LOGINไป่เจินเจินที่กำลังถูกให้คัดกฎสำนักนั่งทำหน้างอง้ำ นางต้องรีบกลับบ้าน บิดาถึงเวลากินข้าวกินยาแล้ว กว่านางจะรวบรวมเงินทองไปหาท่านหมอมาตรวจบิดาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จ้าวหย่งเฉิงนั่งมองตำราในมือ แสงตะวันลับไปแล้ว ในห้องของสำนักศึกษาตะเกียงถูกจุดขึ้นมา ลูกศิษย์กลับบ้านหมดแล้วเหลือแต่หัวโจกที่พาเหล่าเพื่อนบัณฑิตไปแข่งกัดปลาเล่นพนันกันที่เชิงเขา "อาจารย์เจ้าคะ..ศิษย์ขอกลับบ้านเอาอาหารกับยาให้ท่านพ่อก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ คืนนี้จะคัดมาส่ง" "คัดไป ยิ่งมัวแต่พูดเจ้าจะยิ่งเสร็จช้านะ ไป๋เจินเจิน" "ตาเฒ่าเอ๊ย...แก่แล้วแก่เลยไม่หัดเห็นใจคนอื่นเสียบ้าง" ไป๋เจินเจินบ่นอุบอิบ แน่นอนจ้าวหย่งเฉิงได้ยิน เด็กคนนี้กิริยามารยาทไร้การอบรมจริงๆ "ตั้งแต่พรุ่งนี้มาเรียนส่วนตัวกับข้าทุกวัน คนอื่นไปถึงไหนแล้วเจ้ายังย้ำอยู่กับที่เลย จะได้ไม่พาคนอื่นเสียคน วันนี้กลับไปได้แล้ว" จ้าวหย่งเฉิงเดินมาช้อนอุ้มนางขึ้นก่อนจะพาเดินไปที่รถม้า เขาจับนางนั่งตักก่อนจะให้คนขับพาไปส่งที่บ้านของนาง ใครๆบอกนางเป็นลูกศิษย์คนโปรดของเขา "หึข้านะหรือ...คนโปรดเนี่ยนะ ใช่โปรดมาก..หึ..โปรดปรานจนข้าจะตายคากองตำราแล้ว"
View More“หน่วยวิถีเรียกวิหคเพลิง”
“วิหคเพลิงรับทราบ”
“วิหคเพลิง ขณะนี้มีไฟป่าบนภูเขา มีชาวบ้านติดอยูเราต้องการเฮลิคอปเตอร์ด่วน”
“รับทราบหน่วยวิถี หน่วยวิหคเพลิงแสตนด์บายๆ”
หวังอันหัวหน้าหน่วยวิถีรับทราบถึงไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้ และมีชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของโครงการวิจัยติดอยู่ที่นั่นหลายสิบชีวิต
“กัวชาง..เอาฮอขึ้นเราต้องไปขนย้ายชาวบ้านที่ติดอยู่บนเขาก่อนที่ไฟจะลามไปถึงพวกเขา”
“หัวหน้าครับ..ฮอไปปฏิบัติงานหมดแล้วเพลือเพียงลำเดียว ที่สำคัญไม่มีใครขับลำนี้ได้เลยครับนอกจากเจินเจิน”
“วิทยุไปเรียกเจินเจินมา ด่วนเลยนะเจชราต้องอพยพก่อนที่ทิศทางลงจะเปลี่ยน”
“วันนี้อาเจินหยุดครับ”
“หยุดนานก็โทรตามสิ ไวไวด้วย บ้านพักอาเจินนอยู่ไม่ไกลไม่ใชหรือ”
“ครับๆๆ”
กัวชางหรือหมูน้อยที่ไป๋เจินเจินตั้งให้รีบกดมือถือโทรหาเธอทันที เฮลิคอปเตอร์ลำที่เหลืออยู่มีเพียงไป๋เจินเจินเท่านั้นที่สามารถเอามันขึ้นฟ้าได้
Rrrrrr. Rrrrr. Rrrrr.
