ข่าวที่แม่ทัพสือเข้าไปในวังแล้วกระทบกระทั่งกับหลิงอวี๋ จนถูกหลิงอวี๋ลงโทษให้คุกเข่าอยู่เป็นเวลาสองชั่วยามแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วในราชสำนักวันรุ่งขึ้นแม่ทัพสือโกรธเพราะเรื่องนี้ จึงใช้ข้ออ้างว่ามิสบายพักฟื้นอยู่ที่บ้านหลิงอวี๋ก็เลื่อนให้รองผู้บัญชาการหลี่เจิ้นมาดูแลกองทัพหลวงเป็นการชั่วคราวทันทีส่วนแม่ทัพสือคืนนั้นก็ไปดื่มจนเมาอยู่ที่ภัตตาคาร สุดท้ายก็ถูกฮูหยินสือมารับตัวกลับไป วันรุ่งขึ้นก็มีรายงานว่าฮูหยินสือพาแม่ทัพสือออกไปข้างนอกเพื่อคลายความกังวลในใจของเขาหลี่ว์เซียงมิรู้เรื่องจึงไปเกลี้ยกล่อมหลิงอวี๋หลิงอวี๋จึงเล่าเรื่องเบี้ยหวัดทหารให้เขาฟัง แล้วสุดท้ายก็ยิ้มพลางเอ่ย “แม่ทัพสือแค่ให้ความร่วมมือแสดงละครกับข้า ท่านมิต้องกังวล รอเขาสอบสวนเรื่องเบี้ยหวัดทหารแน่ชัดแล้วเขาจะกลับมา!”หลี่ว์เซียงจึงได้วางใจ ทว่าก็เป็นกังวลแทนหลิงอวี๋อยู่ดี หากไปแตะต้ององค์ชายคังแล้วพวกของจ้าวฮุยจะยืนดูอยู่นิ่ง ๆ ได้หรือ?หลิงอวี๋แค่ดูแลเรื่องบ้านเมืองเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่องค์ชายคังเป็นองค์ชาย หลิงอวี๋มิสามารถตัดสินประหารเขาโดยพลการได้!“ฮองเฮา หลายปีมานี้ตระกูลจ้าวรวมถึงองค์ชายคังได้รวบรว
หลังจากไล่ตามมาตลอดหลายสิบลี้ องค์ชายคังก็ตามหัวหน้าหมู่บ้านทันที่เส้นทางภูเขาองค์ชายคังโกรธมาก รีบกวดม้าไปข้างหน้าแล้วขวางกั้นเส้นทางภูเขาอย่างโกรธเกรี้ยว“สารเลว เจ้ากล้ายักยอกเงินของข้า เจ้าคิดว่าชีวิตยืนยาวเกินไปรึ?”หัวหน้าหมู่บ้านมีความทุกข์ที่มิอาจพูดออกมาได้ เมื่อธนูยิงออกไปแล้วมิอาจย้อนกลับได้ เพื่อครอบครัวของตน เขาทำได้เพียงทำตามที่แม่ทัพสือสั่งเท่านั้น“องค์ชาย เงินนี้เป็นเงินที่ท่านได้มาจากการปล้นเบี้ยหวัดทหาร เงินนี้ได้มาโดยมิชอบ ผู้ที่มีส่วนร่วมก็มีสิทธิ์ได้ กระหม่อมเอามาสักหน่อยแล้วจะเป็นอย่างไรเล่า!”หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้ยางอาย “องค์ชาย ท่านอย่าได้ลืมว่าในช่วงหลายปีมานี้ล้วนเป็นกระหม่อมที่ช่วยท่านรักษาเบี้ยหวัดทหารไว้ กระหม่อมเสี่ยงชีวิตทำงานให้กับท่าน แต่ท่านกลับให้เงินมิกี่ร้อยตำลึงก็คิดจะไล่กระหม่อมแล้วหรือ?”“สารเลว!”องค์ชายคังโกรธมากจนเสียสติแล้วตะคอกออกไป “เจ้าเป็นเพียงทาสก็ควรรับใช้ข้าแล้ว! ให้เจ้าแค่มิกี่ร้อยตำลึงก็เพียงพอแล้ว เจ้ายังต้องการอีกเท่าใด?”หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มพลางเอ่ย “เบี้ยหวัดทหารสองล้าน นี่มิใช่จำนวนน้อย หากถูกพบเข้า ครอบครั
“ยอมให้จับแต่โดยดี คนชั้นต่ำเช่นเจ้าคิดจะจัดการกับข้ารึ? ฮ่า ๆ ๆ ...”องค์ชายคังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาจะยอมให้จับแต่โดยดีได้อย่างไร หากถูกหลิงอวี๋พากลับไป เขาไม่มีทางหนีพ้นจากความตายเป็นแน่เดิมทีเขาก็มีความตั้งใจที่จะสังหารหลิงอวี๋อยู่แล้ว และบัดนี้ก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะสังหารหลิงอวี๋มากกว่าเดิมเขามั่นใจว่าแม่ทัพสือรับเงินของตนไปแล้วก็คือคนของตน มีแม่ทัพสือร่วมมือกับตน หลิงอวี๋จะยังสามารถหนีไปได้อีกหรือ?เส้นทางภูเขานี้ข้างหน้าก็ไม่มีหมู่บ้าน ข้างหลังก็ไม่มีร้านค้า หากสังหารหลิงอวี๋แล้วก็โยนความผิดให้พวกโจรบนภูเขาไปถึงเวลานั้นแม้ว่าพวกหลี่ว์เซียงจะสงสัยว่าการตายของหลิงอวี๋ผิดปกติ ทว่าจะมีผู้ใดชี้ตัวมาที่เขาได้เล่า!“คนชั้นต่ำ แม้จะถูกเจ้าจับได้พร้อมหลักฐานแล้วอย่างไร?”องค์ชายคังเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “วันนี้เป็นวันตายของเจ้า เจ้าไปจัดการข้าในใต้ดินก็แล้วกัน!”“ฆ่านาง! ผู้ใดที่สังหารหลิงอวี๋ได้ ข้าจะตกรางวัลให้หนึ่งแสนตำลึง!”ทหารเหล่านั้นต่างก็มองหน้ากันไปมา องค์ชายคังโกรธจนบ้าไปแล้วหรือ?มิเห็นพลธนูที่จ้องมองพวกเขาอยู่มากมายถึงเพียงนั้นหรือไร?ขอเพียงพวกเขาเคลื่อนไหว ก็จะถู
ขุนนางพรรคพวกองค์ชายคังต่างก็ก่นด่าองค์ชายคังอยู่ในใจว่าเป็นหมูโง่!หลิงอวี๋มิได้ไต่สวนคดีนี้ด้วยซ้ำ เขาก็สารภาพทุกอย่างออกมาและยอมรับเรื่องที่ปล้นเบี้ยหวัดทหารรวมถึงสังหารทหารเหล่านั้นด้วยอีกทั้งยังจะสังหารหลิงอวี๋ปิดปากเขาต่อหน้าขุนนางจำนวนมากอีก!สติปัญญาขององค์ชายคังช่างน่ากังวลนัก!มิแปลกที่ชิงไหวชิงพริบกับหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็มักจะพ่ายแพ้!องค์ชายเย่มององค์ชายคังอย่างโมโห เขาไม่มีหน้าจะขอร้องให้องค์ชายคังแล้วนั่นมิใช่หนึ่งหรือสองชีวิต นั่นเป็นพันชีวิตเชียวนะ!หัวหน้าหมู่บ้านพูดถูก ในสายตาขององค์ชายคัง ชีวิตนับพันนี้ก็คือต้นหญ้า มิฉะนั้นหากมีความเป็นมนุษย์เสียหน่อย ผู้ใดจะทำเรื่องที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ได้?การแก้ตัวและตอบโต้ขององค์ชายคังทำให้องค์ชายเย่รู้สึกละอายกล้าทำมิกล้ารับ นี่ยังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่?คนเช่นนี้ยังต้องการจะเป็นจักรพรรดิ โชคดีที่เสด็จพ่อทรงปราดเปรื่อง มิฉะนั้นหากมอบบัลลังก์ให้องค์ชายคังก็จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของฉินตะวันตกเลยทีเดียว!องค์ชายคังเห็นคนมากมายจ้องมองตนเช่นนั้นก็ตะลึงไปนั่นมิใช่รถม้าที่ขนย้ายเบี้ยหวัดทหารหรอก
หลิงอวี๋มิเพียงแต่ปิดปากขุนนางเหล่านี้เท่านั้น เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวง ยังให้ท่านกวนเอ้อร์ส่งคนไปปะปนกับฝูงชน แล้วกระจายข่าวเรื่องการปล้นเบี้ยหวัดทหารขององค์ชายคังอีกด้วยกระทั่งองค์ชายคังถูกพาตัวกลับเมืองหลวง คนมากมายได้เห็นภาพนี้ด้วยตาตนเองก็ล้วนเชื่อว่าองค์ชายคังได้ทำเรื่องที่โหดร้ายเช่นนี้จริง ๆราษฎรนับมิถ้วนต่างขว้างปาขยะ ใบผักเน่าและไข่เน่าไปที่รถม้าที่องค์ชายคังนั่งมา พร้อมทั้งก่นด่าว่าความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งขององค์ชายคังนั้นมาจากเลือกเนื้อของราษฎรบางคนนึกถึงสินสอดที่ทอดยาวไปตามถนนหลายสายครั้นเมื่อองค์ชายคังแต่งงานกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ต่างมีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา“องค์ชายคังจะต้องมิได้ทำเพียงแค่เรื่องที่ปล้นเบี้ยหวัดทหารเป็นแน่ มิเช่นนั้นเขาจะนำสินสอดมากมายถึงเพียงนั้นมาให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้อย่างไร!”“ตรวจสอบ ต้องตรวจสอบ… เราไปร้องเรียนที่ศาลาว่าการกันเถิด!”พ่อค้าและผู้คนบางส่วนที่ถูกองค์ชายคังกับตระกูลจ้าวรังแกก่อนหน้านี้ก็นึกเชื่อมโยงขั้นมา แล้วรีบไปร้องเรียนที่ศาลาว่าการและบางคนก็พุ่งไปที่ตำหนักองค์ชายคัง อยากจะเข้าไปค้นหาหลิงอวี๋คาดการณ์ปฏิกิริยาของราษฎรไว้แล
เรื่องที่องค์ชายคังถูกจับไปที่ราชสำนักฝ่ายในไปถึงหูของไท่เฟยเส้าอย่างรวดเร็ว ไท่เฟยเส้าโกรธจนตัวสั่น นี่หลิงอวี๋จะจำกัดพวกเขาทั้งหมดเลยหรือ?เช่นนี้จะได้อย่างไร!นางวางแผนเเพื่อองค์ชายคังมาหลายปีเช่นนี้ จะมาพลาดในขั้นสุดท้ายได้อย่างไร!ไท่เฟยเส้าอยู่มินิ่งแล้ว ช่างเรื่องสวดพระสูตรภาวนาเพื่อไทฮองไทเฮาไปสิ นางไม่มีทางที่จะยอมแพ้เช่นนี้!ไท่เฟยเส้าหาแม่นมที่รูปร่างคล้ายกับตนมาปลอมตัวว่าเป็นตน แล้วรีบลงเขาจากศาลบูรพกษัตริย์กลับไปยังเมืองหลวงในชั่วข้ามคืนนางต้องไปดูแลและช่วยลูกชายของตนกลับมาด้วยตนเองคราก่อนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของตนได้ แล้วตนจะวางใจฝากชีวิตลูกชายไว้ในมือของนางได้อย่างไร!มิเพียงเท่านั้น ไท่เฟยเส้ายังเขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้คนส่งไปถึงองค์หญิงใหญ่อีกด้วยในการเผชิญหน้าขององค์หญิงใหญ่กับหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนครั้งก่อน ลูกชายของนางถูกไทฮองไทเฮามอบสุราพิษทำให้ตายนางถูกถอดวรยุทธ์และถูกส่งกลับไปที่อารามจิ้งซือเพื่อสำนึกในความผิดของตนแต่ไท่เฟยเส้ารู้จักองค์หญิงใหญ่ดี สตรีผู้ที่จักรพรรดิองค์ก่อนสูงสุดอุ้มนั่งตักอยู่ในตำหนักกระดิ่งทองและมีส่วนร่วมใน
ทางด้านเซียวหลินเทียน เขานำกำลังพลเร่งไปยังเยวี่ยใต้ การเสริมกำลังก็เหมือนกับการดับไฟ พวกเขามิกล้าที่จะล่าช้าแม้แต่น้อย เร่งเดินทางทั้งกลางวันกลางคืน ในมิช้าก็มาถึงชายแดนเยวี่ยใต้เสด็จพ่อของมู่หรงเหยียนซงสวรรคตแล้ว มู่หรงเหยียนซงก็ขึ้นครองบัลลังก์อย่างรวดเร็วและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งเยวี่ยใต้แล้วด้วยเพียงแต่บัลลังก์จักรพรรดิของเขายังนั่งมามิกี่วัน ก็ถูกโจมตีจากเว่ยเหนือจนเยวี่ยใต้สูญเสียเมืองไปสิบกว่าเมืองติดต่อกัน มู่หรงเหยียนซงถูกบังคับให้ล่าถอยไปยังซีไห่ซึ่งอยู่ห่างจากโม่เหอเพียงร้อยกว่าลี้เท่านั้น เขตซีไห่มีภูเขาสูงและชายฝั่งทะเล ภูมิแคว้นด้านหน้าสูงชัน มีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธีที่แม้จะมีบุรุษหนึ่งคนเฝ้าประตูแต่ทหารหมื่นคนก็มิสามารถฝ่าประตูเข้ามาได้การเคลื่อนไหวนี้หยุดยั้งการรุกคืบของเว่ยเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยความสามารถของกองทัพมู่หรงเหยียนซงแล้ว สามารถอยู่ได้เพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น เมื่อเวลานานไปก็ยังคงถูกกองทัพขององค์ชายอิงโจมตีอยู่ดีองค์ชายอิงรู้ข่าวแล้วว่าเ ซียวหลินเทียนนำทัพมาด้วยตนเองและเร่งมาให้ความช่วยเหลือเยวี่ยใต้จากการถูกปิดล้อมอยู่ เขาจำเป็นต้องย
ลั่วฮั่นใช้ความพูดเก่งของเขาพยายามโน้มน้าวจักรพรรดิเยี่ยนหนานอย่างเต็มที่จักรพรรดิเยี่ยนหนานตกลงที่จะส่งกองทัพไปร่วมมือกับเซียวหลินเทียนด้วยวิธีนี้ คนของจักรพรรดิเยี่ยนหนานและลั่วฮั่นจึงทำงานร่วมกันยึดเมืองจิ่วตู้ขององค์ชายหนิง แล้วรุกคืบต่อไปยังเมืองจิ่วหัวโจวซึ่งเป็นเมืองป้อมปราการทางเศรษฐกิจขององค์ชายหนิงเมื่อเป็นเช่นนี้องค์ชายหนิงก็เริ่มเสียเปรียบแล้วหากไปช่วยองค์ชายอิงหยุดยั้งเซียวหลินเทียนไว้ต่อ การสูญเสียเมืองจิ่วหัวโจวก็จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ขององค์ชายหนิงแต่หากมิช่วยองค์ชายอิงหยุดยั้งเซียวหลินเทียนก็อาจจะพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารเซียวหลินเทียนไป!เซี่ยโฮ่วตานรั่วสนับสนุนให้ไปสังหารเซียวหลินเทียนก่อน แต่ขุนนางภายใต้องค์ชายหนิงกลับคัดค้านอย่างรุนแรงหากจิ่วหัวโจวตกไปอยู่ในมือของจักรพรรดิเยี่ยนหนาน การจะเอาคืนนั้นเป็นเรื่องยากราวกับปีนขึ้นฟ้า!ยิ่งไปกว่านั้น เมืองจิ่วหัวโจวมิเพียงแต่มีความสำคัญต่อองค์ชายหนิงในเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ตำแหน่งทางยุทธวิธีของเมืองก็มีความสำคัญมากเช่นกันเทียบกับการที่จักรพรรดิเยี่ยนหนานได้เมืองจิ่วหัวโจวไป ก็คือการแบ่งเมืองทั้
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี