Share

บทที่ 15

Author: ฉินอันอัน
ชีหยวนไม่คิดเข้าข้างตัวเองอยู่แล้วว่าแม่นมจางได้กลับไปทำความเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้วว่า เลือกอยู่ฝั่งตนเองจะมีอนาคตมากกว่า ถึงได้ตัดสินใจทิ้งความมืดมิดไปและหวนกลับสู่ความสว่างเช่นนี้

นางคิดแต่เพียงว่า การที่ออกไปและกลับเข้ามาใหม่ด้วยความคิดที่เปลี่ยนไปแล้ว ต้องมีเหตุผลอื่นอยู่แน่

ภายในจวนนี้ ใครเล่าจะสามารถทำให้แม่นมจางเปลี่ยนความคิดได้ง่ายดายเพียงนี้ และยอมมาปรนนิบัติรับใช้เคียงกายนางด้วยความยินดีปรีดาเช่นนี้อีก?

ชีเจิ้นไม่มีทางสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เด็ดขาด

นางหวังก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสำหรับนางหวังแล้ว บุตรีอย่างนางมิได้ดำรงอยู่ในสายตามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เช่นนั้นแล้ว คนที่เหลืออยู่ นับด้วยนิ้วมือก็เหลือเฟือแล้ว

ชีหยวนครุ่นคิดอะไรในใจอยู่เพลินๆ พลางมองแม่นมจางวางมาดจัดแจงเลือกบ่าวรับใช้อย่างเต็มที่

นางกวาดตามองปราดหนึ่งแล้ว บุคคลที่แม่นมจางเลือกมาล้วนแต่เป็นคนที่เขียนว่ามีความสามารถไว้บนหน้าทั้งสิ้น

ส่วนคนที่เหลือ ย่อมไม่ต้องการแล้ว

เด็กสาวคนหนึ่งอายุราวสิบสองปีรูปร่างผอมแห้งท่าทางน่าสงสาร เห็นว่าสิ้นสุดการคัดเลือกแล้วแต่ตนเองยังตกรอบเหมือนเคย น้ำตาก็ไหลพรากๆ ออกมา

คนอื่นๆ ที่ถูกเลือกก็มีเพียงไม่กี่คนที่สีหน้าดูยิ้มแย้ม ชัดเจนอย่างยิ่งว่าแทบทุกคนล้วนรู้สึกว่าคุณหนูใหญ่คนนี้ไม่มีอะไรดี

ชีหยวนมีความคิดเกิดขึ้นในใจ ก็เรียกเกาเจียที่กำลังเดินออกไปไว้ก่อน “แม่นม ข้าขอเพิ่มอีกคนหนึ่งได้หรือไม่?”

เกาเจียเหลือบมองแม่นมจางปราดหนึ่ง ชัดเจนว่าแปลกใจอยู่เล็กน้อย

ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ท่านนี้คิดอะไรอยู่ถึงได้เอ่ยปากขึ้นหลังคัดเลือกคนเสร็จแล้ว

แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แค่เลือกเพิ่มมาอีกคนหนึ่งก็สิ้นเรื่องแล้ว เกาเจียไม่ต้องการผิดใจกับคนด้วยเรื่องแบบนี้

จึงอมยิ้มพลางตอบรับคำ

เรื่องคำขู่ของคุณชายใหญ่ เกาเจียไม่ใช่ไม่ทราบ

แต่สำหรับแม่นมผู้ดูแลรับใช้เคียงกายฮูหยินอย่างนาง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหันหลังกลับมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีชีหยวนทันทีทันควันเพื่อเอาใจคุณชายใหญ่คนเดียว

ต้องรู้ไว้ว่า บัดนี้เจ้านายสูงสุดในจวนยังมีท่านโหวและฮูหยินอยู่ด้วย

ในเมื่อท่านโหวยอมรับคุณหนูใหญ่แล้ว นางย่อมยอมรับด้วยเช่นเดียวกัน

สาวใช้คนนั้นงงงันไปหมดแล้ว ชัดเจนว่าไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องจะพลิกกลับตาลปัตรเช่นนี้ ได้ยินชีหยวนขานชื่อเลือกนางด้วยตนเองแล้ว ก็รีบคุกเข่าลงโขกศีรษะเสียงดังโป๊กๆ ต่อชีหยวนทันใด โขกแรงจนผิวหนังบนหน้าผากถลอกไปชั้นหนึ่ง

เกาเจียและแม่นมจางต่างยิ้มออกมา

ชีหยวนกลับไม่ยิ้ม นางเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วค่อยให้สาวใช้คนนั้นลุกขึ้นมา

แม่นมเกาเสร็จหน้าที่แล้ว ก็กล่าวลาชีหยวน

แม่นมจางก็ถามชีหยวนอย่างกระตือรือร้น “คุณหนู บัดนี้ต้องตั้งชื่อให้พวกนางแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

ชีหยวนส่งเสียงอืมรับคำแล้ว

นางเมื่อชาติก่อนไม่เคยมีสิทธิ์เลือกสาวใช้ด้วยตนเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตั้งชื่อให้สาวใช้เลย

บัดนี้ได้เลือกแล้ว ก็ไม่มีความประทับใจอะไร

ครุ่นคิดครู่หนึ่ง นางก็เอ่ยว่า “สาวใช้ใหญ่สี่คน จงใช้ชื่อว่าไป๋จื่อ ไป๋อิน เฉินเซียง ป้านเซี่ยเถิด”

ส่วนสาวใช้รองอีกสองคน มีชื่อชั่วคราวแล้วว่าไป่เหอและเสาเย่า

ชื่อของสาวใช้งานเบ็ดเตล็ดและใช้แรงงาน ชีหยวนก็ให้พวกนางมีชื่อว่าเถาซิ่ง เหลียนจื่อ และหลีฮวากับปี้เหอ

แม่นมจางได้ยินชื่อเหล่านี้แล้ว การแสดงออกบนใบหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

นางยิ่งรู้สึกว่าชีหยวนดูไม่คล้ายคนที่เติบโตมาในชนบทเลยจริงๆ ลำพังแค่ชื่อเรียกขานเหล่านี้ที่ใช้ตั้งให้บรรดาสาวใช้ก็พอจะมองออกแล้ว

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ชีหยวนมองดูแม่นมจาง “แม่นม ท่านพาพวกนางไปอบรมระเบียบประเพณีก่อนเถิด จากนั้นค่อยพาพวกนางกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งแล้วกัน”

นางเอ่ยพลาง ก็เลื่อนมือขึ้นชี้สาวใช้คนนั้นที่โขกศีรษะจนหน้าผากถลอก “ส่วนเจ้าตามข้ามา”

แม่นมจางไม่รู้ว่าชีหยวนเห็นความพิเศษอะไรในตัวสาวใช้คนนี้หนักหนา นางยังต้องเร่งคว้าโอกาสผูกมิตรกับสาวใช้เหล่านี้ ที่หลังจากนี้จะได้อยู่เคียงกายใกล้ชิดชีหยวนไว้ก่อน จึงรีบรับคำสั่งทันใด

สาวใช้เล็กตามชีหยวนผ่านประตูเข้าไปด้านใน แล้วยืนก้มหน้าก้มตาอย่างหวาดวิตกอยู่ห่างจากชีหยวนพอประมาณ

ชีหยวนถามนางด้วยเสียงเคร่งขรึม “เจ้าอยากอยู่ที่นี่มากเลยหรือ?”

สาวใช้เล็กคุกเข่าดังฟุบลงไปอีกครั้ง

ชีหยวนขมวดคิ้ว “ลุกขึ้น!”

สาวใช้เล็กมองนางอย่างหวาดกลัว น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาทันที “คุณหนู ท่านพ่อของข้าป่วยตายไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ของข้าก็ล้มป่วยติดเตียง หากข้ายังเข้าจวนไม่ได้อีก แม้แต่โอสถคงไม่มีปัญญาหามาให้ท่านแม่ข้าได้กินแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะอย่าทอดทิ้งข้าน้อยเลย!”

แม้ว่าจะเป็นทาสที่เกิดในเรือนทั้งหมด แต่บิดาของนางเสียชีวิตไปแล้ว มารดาก็ยังป่วยติดเตียง ชีวิตรันทดเสียยิ่งกว่าพวกทาสที่ซื้อตัวมาระหว่างทางอีก

ปกติแล้วคนที่จะได้รับใช้เคียงกายเจ้านาย อย่างไรก็ไม่มีทางจะเป็นอย่างนางไปได้แน่

ต่อให้เข้าจวนมาทำงานแค่เพียงซักล้าง ล้วนต้องยัดเงินเข้ามาทั้งสิ้น

จะมีก็แต่จวนของชีหยวน คุณหนูใหญ่ผู้ซึ่งไม่เป็นที่โปรดปรานและเพิ่งถูกรับตัวกลับเข้ามาจากด้านนอกหมาดๆ ผู้นี้เท่านั้น ที่ให้นางได้มีโอกาสเข้ามาลองดู

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ แม่นมจางก็ยังคงไม่เลือกนางไว้เหมือนเคย

บัดนี้ได้รับการยอมรับจากชีหยวนแล้ว น้ำตาของสาวใช้เล็กพรั่งพรูออกมาโดยไม่อาจกลั้น ฟันบนฟันล่างก็กระทบกันไม่หยุด กลัวจนเนื้อตัวสั่นเทิ้ม

นี่ก็คือคนชนชั้นล่างสุด

ชีหยวนสามารถเข้าใจความรู้สึกของนางตอนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เพราะว่าอดีตที่ผ่านมาตนเองก็เป็นเช่นนี้

นางเอ่ยด้วยเสียงขรึมว่า “ลุกขึ้น และไม่ต้องเอาแต่คุกเข่าลงไปอีก!”

นางเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้ แต่ตัวนางเองก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถเพลิดเพลินและดื่มด่ำกับการใช้อำนาจชี้เป็นชี้ตายผู้อื่นได้โดยไม่รู้สึกผิด

และไม่มีวันเล่นกับจิตใจของมนุษย์เพื่อความสุขด้วย

สาวใช้เล็กสะอึกสะอื้นพลางหยัดกายลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของชีหยวน

ชีหยวนถามนาง “เจ้ามีนามว่าอะไร?”

สาวใช้เล็กเอ่ยปากตอบอย่างขลาดกลัว “เหลียนเฉียว ข้ามีนามว่าเหลียนเฉียวเจ้าค่ะ”

“ดีมาก เหลียนเฉียว จากนี้เจ้าเป็นคนของข้าแล้ว” ชีหยวนส่งยิ้มให้นาง “อยู่ที่นี่เถิด”

น้ำตาในดวงตาของเหลียนเฉียวยิ่งพรั่งพรูออกมารุนแรงกว่าเก่า นางคุกเข่าลงดังฟุบอีกครั้งน้อมคารวะชีหยวน “เป็นพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ท่านเป็นคนดีจริงๆ!”

ชีหยวนโบกมือ “มารดาของเจ้าป่วยหรือ?”

เอ่ยถึงมารดาขึ้นมา นัยน์ตามืดครึ้มของเหลียนเฉียวก็มีแสงประกายขึ้นมาบ้างแล้ว “เจ้าค่ะ นางถูกแม่นมในจวนขับไล่ออกไป ต้องอากาศด้านนอกจนหมดสติ และไม่มีเงินไปตามหมอมารักษา ได้แต่นอนอยู่บนเตียงเจ้าค่ะ”

ชีหยวนเดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งและเปิดลิ้นชักออกมา

ยามนี้นางยังไม่มีทรัพย์สินอะไร ในลิ้นชักมีเพียงเครื่องประดับไม่กี่ชิ้นวางอยู่อย่างบางตาเท่านั้น

นางในอดีตชาติเคยเห็นสิ่งของชั้นดีผ่านตามาบ้าง ย่อมรู้ว่าของเหล่านี้คุณภาพเป็นอย่างไร

แม้จะมีคำพูดของชีเจิ้น แต่ทว่าทุกคนในจวน ก็ยังคงสงวนท่าทีที่ปฏิบัติต่อคุณหนูใหญ่อย่างนาง และไม่เชื่อนักว่านางจะสามารถก้าวขึ้นมาอยู่เหนือกว่า และบดบังคุณหนูรองได้จริงๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร นางไม่ได้หยุดชะงักไป หยิบกำไลทองวงหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เหลียนเฉียว “เอานี่ไปรักษามารดาของเจ้าก่อนเถิด”

เหลียนเฉียวเบิกตาโพลง

นิ่งไปไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย

อันที่จริงการที่เจ้านายตกรางวัลให้สาวใช้หรือพ่อบ้านไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

แต่นางเป็นแค่สาวใช้เล็กที่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำงานอะไรเลยสักอย่างด้วยซ้ำ!

แต่ชีหยวนกับตกรางวัลอย่างงดงามให้นาง!