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไป๋เจินเจินงัวเงียๆรีบสาย นี่มันตีสองนะใครโทรมา อีกอย่างคืนนี้เธอไม่ได้เข้าเวรนี่นา ก่อนจะหยิบมาดูก็เห็นเบอร์ของหมูน้อยโชว์หน้าจอ ไป๋เจินเจินกดรับสายทันที
“อืม..ว่าไงฉันง่วงนะ”
“อาเจิน..มีไฟป่าบนเขาไกลออกไป300กิโลหัวหน้าต้องการเฮลิคอปเตอร์ไปรับคนที่ติดอยู่บนเขา มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่ นักวิจัย ศาสตราจารย์หลายคนเลย”
“หา..อืมๆๆจะไปเดี๋ยวนี้ แล้วฮอออกไปแล้วกี่ลำ”
“ออกไปหมดแล้ว ทุกลำไปทำหน้าที่ดับไฟป่า มีแต่เธอที่ต้องไปลำเลียงผู้คนลงมา อาเจินฮอลำที่เหลืออยู่คือลูกรักเธอ นอกจากเธอคนอื่นขับไม่ได้”
“ได้ๆ ฉันวางสายแล้วจะรีบไป”
ไป๋เจินเจินอยู่กับคุณพ่อแค่สองคน แม่จากไปตอนเธออายุ14 ตอนนี้อายุ28แล้วเธอไม่แต่งงานไม่มีครอบครัว ตอนที่อายุ20เธอกำลังกลับจากมหาลัยก้ได้รับข่าวร่ายว่าพ่อของเธอเสียวชีวิตจากแก๊สระเบิด ไฟลุกลามไปทั่วโรงงงาน พ่อเธอเป็นวิศวกร เพื่อช่วยพนักงานออกมาจนหมดแต่สุดท้ายตัวเองกลับออกมาไม่ได้ ติดอยู่ในนั้นจนกระทั่งไฟลุกลาม เจ้าหน้าที่รีบมาทันทีแต่กลับควบคุมเพลิงไม่ได้เนื่องจากเป็นโรงงานที่ผลิตเกี่ยวกับเคมี เธอเสียงคุณพ่อไปจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น
จากนั้นหลังจากเรียนจบเธอก็ได้ไปเรียนการบินอีกสามปีและมาสอบเป็นนักผจญเพลิง เพราะไม่อยากให้อีกหลายๆคนสูญเสียเหมือนที่เธอเคยได้รับ
ไป๋เจินเจินรีบขับรถมาถึงหน่วยงาน ก่อนจะเช็คความพร้อมของเครื่องบิน รันเวย์เคลียร์พร้อมแล้ว ไป๋เจินเจินนั่งประจำตำแหน่ง เครื่องบินค่อยๆวิ่งจนเกือบสุดรันเวย์ก่อนจะเชิดหัวขึ้นแล้วตรงไปยังสถานที่ๆเกิดไฟป่า
มองจากด้านบนไฟป่าแรงมากเธอต้องหาจุดจอดที่ปลอดภัย ไป๋เจินเจินเห็นที่จอดจึงวิทยุกลับไปให้คนภาคพื้นมารอ ไม่นานก็มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่โครงการวิจัยกว่าสามสิบชีวิตมายืนรอ ไป๋เจินเจินต้องรับส่งสองรอบจึงจะหมด
“เจินเจิน พวกเขาบอกว่ามีเครืองมือและไดรฟ์ติดอยู่ที่นั่น เป็นไฟล์ดิบไม่ได้เอามา และมันสำคัญ “
“ หัวหน้าหวัง..มันสำคัญมากนะครับเพราะว่าเราใช้เวลาทุ่มเทไปมากกว่าจะได้ข้อมูลนี้มา”
หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอ่ยขึ้น แต่หวังอันไม่ยอม เขาถึงกับโมโหทันที
“พวกคุณห่วงแต่งานตนเอง แล้วลูกน้องผมล่ะ เครื่องบินไปกลับสี่รอบแล้ว หากขึ้นบินอีกผมก็ไม่มั่นใจ ผมต้องเอาชีวิตลูกน้องไปเสี่ยงเพียงเพื่อข้อมูลเฮงซวยที่พวกคุณกล่าวอ้างหรือ”
“นี่คุณหวัง งานวิจัยนี้มีรัฐบาลสนับสนุน คุณจะพูดอะไรก็ระวังปากคุณด้วย”
ไป๋เจินเจินที่เห็นว่าหัวหน้าอาจถูกพวกเขาเล่นงานได้จึงบอกไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไรค่ะหัวหน้าหวัง เดี๋ยวฉันบินไปอีกรอบก้ได้ เครื่องน่าจะไหวอยู่”
“อาเจิน จุดที่ลงจอดรับพวกเขามันใกล้จุดที่เพลิงโหมกระหน่ำมาก ฉันกลัวว่าเครื่องจะขัดข้องหากขึ้นบินอีก”
“ฉันจะระมัดระวังค่ะ หากมีเรื่องขัดข้องฉันจะดีดตัวออกมา หัวหน้าเก็ยอารมณ์เถอะค่ะ ฉันรู้วส่าคุณเป็นห่วงแต่ว่ามีเรื่องกับพวกเขาคุณจะเสียเปรียบเอาได้”
หวังอันมองหน้าบุคลากรของโครงการวิจัยนี้ ไฟป่าเกิดจากพวกเขาหรือเปล่านะ หากหาหลักฐานมาได้จะให้ติดคุกให้หมดเลย ไป๋เจินเจินเอาเฮลิคอปเตอร์ขึ้ขนอีกรอบ เธอบินไปยังจุดที่พวกเขาลืมกระเป๋าเครื่องมือ ที่จริงเธอเห็นแล้วตอนที่พวกเขาถือเอาไว้ ความจริงวัสดุนั่นทนไปมากนักทำไม่ไม่รอให้ไฟสงบก่อน หรือในกระเป๋ามีอะไรมากกว่าข้อมูลวิจัยหรือเปล่า
ไป๋เจินที่ตอนนี้ลงจอดเรียบร้อยก้รีบคว้ากระเป๋ยอุปกรณืทันทีก่อนจะเอาเครื่องขึ้นฟ้า เธอบินสูงไม่ถึงหนึ่งพันฟุต อยู่ๆเครื่องก็ขัดข้อง ไป๋เจินเจินคว้ากระเป๋าก่อนจะพยายามดีดตัวออกจากเครื่องบินแต่กลับติดขัด เครื่องถูกความร้อนมากเกินไป กระแสลมเปลี่ยนทิศ ไปโหมกลับมายังฝั่งเธอ
ไป๋เจินเจินพยายามเชิดหัวขึ้นแต่กลับไม่สามารถทำได้ สุดท้ายเครื่องก็สั่น ปลายหางเริ่มมีไฟลุก ห้องเครื่องควันขึ้น ไม่ทันได้คิดร่ำลาใครในใจเครื่องก็ดิ่งลงกลางกองเพลิงทันที ระเบิดตูมใหญ่ที่บนเขาทำให้หวังอันและคนอื่นๆที่มารวมตัวกันแล้วต่างก็รีบมาดู ควันสีดำพวยพุ่งสูงเสียดฟ้า พวกเขาภาวนาให้ไป๋เจินเจินดีดตัวออกมาได้ทัน
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา






Comments