านกเขายึดรังนกกางเขนออกมา ชีอวิ๋นถิงยิ่งโกรธจนแทบหมดสติให้ได้ “ใครมันพูดคำนี้ออกมา บอกข้ามา ข้าจะไปจัดการมัน!”

ชีจิ่นเงียบงันไม่เปล่งเสียง ฟุบหน้าลงบนโต๊ะร้องไห้ออกมาจนหัวไหล่สั่นเทิ้ม

อวิ๋นเยี่ยนทนไม่ไหวก็ร้องไห้น้ำตานองเช่นกัน “คุณชายใหญ่ หยุดถามเถิดเจ้าค่ะ! ใครบ้างไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่กลับมาได้วันเดียว ก็ไล่อวิ๋นเชวี่ยออกจากจวนไปแล้ว? แค่นี้สถานการณ์ของคุณหนูพวกข้าก็เข้าขั้นวิกฤติพอแล้ว หากล่วงเกินคุณหนูใหญ่ท่านนี้อีก วันข้างหน้าก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรแล้วเจ้าค่ะ…”

ชีอวิ๋นถิงรู้สึกเพียงว่าไฟโทสะระลอกหนึ่งปะทุขึ้นในใจ “น่าขำสิ้นดี! คุณหนูใหญ่ผู้สูงศักดิ์ที่พวกข้าจวนโหวเลี้ยงดูมาหลายปี จะสู้นางเด็กสาวบ้านนอกคนนั้นไม่ได้หรือ?! ข้าไม่สนว่าจะใช่สายเลือดเดียวกันหรือไม่อะไรนั่นหรอก ข้าชีอวิ๋นถิงมีอาจิ่นเป็นน้องสาวเพียงคนเดียว! มันผู้ใดกล้าทำให้นางเจ็บช้ำน้ำใจ ข้าจะสังหารมันผู้นั้น!”

เขากล่าวพลาง กระชากม่านกั้นประตูทิ้งและเดินออกไป ยืนใต้ชายคาและจ้องมองพวกบ่าวรับใช้ด้วยสายตาเย็นยะเยือก “พวกเจ้าทุกคนจงจับตาดูให้ดี! หากมีพวกไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนใด กล้าทำให้คุณหนูรองเดือดร้อน ข้าไม่ไว้ชีวิตพวกเจ้าแน่!”

ชีอวิ๋นถิงเป็นคุณชายใหญ่ และเป็นบุตรชายคนโตสายเลือดหลักของจวน และเป็นผู้สืบทอดจวนโหวคนต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย

ตำแหน่งภายในจวนของเขาแม้ไม่อธิบายก็เข้าใจได้ทันที มีเขาออกตัวรับรองและหนุนหลังอยู่เช่นนี้แล้ว ไม่นานบ่าวรับใช้ทั้งจวนโหวต่างรับรู้กันโดยทั่ว คุณชายใหญ่ไม่สนใจน้องสาวที่แท้จริงของตนเองแม้แต่น้อย ทว่าคนที่เขาให้ความสำคัญที่สุดยังคงเป็นคุณหนูรองผู้ซึ่งเติบโตมาด้วยกัน

เป้าหมายของชีจิ่นบรรลุผลแล้ว นางจ้องมองบ่าวรับใช้ที่คุกเข่าบนพื้นด้านนอกผ่านผ้าม่านกั้นบางๆ และกระตุกมุมปากขึ้นอย่างเยือกเย็น

ต่อให้จะกลับมาจากบ้านนอกสำเร็จแล้วจะเป็นอย่างไร?

จวนโหวไม่ได้มีแค่ชีเจิ้นคนเดียว

การเรียนรู้การเอาตัวรอดในเรือนหลังก็ไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น

นางมีชีอวิ๋นถิงและนางหวังคอยหนุนหลัง มีเส้นสายมีข่ายความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นมาสิบกว่าปี

ตราบเท่าที่นางคิดลงมือ นางมีวิธีมากมายที่พร้อมทำให้ชีหยวนไร้ที่ยืนในเรือนนี้ได้เสมอ!

ศาลบรรพชน

รับบรรพบุรุษ หวนคืนสู่ตระกูล?

เช่นนั้นก็จับตาดูให้ดี ดูสิ ว่าชีหยวนนางจะมีวาสนาอยู่ได้ถึงวันนั้นหรือเปล่า!

ชีอวิ๋นถิงเมื่อเตือนบ่าวรับใช้เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะกลับเข้าไปยืนยันกับชีจิ่นอีกครั้ง “อาจิ่น เจ้าวางใจเถิด ตราบใดที่มีข้าอยู่ ในจวนแห่งนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามข่มเหงย่ำยีเจ้า!”

ตอนที่แม่นมจางได้ยินเรื่องราวนี้ เป็นตอนที่นางกำลังช่วยชีหยวนจัดห้อง

โชคดีที่ในหอหมิงเยว่นี้มีข้าวของพร้อมพรัก นางคิดจะพักหายใจอยู่พอดี จนกระทั่งได้ยินถ้อยคำจากบุตรสาวของตนเองที่นำมาเล่าให้ฟังแล้ว ฉับพลันทันใดนั้นก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดดับไปเสียแล้ว

 
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 801

    ชีฉางถิงถึงกับตะลึงงันเขามั่นใจคิดไปเองว่า วันนี้เพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ออกมาดูตัว ออกมาพบหญิงสาวที่อาจเป็นภรรยาในอนาคตของตนแต่ไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับไม่ใช่ท่าทีความอ่อนโยนหรือความเอียงอายของหญิงสาว หากแต่เป็นคมดาบอันวาววับเย็นเยียบเขาอย่างไรเสียก็เป็นคนเกิดในตระกูลแม่ทัพ ขณะที่ตนเองแม้ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเตรียมสอบบัณฑิต แต่ทักษะการฝึกกายให้แข็งแรงก็ยังได้ฝึกมาอยู่บ้าง ทันใดนั้นจึงง้างขาเตะออกไปเต็มแรงช่องทางแคบเพียงเส้นเดียวนี้ เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ถนัดจริง ๆชีฉางถิงถอยร่นไม่หยุด เท้ายกเตะถีบต่อเนื่องไม่ขาด เฝิงไฉ่อินตัวปลอมกลับไม่อาจลงมือได้ในทันใด จึงโกรธเกรี้ยวตวาดว่า “เจ้าหาเรื่องตายงั้นหรือ!”เอ่ยพลางควักเอาลูกดอกจากเอว กระโจนขว้างไปยังชีฉางถิงอย่างแรงที่ตรงนั้นคับแคบยิ่งนัก ชีฉางถิงไม่มีทางหลบพ้น ลูกดอกปักเข้าที่บ่าของเขาเต็ม ๆ เจ็บจนร้องลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ล้มตัวลงนั่งกองกับพื้น“เตะสิ ทำไมไม่เตะต่อเล่า?” ‘เฝิงไฉ่อิน’ สีหน้าเย็นเยียบ เอียงศีรษะย่อตัวลง คว้าจับปกเสื้อชีฉางถิง แล้วชกหมัดหนึ่งเข้าที่จมูกของชีฉางถิงชีฉางถิงเลือดกำเดาทะลักออ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 800

    จะมีหนทางใดในการล้างแค้นตระกูลชีเล่า ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ?ชีหยวนคือนักฆ่า ดังนั้นนางจึงพิจารณาปัญหาจากมุมของนักฆ่า แล้วก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ เร่งฝีเท้าไปยังหลังเขาเฝิงอวี้จางก็กำลังนั่งดื่มชาอยู่กับนายท่านรองชีเขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ใครจะคิดเล่า ว่าตระกูลเราจะได้มาดองกันเช่นนี้? นี่ช่างเป็นวาสนาแท้ ๆ!”แต่นายท่านรองชีกลับรู้สึกแปลก ๆ อยู่ลึก ๆ เพราะยังมิได้ตกลงกันแท้จริง จะกล้าพูดว่าเป็นดองแล้วได้อย่างไร?เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “สุดท้ายก็ยังต้องดูว่าเด็ก ๆ จะชอบพอกันหรือไม่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หาใช่เรื่องจะสะเพร่าได้”เวลานี้คนตระกูลชีกล่าวว่าอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามนั้นเฝิงอวี้จางย่อมไม่โต้เถียง เพียงยิ้มรับคำ แต่ในใจกลับวางใจลงไปมากต่างกับไฉ่เวย ไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใครจริง ๆนางชอบอ่านตำรา และยังชอบทำความดีช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นน้องชายหรือน้องสาวถูกรังแก ก็มักออกหน้าปกป้องพวกเขาเสมอเด็กสาวเช่นนี้ เขามั่นใจว่าชีฉางถิงต้องชอบเป็นแน่ขณะนั้นเอง ชีฉางถิงกลับยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางมือไว้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 799

    ไป๋จื่อยังไม่รู้ว่ามีสิ่งใดผิดปกติ เพราะนางไม่รู้จักเฝิงไฉ่อิน แต่จนกระทั่งเห็นสีหน้าของชีหยวนเปลี่ยนไป ขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้ตรวจดูบนใบหน้าของเฝิงไฉ่อินอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋จื่อถึงเพิ่งตระหนักขึ้นมาจนอุทานเสียงหลง “คุณหนู! นาง นางไม่ใช่คุณหนูไฉ่อิน ที่เมื่อครู่เพิ่งตามคุณชายฉางถิงของเราไปยังหลังเขาหรือเจ้าคะ?!”ครานี้แม้แต่ไป๋จื่อก็รู้สึกถึงความผิดปกติ รีบกำชายเสื้อชีหยวนไว้แน่นด้วยความร้อนรน “คุณหนู ตอนนี้ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”สีหน้าของชีหยวนเยียบเย็น นางกดนิ้วลงบนจุดเหรินจง[1]ของเฝิงไฉ่อิน พลางควักเข็มทองออกมา กดให้เลือดไหลที่ปลายนิ้วของนาง ไม่นานนัก เฝิงไฉ่อินก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมานางยังคงงงงันสับสน เห็นชีหยวนกับไป๋จื่อก็เผลอพยายามจะดิ้นรนต่อต้าน ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรง ร่างจึงทรุดลงไปอีกครั้ง“เจ้าถูกวางยาสลบ” ชีหยวนเก็บเข็มทองเอียงศีรษะมองไปทีหนึ่ง แล้วถามเสียงเบา “เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”เฝิงไฉ่อินรู้สึกราวศีรษะจะแตกเป็นเสี่ยง ยกมือกดลำคอไว้ นานพอควรจึงพอมองเห็นใบหน้าชีหยวนกับไป๋จื่อได้ถนัด ก็รีบลุกขึ้นเอ่ยขอบคุณชีหยวนเพียงส่ายศีรษะเบา ๆ “ไม่เป็นไร คุณหนูเฝิง เจ้าร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 798

    ไป๋จื่อเบิกตากว้าง รีบหันไปมองไป๋อินทันทีไป๋อินก็รีบส่งสายตากะพริบตอบนางใต้เท้าไล่นี่ไม่ชอบมาพากลนัก!นี่คือ!ชีหยวนขมวดคิ้ว กวาดสายตานิ่งเรียบ พลางดันหีบกลับไปทางไล่เฉิงหลง “ไร้ความชอบไม่ขอรับรางวัลใต้เท้าไล่ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามิจำเป็นต้องมอบของกำนัลให้”แต่ไล่เฉิงหลงกลับมีท่าทีอึดอัดขึ้นมา แววตาฉายแววลังเล เงียบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ข้าตามหาของสิ่งนี้มานานนักกว่าจะได้มา ข้ามิได้มีความหมายอื่นใด เพียงหวังให้เจ้ารับไว้ เป็นน้ำใจจากสหายคนหนึ่งเท่านั้น”เขาพูดอย่างจริงใจและยังแฝงความมุ่งมั่นไม่ยอมถอยชีหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอื้อมมือรับมา เปิดฝาออกดูไป๋จื่อถึงกับรีบยกมือปิดปาก กักเสียงอุทานไว้แทบไม่ทันโอ้สวรรค์!นี่คือไข่มุกราตรีกลมเกลี้ยงเม็ดใหญ่ช่างงดงามเหลือเกิน!แถมยังเป็นสีชมพู!ไยถึงมีไข่มุกราตรีที่งามได้ถึงเพียงนี้?!ใต้เท้าไล่ไปเสาะหาของสิ่งนี้มาได้อย่างไร?!ชีหยวนเองก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน นางคิดว่าไล่เฉิงหลงกล่าวอย่างถ่อมตนเกินไป ตามหามานานกว่าจะได้มางั้นหรือ?ไม่หรอก ของเช่นนี้ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต คนส่วนมากก็ยังไม่อาจพบเจอได

