Share

บทที่ 4

Author: ฉินอันอัน
อากาศบนผิวน้ำสดชื่นกว่าอากาศในน้ำมาก

แม่นมฮวาคิดจะฆ่านางให้จมน้ำตายจริง น่าขันสิ้นดี

นางต้องรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มหัดกินข้าวเองได้

เหล่าชาวนาต้องจ่ายค่าเช่าทำนาให้กับเจ้าของที่ดิน หลี่ซิ่วเหนียงและคนขายเนื้อสวี่ก็ใช้สารพัดวิธีกดขี่ขูดรีดเงินจากนาง

ขึ้นเขาเก็บเห็ด ตัดฟืน เก็บเมล็ดชา ลงน้ำจับปลา จับเต่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานถนัดของนาง

สวี่อินอินเงยหน้าโผล่พ้นน้ำ รู้สึกได้ว่าแรงดิ้นรนของแม่นมฮวาค่อย ๆ น้อยลง จนกระทั่งไม่มีแรงเหลืออยู่

สายลมอ่อน ๆ พัดมาจากริมฝั่ง นางอ้าปากจาม กำลังจะดำลงไปลากแม่นมฮวาขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพเหตุการณ์ ‘วีรกรรมช่วยชีวิต’ ของนาง

แต่ใครจะรู้ว่าขณะที่ยกมือขึ้น ข้อศอกของนางกลับไปกระแทกเข้ากับบางอย่าง

สัมผัสนี้ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง สมองพลันว่างเปล่า จากนั้นก็ตระหนักได้ในทันทีว่า มีคนอื่นอยู่ในน้ำด้วย!

หรือว่าแม่นมฮวาจะยังเตรียมคนไว้ในน้ำอีก?

หากเป็นเช่นนั้น...

ในชั่วพริบตา เลือดในร่างกายของนางก็เดือดพล่านขึ้น แต่สมองกลับสงบลงอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ปล่อยแม่นมฮวา และพุ่งตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็วโดยอาศัยสัญชาตญาณ คว้าคนที่อยู่ในน้ำเอาไว้ได้

แต่คนคนนั้นกลับไม่ยอมแพ้ บิดไหล่อย่างแรง แล้วเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน จากนั้นพลิกตัวขึ้นมา กดไหล่ของสวี่อินอินเอาไว้

สวี่อินอินไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ? นางแค่นหัวเราะในใจ ปิ่นทองในแขนเสื้อได้ร่วงลงมาที่ฝ่ามือ ฉวยโอกาสนี้แทงขึ้นไปอย่างแรง

แต่ดูเหมือนคนคนนั้นจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว มืออีกข้างคว้าข้อมือของสวี่อินอินไว้ ทั้งสองคนเห็นหน้ากันอย่างชัดเจน

มงกุฎหยกขาว ดวงตาดอกท้อ อาภรณ์ยาวสีทองอ่อนบนร่างกายทอประกายระยิบระยับภายใต้แสงแดด ขับให้ทั้งตัวเขาดูราวกับเทพเซียนที่จุติลงมาจากสรวงสวรรค์

เซียวอวิ๋นถิง จิ้งอ๋อง!

นางรู้จักเขา

ชาติที่แล้ว หลังจากที่ขาของนางถูกตีจนหัก นางก็ถูกโยนเข้าไปในหอนางโลม

แต่นางก็ยังไม่ยอมรับชะตากรรม ในครั้งแรกที่รับแขก นางได้ฆ่าแขกของตัวเอง ทำให้แม่เล้าโกรธมากจนอยากจะฆ่านาง แต่เซียวอวิ๋นถิงกลับยื่นมือเข้ามาช่วยนาง และถามนางว่าอยากจะติดตามเขาไปหรือไม่

ในตอนนั้น นางสิ้นเนื้อประดาตัว มีชีวิตอยู่ไปก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากตาย แล้วจะมีอะไรที่ไม่เต็มใจอีก?

ตั้งแต่นั้นมา นางก็ได้เข้าไปอยู่ในจวนจิ้งอ๋อง กลายเป็นหน่วยกล้าตายของจวนจิ้งอ๋อง

ว่ากันตามตรง ที่นางฆ่าคนได้คล่องแคล่วขนาดนี้ ก็ต้องขอบคุณการฝึกฝนของคนตรงหน้า

เพียงแต่ว่าการพบกันในชาตินี้มันเร็วเกินไป และยังด้วยวิธีแบบนี้ นางจำเป็นต้องใช้เวลาสักพักเพื่อควบคุมอารมณ์ ปล่อยมือ โยนปิ่นทองลงไปในน้ำ แล้วยิ้มให้เซียวอวิ๋นถิงเล็กน้อย “ขออภัย ข้าคิดว่าท่านเป็นพวกเดียวกับยายแก่คนนี้ ตอนนี้เห็นท่านแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ เป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้น พวกเราต่างคนต่างไปเถอะ”

เซียวอวิ๋นถิงมองนางตั้งแต่ลงมือฆ่าคนอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด จนกระทั่งตอนที่ตกใจเมื่อพบว่ามีคนอื่นอยู่ในน้ำ จากนั้นก็กลับมาสงบเยือกเย็นได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย

ช่างเป็นต้นกล้าที่ดีเสียจริง ในชนบทกลับมีบุคคลที่โหดเหี้ยมเช่นนี้อยู่ หาได้ยากจริง ๆ

“กฎหมายของต้าโจว ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต” เซียวอวิ๋นถิงมองนาง มุมปากยกยิ้มเยาะ “ข้าเห็นกับตา”

สวี่อินอินดำลงไปในน้ำ พลันยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยเขาเช่นกัน “อย่างนั้นหรือ? ท่านเห็นแล้ว เช่นนั้นท่านก็แจ้งทางการมาจับข้าสิ?”

ระหว่างที่นางพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงเกือกม้าดังมาแต่ไกล เซียวอวิ๋นถิงสีหน้าเคร่งเครียด รีบปล่อยสวี่อินอินทันที จากนั้นดำลงไปในน้ำ

เสียงเกือกม้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงบนถนนอย่างรวดเร็ว

ม้าตัวหนึ่งหยุดลงที่ริมทะเลสาบอย่างกะทันหัน บนหลังม้ามีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำเหลือบมองผิวน้ำ

แส้ในมือของเขาชี้ไปที่สวี่อินอิน “นี่ นางหนู เจ้าเห็นคุณชายที่สวมชุดสีทองอ่อน ๆ อยู่แถวนี้บ้างหรือไม่?”

สีหน้าหยอกล้อของเซียวอวิ๋นถิงหายไป มือที่อยู่ในน้ำคว้าข้อเท้าของเด็กสาวเอาไว้ หากนางกล้าบอกที่อยู่ของเขา เขาก็จะฆ่านางทันที

เจตนาสังหารปรากฏขึ้น ความเป็นและความตายห่างกันเพียงเส้นบาง ๆ เท่านั้น

สวี่อินอินไม่ลังเลเลยสักนิด กลับส่ายหน้าอย่างงุนงง “ไม่มีนะ! ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่เห็นคุณชายคนไหนเลย”

ขบวนม้าหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ชายผู้เป็นหัวหน้ามองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า แต่งกายธรรมดา ไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวขี้อายและขี้กลัวคนอื่น ๆ ในชนบท

เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เด็กสาวแบบนี้คงไม่กล้าที่จะโกหก จึงเดินทางต่อไป

เซียวอวิ๋นถิงโผล่ขึ้นมาจากน้ำ มองเด็กสาวในทะเลสาบด้วยสีหน้าซับซ้อน “เจ้าเป็นใคร?”

กล้าหาญยิ่งนัก การตอบสนองก็รวดเร็วจนน่าประหลาดใจ

หมู่บ้านเล็ก ๆ มีคนแบบนี้อยู่ได้อย่างไร?

“รบกวนด้วย ขอทางหน่อย!” สวี่อินอินกระโดดลงไปในทะเลสาบ พยายามลากแม่นมฮวาขึ้นมา

ใกล้ถึงฝั่ง นางหยุดแล้วมองเซียวอวิ๋นถิง “ท่านบังเอิญมาเห็นข้าฆ่าคน ส่วนข้าช่วยท่านปิดบังร่องรอย พวกเราหายกัน”

“ตอนนี้ ท่านไปได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวมีคนมา ท่านจะอธิบายได้ยาก”

เซียวอวิ๋นถิงจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะจากไป เขาก็ถามนางด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าชื่ออะไร?”

