ขันทีเซี่ยไปที่ห้องทรงพระอักษรโดยที่มีเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงไปด้วย จากนั้นก็นำพระราชโองการออกมาจากห้องลับขององค์จักรพรรดิคนที่โถงด้านข้างต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อจ้าวฮุยรู้สึกมิค่อยสบายใจนัก เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกมิสบายใจนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันเขาติดตามจักรพรรดิอู่อันมายาวนานถึงเพียงนี้ เขารู้ว่าจักรพรรดิอู่อันรักในอำนาจ ทั้งยังกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตด้วยซ้ำจักรพรรดิอู่อันมิแม้แต่จะตัดสินตำแหน่งองค์รัชทายาท แล้วเขาจะทิ้งพระราชโองการสั่งเสียเอาไว้ได้เยี่ยงไรเล่า!นี่… หรือว่าจะเป็นการปลอมแปลงของไทเฮากับเซียวหลินเทียน?จิตใจของจ้าวฮุยเต้นระรัวขึ้นมาทันที หากพระราชโองการสั่งเสียเป็นของปลอม แล้วพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพลังของเซียวหลินเทียนหรือว่าของไทเฮากันเล่าพวกเขาจะต้องเตรียมการเอาไว้หมดแล้วอย่างแน่นอน ทางฝ่ายของตนมาอย่างกะทันหันเกินไป มิทันได้เตรียมตัวอะไรเลย!หากเปิดโปงพวกเขาไปเช่นนี้ แล้วทางฝ่ายตนจะได้รับผลประโยชน์หรือ?ในขณะที่จิตใจของจ้าวฮุยกำลังคิดว้าวุ่นอยู่นั้น ขันทีเซี่ยก็กลับมาแล้วขันทีเซี่ยมอบพระราชโองการสั่งเสียให้ท่านอ๋องเฉ
“กระหม่อมเห็นด้วย!”เมื่อมีใต้เท้าหลี่เป็นผู้นำแล้ว ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ลุกออกมาตาม ๆ กัน มินานก็มีขุนนางลุกออกมาเกือบหนึ่งในสามของทั้งหมดแล้วแม้ว่าการแสดงออกของเซียวหลินเทียนจะดูสงบ แต่กลับแอบตกใจคิดมิถึงว่า องค์ชายคังที่ด้อยกว่าตนทั้งด้านบุ๋นและบู๊จะมีผู้สนับสนุนมากมายถึงเพียงนี้!องค์ชายคังรู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในสามก็เพียงพอแล้วรอให้ถึงวันที่ตนได้สิบทอดพลังที่ยิ่งใหญ่ก่อน พวกคนไม่มีจุดยืนเหล่านั้นก็ต้องก้มหัวให้ตนอย่างเชื่อฟังมิใช่หรือ!เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาเองก็มิได้ด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนนี่!องค์ชายรุ่ยแววตาสงบ แต่ในใจกลับอิจฉาทั้งสองคน หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้นจริง ๆ!เขาเงียบ เขาคิดเพียงว่า หากรวบรวมกำลังมากพอแล้วค่อยมาแย่งตำแหน่งนี้ไป แต่คิดมิถึงเลยว่าใต้หล้านี้เกือบจะถูกองค์ชายคังกับอ๋องอี้แบ่งไปจนหมดแล้วแต่เขาได้พบโลกอีกใบที่โม่เหอแล้ว รอให้เขากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดก่อนเถิด แล้วทุกพื้นที่ในฉินตะวันตกจะต้องอยู่ในกำมือของเขา!ส่วนองค์ชายเย่เมื่อเห็นภาพนี้ก็ถอดใจจากตำแหน่งมังกรไปแล้วจูหลานพูดถูก หากต้องการจะได้ครอบครองตำแหน่งนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายไปม
ข่าวที่ท่านอ๋องอี้เซียวหลินเทียนได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ได้แพร่ออกไปในวังหลวงแล้วบรรดาสตรีที่รอคอยอยู่ที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยได้ยินเรื่องนี้เข้าต่างก็ประหลาดใจเป็นไปได้อย่างไร?พระชายาเส้าเกือบจะหลุดปากกรี๊ดออกมาแล้วแต่อดกลั้นไว้ได้นี่ต้องเป็นเรื่องที่เหล่าขุนนางว่าการยืนยันพระราชโองการสั่งเสียแล้วจึงได้ประกาศออกมา หากนางคัดค้านเช่นนั้นจะมิเป็นการฝ่าฝืนพระราชโองการอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ? เรื่องเป็นที่แน่นอนแล้ว นางทำได้เพียงสงบสติไว้ก่อนเท่านั้นสีหน้าของจ้าวเจินเจินซีดเผือดไปทันที นางเกือบจะทรุดนั่งลงไปกับพื้นแล้วเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิหรือ?เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮา?คนโง่เขลาที่เมื่อก่อนนางมิเคยเห็นอยู่ในสายตาได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว!มีเพียงจูหลานเท่านั้นที่ก้าวไปยินดีกับหลิงอวี๋ที่ได้ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทอย่างจริงใจพิธีราชาภิเษกของเซียวหลินเทียนยังมิได้จัดขึ้น ต้องรอให้พิธีศพของจักรพรรดิอู่อันเสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยเลือกวันมงคล ดังนั้นจึงยังมิสามารถเรียกหลิงอวี๋ว่าฮองเฮาได้“ยินดีด้วยเพคะพี่หญิง!”จักรพรรดิอู่อันเพิ่งจะจากไป ต่อให้จูหลานจะดีใจกับหลิ
มินานนัก พระชายาผิงหนานที่สวมชุดขาวไว้ทุกข์ก็เดินเข้ามา“ยินดีด้วยเพคะพระชายาองค์รัชทายาท!”พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างจริงใจ อันเจ๋อบุตรชายของตนกับพวกของหลิงอวี๋เป็นพวกเดียวกัน การที่เซียวหลินเทียนได้เป็นจักรพรรดิ ตำแหน่งของอันเจ๋อก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วย“พระชายา ระหว่างเรามิจำเป็นต้องสุภาพต่อกันหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านเองก็เห็นแล้วว่า ข้าเพิ่งจะได้นั่งตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทก็เจอปัญหาเช่นไร ที่พระชายาเส้ามอบตราหงส์มาให้ข้าอย่างง่าย ๆ มิใช่เพราะอยากเห็นเรื่องตลกของข้าหรอกหรือ?”“ข้าจะถูกคนหัวเราะใส่ก็มิสำคัญหรอก แต่ข้ามิอาจให้พวกของเซียวหลินเทียนมาเดือดร้อนไปด้วยได้ ดังนั้น ท่านต้องช่วยข้า!”พระชายาผิงหนานเองก็รู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาสุภาพต่อกัน หากหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ดีก็หมายความว่าพวกเขาก็จะมิได้ดีเช่นกันเวลานี้พวกเขามีเพียงแค่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้นจึงจะฟันฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็บอกมาได้เลย!” พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างเฉียบขาด“เรื่องการจัดการและแม่นมภายในวังล้วนถูกพระชายาเส้าควบคุมไ
ต้องบอกเลยว่า พระชายาผิงหนานนั้นโน้มน้าวผู้คนได้ดีมากจริง ๆ เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังนางพูดเช่นนั้นก็เหมือนว่าได้เห็นแสงสว่างในความมืดใช่แล้ว!เมื่อก่อนตนเห็นว่า สตรีเหล่านั้นมิสามารถเล่าเรียนได้ก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือพวกนางได้บัดนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว นางลืมความตั้งใจเดิมนี้ไปได้อย่างไรกัน!ชีวิตในวังหลวงกดดันและมีการตีกรอบมากก็จริงแต่ในภายภาคหน้า ตนกับเซียวหลินเทียนต่างหากที่จะเป็นเจ้าของวังหลวงที่แท้จริง พวกเขาสามารถร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!ก็เหมือนกับในตอนแรกที่ตนเพิ่งจะข้ามเวลามาแล้วคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ล้วนมิอยากพบตนแต่จากที่ตนแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ วัน พวกจ้าวซวนก็ยืนข้างตนในยามที่ฉินรั่วซือกลั่นแกล้งตนมิใช่หรือ?หากต้องการให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสบายใจก็ต้องพึ่งตนเองแล้วเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้วังหลวงก็แค่ใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอี้มิกี่สิบเท่าเอง ทว่าต่อให้ใหญ่โตเพียงใด สิ่งที่นางต้องเอาชนะให้ได้ก็มีเพียงแค่ใจคนเท่านั้น!ขอเวลาสักหน่อย นางจะต้องทำให้คนในวังหลวงเปลี่ยนแปลงเป็นคนของตำหนักอ๋องอี้แล้วอยู่ฝ่ายตนได้แน่นอน“พระชายา ท่านพูดถูก ข้าคิ
หลิงอวี๋แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อนเลย ต้องพบผู้คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แม้ว่าจะมีคนที่ไทเฮากับพระชายาผิงหนานหามาคอยช่วยอยู่ ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายมากอยู่ดีหานอวี้กับหลิงซวนคอยช่วยนางจดบันทึกอยู่ข้าง ๆ และหมิ่นกูก็ช่วยจัดหมวดหมู่ให้ส่วนทางด้านพระที่นั่งบำรุงฤทัย ไทเฮาได้ทำการจัดการเรื่องห้องโถงที่ตั้งศพอย่างกังวลในห้องโถงที่ตั้งศพได้มีการแขวนผ้าสีดำและจัดวางโต๊ะธูปไว้ หลังจากรุ่งสางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยาจะเริ่มมาเข้าเฝ้าเคารพพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันกันต้องมีการเตรียมอาหารและชุดไว้ทุกข์ของคนเหล่านี้ไว้ดีที่มีการเตือนจากพระชายาผิงหนาน หลิงอวี๋จึงได้ส่งคนไปแจ้งเกิ่งเสี่ยวหาวกับทางเรือนหยกอำไพไว้ก่อนแล้วว่าให้หาคนมาเร่งจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ตนในวังมีผู้ดูแลอาภรณ์ของตนอยู่ และคนที่มาดูแลเรื่องอาภรณ์ก็คือหัวหน้าหานผู้เป็นขุนนางหญิง หลิงอวี๋จึงสั่งคนไปบอกให้นางมาพบตนแต่เป็นเวลานานแล้วหัวหน้าหานก็ยังมิมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่านางเป็นคนของพระชายาเส้าและจงใจจะทำให้ตนเองลำบากหลิงอวี๋จึงให้คนไปหาแม่นางเหมยที่เรือนหยกอำไพ พลางให้เถาจื่อไปเลือกนางกำนัลที่แข็งแรงไว้ก
หลิงซวนทิ้งสายลับหนึ่งคนไว้คอยดูการจัดการอาภรณ์ หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อย การจัดการอาภรณ์ก็ยังมิเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยหลิงซวนได้รับข่าวมาก็กัดฟัน หัวหน้าหานผู้นี้มิเห็นอาจารย์ของตนอยู่ในสายตาเลย!หึ!หัวหน้าหานฉลาดมาทั้งชีวิตแต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา นางมิรู้หรือว่าคนที่โดดเด่นจะถูกโจมตีได้ง่าย?อาจารย์ของตนอยากยืนหยัดอยู่ในวังอย่างมั่นคง หากมิหาคนมาเปิดคมมีดเสียก่อนแล้วจะสร้างบารมีของตนได้อย่างไรเล่าได้!หากหัวหน้าหานอยากจะเป็นคนที่ลองมีดคนแรก เช่นนั้นก็เติมเต็มความปรารถนาให้นางเสียหน่อยแล้วกันหากฝ่ายห้องเย็บปักมิจัดการชุดไว้ทุกข์ พระชายาเส้ากับจ้าวเจินเจินจะรู้ในทันทีเลยทั้งสองคนนั้นล้วนรอดูความสนุกอยู่แล้ว ประเดี๋ยวเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยามากราบไหว้เคารพพระบรมศพแล้วไม่มีชุดไว้ทุกข์ใส่ คนเหล่านี้ก็คงจะถ่มน้ำลายใส่หลิงอวี๋จนจมน้ำลายตายเมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้สว่างแล้วหลิงอวี๋จึงพาพวกหลิงซวนไปเอาชุดไว้ทุกข์ที่ฝ่ายห้องเย็บปัก ด้านในฝ่ายห้องเย็บปักกำลังยุ่งกันเลยหัวหน้าหานให้ลูกน้องของตนทำท่าทีว่ากำลังยุ่งรอให้หลิงอวี๋มาเห็นอยู่!“หัวหน้าหาน ชุดไว้ทุกข์ชุดแรกเสร็จหรื
คำพูดนี้ของเถาจื่อรุนแรงยิ่งกว่าการตบหน้าหัวหน้าหานเสียอีกตอนนี้นางถึงได้รู้ว่า เหตุใดหลิงซวนจึงถามว่าสามารถทำได้กี่ชุดในเวลาหนึ่งก้านธูป ที่แท้ก็รอเช่นนี้นี่เอง!“พวกเจ้าหลอกลวงเจ้านาย!”เถาจื่อคว้าปกเสื้อของหัวหน้าหานไว้อย่างโหดร้าย พลางดุด่า “พูดง่าย ๆ ก็คือ มิเห็นคำสั่งของพระชายาเราอยู่ในสายตา!”“แต่หากพูดแบบรุนแรงก็คือ เป็นการดูหมิ่นองค์จักรพรรดิสูงสุด อยากให้คนในครอบครัวของพระองค์มิทันได้รับการกราบไหว้จากลูกกตัญญู!”จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้ว เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิอู่อันจึงเป็นจักรพรรดิสูงสุดเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนหน้าผากของหัวหน้าหานแล้วไหลลงมา นางอ้าปากแต่มิรู้ว่าควรจะอธิบายตนเองอย่างไรนางแอบเสียใจ เมื่อครู่น่าจะทำชุดไว้ทุกข์บางส่วนมาให้พระชายาองค์รัชทายาทแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนทว่าเป็นเพราะว่าตนอวดดีจึงได้ทิ้งจุดอ่อนไว้ให้พระชายาองค์รัชทายาทรู้เมื่ออยู่ในน้ำมือของพระชายาองค์รัชทายาทเช่นนี้แล้วจะรอดพ้นความผิดไปได้อย่างไร!เถาจื่อหุ่มนางลงบนพื้น หัวหน้าหานคุกเข่าไปคำนับหลิงอวี๋ทันที“พระชายาองค์รัชทายาท บ่าวมิรับผิดชอบในคำสั่งของท่านเอง
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี