‘ฮุ่ยเอ๋อร์ เจ้าไปอย่างสบายใจเถิด เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าไว้ ข้าจะทำให้ได้!’ผางเซิงกล่าวลาพระสนมฮุ่ยอย่างเงียบ ๆ ในใจ...“จับนางไว้...”ฮองเฮาเว่ยไหนเลยจะยอมให้พระสนมฮุ่ยตายไปเช่นนี้ นางต้องให้ผางเซิงตายไปพร้อมกันด้วย นางจึงตะโกนขึ้นมา“เสด็จแม่...”ในเวลาเดียวกัน เซียวหลินมู่ที่กองทัพหลวงกันไว้ก็เดินเข้ามาเขาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี ก็ตกใจจนสิ้นสติทันทีพลันพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง...เพียงแต่เซียวหลินมู่ช้าไปเล็กน้อย พระสนมฮุ่ยชนเสาไปแล้ว หัวของนางเลือดออกมาทันทีเลือดกระเซ็นไปบนใบหน้าของเซียวหลินมู่ แม้ว่าเขาจะคว้าอาภรณ์ของพระสนมฮุ่ยเอาไว้ แต่ก็ได้แต่มองพระสนมฮุ่ยทรุดลงกับพื้น“เสด็จแม่...”เซียวหลินมู่กรีดร้องออกมาอย่างใจสลาย กอดพระสนมฮุ่ยที่ทรุดลงมาได้ทันเวลา พร้อมกับน้ำตาไหลอาบหน้า...“เสด็จแม่… เสด็จแม่… ถังถีเตี่ยน รีบมาช่วยพระนางที…”เซียวหลินมู่มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นถังถีเตี่ยนเขาก็ตะโกนออกมาอย่างไร้สติถังถีเตี่ยนมองไปทางจักรพรรดิอู่อันจักรพรรดิอู่อันเองก็มิคาดคิดมาก่อนว่าพระสนมฮุ่ยที่อ่อนแอมาโดยตลอดจู่ ๆ จะแกร่งกร้าวเพียงนี้ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“เสด็จพ่อ ไม่มีเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จแม่ป่วย มิได้ตั้งครรภ์แน่นอน!”เซียวหลินมู่ตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ “เสด็จพ่อ มีคำกล่าวในหมู่ราษฎรว่า เป็นสามีภรรยาหนึ่งคืนเป็นบุญคุณกันไปร้อยวัน เสด็จแม่อยู่กับเสด็จพ่อมาหลายปีแล้ว เสด็จพ่อยังมิเชื่อในนิสัยของพระนางอีกหรือ?”“พระนางกำลังจะตาย… เสด็จพ่อจะใจร้ายดูพระนางตายเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“บังอาจ!”ขันทีฉางมิเคยมีโอกาสได้แสดงออกเลย เมื่อเห็นเซียวหลินมู่กล่าวหาองค์จักรพรรดิเช่นนี้ จึงตะโกนเสียงแหลมขึ้นมา“องค์ชายเย่ ผู้ใดอนุญาตให้ท่านตะโกนใส่ฝ่าบาท ความกตัญญูของท่านอยู่ที่ใดกัน?”จักรพรรดิอู่อันมองเซียวหลินมู่อย่างเย็นชา เขามิชอบวิธีที่เซียวหลินมู่ตะโกนใส่ตนเช่นนี้เลยคำพูดเหล่านั้นเขากล่าวหาตนว่าโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาหรือ?“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นว่าพระสนมฮุ่ยกำลังจะตายจริง ๆ หากยังพูดมากความกันเช่นนี้ จะให้พระสนมฮุ่ยตายไปเช่นนี้หรือจะรักษานางต่อพ่ะย่ะค่ะ?”ถังถีเตี่ยนปฏิบัติตามคำสอนของท่านฮั๋ว คือมิเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างนางสนมในวังแต่มิรู้ว่าเมื่อครู่ตกใจกับการตรวจร่างกายของผางเซิงหรือไม่ หรือว่าเห็นว่าชีวิตหนึ่งกำลังจะห