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 797

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากนัก ไล่เฉิงหลงก็อธิบายต่อว่า “คุณหนูใหญ่ อย่ามองเพียงจำนวนคนที่บาดเจ็บล้มตายว่ามีน้อยนัก เทียบไม่ได้แม้แต่การรบราฆ่าฟันระหว่างกลุ่มอันธพาลในหมู่บ้านของแผ่นดินต้าโจว เดิมทีพวกเขามีกำลังคนไม่มากอยู่แล้ว”เรื่องเหล่านี้ชีหยวนรู้ดีอยู่แล้วชาติก่อนนางก็เคยปะทะกับพวกโจรสลัดมาแล้วดังนั้นพอได้ฟังคำของไล่เฉิงหลง นางจึงเพียงตอบรับเสียงเบา “ข้ารู้ อีกทั้งคนที่ตายไปล้วนเป็นนักรบและนักสู้พเนจร สำหรับพวกเขาแล้ว คนพวกนี้ล้ำค่ามากนัก”แววตาที่ไล่เฉิงหลงมองชีหยวนจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่คาดคิดเลยว่าชีหยวนจะมีความรู้กว้างไกลถึงเพียงนี้ เขารู้เพราะเดินทางข้ามทะเลไปตงอิ๋งด้วยตัวเองแต่ชีหยวนกลับรู้อยู่แล้ว!นี่จึงนับว่าความสามารถแท้จริงเขาพยักหน้า ก่อนกล่าวต่อ “ฝ่ายชินอ๋องหวยเหลียงนั้น ตอนนี้บรรดาผู้สนับสนุนก็ผลักดันให้น้องชายของเขาขึ้นครองอำนาจแทน ใช้พระนามว่าชินอ๋องชิ่งโย่ว บัดนี้พวกเขากับตระกูลซานหมิงเป็นศัตรูกันแล้ว ส่วนตงอิ๋งเวลานี้ นอกจากสองฝ่ายนี้แล้ว ยังมีอีกสามกองกำลัง หนึ่งคือราชวงศ์ เพียงแต่ทุกวันนี้องค์จักรพรรดิเป็นเพียงหุ่นเชิด ไร้อำนาจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 796

    ฮูหยินรองชีอ้าปากค้าง กัดริมฝีปากเอ่ยว่า “แต่ว่า…”ฮูหยินผู้เฒ่าชีปลอบโยนสะใภ้ “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนรน ยังมิได้ตัดสินใจแน่นอนเลย แม่หนูหยวนบอกว่า เฝิงไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ดีนัก รู้ความและว่านอนสอนง่าย อุปนิสัยก็อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย เหมาะกับฉางถิงอย่างยิ่ง”ฮูหยินรองชีจึงคลายกังวลลงบ้าง ไม่รู้ด้วยเหตุใด นางมักจะเชื่อใจชีหยวนเสมอฮูหยินผู้เฒ่าชีเห็นดังนั้นก็อดยิ้มมิได้ “อีกอย่างต้องให้เด็กทั้งสองได้พบหน้ากัน ดูใจกันก่อน แม่หนูหยวนมิใช่คนเผด็จการดันทุรัง นางก็หวังให้เรื่องคู่ครองของฉางถิงเป็นไปอย่างราบรื่น”เมื่อได้ยินดังนี้ ฮูหยินรองก็เบาใจลงในที่สุดนางถอนหายใจออกมา “เช่นนั้น ข้าจะไปถามหยวนหยวนสักหน่อย”ในตอนนี้ชีเจิ้นก็เอ่ยขึ้น “อย่าเพิ่งไปเลย ฝั่งนางกำลังยุ่งอยู่มาก”และก็เป็นเช่นนั้นจริง ชีหยวนกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในลานกับไล่เฉิงหลง เวลานี้ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ใบไม้เริ่มเหลืองซีด ร่วงหล่นลงมาอยู่บนโต๊ะหินอยู่เนือง ๆไล่เฉิงหลงมองขนมหลายจานที่วางอยู่บนโต๊ะหิน ก็หัวเราะจนตาหยี “พูดตามตรง ช่วงที่ข้าไปอยู่ที่ตงอิ๋งนั้น ทุกวันช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน! นานแล้วที่ข้าไม่ได้กิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status