Share

บทที่ 5

Author: ฉินอันอัน
สวี่อินอินเป็นที่รักของผู้คนในหมู่บ้าน

ต่างจากคนขายเนื้อสวี่และหลี่ซิ่วเหนียงที่ใจดำ สวี่อินอินเป็นเด็กที่เชื่อฟังและรู้ความ คนเราย่อมมีความรู้สึก เห็นสวี่อินอินอายุยังน้อยแต่ต้องลำบากเช่นนี้ คนในหมู่บ้านจึงดูแลนางเป็นพิเศษ

สวี่อินอินก็เป็นเด็กที่รู้จักบุญคุณ กินข้าวบ้านไหนก็ไปช่วยเขาเลี้ยงหมู ดื่มน้ำบ้านใครก็ไปช่วยเขาตัดฟืน

ดังนั้นตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านมองนาง ก็เหมือนกับมองลูกหลานของตัวเอง

ยังไม่ทันได้กลับไป บ่าวไพร่ของจวนโหวก็คิดจะฆ่าสวี่อินอินแล้ว ถ้ากลับไป จะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร?

อีกอย่าง อย่างน้อยในหมู่บ้าน สวี่อินอินก็เข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี หากนางสามารถยืนหยัดอยู่ในจวนโหวได้ ในอนาคตก็จะเป็นผลดีต่อหมู่บ้านด้วย

เขาตอบรับทันที “ได้! แม่หนูไม่ต้องกลัว ข้าจะไปแจ้งหน่วยปราบปรามเดี๋ยวนี้!”

เห็นหัวหน้าหมู่บ้านกำลังจะไปแจ้งทางการจริง ๆ บ่าวไพร่ของจวนหย่งผิงโหวก็นั่งไม่ติดแล้ว

โดยเฉพาะสาวใช้ที่แต่งตัวงดงามคนนั้น นางรู้ดีแก่ใจว่าแม่นมฮวาตั้งใจนัดสวี่อินอินไปที่ริมทะเลสาบ เพื่อจะฆ่าสวี่อินอินให้จมน้ำตายจริง ๆ

หากแจ้งทางการจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จวนโหวจะเสียหน้า

ตัวนางเองก็ทนวิธีการลงโทษเหล่านั้นของทางการไม่ไหว หากพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป เช่นนั้น...คุณชายใหญ่และคุณหนูใหญ่จะไม่โมโหจนกินนางทั้งเป็นเลยหรือ?

นางลนลานขึ้นมาทันที รีบหันไปมองแม่นมผู้ดูแลอีกคน “แม่นมจาง ท่านดูคุณหนูของพวกเราสิ ไม่รู้จักขอบเขตเลยสักนิด เรื่องแค่นี้ จะไปแจ้งทางการทำไมกัน?”

แม่นมจางทำหน้าเคร่งขรึม นางผ่านโลกแม่นมก จะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าเรื่องนี้มีลับลมคมใน?

ใครอยู่เบื้องหลังแม่นมฮวา แค่คิดคร่าว ๆ นางก็เดาออกแล้ว

เป็นเพราะเดาออก นางจึงปวดหัวอย่างหนัก แต่ก็ยังต้องกัดฟันเข้าไปเจรจากับสวี่อินอิน “คุณหนู ท่านยังไม่ได้กลับเมืองหลวง อาจจะยังไม่ทราบกฎระเบียบในตระกูลเรา...”

ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครสนใจสวี่อินอินจริง ๆ จัง ๆ สักคน ต่างก็เห็นนางเป็นแค่เด็กสาวบ้านนอกที่หลอกได้ง่าย ๆ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เด็กสาวบ้านนอกคนนี้จะรับมือได้ยากอยู่เหมือนกัน

แม่นมจางหยิบยกกฎของจวนโหวมาข่มสวี่อินอิน ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “นายท่านในตระกูลล้วนแต่มีหน้ามีตา เรื่องของบ่าวไพร่คนเดียว เหตุใดจึงต้องวุ่นวายถึงขั้นไปแจ้งทางการด้วยเล่า?”