สวี่อินอินเงียบไปครู่หนึ่ง

นางนึกถึงเรื่องราวมากมายในชาติที่แล้ว คนตรงหน้าเป็นเหมือนดวงจันทร์บนฟ้า บุปผากลางน้ำ ไม่ใช่คนที่นางจะเอื้อมถึง

ต่อไปคงไม่ได้พบเจอกันอีก นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญพบกัน ไม่มีชื่ออะไรหรอก”

เซียวอวิ๋นถิงก็ไม่ได้ตอแย เดินจากไปทันที

พอเขาจากไป คนของจวนหย่งผิงโหวและคนในหมู่บ้านบางคนก็ตามมา

สวี่อินอินลากแม่นมฮวาที่ตัวซีดเพราะแช่น้ำนานขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแล้ว

เมื่อเห็นคนมา นางก็ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความยากลำบากพลางลากแม่นมฮวาขึ้นฝั่ง

ทุกคนต่างกรูกันเข้ามาช่วยเหลือ

หลังจากลากแม่นมฮวาขึ้นมาบนฝั่ง สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามคนหนึ่งก็รีบเอ่ยปากถามสวี่อินอิน “คุณหนูใหญ่ ท่านฆ่าแม่นมฮวา!”

นางใช้ประโยคบอกเล่า

สวี่อินอินแช่อยู่ในน้ำนานแล้ว ตอนนี้พอได้ยินนางถามเช่นนี้ ก็จามติด ๆ กันหลายครั้ง

มองดูใบหน้าสาวใช้ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางจึงยกยิ้มมุมปาก “แจ้งทางการสิ”

...

คนของจวนหย่งผิงโหวต่างมองหน้ากัน คุณหนูใหญ่ผู้นี้เหตุใดถึงไม่เป็นไปตามที่คิดไว้?

มีคนบอกว่านางฆ่าคน นางกลับบอกให้ไปแจ้งทางการ

จวนหย่งผิงโหวเลี้ยงดูลูกสาวที่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ มาสิบกว่าปี ลูกแท้ ๆ ยังไม่ทันรับกลับมาก็มีเรื่องฆ่าคนตาย ต้องแจ้งทางการ

หากเรื่องนี้แพร่ไปถึงเมืองหลวง จวนหย่งผิงโหวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

บ่าวไพร่อย่างพวกเขาก็คงไม่พ้นโทษ

สาวใช้คนนั้นเห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องนี้เช่นกัน จึงเบิกตากว้างด้วยความโกรธ “คุณหนูใหญ่ ถึงแม้ท่านจะเป็นนาย แต่ก็ไม่สามารถฆ่าคนอย่างไร้เหตุผลได้นะเจ้าคะ!”

สวี่อินอินมองนางด้วยความสงสัย “ข้ายังไม่ทันพูดอะไร เจ้ากลับมากล่าวหาว่าข้าฆ่าคนก่อน ข้าจึงบอกว่าให้ไปแจ้งทางการ”

“ตอนนี้เจ้าก็ไม่ให้ข้าไปแจ้งทางการ แล้วยังยืนยันว่าข้าฆ่าคนอีก”

“เจ้าน่าเกรงขามกว่าฮ่องเต้เสียอีก! เหตุใดยังยอมลดตัวมาเป็นบ่าวในจวนโหวอีกเล่า? เจ้าควรจะไปเป็นขุนนางตัดสินคดีความสิ!”

สาวใช้โกรธจนพูดไม่ออก “แม่นมฮวาออกมาพร้อมกับท่าน พอถูกพบอีกทีก็ตายแล้ว...”

“ใช่” สวี่อินอินกวาดตามองบ่าวไพร่ของจวนหย่งผิงโหว “ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านสามารถเป็นพยานให้ข้าได้ ตอนนั้นมีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งมาหาข้า บอกว่าแม่นมฮวาตามหาข้า”

“พอข้ามาถึง แม่นมฮวาก็ผลักข้าจากด้านหลัง ทำให้ข้าตกลงไปในทะเลสาบ”

“ต่อมาตัวนางเองก็เสียหลักตกลงไปในน้ำ ข้าจะช่วยนาง แต่นางกลับดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต”

สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามเริ่มกระวนกระวายใจ

สวี่อินอินมองนางอย่างใจเย็น “ดังนั้นข้าจึงอยากแจ้งทางการเพื่อสืบหาความจริงให้ชัดเจน ข้ากับนางไม่มีความแค้นเคืองกัน เหตุใดนางถึงต้องมาฆ่าข้า? นางเป็นแค่บ่าวไพร่ ไปเอาความกล้ามาจากที่ไหนกัน?”

แม่นมฮวาต้องการฆ่าสวี่อินอิน!

คนของจวนหย่งผิงโหวมีสีหน้าแตกต่างกันไป

สวี่อินอินมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านที่เงียบมาตลอด “หัวหน้าหมู่บ้าน รบกวนท่านไปแจ้งทางการเถิด ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ไม่อยากให้ข้ากลับจวนโหว”

“บ่าวไพร่พวกนี้ ข้าไม่ไว้ใจเลยสักคน”

เอาสิ ไม่อยากให้นางกลับไปใช่หรือไม่?

นางจะกลับไปอย่างยิ่งใหญ่ให้ดู!
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นางเอกแกร่งดี ตาต่อตาฟันต่อฟัน ชอบๆ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 791

    เหล่าจ้าวอ้าปากตั้งท่าจะด่าอยู่แล้ว ทว่าเสิ่นเจียหล่างนั้นขี้กลัวนัก จะสอนสั่งก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไหนเลยจะรีบร้อนเช่นนี้ได้?แต่พอหันไปเห็นไล่เฉิงหลง เขาก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ “ใต้เท้าไล่ ท่านกลับมาแล้วหรือ?!”ลิ่วจินในยามนี้ก็เห็นไล่เฉิงหลงเช่นกัน จึงรีบบังคับม้าเข้ามาเอ่ยถาม “โธ่ใต้เท้าไล่ ไยถึงซูบผอมไปนักเล่า? ดูท่ากับข้าวที่ตงอิ๋งคงไม่ค่อยเข้าท่ากระมัง? ดูซิปล่อยให้ใต้เท้าไล่ของพวกเราต้องอดอยาก!”เรื่องไม่ควรเอ่ยก็กลับเอ่ยขึ้นมาจนได้ไล่เฉิงหลงไม่ใส่ใจเขา เพียงก้มหน้ามองเสิ่นเจียหล่างที่ยังคงร้องไห้คร่ำครวญอยู่ แล้วเลิกคิ้วถามเด็กชาย “เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่? ครั้งนั้นข้าเคยพาเจ้าขี่ม้ากลับเรือนพักนอกเมือง”เสิ่นเจียหล่างนับแต่ครั้งถูกสุนัขกัดก็มีบาดแผลในใจ จึงกลายเป็นเด็กอ่อนไหวง่ายใบหน้าของเขายังมีด่างขาวกระจายอยู่ทั่ว มองแล้วทั้งตัวเต็มไปด้วยความหม่นหมองครานี้ได้ยินไล่เฉิงหลงเอ่ยถึง เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวัง เห็นโฉมหน้าไล่เฉิงหลงก็ดูราวกับนึกย้อนขึ้นมาได้ จึงรีบพยักหน้ารับ “ข้าจำท่านได้ ท่านช่วยชีวิตข้ากับพี่หญิงไว้!”ไล่เฉิงหลงยิ้ม “ใช่แล้ว ดูเจ้าเถิด ครานั้นเจ้าถูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 790

    จริงอยู่ที่ท่านอ๋องฉีปฏิบัติต่อเขาดียิ่งนัก พระสนมเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยในอดีตก็เคยมีพระคุณต่อเขาไม่น้อยเช่นกันด้วย จวนฉู่กั๋วกงก็เคยหยิบยื่นประโยชน์ให้แก่เขามากมายเช่นกันทว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้น ก็มิอาจเทียบได้กับชีวิตของตนเองยิ่งไปกว่านั้น คนอื่นเขาก็พูดกันไปแล้วเขาคนเดียวฝืนดื้อดึงไป จะมีประโยชน์อะไรเล่า?กระทั่งฉีหลินยังเอ่ยปากออกมาแล้ว!ไม่ใช่ความผิดของเขา จะตำหนิเขาไม่ได้ ไม่อาจโทษเขาได้!เขาส่ายหัวพลางพึมพำกับตนเองอย่างคนเสียสติ ไล่เฉิงหลงกลับโยนร่างเขาลงไปบนพื้น พร้อมกับทิ้งเหล็กเผาแดงลงพื้นไปด้วย จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากประตูคุกลู่อี้เฟิงรีบก้าวตามไปติด ๆ อดไม่ได้ที่จะกระเดาะลิ้น “เจ้าช่างโหดเหี้ยมแท้จริง ทำไมกัน เพิ่งกลับมาก็หุนหันอยากจะสร้างผลงานแล้วหรือ?!”ทว่านี่เป็นการไปล่วงเกินอ๋องฉีเลยนะ!ก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอ๋องฉีนั่นเอง ทุกคนจึงไม่รีบร้อน ทำคดีไปอย่างเนิบนาบเชื่องช้า ไม่มีหนทาง ไม่มีหนทางใดเลยจริง ๆ!ถึงแม้อ๋องฉีจะเห็นได้ชัดว่าถูกลดทอนความโปรดปรานไปแล้วก็ตามทว่าอย่างไรเสียก็ยังคงเป็นโอรสของฮ่องเต้หย่งชางใครจะล่วงรู้ได้เล่าว่าฮ่องเต้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 789

    จิ๊ ๆ ลู่อี้เฟิงถึงกับตกตะลึงพูดไม่ออกทีเดียวทันใดนั้นก็ยื่นมือโอบไหล่ของไล่เฉิงหลง “ใช้ได้เลยสหายข้า การกลับมาครานี้ของเจ้าช่างเหนือกว่าครั้งก่อนเสียอีกนะ! เห็นได้ชัดว่าได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว ดูท่าทีไม่เหมือนเดิมจริง ๆ!”ฝีมือแบบนี้สิ!แต่ไล่เฉิงหลงขี้เกียจจะสนใจเขา เพียงแค่ย่อตัวลง มองไปยังเฉาซิงวั่งที่ไร้ซึ้งกำลังใจไปแล้ว พลางเลิกคิ้วช้า ๆ “ท่านเฉากงกง อย่างไรล่ะ ถึงคราวของท่านแล้วนะ ท่านจะพูด หรือไม่พูดล่ะ?”ในใจของเฉาซิงวั่งสาปแช่งฉีหลินไม่หยุดยังกล้าพูดนักว่าเป็น หน่วยกล้าตาย!แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นไอ้สารเลวไร้ยางอายที่สุด!ขณะที่คิดถึงฉีหลินอยู่นั้นเอง ไล่เฉิงหลงก็หันไปมองลู่อี้เฟิงแวบหนึ่ง “เอาคำรับสารภาพของฉีหลินมา”ลู่อี้เฟิงก็รีบร้อนลุกลี้ลุกลนหยิบคำรับสารภาพของฉีหลินออกมาให้ไล่เฉิงหลงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยิ้มบางเบาแล้วพูดว่า “มาเถิด ข้าจะอ่านให้ท่านเฉากงกงฟังเอง”เฉาซิงวั่งไม่อยากฟังเลยแม้แต่น้อย!แต่ก็จนใจทำอะไรไม่ได้ เพราะไล่เฉิงหลงจะอ่านให้ฟังจนได้“เฉากงกงเป็นคนสนิทของอ๋องฉี ตั้งแต่ท่านอ๋องเสด็จไปประจำยังแคว้นเมืองศักดินา เฉากงกงก็คอยส่งข่าวคราวจากเมืองหล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 788

    เขาเพียงทำเสียงจิ๊ปากเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยช้า ๆ ว่า “คิดให้ถี่ถ้วนหน่อยเถอะท่านเฉากงกง หากท่านยังไม่พูดความจริงออกมา ข้าก็จะเริ่มลอกหนังพวกเขาทีละคนแล้วนะ”เมื่อคำพูดจบ เขาโบกมือเพียงครั้งเดียว พวกผู้ใต้บัญชาก็หิ้วบรรดาลูกน้องของเฉากงกงเข้ามาทั้งหมดเพียงพริบตาเดียว บรรยากาศในที่นั้นก็ราวกับแดนภูตผีสิง ทุกผู้คนร่ำไห้กรีดร้อง เสียงคร่ำครวญดังระงมไปทั่วคนเหล่านี้ ล้วนเป็นพวกที่เฉาซิงวั่งจัดการให้ไปสับเปลี่ยนเสบียงช่วยภัย ทุกคนล้วนมีมือที่ไม่สะอาดสักรายเดียวแต่พวกเขาก็เชื่อมาโดยตลอด ว่าเฉาซิงวั่งจะสามารถปกปิดทุกอย่างได้ทว่าบัดนี้ เมื่อเห็นร่างที่พื้น พวกเขาจะยังไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร?ทันใดนั้นก็มีคนตกใจจนปัสสาวะราด ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง โวยวายขอกลับบ้านลู่อี้เฟิงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ในทันใด คนพวกนี้ช่างไม่เคยเจอเรื่องใหญ่โตอะไรเลยเมื่อเข้ามาในคุกหลวง ก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้วมิใช่หรือ?แล้วมาเพิ่งร่ำไห้โหยหวนเอาตอนนี้?ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรกันมา?โง่เง่าแท้!ไล่เฉิงหลงยิ่งไม่มีทางจะเมตตาสงสารพวกคนเหล่านี้การสับเปลี่ยนเสบียงช่วยภัย ไม่เพียงเป็นการใส่ร้ายเซียวอวิ๋นถิงเท่านั้น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 787

    ไล่เฉิงหลงและลู่อี้เฟิงทั้งสองมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี แม้ว่าฐานะตำแหน่งของไล่เฉิงหลงนั้นสูงกว่าลู่อี้เฟิงอยู่หนึ่งขั้น สถานะในสายตาฮ่องเต้หยงชาง ก็สูงส่งขึ้นตามเพราะอาศัยอำนาจบารมีของบิดามารดาแต่กระนั้น ระหว่างพวกเขากลับไม่เคยนำเรื่องพวกนี้มาใส่ใจจริงจังเลยเมื่อได้ยินลู่อี้เฟิงพูดด้วยท่าทีตื่นเต้นเช่นนี้ ไล่เฉิงหลงหันกลับไปมองเขาทีหนึ่ง “ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ไม่น้อยเลยนะ?”เข้าใจสิ เข้าใจดียิ่งนัก!ลู่อี้เฟิงพลันพูดพลางทำตาเป็นประกาย “ข้าจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?! ก็ลิ่วจินกับเหล่าจ้าวมาหาข้าด้วยตนเอง มอบหมายให้ข้าจับตัวฉีหลิน! แล้วฉีหลินนั่น ก็เป็นข้าที่ส่งไปยังตำหนักไท่จี๋เองนะ!”โอ้ย พอคิดดูแล้ว เขาก็รู้สึกเป็นเกียรติไม่น้อยเลย นี่ก็ถือว่าได้ช่วยคุณหนูใหญ่ตระกูลชีอย่างมากเลยขณะที่พูดอยู่ เฉาซิงวั่งที่อยู่ด้านในก็กรีดร้องโหยหวนออกมาเสียงหนึ่ง เป็นเพราะลูกบุญธรรมของเขาถูกลอกหนังต่อหน้าต่อตาเขาเองเหล่าขันทีใหญ่พวกนี้ ปกติมักหยิ่งผยองอวดอำนาจ เหล่าพระสนมที่มิได้รับความโปรดปราน หรือแม้แต่ขุนนางที่กลับเข้าเมืองหลวงเพื่อกราบทูลรายงานภารกิจ ก็ยังกล้าแสดงสีหน้าไม่ไว้หน้าใ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 786

    เขายื่นมือออกไปรับมา จ้องมองไปยังลายภาพบนชุดคลุมพญางู ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “นี่มันคือเมืองของโจรสลัดนี่นา!”ไล่เฉิงหลงตอบรับคำเบา ๆเขาค่อย ๆ ชี้ทีละจุดให้ฮ่องเต้หย่งชางดู พลางเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ชินอ๋องหวยเหลียงที่มาตายอยู่แถวนี้ของเรา ดินแดนของเขาอยู่ที่นครเซียงเกิง ส่วนตระกูลยามานะนั้นอยู่ที่เมืองฉงเฉิง พวกเขาล้วนสร้างเมือง มีอำนาจกำลังทหารของตนเองทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ”การเดินทางออกทูตของไล่เฉิงหลงครานี้ ถือได้ว่าได้ผลเป็นรูปธรรมยิ่งนัก!ฮ่องเต้หย่งชางทรงพระโสมนัส พลางตบไหล่ของไล่เฉิงหลงทีหนึ่ง “เด็กน้อยเอ๋ย ไม่เสียแรงที่เป็นลูกชายของบิดาเจ้า ช่างเป็นคนเก่งแท้! แล้วนอกจากสองตระกูลนี้เล่า?”“และยังมีก็คือพระจักรพรรดิแห่งนครจิงตู และตระกูลจู๋ลี่แห่งนครต้าปั่นพ่ะย่ะค่ะ”ครั้งนี้ไล่เฉิงหลงเก็บเกี่ยวผลลัพธ์กลับมามากมาย เขาชี้ไปยังเขตดินแดนเมืองฉงเฉิงของตระกูลยามานะ เอ่ยเสียงเบาว่า “ฝ่าบาท ที่นี่เป็นดั่งที่ตระกูลยามานะกล่าวไว้จริง ๆ มีเหมืองเงินอยู่สามแห่ง! และกระหม่อมไปในครานี้ ได้พาบุตรชายของตระกูลยามานะกลับมาด้วย เขาได้ตกลงทำสัญญากับแคว้นเรา ให้แคว้นเราเป็นผู้ท

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status