เหลียนเฉียวพลันรู้สึกกระวนกระวายถึงที่สุด “มะ…ไม่เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ บ่าวมิบังอาจเรียกร้องขอรางวัลราคาสูงค่าเช่นนี้จากท่านเจ้าค่ะ…”

ชีหยวนไม่พูดอ้อมค้อม เพียงแต่เลิกคิ้วและเอ่ยว่า “เจ้าไม่อยากรักษาให้มารดาหายป่วยหรือ? รับไปเถิด รักษาหายก่อนค่อยว่ากัน”

เหลียนเฉียวรับมาในที่สุด รู้สึกแค่ว่ากำไลข้อมือวงนี้หนักอึ้งยิ่งนัก ทนไม่ไหวอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

บ่าวรับใช้เหล่านั้นล้วนไม่ยอมเข้ามารับใช้คุณหนูใหญ่ที่นี่ บอกว่าคุณหนูใหญ่สู้คุณหนูรองไม่ได้ แต่ในสายตาของนาง คุณหนูใหญ่ดีที่สุดแล้วจริงๆ

ที่ใดเล่าจะหาเจ้านายที่เห็นอกเห็นใจบ่าวรับใช้แบบนี้ได้อีก!

ขณะที่กำลังเอ่ยอยู่นั้น แม่นมจางก็แหวกม่านกั้นประตูเดินเข้ามาแล้ว หยุดยืนอยู่ข้างธรณีประตูพลางกวาดสายตาปราดหนึ่งมองเหลียนเฉียวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยกับชีหยวนว่า “คุณหนูใหญ่ ทุกคนล้วนรู้จักระเบียบประเพณีดีแล้วเจ้าค่ะ ทางฮูหยินส่งคนมา แจ้งว่าให้ท่านไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน”

 
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 801

    ชีฉางถิงถึงกับตะลึงงันเขามั่นใจคิดไปเองว่า วันนี้เพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ออกมาดูตัว ออกมาพบหญิงสาวที่อาจเป็นภรรยาในอนาคตของตนแต่ไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับไม่ใช่ท่าทีความอ่อนโยนหรือความเอียงอายของหญิงสาว หากแต่เป็นคมดาบอันวาววับเย็นเยียบเขาอย่างไรเสียก็เป็นคนเกิดในตระกูลแม่ทัพ ขณะที่ตนเองแม้ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเตรียมสอบบัณฑิต แต่ทักษะการฝึกกายให้แข็งแรงก็ยังได้ฝึกมาอยู่บ้าง ทันใดนั้นจึงง้างขาเตะออกไปเต็มแรงช่องทางแคบเพียงเส้นเดียวนี้ เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ถนัดจริง ๆชีฉางถิงถอยร่นไม่หยุด เท้ายกเตะถีบต่อเนื่องไม่ขาด เฝิงไฉ่อินตัวปลอมกลับไม่อาจลงมือได้ในทันใด จึงโกรธเกรี้ยวตวาดว่า “เจ้าหาเรื่องตายงั้นหรือ!”เอ่ยพลางควักเอาลูกดอกจากเอว กระโจนขว้างไปยังชีฉางถิงอย่างแรงที่ตรงนั้นคับแคบยิ่งนัก ชีฉางถิงไม่มีทางหลบพ้น ลูกดอกปักเข้าที่บ่าของเขาเต็ม ๆ เจ็บจนร้องลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ล้มตัวลงนั่งกองกับพื้น“เตะสิ ทำไมไม่เตะต่อเล่า?” ‘เฝิงไฉ่อิน’ สีหน้าเย็นเยียบ เอียงศีรษะย่อตัวลง คว้าจับปกเสื้อชีฉางถิง แล้วชกหมัดหนึ่งเข้าที่จมูกของชีฉางถิงชีฉางถิงเลือดกำเดาทะลักออ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 800

    จะมีหนทางใดในการล้างแค้นตระกูลชีเล่า ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ?ชีหยวนคือนักฆ่า ดังนั้นนางจึงพิจารณาปัญหาจากมุมของนักฆ่า แล้วก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ เร่งฝีเท้าไปยังหลังเขาเฝิงอวี้จางก็กำลังนั่งดื่มชาอยู่กับนายท่านรองชีเขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ใครจะคิดเล่า ว่าตระกูลเราจะได้มาดองกันเช่นนี้? นี่ช่างเป็นวาสนาแท้ ๆ!”แต่นายท่านรองชีกลับรู้สึกแปลก ๆ อยู่ลึก ๆ เพราะยังมิได้ตกลงกันแท้จริง จะกล้าพูดว่าเป็นดองแล้วได้อย่างไร?เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “สุดท้ายก็ยังต้องดูว่าเด็ก ๆ จะชอบพอกันหรือไม่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หาใช่เรื่องจะสะเพร่าได้”เวลานี้คนตระกูลชีกล่าวว่าอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามนั้นเฝิงอวี้จางย่อมไม่โต้เถียง เพียงยิ้มรับคำ แต่ในใจกลับวางใจลงไปมากต่างกับไฉ่เวย ไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใครจริง ๆนางชอบอ่านตำรา และยังชอบทำความดีช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นน้องชายหรือน้องสาวถูกรังแก ก็มักออกหน้าปกป้องพวกเขาเสมอเด็กสาวเช่นนี้ เขามั่นใจว่าชีฉางถิงต้องชอบเป็นแน่ขณะนั้นเอง ชีฉางถิงกลับยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางมือไว้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 799

    ไป๋จื่อยังไม่รู้ว่ามีสิ่งใดผิดปกติ เพราะนางไม่รู้จักเฝิงไฉ่อิน แต่จนกระทั่งเห็นสีหน้าของชีหยวนเปลี่ยนไป ขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้ตรวจดูบนใบหน้าของเฝิงไฉ่อินอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋จื่อถึงเพิ่งตระหนักขึ้นมาจนอุทานเสียงหลง “คุณหนู! นาง นางไม่ใช่คุณหนูไฉ่อิน ที่เมื่อครู่เพิ่งตามคุณชายฉางถิงของเราไปยังหลังเขาหรือเจ้าคะ?!”ครานี้แม้แต่ไป๋จื่อก็รู้สึกถึงความผิดปกติ รีบกำชายเสื้อชีหยวนไว้แน่นด้วยความร้อนรน “คุณหนู ตอนนี้ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”สีหน้าของชีหยวนเยียบเย็น นางกดนิ้วลงบนจุดเหรินจง[1]ของเฝิงไฉ่อิน พลางควักเข็มทองออกมา กดให้เลือดไหลที่ปลายนิ้วของนาง ไม่นานนัก เฝิงไฉ่อินก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมานางยังคงงงงันสับสน เห็นชีหยวนกับไป๋จื่อก็เผลอพยายามจะดิ้นรนต่อต้าน ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรง ร่างจึงทรุดลงไปอีกครั้ง“เจ้าถูกวางยาสลบ” ชีหยวนเก็บเข็มทองเอียงศีรษะมองไปทีหนึ่ง แล้วถามเสียงเบา “เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”เฝิงไฉ่อินรู้สึกราวศีรษะจะแตกเป็นเสี่ยง ยกมือกดลำคอไว้ นานพอควรจึงพอมองเห็นใบหน้าชีหยวนกับไป๋จื่อได้ถนัด ก็รีบลุกขึ้นเอ่ยขอบคุณชีหยวนเพียงส่ายศีรษะเบา ๆ “ไม่เป็นไร คุณหนูเฝิง เจ้าร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 798

    ไป๋จื่อเบิกตากว้าง รีบหันไปมองไป๋อินทันทีไป๋อินก็รีบส่งสายตากะพริบตอบนางใต้เท้าไล่นี่ไม่ชอบมาพากลนัก!นี่คือ!ชีหยวนขมวดคิ้ว กวาดสายตานิ่งเรียบ พลางดันหีบกลับไปทางไล่เฉิงหลง “ไร้ความชอบไม่ขอรับรางวัลใต้เท้าไล่ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามิจำเป็นต้องมอบของกำนัลให้”แต่ไล่เฉิงหลงกลับมีท่าทีอึดอัดขึ้นมา แววตาฉายแววลังเล เงียบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ข้าตามหาของสิ่งนี้มานานนักกว่าจะได้มา ข้ามิได้มีความหมายอื่นใด เพียงหวังให้เจ้ารับไว้ เป็นน้ำใจจากสหายคนหนึ่งเท่านั้น”เขาพูดอย่างจริงใจและยังแฝงความมุ่งมั่นไม่ยอมถอยชีหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอื้อมมือรับมา เปิดฝาออกดูไป๋จื่อถึงกับรีบยกมือปิดปาก กักเสียงอุทานไว้แทบไม่ทันโอ้สวรรค์!นี่คือไข่มุกราตรีกลมเกลี้ยงเม็ดใหญ่ช่างงดงามเหลือเกิน!แถมยังเป็นสีชมพู!ไยถึงมีไข่มุกราตรีที่งามได้ถึงเพียงนี้?!ใต้เท้าไล่ไปเสาะหาของสิ่งนี้มาได้อย่างไร?!ชีหยวนเองก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน นางคิดว่าไล่เฉิงหลงกล่าวอย่างถ่อมตนเกินไป ตามหามานานกว่าจะได้มางั้นหรือ?ไม่หรอก ของเช่นนี้ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต คนส่วนมากก็ยังไม่อาจพบเจอได