พูดจาอ่อนหวานมากมาย ดูเหมือนจะหวังดีกับสวี่อินอิน

หากสวี่อินอินรู้ความ ก็ควรจะยอมถอย

แม่นมจางยิ้มเล็กน้อย “นายท่านทุกคนรอคุณหนูกลับบ้านอยู่ คุณหนู พวกเราทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กก็ทำให้มันจบไป ดีหรือไม่?”

คำพูดเหล่านี้ฟังดูมีเหตุผล ดูเหมือนจะนึกถึงสวี่อินอินในทุก ๆ ด้าน

แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็มองสวี่อินอินด้วยความกังวลใจ อยากให้สวี่อินอินตอบตกลง

เมื่อเห็นว่าพอประมาณแล้วก็หยุดก่อนเถิด คนมีเงินมีอำนาจเขาก็ให้ความสำคัญกับหน้าตามากกว่าสิ่งอื่นใด สวี่อินอินยังไม่ทันได้กลับไปก็มีเรื่องไปถึงทางการก่อนแล้ว พวกเขาจะชอบใจได้อย่างไรเล่า?

หากเป็นสวี่อินอินในชาติที่ก่อน เดินมาถึงขั้นนี้ได้ ก็คงสำนึกบุญคุณแล้ว

แต่นางไม่ใช่เด็กสาวลูกชาวบ้านที่ขี้ขลาดและอ่อนแอในชาติที่แล้วอีกต่อไป การถอยหนึ่งก้าวไม่ได้ทำให้ปัญหาคลี่คลาย มีแต่จะทำให้แย่ลงกว่าเดิม

นางมองแม่นมจางด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่สนใจสายตาของคนอื่น บิดเสื้อผ้าที่เปียกโชกของตัวเอง ก่อนจะนั่งลงบนก้อนหินข้าง ๆ “ไปเชิญคนที่มีอำนาจสั่งพวกเจ้ามาคุยกับข้า!”

ทุกคนต่างตกตะลึง

แม่นมจางก็รู้สึกโกรธเช่นกัน เด็กสาวบ้านนอกคนนี้เหตุใดถึงไร้มารยาทเช่นนี้?

นางแสร้งยิ้ม “คุณหนู ท่านดูสิ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว พวกเรากลับถึงเมืองหลวงก็คงจะเย็นมากแล้ว อย่าทำให้เสียเวลากันอีกเลยนะ? อีกอย่าง ผู้อาวุโสต่างรอพบหน้าท่านอยู่ ท่านไม่อยากเจอพวกเขาเร็ว ๆ หรือ?”

สวี่อินอินไม่สะทกสะท้าน เห็นได้ชัดว่านางดูย่ำแย่ ทั้งตัวเปียกโชก ลมพัดมาทีหน้าก็ซีดเซียว

แต่เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ นางกลับไม่หลบเลี่ยง ยืดหลังตรงอย่างสง่าผ่าเผย “ข้าบอกแล้วว่า ให้คนที่มีอำนาจสั่งพวกเจ้ามาคุยกับข้า! ไม่เช่นนั้นก็แจ้งทางการ!”

สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามคนนั้นทนไม่ไหว จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหลมคม “คุณหนูใหญ่ ท่านต้องการอะไรกันแน่?!”

สวี่อินอินยิ้มเยาะและหันกลับมาถามอย่างช้า ๆ “เจ้าเป็นใครกัน?”

“ท่าน...” สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามทนไม่ไหวอีกต่อไป “ข้าคืออวิ๋นเชวี่ย บ่าวรับใช้ข้างกายของคุณหนูรอง!”

สวี่อินอินก้มหน้าลง บิดชายเสื้อของตัวเองอย่างช้า ๆ แล้วตอบรับโอ้ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่คล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ก็แค่สาวใช้คนหนึ่ง ข้าก็นึกว่าเจ้าเป็นคุณหนูรองเสียอีก”

อวิ๋นเชวี่ยทำท่าทางหยิ่งผยองราวกับไก่ตัวผู้ “คุณหนูใหญ่พูดแบบนี้ได้อย่างไร คุณหนูรองของพวกเราเป็นถึงคุณหนูผู้สูงศักดิ์ บ่าวไพร่อย่างข้าจะเทียบได้อย่างไร?”