ราชองครักษ์ผางลังเลไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพระสนมฮุ่ยกำลังจะตาย แต่ทรราชผู้นี้ยังจะบังคับเซียวหลินมู่เช่นนี้อีก ทรราชเช่นนี้ มิต้องรับใช้ก็ได้!เขากำหมัดแน่น หางตากวาดมององครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นอย่างรวดเร็วองครักษ์เหล่านั้นไปขวางเซียวหลินมู่ไว้ ตรงหน้าของจักรพรรดิอู่อันมีเพียงขันทีฉางเพียงคนเดียวเท่านั้นขอเพียงตนจับจักรพรรดิอู่อันไว้เป็นตัวประกันได้ วันนี้เขากับเซียวหลินมู่ก็จะสามารถพาพระสนมฮุ่ยออกไปได้อย่างปลอดภัย และแม้กระทั่งพาครอบครัวของตนไปด้วยกระทั่งออกจากเมืองหลวง ไปอยู่ในที่ที่ท้องฟ้าสูงทะเลกว้างใหญ่ นับแต่นี้พวกเขาก็จะหนีไปไกลโดยไม่มีจุดหมายได้ ดีกว่าการติดตามทรราชเช่นจักรพรรดิอู่อันเป็นร้อยเท่า!“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อจะไร้หัวใจเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”เซียวหลินมู่หันหน้ากับตะโกนใส่จักรพรรดิอู่อันอย่างเคียดแค้นชิงชังจักรพรรดิอู่อันอยากจะดูว่า เมื่อเซียวหลินมู่ถูกบีบจนอับจนหนทางแล้วเขาจะต่อต้านหรือไม่ ดวงตาสีดำใต้คิ้วหนาของเขาจ้องมองเซียวหลินมู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม เป็นการบีบอย่างเย็นชาไร้ความปรานี“ลูกเนรคุณ นี่คือท่าทีของเจ้าที่คุยกับข้ารึ?”“หากวันนี้ข้ามิปล่อ
“พี่...”เซียวหลินมู่อุ้มพระสนมฮุ่ยแล้วคุกเข่าให้เซียวหลินเทียน น้ำเสียงของเขามีทั้งความคับข้องใจ ซาบซึ้งใจและความรู้สึกผิดแต่จะมีความคับข้องใจมากหน่อย จนยังมิทันได้เอ่ยวิงวอนอะไรเซียวหลินมู่ก็น้ำตาไหลออกมาอย่างรู้สึกว่าใจสู้มิไหวเสียก่อน เขาสะอื้นพลางเอ่ย “พี่สี่ รีบให้พี่สะใภ้มาช่วยเสด็จแม่ของข้าที… จากนี้ไปหากพวกท่านต้องการให้ข้าทำสิ่งใดข้าก็จะตอบแทนพวกท่านทุกอย่าง!”เซียวหลินมู่เป็นราวกับเด็กที่ได้รับความอยุติธรรม ครั้นเห็นญาติที่สามารถปกป้องตนได้ความโศกเศร้าและสิ้นหวังในใจมิอาจแสดงออกมาได้จึงกลายมาเป็นน้ำตาการเรียก “พี่” นี้ทำให้หัวใจของเซียวหลินเทียนสั่นไหวในราชวงศ์เรียกว่าเสด็จพี่ตลอด!คนทั่วไปต่างหากถึงจะเรียกพี่!แม้ว่าการเรียกว่าพี่มันจะเรียบง่าย แต่ในชั่วพริบตาก็ทำให้เซียวหลินเทียนรู้สึกถึงความเป็นพี่น้องที่แท้จริงได้เขามามิทันได้วิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นในพระตำหนักฮุ่ยจู๋ จึงเอ่ยกับเซียวหลินมู่อย่างปลอบใจ “พี่สะใภ้ของเจ้าจะเข้ามาบัดเดี๋ยวนี้!”ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น หลิงอวี๋ก็ถูกเถาจื่อประคองเข้ามา“พี่สะใภ้ โปรดช่วยเสด็จแม่ของข้าด้วย!”เซียวหลินมู่ยังมิลุกข