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 797

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากนัก ไล่เฉิงหลงก็อธิบายต่อว่า “คุณหนูใหญ่ อย่ามองเพียงจำนวนคนที่บาดเจ็บล้มตายว่ามีน้อยนัก เทียบไม่ได้แม้แต่การรบราฆ่าฟันระหว่างกลุ่มอันธพาลในหมู่บ้านของแผ่นดินต้าโจว เดิมทีพวกเขามีกำลังคนไม่มากอยู่แล้ว”เรื่องเหล่านี้ชีหยวนรู้ดีอยู่แล้วชาติก่อนนางก็เคยปะทะกับพวกโจรสลัดมาแล้วดังนั้นพอได้ฟังคำของไล่เฉิงหลง นางจึงเพียงตอบรับเสียงเบา “ข้ารู้ อีกทั้งคนที่ตายไปล้วนเป็นนักรบและนักสู้พเนจร สำหรับพวกเขาแล้ว คนพวกนี้ล้ำค่ามากนัก”แววตาที่ไล่เฉิงหลงมองชีหยวนจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่คาดคิดเลยว่าชีหยวนจะมีความรู้กว้างไกลถึงเพียงนี้ เขารู้เพราะเดินทางข้ามทะเลไปตงอิ๋งด้วยตัวเองแต่ชีหยวนกลับรู้อยู่แล้ว!นี่จึงนับว่าความสามารถแท้จริงเขาพยักหน้า ก่อนกล่าวต่อ “ฝ่ายชินอ๋องหวยเหลียงนั้น ตอนนี้บรรดาผู้สนับสนุนก็ผลักดันให้น้องชายของเขาขึ้นครองอำนาจแทน ใช้พระนามว่าชินอ๋องชิ่งโย่ว บัดนี้พวกเขากับตระกูลซานหมิงเป็นศัตรูกันแล้ว ส่วนตงอิ๋งเวลานี้ นอกจากสองฝ่ายนี้แล้ว ยังมีอีกสามกองกำลัง หนึ่งคือราชวงศ์ เพียงแต่ทุกวันนี้องค์จักรพรรดิเป็นเพียงหุ่นเชิด ไร้อำนาจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 796

    ฮูหยินรองชีอ้าปากค้าง กัดริมฝีปากเอ่ยว่า “แต่ว่า…”ฮูหยินผู้เฒ่าชีปลอบโยนสะใภ้ “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนรน ยังมิได้ตัดสินใจแน่นอนเลย แม่หนูหยวนบอกว่า เฝิงไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ดีนัก รู้ความและว่านอนสอนง่าย อุปนิสัยก็อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย เหมาะกับฉางถิงอย่างยิ่ง”ฮูหยินรองชีจึงคลายกังวลลงบ้าง ไม่รู้ด้วยเหตุใด นางมักจะเชื่อใจชีหยวนเสมอฮูหยินผู้เฒ่าชีเห็นดังนั้นก็อดยิ้มมิได้ “อีกอย่างต้องให้เด็กทั้งสองได้พบหน้ากัน ดูใจกันก่อน แม่หนูหยวนมิใช่คนเผด็จการดันทุรัง นางก็หวังให้เรื่องคู่ครองของฉางถิงเป็นไปอย่างราบรื่น”เมื่อได้ยินดังนี้ ฮูหยินรองก็เบาใจลงในที่สุดนางถอนหายใจออกมา “เช่นนั้น ข้าจะไปถามหยวนหยวนสักหน่อย”ในตอนนี้ชีเจิ้นก็เอ่ยขึ้น “อย่าเพิ่งไปเลย ฝั่งนางกำลังยุ่งอยู่มาก”และก็เป็นเช่นนั้นจริง ชีหยวนกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในลานกับไล่เฉิงหลง เวลานี้ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ใบไม้เริ่มเหลืองซีด ร่วงหล่นลงมาอยู่บนโต๊ะหินอยู่เนือง ๆไล่เฉิงหลงมองขนมหลายจานที่วางอยู่บนโต๊ะหิน ก็หัวเราะจนตาหยี “พูดตามตรง ช่วงที่ข้าไปอยู่ที่ตงอิ๋งนั้น ทุกวันช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน! นานแล้วที่ข้าไม่ได้กิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status