“คุณหนูผู้สูงศักดิ์?” สวี่อินอินจ้องมองนางตรง ๆ “นางที่เป็นลูกสาวชาวบ้านถูกอุ้มสลับมา กลับเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ แล้วข้าที่เป็นคุณหนูใหญ่ตัวจริง กลับกลายเป็นเด็กสาวบ้านนอก ใช่หรือไม่?”

อวิ๋นเชวี่ยถูกย้อนถามจนพูดไม่ออก

เด็กสาวบ้านนอกคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆ ถามคำถามที่ยากจะรับมือ

สวี่อินอินลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่าวไพร่ที่จวนหย่งผิงโหวพามา สีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง “ข้ายังไม่ทันได้กลับไป บ่าวไพร่ของพวกเจ้าก็คิดจะฆ่าข้า! พอฆ่าข้าไม่สำเร็จ กลับมาใส่ร้ายป้ายสีข้า!”

สีหน้าของแม่นมจางและอวิ๋นเชวี่ยค่อย ๆ ซีดเผือด

สวี่อินอินช่างปากคอเราะรายจริง ๆ ! พูดจาฉะฉาน แถมแต่ละคำเหมือนคมมีด ไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่าย ๆ

“ถ้าต้องนับญาติเช่นนี้ ข้าสวี่อินอินไม่ขอยอมรับ!”

เรื่องที่จวนหย่งผิงโหวทำคุณหนูใหญ่หายตัวไปตั้งนานแล้ว เป็นเรื่องที่รู้กันไปทั่ว หากสวี่อินอินไม่กลับไป ยังไม่ต้องพูดถึงคำครหาของคนภายนอก

ลำพังแค่นายท่านทั้งหลายของจวนหย่งผิงโหวก็คงจะเสียหน้าไม่เบา

อวิ๋นเชวี่ยยังคงบ่นพึมพำไม่หยุด “ก็แค่เด็กที่โตมาจากชนบท จะไปเทียบกับคุณหนูรองของพวกเราได้อย่างไร แถมยังไม่รู้จักพอ ไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองหน่อยว่าเหมาะสมหรือไม่!”

ยังพูดไม่ทันจบ แม่นมจางก็หันกลับมา จากนั้นตบหน้านางอย่างแรง

อวิ๋นเชวี่ยถูกตบจนตาเบิกกว้าง “แม่นม!”

นางเป็นคนสนิทของคุณหนูรองชีจิ่นเชียวนะ! แม่นมจางบ้าไปแล้วหรือ?

แม่นมจางกัดฟันชี้หน้านาง “นางตัวดีทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องมีแต่จะทำให้เสียการ! ไสหัวไป!”

ถึงอย่างไรแม่นมจางก็เป็นแม่นมผู้ดูแล แม้ว่าอวิ๋นเชวี่ยจะยังไม่ยอมรับ แต่ก็รู้ว่าหากเถียงต่อไป ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดี จึงได้แต่เอามือปิดหน้าแล้วถอยออกไป

บ่าวไพร่คนอื่น ๆ ของจวนหย่งผิงโหวล้อมรอบแม่นมจาง “แม่นม ท่านว่าเรื่องนี้จะทำอย่างไรดี? คุณหนูใหญ่ท่านนี้ ดูท่าจะไม่...”

ไม่ได้รับมือง่าย ๆ หลอกยาก มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนฉลาด

แม่นมจางไม่สบอารมณ์ “เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว จะทำอย่างไรได้อีก? คงไม่ปล่อยให้นางไปแจ้งทางการจริง ๆ หรอกนะ? พวกเจ้าอยู่ดูแลคุณหนูตรงนี้ ข้าจะกลับไปแจ้งฮูหยิน!”

ทุกคนต่างประหลาดใจ “แม่นมจาง จะกลับไปตามที่นางบอกจริง ๆ หรือ?”

จวนหย่งผิงโหวแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้ใส่ใจคุณหนูใหญ่ที่ถูกเลี้ยงดูในชนบทมาสิบกว่าปีมากนัก มิฉะนั้นคงไม่ส่งแค่บ่าวไพร่มาต้อนรับโดยไม่มีนายท่านมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียว

แม่นมจางรู้สึกรำคาญใจอย่างยิ่ง “ไม่เช่นนั้นจะปล่อยให้เรื่องอับอายไปถึงทางการหรือ?”