เซียวหลินมู่เอ่ยอย่างจริงใจ “เสด็จพ่อ หรือว่าหากเป็นไทเฮาได้รับบาดเจ็บ เสด็จพ่อจะมิช่วยได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เมื่อครู่ลูกถึงได้หุนหันพลันแล่นไปหน่อย ใช้น้ำเสียงรุนแรงกับเสด็จพ่อ ลูกประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินมู่คว่ำหน้าลงกับพื้นแล้วคำนับจักรพรรดิอู่อันเอาหัวกระแทกไปหลายครั้งคำพูดเช่นนี้ทำให้ความโกรธที่ระงับไว้ของจักรพรรดิอู่อันคลายไปมากเมื่อลองคิดดู หากวันนี้ใครกล้าขัดขวางตนมิให้ช่วยไทเฮา เขาจะทนดูไทเฮาตายไปได้หรือ?แม่ลูกมีสายใยเชื่อมกัน ลูกชายรีบร้อนที่จะช่วยแม่คือความกตัญญู เขาจะยังลงโทษเซียวหลินมู่ได้หรือ?‘หากเป็นเสด็จพ่อได้รับบาดเจ็บ ลูกก็จะเสี่ยงชีวิตฝ่าออกไปแล้วพาเสด็จพ่อไปหาหมอเช่นกัน…’คำพูดของเซียวหลินมู่ทำให้จักรพรรดิอู่อันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก หากลูกชายของตนมิสนใจตนเพราะอำนาจ มันจะมิเจ็บปวดยิ่งกว่าการกบฏหรือ?แม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่จักรพรรดิอู่อันยังคงมิสามารถกล้ำกลืนความโกรธไปเช่นนี้ได้ เขามองเซียวหลินมู่ แล้วมองเซียวหลินเทียน จากนั้นก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึม“เจ้าสองคนพี่น้องรักกันมากนะ เมื่อวานยังทะเลาะตัดขาดกันอยู่เลย แค่พริบตาเดียวก็รักใคร่ปรองดองกันแล้ว!”“องค์
ฮองเฮาเว่ยตกใจ แล้วมองเซียวหลินเทียนอย่างประหลาดใจเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเซียวหลินมู่มีโสมโลหิต แต่ลังเลที่จะเอามันออกมาช่วยหลิงอวี๋ ทั้งสองจึงมีความแค้นต่อกัน!แต่ตอนนี้ เซียวหลินเทียนกลับใจกว้างช่วยเซียวหลินมู่ปกปิดนี่เป็นความรักของพี่น้องจริง ๆ หรือ? หรือมีการสมรู้ร่วมคิดอะไรกันอีก?“อ๋องอี้ เจ้าคิดจะช่วยองค์ชายเย่กับพระสนมฮุ่ยปกปิดรึ? เจ้าก็รู้ว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!”ฮองเฮาเว่ยไหนเลยจะยอมให้องค์ชายเย่กับอ๋องอี้มีมิตรภาพลึกซึ้ง และมีความเกลียดชังร่วมกัน นางจึงเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์“อ๋องอี้ เจ้าต้องรู้ พระสนมฮุ่ยลักลอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นจนตั้งครรภ์ แล้วแอบใช้ยาทำแท้งจนทำให้เลือดออกมาก!”“โสมโลหิตนี้องค์ชายเย่ให้พระสนมฮุ่ยบำรุงเลือด! เช่นนี้แล้ว... เจ้ายังคิดจะปกปิดให้องค์ชายเย่หรือไม่?”เซียวหลินมู่ได้ยินสิ่งนี้ก็ก้มหน้าลงแล้วกำหมัดแน่นเขานึกถึงสิ่งที่จ้าวซวนมาบอกแทนเซียวหลินเทียน ในเมื่อพี่สี่ให้ตนปิดปากเงียบไว้มิให้ยอมรับว่ามีโสมโลหิต พี่สี่จะต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอนเขามิสามารถขัดจังหวะได้ มิเช่นนั้นหากพูดอะไรผิดพลาดไปจะทำลายแผนของพี่สี่เป็น
