แชร์

บทที่ 612  

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
และด้านข้างของเขา มีชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ยักษ์หลายคน แต่ละคนล้วนหน้านิ่วคิ้วขมวดแววตาเย็นชาใบหน้าเต็มด้วยหนังกร้าวกร้าน มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าไม่ควรไปข้องเกี่ยวด้วย

ซุ่นจื่อตะโกนด้วยความร้อนรน “คุณหนูใหญ่รีบเข้าไปด้านในก่อนขอรับ คนพวกนี้เป็นพวกอันธพาลท้องถิ่น กล่าวหาว่าในกลุ่มของพวกข้ามีใครบางคนไปขโมยครั่นคร้ามพวกมัน…”

ยังพูดไม่ทันจบประโยค ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็ยกเท้าขึ้นหมายจะถีบซุ่นจื่ออย่างรุนแรง

ชีหยวนขมวดคิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็คว้าแจกันดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างขึ้นมา และเขวี้ยงใส่ชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างไม่รอช้า

แจกันบุปผาร่วงหล่นกระแทกพื้น เสียงแตกดังสนั่น เศษกระเบื้องพลันกระจายว่อน

ซุ่นจื่อกลิ้งไปด้านข้างด้วยความร้อนรน หลบจากฝ่าเท้าของบุรุษฉกรรจ์คนนั้นได้เฉียดฉิว

ชีหยวนขมวดคิ้วพลางมองเสี่ยวเอ้อร์ที่กล้าเพียงแค่ชะโงกศีรษะออกมาจากช่องบันได “ไปแจ้งทางการให้พวกข้าที บอกว่าที่แห่งนี้มีคนเจตนาชั่วช้ากำลังทำร้ายคน จงใจหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผล ก่อความไม่สงบสร้างความวุ่นวาย!”

เสี่ยวเอ้อร์เสียขวัญเพราะคนกลุ่มนี้อยู่ไม่น้อย ครั้นได้ยินชีหยวนพูดจบ คนเหล่านั้นก็หันมองมายังตนเองทันที ไม่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 713

    เถียนเป่าซื่อตัดสินใจเลือกสถานที่แข่งขันทันทีต่อหน้าทุกผู้คน กำหนดไว้เป็นเที่ยงวันพรุ่งนี้ ที่เรือนพักนอกเมืองของจวนเฉิงเอินกงเขายังใจกว้างนัก อนุญาตให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ทุกคนไปร่วมชมได้ยังไงเสียจะแข่งกันทั้งที หากไร้ผู้ชม จะสนุกอันใดเล่า?เขายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่ชี เจ้าอย่าได้กลัวขึ้นมาเชียวล่ะ!”ถึงเหล่าจ้าวจะเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่ก็ยังอดสบถในใจไม่ได้กลัวหรือ?คุณหนูใหญ่ตระกูลชีต่อให้แพ้ ก็ยังฆ่าเจ้าได้อยู่ดีไม่ใช่หรือ?ใครจะขลาดก็แล้วแต่ แต่นางไม่มีทาง!ชีหยวนเพียงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยโดยไร้อารมณ์ “วางใจ ข้ารอชมหมาของคุณชายหกสกุลเถียนก็แล้วกัน”ผู้ตรวจการเถี่ยโกรธจนไร้ทางระบาย กลับไปก็นอนไม่หลับทั้งคืน นั่งเขียนฎีกายืดยาวว่าด้วยความผิดของบุตรหลานเชื้อสายขุนนาง ส่งขึ้นไปถวายทันทีแต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เหมือนผู้ตรวจการเถี่ย พวกเขากลับสนใจการแข่งขันในวันพรุ่งนี้อย่างยิ่งมนุษย์คนเรานั้น ย่อมชื่นชอบความคึกคักเป็นธรรมดาโดยเฉพาะยังเป็นความวุ่นวายระหว่างเชื้อสายขุนนางอีกหากไม่มีให้ดูก็ว่าไปอย่าง แต่ปัญหาคือตอนนี้มันดันมีเรื่องให้ดู ยังไงก็ต้องตามไปร่วมชมความวุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 712

    ชีหยวนคิดว่าทุกคนเป็นคนโง่หรือไร?แต่เถียนเป่าซื่อกลับเป็นคนชั่วที่มีสมอง ทำอย่างไรดีล่ะ?ผู้ตรวจการเถี่ยแค่นหัวเราะเย็น “เจ้าของมันดูแลไม่ดี ปล่อยให้มันออกมาไล่กัดคน ถูกตีตายก็สมควรแล้ว!”แต่จู่ ๆ เถียนเป่าซื่อก็เริ่มร้องโอดโอยขึ้นมาเหล่าจ้าวกลอกตาใส่มาไม้เดิมอีกแล้วคงเพราะตระกูลเถียนสูญเสียลูกหลานไปมาก เลยกลัวมาก หวงเถียนเป่าซื่อราวกับแก้วตายามนี้เมื่อเถียนเป่าซื่อทำทีอ่อนแอขึ้นมา เช่นนั้นเรื่องนี้อาจกลายเป็นความผิดของฝ่ายตระกูลชีเสียเองชีหยวนกลับกล่าวด้วยเสียงเรียบหนักทันที “นี่นับเป็นหมาดีอันใดกัน? ข้าชดใช้ให้เจ้าหนึ่งตัวก็แล้วกัน”เหล่าจ้าวเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที จะว่าหมานี่ดีหรือไม่ดี อย่างไรเสียนับว่าหมาดีจริง ๆ สิ! เพราะเป็นสุนัขที่ไทเฮาทรงประทานให้แก่เถียนเป่าซื่อคุณหนูใหญ่ตระกูลชีจะไปหาหมาที่ดีกว่านี้จากที่ใดได้?ยิ่งไปกว่านั้น หมาตัวนี้ดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับเถียนเป่าซื่อจะชี้ว่าอย่างไร!หากเขาคิดจะหาเรื่องแล้วไซร้ ต่อให้ชีหยวนจะหาเสือมาแทนก็ไร้ผล!เถียนเป่าซื่อหัวเราะลั่นตามคาด ก่อนจะจิ๊ปากแล้วหัวเราะเยาะออกมา “เจ้าชดใช้? เจ้าชดใช้ไหวรึ?!”“

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 711

    เหล่าจ้าวยืนกอดอกมองดูเหตุการณ์อย่างเย็นชาในท่ามกลางฝูงชน บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยเถียนเป่าซื่อควรจะถูกสั่งสอนเสียตั้งนานแล้วเจ้าคนผู้นี้วัน ๆ เอาแต่ชนไก่ จูงหมา ไม่เคยทำเรื่องดี ๆ สักอย่างครั้งหนึ่ง สุนัขพันธุ์ล่าเนื้อของเถียนเป่าซื่อกัดเด็กเล็กริมทางตายไปคนหนึ่ง เหตุการณ์นั้นทำให้ผู้คนโกรธแค้นกันไปทั้งเมืองแต่เถียนเป่าซื่อกลับเป็นลมล้มพับไป บอกว่าโรคเก่ากำเริบต่อจากนั้นก็มีบ่าวรับใช้คนหนึ่งออกมายอมรับผิด บอกว่าตนดูหมาไม่ดี ปล่อยให้มันกัดเด็ก ไม่เกี่ยวกับเถียนเป่าซื่อเลยเรื่องนี้ท้ายที่สุดจากเรื่องใหญ่ก็ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กก็ถูกทำให้จางหายไม่มีทางเลือก ฮ่องเต้เองก็ใช่ว่าจะดูแลได้ทุกเรื่องราชวงศ์ต้าโจวแผ่กว้างใหญ่ ทุกวันมีแต่เรื่องราวบ้านเมืองมากมายจนไม่สิ้นสุดพวกขุนนางตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนมีเครือข่ายโยงใยกันเป็นใยแมงมุม ต่อให้มีเรื่องราวจะรุนแรงเพียงใด ท้ายที่สุดฎีกาฟ้องร้องพวกเขา เมื่อไปถึงกรมถวายฎีกาก็ถูกสกัดไว้กลางทางเสียแล้วแม้แต่จะส่งขึ้นถึงสำนักขุนนางหลวง เหล่าขุนนางผู้ใหญ่ในสำนักขุนนางหลวงก็ใช่ว่าจะสนใจทุกเรื่องและเมื่อถึงหูฮ่องเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 710

    ด้านนอกวุ่นวายแค่ไหน นางก็ยิ่งเบิกบานใจเท่านั้นชีหยวนเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน นางมองไปทางลิ่วจินที่เพิ่งขึ้นบันไดมา ส่งสายตาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเลิกคิ้วถาม “ดังนั้น คุณชายหกสกุลเถียนหมายความว่า ไทเฮาตรัสว่า สุนัขของเจ้ามีค่ามากกว่าชีวิตคน ใช่หรือไม่?”เถียนเป่าซื่อคร้านจะเสียเวลาพูดกับนาง “สุนัขของข้าไม่เหมือนสุนัขตัวอื่น!”“ทุกคนได้ยินกันชัดแล้วใช่หรือไม่?” ชีหยวนกวาดตามองไปรอบ ๆ ผู้คนมีสีหน้าต่างกันไป ก่อนสายตาจะกวาดลงไปยังเหล่าคนในโถงชั้นล่าง “ไม่ว่าท่านจะเป็นขุนศึกที่สู้รบเพื่อปกป้องแผ่นดิน หรือเป็นบัณฑิตที่ตรากตรำอ่านตำรามาสิบกว่าปี พวกท่านสละเวลามากแค่ไหน พยายามมากแค่ไหนแล้วมีค่าอะไรเล่า? สุดท้าย ยังสู้สุนัขตัวเดียวของหลานไทเฮาไม่ได้!”หลานไทเฮาแล้วอย่างไร?แม้เป็นไทเฮาเองแล้วอย่างไร?ท่านอาจอยู่เหนือหัวคนอื่นได้ แต่สุนัขของท่านจะมาอวดเบ่งเยี่ยวรดหัวคนไม่ได้!ชีหยวนเลิกคิ้วหัวเราะเย็น “คุณชายหกสกุลเถียน เจ้าต้องการหัวของน้องข้าใช่หรือไม่?”ทันใดนั้น นางยกกระถางดอกไม้ฟาดลงพื้นอย่างแรง เสียงแตกดังสนั่นทำให้สายตาทุกคู่หันมาที่นางโดยพร้อมเพรียงหญิงสาวยืนตัวตรงไม่ไหวติง เอ่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 709

    ชีหยวนลงมือทั้งรวดเร็วและรุนแรง มีเพียงเซียวจิ่งจาวเท่านั้นที่เห็นได้ชัดเจนว่าตั้งแต่ที่นางลงมือไปจนถึงการอ่านการเคลื่อนไหวของเถียนเป่าซื่อนั้นเด็ดขาดเพียงใดหญิงสาวผู้นี้ นางถึงกับไม่ต้องหันกลับไปมองด้วยซ้ำ!เซียวจิ่งจาวกดเสียงต่ำ “เถียนเป่าซื่อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางแน่”เถียนเป่าซื่อนั้นตั้งแต่เด็กก็เติบโตในวัง ต่อมาได้เป็นสหายร่ำเรียนมากับเหล่าองค์ชาย แม้แต่อ๋องฉียังเคยพยายามดึงตัวเขาไปอยู่ฝ่ายเดียวด้วยดังนั้นเซียวจิ่งจาวย่อมรู้ดีว่าเถียนเป่าซื่อมีฝีมือมากน้อยเพียงใดเมื่อครู่นี้ตอนที่ชีหยวนจับข้อเท้าเถียนเป่าซื่อไว้ เขากลับขยับไม่ได้เลย นั่นก็เพียงพอจะบอกถึงฝีมือของชีหยวนได้แล้วแต่กระนั้น เซียวจิ่งจาวก็อดตกใจไม่ได้ “นางไปเรียนวรยุทธ์มาจากที่ใด?”ในบรรดาบุตรีตระกูลขุนนางในเมืองหลวง ก็ใช่ว่าจะไม่มีเด็กสาวชื่นชอบดาบทวนหอกกระบี่ แต่ส่วนมากก็เรียนเพียงท่วงท่าเอาไว้ขู่คนได้บ้าง แต่พอถึงเวลาสู้จริงกลับสู้ศัตรูไม่ได้เลยชีหยวนนั้นก็เป็นคนที่เพิ่งถูกรับกลับตระกูลในภายหลัง นางสามารถฝึกจนมีฝีมือถึงเพียงนี้ในเวลาอันสั้นจริงหรือ?!เฝิงไฉ่เวยไม่ชอบเวลามีคนกล่าวชื่นชมชีหยวนใบหน้านางเย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 708

    โอหังเกินไปแล้ว!โอหังเกินไปจริง ๆ!ตอนนี้ผู้คนที่มุงดูอยู่ก็เบียดกันเป็นชั้น ๆ และต่างก็อดวิพากษ์วิจารณ์กันไม่ได้“หมาจะมาเทียบกับคนได้ยังไง?”“เจ้าดูหมาไม่ดีเอง มันถึงได้พุ่งไปกัดน้องชายเขาก่อน คนเขาถึงได้เตะหมากลับ!”“ถึงจะเป็นหลานชายไทเฮาแล้วอย่างไรเล่า? ทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้ได้หรือ?”แต่ก็มีบางคนรีบดึงสหายไว้ “เรื่องของพวกจวนขุนนาง เกี่ยวอะไรกับเรา? อีกฝ่ายก็เป็นคุณชายของจวนโหวเหมือนกันนะ!”ดูพวกเขาทะเลาะกันเองก็พอแล้วชีอวิ๋นจื่อเชิดคอถมน้ำลายปนเลือดออกมาแล้วจ้องเถียนเป่าซื่อด้วยสายตาเย็นชา “หมาของเจ้ากัดน้องข้าไม่ปล่อยก่อน ข้าถึงได้เตะมันออกไป ข้าไม่ผิด!”ไม่ผิด ก็ไม่ต้องขอโทษ!พี่หญิงเคยบอกไว้ว่า ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ผิด ก็ห้ามยอมจำนน!เถียนเป่าซื่อโกรธจนหัวเราะออกมา “งั้นหรือ?”เขาปล่อยคอเสื้อชีอวิ๋นจื่อทันที ก่อนฟาดหน้าชีอวิ๋นจื่อหนึ่งฉาด แล้วเงื้อเท้าจะเตะอย่างแรงแต่ในจังหวะนั้น ขาของเขากลับถูกใครบางคนขวางเอาไว้ถึงเขาจะตัวใหญ่กำยำ แต่กลับไม่สามารถเตะลงไปได้ และยังดึงเท้ากลับมาไม่ได้อีกด้วย จึงเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาในทันทีหลิวผิงอันถึงกับน้ำตาคล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status