นางจ้องมองทุกคนพร้อมกับเตือน “ดูแลคุณหนูใหญ่ให้ดี อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นอีก ถ้าเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาอีก ข้าก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้แล้ว!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ส่งแต่บ่าวรับใช้มารับตัว แสดงว่าไม่มีใครใส่ใจให้กลับไป งั้นก็ไม่ต้องไปจะดีกว่ามั้ย แถมบ่าวแต่ละตัวที่มา เหมือนส่งมาฆ่ามากกว่ามารับตัวซะอีก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 805

    ชีหยวนรับรู้ได้นางขมวดคิ้ว ถอนมือกลับมา กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ก็แค่เรื่องเล็กน้อย มิใช่เรื่องใหญ่อันใด อีกไม่กี่วันก็คงหายเอง”แท้จริงนางคิดเช่นนี้เอง ไม่ว่าบาดแผลจะหนักหนาเพียงใด นางกลับเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกไม่กี่วันก็คงหายไล่เฉิงหลงพลันโกรธขึ้นมาเล็กน้อยทว่าเขาย่อมรู้ดีว่าโทสะนี้หาใช่มีเหตุผลอันใดไม่คุณหนูใหญ่ชีเป็นอะไรกับเขากัน?หากจะนับให้ชัด ก็เพียงสหายร่วมงาน เป็นผู้มีพระคุณแต่ทว่า หัวใจเขากลับมิยอมเชื่อฟังคำสั่งตนเองตั้งแต่เมื่อใดกัน ที่เขาเริ่มมีใจต่อคุณหนูใหญ่ชี?ไล่เฉิงหลงครุ่นคิดเนิ่นนาน แต่ก็หานึกไม่ออกว่าคือเวลาใดแน่ชัดทว่า มีอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่เขาจำได้อย่างชัดแจ้งคืนที่ชีหยวนออกไปสังหารองค์หญิงเป่าหรงทั้ง ๆ ที่เขาสะสางเรื่องของชินอ๋องหวยเหลียงเสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังเจตนาอ้อมไปยังหน้าผา ทอดมองผนังภูเขาสูงชัน และไม้เลื้อยกับต้นเถาวัลย์เหล่านั้น แล้วก็ยืนเหม่อลอยอยู่เนิ่นนานชั่วขณะนั้น ทั้งที่เขามองไม่เห็นแม้เพียงเงาร่างของชีหยวน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีหยวนปีนขึ้นไปแล้วหรือไม่แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขารู้สึกว่าเพียงยืนรออยู่เบื้องล่าง คอยรออยู่ชั่วขณะ ก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 804

    สวี่เฟิ่งเชี่ยวอยู่ด้านล่างโกรธจนกระทืบเท้า จะไล่ตามไปโดยสัญชาตญาณทว่าพอเพิ่งจะลงมาถึงข้างล่าง ชีหยวนก็หันกายกลับพลันพุ่งตัวโถมลงมาอย่างแรง กดทับสวี่เฟิ่งเชี่ยวล้มกระแทกลงกับพื้น ตัวนางกดร่างของสวี่เฟิ่งเชี่ยวไว้แน่นหนาสวี่เฟิ่งเชี่ยวถึงกับตะลึงงันไป เผลอหลุดคำด่าออกมา “เจ้าคนชั่ว! เจ้าคนหลอกลวง! เจ้านี่เหมือนที่ท่านอ๋องกล่าวไว้ไม่มีผิด ปากไม่เคยพูดความจริงเลยสักคำ!”ครั้งนี้ชีหยวนไม่ตอบโต้สักคำ ไม่พูดพร่ำทำเพลงฟาดฝ่ามือลงไปฉาดใหญ่ทันที จนหูของสวี่เฟิ่งเชี่ยวอื้ออึงขึ้นมาในบัดดลโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ชีหยวนฟาดฝ่ามือที่สองลงไปอีกจากนั้น ไม่รอให้สวี่เฟิ่งเชี่ยวได้ตั้งตัวเปล่งเสียงด่าออกมา ก็ตามติดด้วยฉาดที่สาม และต่อด้วยฉาดที่สี่……ตบไม่หยุดจนสองแก้มของสวี่เฟิ่งเชี่ยวบวมพองประหนึ่งหัวหมู พูดเป็นประโยคเต็ม ๆ สักคำก็มิอาจเปล่งออกมาได้ชีหยวนจึงเอ่ยเสียงเย็น “ข้าชิงชังผู้อื่นมาตบหน้าข้าเป็นที่สุด”ครั้งหนึ่งในอดีต ตอนที่นางอยู่ในค่ายฝึกหน่วยกล้าตาย รุ่นพี่ที่สอนนางในตอนนั้น มักจะชอบตบหน้าผู้อื่นทำท่าท่าไม่คล่องแคล่ว ปฏิบัติภารกิจพลาด ก็ต้องถูกตบหน้าตอนนั้นนางไม่เคยแม้แต่จะคิด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 803

    แส้ของสวี่เฟิ่งเชี่ยวนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลม ครั้นเมื่อชีหยวนเอื้อมมือคว้าจับ ก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงพุ่งแล่นเข้ามาโดยปกติแล้ว นางเป็นผู้ที่มีอดทนต่อความเจ็บปวดได้เป็นพิเศษ ทว่าครั้งนี้ แม้แต่ตัวนางเองยังเกือบกลั้นไม่อยู่เฉียดจะอุทานร้องออกมาทว่านางก็ยังกัดฟันข่มทนไว้ได้ ผลักสวี่เฟิ่งเชี่ยวกระแทกเข้ากับผนังเขาอย่างแรงชีฉางถิงก็พลันคลานออกไปได้สำเร็จในที่สุดชีหยวนจึงค่อยๆ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ยังไม่ทันจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ สวี่เฟิ่งเชี่ยวก็หัวเราะเย็นอย่างเหี้ยมเกรียมใส่ชีหยวน “คำร่ำลือในยุทธภพ ต่างพูดกันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชี เป็นผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่ว่าต่อผู้ใดก็เย็นชาเฉยเมยไปเสียหมด บัดนี้ดูไปแล้ว คำร่ำลือนั้นก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสียทั้งหมดนะ?”นางพลิกมือกลับบิดข้อศอกของชีหยวน พลันออกแรง ผลักกลับอย่างฉับพลัน พลันทำให้ชีหยวนถูกกดเข้ากับผนังหน้าผาแทน จ้องมองเลือดในฝ่ามือของชีหยวนแล้วหรี่ตาลง “จุ๊ ๆ ๆ เพียงเพื่อน้องชาย เจ้ากลับยอมสละได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดท่านอ๋องถึงเอ่ยว่าเจ้านั้นไร้หัวใจไร้ธรรมเล่า?”“ท่านอ๋อง?”ชีหยวนแค่นหัวเราะออกมา “ใช่แล้วสิ เหตุใดท่านอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 802

    ความสามารถทั้งปวงของสวี่เฟิ่งเชี่ยวนั้น ล้วนเรียนติดมาจากสวี่ไห่และตงอิ๋งเรียกได้ว่า นางเติบโตขึ้นท่ามกลางกองซากศพตั้งแต่เยาว์วัยด้วยเหตุนี้ นางจึงมิได้ให้เกียรติแก่ชีวิตใด ๆ เลย มองข้ามไปอย่างสิ้นเชิงช่างเป็นผู้ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาจริงๆชีหยวนเคยปะทะกับนางมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นองค์หญิงเป่าหรงถูกกักขังแล้ว สวี่เฟิ่งเชี่ยวกับองค์หญิงเป่าหรงสนิทชิดใกล้ นางจึงมาหาเรื่องชีหยวนเพื่อองค์หญิงเป่าหรงนางกดบ่าของชีหยวน แล้วผลักนางลงมาจากหอคอยสูงเจ็ดชั้นโชคดีที่ชีหยวนตอบสนองรวดเร็ว ยึดกิ่งไม้ของต้นไม้โบราณที่ข้าง ๆ ได้ทัน จึงพอชะลอแรงตกลงมาได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคงสิ้นไปแล้วหากว่ากันตามจริง ความสามารถของสวี่เฟิ่งเชี่ยวหาได้ด้อยกว่านางไม่เลยแต่ชีหยวนกลับมิได้กังวล เพียงเอ่ยอุทานเอะใจ “เหตุใดฮองเฮาแห่งท้องทะเลเช่นเจ้า ถึงได้มาที่เมืองหลวงได้ แล้วยังปลอมปนเข้ามาเป็นสตรีในตระกูลเฝิง กลายเป็นคุณหนูเฝิงไปเสียได้?”สายตาที่สวี่เฟิ่งเชี่ยวมองชีหยวนนั้น ตั้งแต่วินาทีแรกก็ผิดแปลกไปแล้วสตรีผู้นี้กลับรู้จักตนและดูเหมือนจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนอย่างถ่องแท้นางวางมือไว้ตรงเอวราวไม่ใส่ใจ พลา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 801

    ชีฉางถิงถึงกับตะลึงงันเขามั่นใจคิดไปเองว่า วันนี้เพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ออกมาดูตัว ออกมาพบหญิงสาวที่อาจเป็นภรรยาในอนาคตของตนแต่ไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับไม่ใช่ท่าทีความอ่อนโยนหรือความเอียงอายของหญิงสาว หากแต่เป็นคมดาบอันวาววับเย็นเยียบเขาอย่างไรเสียก็เป็นคนเกิดในตระกูลแม่ทัพ ขณะที่ตนเองแม้ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเตรียมสอบบัณฑิต แต่ทักษะการฝึกกายให้แข็งแรงก็ยังได้ฝึกมาอยู่บ้าง ทันใดนั้นจึงง้างขาเตะออกไปเต็มแรงช่องทางแคบเพียงเส้นเดียวนี้ เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ถนัดจริง ๆชีฉางถิงถอยร่นไม่หยุด เท้ายกเตะถีบต่อเนื่องไม่ขาด เฝิงไฉ่อินตัวปลอมกลับไม่อาจลงมือได้ในทันใด จึงโกรธเกรี้ยวตวาดว่า “เจ้าหาเรื่องตายงั้นหรือ!”เอ่ยพลางควักเอาลูกดอกจากเอว กระโจนขว้างไปยังชีฉางถิงอย่างแรงที่ตรงนั้นคับแคบยิ่งนัก ชีฉางถิงไม่มีทางหลบพ้น ลูกดอกปักเข้าที่บ่าของเขาเต็ม ๆ เจ็บจนร้องลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ล้มตัวลงนั่งกองกับพื้น“เตะสิ ทำไมไม่เตะต่อเล่า?” ‘เฝิงไฉ่อิน’ สีหน้าเย็นเยียบ เอียงศีรษะย่อตัวลง คว้าจับปกเสื้อชีฉางถิง แล้วชกหมัดหนึ่งเข้าที่จมูกของชีฉางถิงชีฉางถิงเลือดกำเดาทะลักออ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 800

    จะมีหนทางใดในการล้างแค้นตระกูลชีเล่า ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ?ชีหยวนคือนักฆ่า ดังนั้นนางจึงพิจารณาปัญหาจากมุมของนักฆ่า แล้วก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ เร่งฝีเท้าไปยังหลังเขาเฝิงอวี้จางก็กำลังนั่งดื่มชาอยู่กับนายท่านรองชีเขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ใครจะคิดเล่า ว่าตระกูลเราจะได้มาดองกันเช่นนี้? นี่ช่างเป็นวาสนาแท้ ๆ!”แต่นายท่านรองชีกลับรู้สึกแปลก ๆ อยู่ลึก ๆ เพราะยังมิได้ตกลงกันแท้จริง จะกล้าพูดว่าเป็นดองแล้วได้อย่างไร?เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “สุดท้ายก็ยังต้องดูว่าเด็ก ๆ จะชอบพอกันหรือไม่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หาใช่เรื่องจะสะเพร่าได้”เวลานี้คนตระกูลชีกล่าวว่าอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามนั้นเฝิงอวี้จางย่อมไม่โต้เถียง เพียงยิ้มรับคำ แต่ในใจกลับวางใจลงไปมากต่างกับไฉ่เวย ไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใครจริง ๆนางชอบอ่านตำรา และยังชอบทำความดีช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นน้องชายหรือน้องสาวถูกรังแก ก็มักออกหน้าปกป้องพวกเขาเสมอเด็กสาวเช่นนี้ เขามั่นใจว่าชีฉางถิงต้องชอบเป็นแน่ขณะนั้นเอง ชีฉางถิงกลับยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางมือไว้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status