หมอจางโกรธเกลียดหลิงอวี๋มาก ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่นางเปิดโรงเหยียนหลิง ตนทำอะไรก็มิราบรื่นเลยตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่จะปรามหลิงอวี๋ได้ มีหรือเขาจะปล่อยไป!“พระชายาอ๋องอี้ นี่ท่านมิมั่นใจหรือ? หากมิให้ข้าดูข้าจะตรวจสอบได้เยี่ยงไรเล่า?”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาอย่างเหยียดหยาม “ข้าบอกหรือว่ามิให้ท่านดู? หากอยากดูก็ถือผ้าเหลืองแล้วตรวจเอาเถิด!”นางวางผ้าสีเหลืองกับโสมโลหิตไว้ในมือของหมอจางอย่างระมัดระวัง พลางเอ่ยด้วยท่าทางที่มิวางใจเป็นอย่างมาก “ดูดี ๆ เถิด! อย่าได้ซุ่มซ่ามทำเสียหายเข้า!”หมอจางกลั้นลมหายใจเอาไว้ในลำคอ ไม่มีการขยับจนรู้สึกมิสบายตัวเขามิสนใจที่จะโต้เถียงกับหลิงอวี๋แล้วรีบตรวจสอบโสมโลหิต ขอเพียงพิสูจน์แล้วว่าโสมโลหิตเป็นของปลอม หลิงอวี๋ก็จะมีความผิดฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!ถึงเวลานั้นค่อยคิดบัญชีทั้งเก่าและใหม่กับนางรวมกันไปเลย!แต่เขามองไปมองมาก็มิพบเบาะแสอะไรเลยโสมโลหิตนี้มีกลิ่นโสมฉุน มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมยิ่ง แม้ว่าเขาจะใช้สมองอย่างหนักแต่ก็ยังมิพบตำหนิใด ๆ เลย“หมอจาง ท่านดูมากพอแล้วกระมัง หากท่านมิสามารถแยกแยะได้ก็ให้โอกาสถังถีเตี่ยนเถิด!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขาพลิกไปพ
ความเย่อหยิ่งของถังถีเตี่ยนถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาก้าวไปข้างหน้า พลางเอ่ยเรียบ ๆ“กระหม่อมแก่แล้วจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้ก็กำลังคิดที่จะลาออกกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้าน! ในเมื่อฮองเฮาบอกว่ากระหม่อมไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ องค์จักรพรรดิได้โปรดอนุญาตให้กระหม่อมลาออกด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้เลยว่าถังถีเตี่ยนรู้สึกท้อแท้แล้วเขาเป็นลูกศิษย์ของท่านฮั๋ว ท่านฮั๋วเป็นลูกศิษย์ที่สมัครไว้ของตน นับดูแล้วถังถีเตี่ยนก็เป็นลูกศิษย์ของตนเช่นกันหลิงอวี๋จะปล่อยให้ลูกศิษย์ของตนจากไปพร้อมกับได้ชื่อว่าเป็นคนแก่สายตาฝ้าฟางได้เยี่ยงไร!แม้ว่าจะต้องไปก็ต้องไปอย่างสง่าผ่าเผย!“ถังถีเตี่ยน ท่านรีบอะไรกัน? ยังมิชัดเจนเลยว่าใครที่เป็นคนแก่สายตาฝ้าฟาง!”“หมอจางบอกว่าโสมโลหิตข้าเป็นของปลอม ก็แสดงว่าเป็นของปลอมเลยหรือ? ไร้สาระ ใครถือว่าสิ่งที่หมอไร้ฝีมือเช่นนี้พูดเป็นความจริงก็โง่แล้ว!”หลิงอวี๋หมดความอดทนกับฮองเฮาเว่ยไปนานแล้วจึงมิไว้หน้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิ เมื่อพูดคำหยาบคายออกไปจึงมิได้รู้สึกว่าเป็นการเสียมารยาทเซียวหลินเทียนได้ยินแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกม
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี