เผยอวี้นอนอยู่บนเก้าอี้อย่างสะลึมสะลือ เมื่อได้ยินเสียงประตูถูกผลักออกแว่ว ๆ ก็คิดว่าลู่หนานมาแล้วจึงโวยวายออกไป“ลู่หนาน ข้าคิดว่าถูกคนวางอุบายใส่ข้าแล้ว! เจ้ารีบไปเอายาแก้จากพระชายาองค์รัชทายาทมาให้ข้าที!”ร่างกายของเผยอวี้ร้อนดั่งไฟ และคลื่นความร้อนก็ทำให้เขาแทบจะทนมิไหวแล้วต่อให้โง่แค่ไหนเขาก็รู้ว่าตนถูกวางอุบายใส่เผยอวี้ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ลู่หนาน ตอนนี้มีเพียงลู่หนานเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือตนได้ มิเช่นนั้นหากตนขาดสติแล้วทำสิ่งใดไปจะมิใช่เพียงแค่ตนเองที่อับอาย แต่เซียวหลินเทียนก็จะมิสามารถพูดอะไรเพื่อตนได้ด้วยคนที่อยู่ตรงประตูมิตอบรับใด ๆ เผยอวี้ได้ยินเพียงเสียงตุบดังขึ้นมาราวกับว่ามีสิ่งของอะไรบางอย่างถูกโยนเข้ามา จากนั้นประตูก็ปิดไปอีกครั้ง“ลู่หนาน เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่? ข้าถูกคนวางอุบายใส่!”เผยอวี้ทั้งร้อนใจทั้งโกรธ มองเห็นอยู่ราง ๆ ว่ามีร่างคนอยู่ที่พื้น เขายันตัวลุกขึ้นพลางเอ่ยอย่างมิพอใจ “เจ้าพูดสิ!”“หากเจ้ายังมิช่วยไปตามคนมาให้ข้า ข้าจะต้องแย่แน่!”คนผู้นั้นก็ยังมิพูดจาอีก เผยอวี้จึงเดินโซเซเข้าไปหาแต่เขาเวียนหัวมากจึงควบคุมแรงได้มิดี เผยอวี้จึงเ
คนผู้นี้จะเป็นใครไปได้ นอกเสียจากไท่เฟยเส้าแล้วหลิงอวี๋ก็นึกถึงคนอื่นมิได้แล้ว!วันพรุ่งจะเป็นพิธีแต่งตั้งฮองเฮา หากวันนี้ปล่อยข่าวออกไปว่าตนกับเผยอวี้ลักลอบมีความสัมพันธ์กัน จะมิได้มีเพียงตนเองที่จะถูกลงโทษ แต่ท่านอดีตเสนาบดีเองก็จะแย่ไปด้วย!เผยอวี้เองก็เช่นกัน!การกระทำนี้ของไท่เฟยเส้าคิดจะทำลายตนจากการเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังของเซียวหลินเทียน!และไท่เฟยเส้าก็เกรงว่า แผนการจะล้มเหลวจึงสั่งให้คนสังหารเซียวทงด้วย การทำสองอย่างพร้อมกันเช่นนี้ ต่อให้พวกเขารอดพ้นให้เรื่องที่หนึ่งก็มิอาจรอดพ้นเรื่องที่สองได้!“เผยอวี้ ข้าจะอยู่ที่นี่มิได้!”ในตอนนี้หลิงอวี๋ไม่มีเวลาตรวจว่าเซียวทงตายได้อย่างไร นางรู้เพียงว่านางมิสามารถอยู่ที่ให้ถูกจับในที่เกิดเหตุได้“เจ้าออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง! ข้าจะถ่วงเวลาคนที่อยู่ด้านหน้าไว้เอง!”เผยอวี้ก็ครุ่นคิดและตัดสินใจในทันที“อืม เจ้ารับมือสถานการณ์ไปก่อน วางใจได้ ข้าไม่มีทางให้พวกเขาตัดสินโทษเจ้าแน่นอน!”หลิงอวี๋เอายาแก้จากในมิติออกมาส่งให้เผยอวี้ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็ตกหลุมพรางเช่นนี้ หลิงอวี๋แค่ดูสีหน้าของเผยอวี้ก็รู้แล้วว่าเขาก็ตกหลุมพรางในแบ
“เหตุใดพระชายาองค์รัชทายาทจึงไร้เหตุผลเช่นนี้เล่า นางรู้หนังสือและมีมารยาทดีแท้ ๆ มิน่าจะประหารเจ้าเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้กระมัง!”ไท่เฟยเส้ายิ้มพลางเอ่ย “ไทฮองไทเฮาให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินใจ เจ้าอย่าได้กลัวเลย ให้พวกเราเข้าไปเถิด!”หลิวเจินลังเลเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไทฮองไทเฮาเองก็อยู่ด้วยจึงโค้งคำนับแล้วหลีกทางให้ไทฮองไทเฮามองไท่เฟยเส้าโดยมิพูดอะไร นี่จะเล่นละครอะไรให้ตนกับพวกสตรีบรรดาศักดิ์ดูอีก?อย่าได้มุ่งเป้าไปยังหลิงอวี๋เชียวนะ!ไทฮองไทเฮากำลังคิดที่จะปกป้องหลิงอวี๋ แต่ข้างในกลับมีเสียงกรีดร้องดังออกมา จากนั้นนางกำนัลผู้หนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมา เมื่อเห็นว่ามีคนหมู่มากอยู่ก็ตกใจจนเข่าทรุดร้องไห้ออกมายกใหญ่“ไทฮองไทเฮา ไท่เฟย แย่แล้วเพคะ องค์… องค์หญิงหก… นางถูกแม่ทัพเผยกับพระชายาองค์รัชทายาทปลงพระชนม์แล้วเพคะ!”“ว่ากระไรนะ?”ไทฮองไทเฮาใจกระตุกไปทันที สีหน้าก็ซีดไปเลย เซียวทงตายแล้วหรือ?“จะเป็นไปได้อย่างไร!”ไท่เฟยเส้าเห็นว่าสถานการณ์เป็นตามแผนที่ตนวางไว้ก็ดีใจ แต่ภายนอกกลับดุด่าอย่างตื่นตระหนก “เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด!”“องค์หญิงหกจะถูกแม่ทัพเผยกับพระชายาองค์รัชทายาส
“ด้านใน...”ไท่เฟยเส้าชี้ออกไปราวกับว่าเห็นเป็นเรื่องสกปรกที่มิอาจเอ่ยออกมาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากถึงเพียงนี้ได้ จึงหันไปเอ่ยกับฟางเอ๋อร์ “เจ้ารายงานองค์จักรพรรดิสิ!”ฟางเอ๋อร์คุกเข่าลงกับพื้นแล้วเล่าเรื่องที่บอกกับไท่เฟยเส้าและทุกคนเมื่อครู่ไปอีกรอบยังมิทันจะสิ้นเสียงนาง ขุนนางเหล่านั้นก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีพวกเขายังมิทันได้พูดอะไร อันเจ๋อก็ตะคอกออกมาอย่างร้อนใจเสียก่อน “พูดจาเหลวไหล! แม่ทัพเผยกับพระชายาองค์รัชทายาทมิใช่คนเช่นนี้ พวกเขาจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!”ฉินซานเองก็สีหน้าเรียบเฉยไปเช่นกัน เขามิเชื่อว่าเผยอวี้กับหลิงอวี๋จะแอบนัดพบกันแต่ยังมิทันที่เขาจะได้พูดอะไร ใต้เท้าวางที่เป็นพวกของจ้าวฮุยก็ตะโกนขึ้นมา “แม่ทัพอัน เจ้าจะช่วยเขาพูดบิดเบือนความจริงไปเพราะว่าเจ้าเป็นสหายของเผยอวี้มิได้กระมัง!”“หญิงชายชู้ล้วนติดอยู่ข้างในกันทั้งคู่เช่นนี้จะผิดพลาดได้หรือ?”“ฝ่าบาท ให้คนไปคุมตัวพวกเขาออกมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ กล้าทำเรื่องผิด ๆ ในวังเช่นนี้ ทั้งยังทรยศฝ่าบาทอีก นี่เป็นความผิดขั้นร้ายแรงมากแล้ว ยังจะกล้าสังหารคนอื่นเพื่อปิดปากอีก ความผิดนี้มิอาจให้อภัยได้เลย! ควรตัดสินประหา
ความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ขององค์ชายคังกับไท่เฟยเส้านั้นคนอื่นอาจจะมิได้สังเกต แต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นได้เขาจึงยิ่งมั่นใจเลยว่าเรื่องวุ่นวายในวันนี้หนีมิพ้นสองคนนี้อย่างแน่นอนความโกรธในใจของเซียวหลินเทียนก็ยิ่งพุ่งสู่งขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ตนเป็นอ๋องอี้ พวกคนเลวทั้งหลายเหล่านี้ก็เปลี่ยนสารพัดวิธีมาลอบสังหารและใส่ร้ายเขาและภรรยาตอนนี้ตนเป็นจักรพรรดิแล้ว พวกเขาก็ยังมิลดละ ยังคิดที่จะใช้วิธีที่มิอาจให้คนอื่นรับรู้ได้เหล่านี้มาจัดการพวกเขาอีกนี่เห็นว่าตนรังแกได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?ได้เลย วันนี้เขาจะทำให้คนพวกนี้เห็นความร้ายกาจของตน!“ไท่เฟยเส้า ท่านแน่ใจหรือว่า คนที่อยู่ข้างในคือแม่ทัพเผยกับพระชายาองค์รัชทายาทจริง ๆ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามอย่างเย็นชา“ไท่เฟยเส้า คิดให้ดีแล้วค่อยตอบ มิเช่นนั้นท่านเองจะถูกลงโทษไปด้วยเช่นกัน! หากข้าตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าเป็นการใส่ร้ายจะมิปล่อยไปง่าย ๆ แน่!”ไท่เฟยเส้าขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่ามีหลุมพรางอยู่ในคำพูดของเซียวหลินเทียน เพราะว่านางเคยดูแลวังหลังมา นางรู้ว่าในทุกเรื่องจะต้องเหลือทางหนีทีไล่ให้ตนไท่เฟยเส้าจึงทำเป็นเอ่ยอย่างลังเล “ฝ่าบาท
หลิงอวี๋หันหลังบังสายตาของทุกคนเอาไว้ มือของนางแตะไปที่ชีพจรของเผยอวี้ ก็เห็นว่าเผยอวี้ลืมตาขึ้นมาขยิบตาให้นางอย่างรวดเร็วแล้วหลับตาลงไปหลิงอวี๋จึงแอบโล่งใจ เผยอวี้มิได้เป็นอะไร เช่นนั้นการบาดเจ็บนี้ก็เป็นของปลอมสมองของหลิงอวี๋ประมวลผลอย่างรวดเร็ว มือของนางก็มิได้หยุด นางดึงเสื้อของเผยอวี้ออก เมื่อเห็นก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเผยอวี้แทงตรงหน้าอกตนเองบริเวณภายนอก แต่มิได้บาดเจ็บถึงภายใน หากมองจากภายนอกเช่นนี้จะดูอันตรายมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วมิได้อันตรายใด ๆหลิงอวี๋ยังคงทำเป็นพันแผลให้เผยอวี้อย่างรวดเร็ว พลางเอ่ยอย่างดีใจ “แม่ทัพเผยโชคดีเพคะ มิได้บาดเจ็บถึงหัวใจ หากเข้าไปอีกเพียงเล็กน้อย หม่อมฉันก็มิสามารถช่วยเหลือเขาได้แล้ว!”เซียวหลินเทียนกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของเผยอวี้จึงยืนอยู่ข้าง ๆ ตลอด เขาก็เห็นเช่นกันว่าเผยอวี้มิได้บาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิตจึงได้โล่งใจไปแต่ภายนอกเขากลับแสร้งต่อว่าออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “มือสังหารผู้นี้กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว กล้าที่จะทำเช่นนี้ในวัง ข้ามิปล่อยไปแน่นอน!”“จ้าวซวน ให้แม่ทัพสือค้นหาในวังทันที จับตัวมือสังหารมาให้จงได้!”องค์ชายคังร้อนใจขึ้
คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนทำเอาใต้เท้าวางกับองค์ชายคังต่างก็มิกล้าพูดอะไรตามใจอีกเซียวหลินเทียนในตอนนี้เป็นจักรพรรดิ คำพูดของเขาก็คือพระราชโองการ“ผู้ที่มิเกี่ยวข้องออกไปรอข้างนอกกันให้หมด!”สตรีบรรดาศักดิ์เหล่านั้นถูกท่านอ๋องเฉิงเชิญไปพักผ่อนที่ห้องข้างนอกก่อนแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้หมิ่นกูเอาอาหารมาส่งให้ที่ศาลาเหยาฮั๋วและให้กินที่นี่แต่สตรีบรรดาศักดิ์เหล่านี้มีหรือจะมีแก่ใจกินอาหาร ในวังเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ งานเลี้ยงส่งท้ายปีก็พังไปหมดแล้วก่อนหน้านี้ยังวางแผนอยู่ว่า หลังจบงานเลี้ยงก็จะสามารถกลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวและฉลองปีใหม่ด้วยกันได้ เกรงว่าความปรารถนานี้จะล้มเหลวไปเสียแล้วอารมณ์ของไทฮองไทเฮาก็ยิ่งแย่ลงไปอีก การสวรรคตของจักรพรรดิอู่อันเพิ่งจะจบลงไป ตอนนี้เซียวทงก็มาถูกคนสังหารตายในวังอีกนี่แต่ละคนจะมิให้ตนเองได้หมดห่วงเลยหรือ!จ้าวฮุยกับองค์ชายคังและพวกขุนนางล้วนรออยู่ในสวน พวกเขาอยากจะดูว่าท่านอ๋องเฉิงจะไต่สวนอย่างไรท่านอ๋องเฉิงมิได้สนใจพวกเขา เริ่มแรกเขาสั่งการกองทัพหลวงให้พาตัวฟางเอ๋อร์กับหลิวเจินไปไว้ที่ห้องหนึ่งเพื่อควบคุมตัวไว้ก่อนหลิงอวี๋มิได้รี
ฮูหยินวางกับฮูหยินหลินมองหน้ากันในทันที สิ่งเหล่านั้นที่พวกนางพูดกันเป็นคำพูดที่ปลุกปั่นและกระตุ้นความรู้สึกของเหล่าสตรีบรรดาศักดิ์ มีหรือจะกล้าพูดอีกครั้งต่อหน้าเซียวหลินเทียน“พูดมา!”เซียวหลินเทียนตะคอกออกมาอย่างน่าเกรงขาม “หากมิพูดจะถือว่าฝ่าฝืนราชโองการ!”ตุ้บ… ตุ้บ...ฮูหยินวางกับฮูหยินหลินตกใจจนคุกเข่าลงไปทั้งคู่“หม่อมฉันมิกล้าฝ่าฝืนพระราชโองการเพคะ หม่อมฉันพูดแล้วเพคะ...”ฮูหยินวางจึงกัดฟันพูดในสิ่งที่ตนพูดไปอีกครั้งฮูหยินหลินเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้จึงทำได้เพียงพูดสิ่งที่ตนพูดไปเช่นกัน“หึ เมื่อครู่ข้าพูดว่าอย่างไร? เจ้าสองคนพูดมาอีกรอบ!”วันนี้เซียวหลินเทียนตั้งใจว่าจะจัดการกับสตรีขี้นินทาเหล่านี้ พวกนางเห็นว่าคำพูดของตนไม่มีน้ำหนักคล้ายกับเมื่อก่อนตอนที่เป็นอ๋องอี้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?ฮูหยินวางแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว นางเสียใจอย่างยิ่ง เหตุใดตนจึงพูดมากเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนบอกว่า ‘หากคดีนี้ยังไต่สวนมิชัดเจนแล้วผู้ใดกล้าใส่ร้ายผู้อื่นตามอำเภอใจอีก ก็ลงโทษเสียให้หมดข้อหาหมิ่นประมาท!’ตอนนี้คดียังมิชัดเจน นางก็ชี้เป้าไปที่พระชายาองค์รัชทายาทกับแม่ทัพเผ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี