“ไปตรวจค้น!”แม่ทัพเฉิงออกคำสั่ง ผู้คุ้มกันหลายคนที่ตามมาก็วิ่งไปค้นห้องของเฟิ่งอี๋เหนียงเฟิ่งอี๋เหนียงร้องเรียกอย่างน่าเวทนา “ท่านพี่ รีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด! เป็นความผิดของข้าเอง เฉิงหมิงหาได้รู้เรื่องอันใดไม่ ข้าเอาชีวิตเป็นประกันก็ย่อมได้ เรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกับเขา!”“เฉิงซวี่ถูกพิษก็เป็นฝีมือเจ้าด้วยใช่หรือไม่?”แม่ทัพเฉิงถามเสียงดัง“เป็นข้าเอง! ข้ายอมรับทั้งหมด!”เฟิ่งอี๋เหนียงร้องไห้ “ข้าโลภมาก คิดจะแสวงหาอนาคตที่ดีให้สองพี่น้อง ข้า... ข้าจึงได้กระทำเรื่องเช่นนี้ลงไป!”“ท่านแม่ ท่านวางยาพิษท่านแม่ใหญ่และพี่ใหญ่จริง ๆ หรือ?”เฉิงหมิงถามอย่างมิอยากเชื่อเฟิ่งอี๋เหนียงเผชิญหน้ากับสายตาตำหนิของบุตรชายก็พูดมิออก ได้แต่ยกมือปิดหน้าร้องไห้เฉิงหมิงมองท่านแม่ทัพทีมองเฟิ่งอี๋เหนียงที ก่อนจะคุกเข่าลงอย่างเจ็บปวด“ท่านพ่อ เป็นข้าเองที่วางยา ท่านแม่เพียงแต่อยากรับผิดแทนข้า ข้าสมควรตาย หากท่านจะปลิดชีพก็ปลิดชีพข้าเถิด!”เฉิงหมิงก้มหน้าลง สีหน้าสิ้นหวังอย่างยิ่ง“เป็นข้าต่างหาก ท่านพี่ ท่านอย่าฟังเฉิงหมิงพูดเหลวไหล ข้าเป็นคนทำ ขอร้องท่านรีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด!”เ
เย่หรงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ในใจก็รู้สึกสับสนฮูหยินของตระกูลเฉิงจิตใจดีงามถึงเพียงนี้ แต่กลับถูกอนุภรรยาวางยาส่วนมารดาของตนเป็นอนุภรรยา ตนกลับถูกฮูหยินใหญ่วางยา เรื่องนี้หากจะกล่าวไปก็เป็นเพราะความริษยาและความโลภของตนที่ชักนำให้ก้าวผิดไปทีละก้าวมิใช่หรือ?“ท่านพ่อ ข้ามันเดรัจฉาน ข้าเพียงหลงผิดไปชั่วครู่ ข้ายินดีชดใช้ชีวิตให้ท่านแม่!”เฉิงหมิงกล่าวอย่างแน่วแน่“เฉิงหมิง เจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้คือความกตัญญูหรือ?”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “เจ้าคิดว่า หากเจ้ารับผิดแทนมารดาของเจ้าแล้ว นางจะยังได้อยู่อย่างสุขกายสบายใจไปตลอดชีวิตหรือ?”“ที่ท่านแม่ทัพเฉิงทำเช่นนี้ก็เพราะมิต้องการปรักปรำคนดี! หากเจ้าต้องการไถ่โทษให้มารดาของเจ้าจริง ต่อไปก็จงดูแลปรนนิบัติฮูหยินเฉิงให้ดี ดูแลน้องชายและน้องสาวให้ดี!”“พิษของฮูหยินเฉิง ข้าสามารถช่วยถอนพิษให้นางได้ แต่ถึงแม้จะถอนพิษแล้ว ร่างกายของนางก็มิอาจกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม! เจ้าเร่งรีบอยากตาย เป็นเพราะต้องการหลีกหนีความรับผิดชอบของตนหรือไร?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างจริงใจ “ตายไปอาจจะจบสิ้นทุกสิ่ง แต่การมีชีวิตอยู่จึงจะสามารถชดเชยความผิดที่มารดาของเจ้าก่อไว้ได้ หากเจ้าต้
หลิงอวี๋มาถึงห้องของฮูหยินเฉิง ตรวจชีพจรให้นาง เขียนใบเทียบยาให้ตามอาการ ทั้งยังมอบยาถอนพิษที่ตนปรุงขึ้นหนึ่งขวดให้แก่เฉิงเหล่ย“ยานี้ให้กินวันละหนึ่งเม็ด ส่วนยาตามใบเทียบให้ไปจัดมาต้มวันละหนึ่งเทียบ กินวันละสามครั้ง!”หลิงอวี๋กำชับเฉิงเหล่ยเฉิงเหล่ยพยักหน้า จากนั้นก็ให้บ่าวรับใช้ไปจัดยาตามสั่งทันทีอาการพิษของเฉิงซวี่มิรุนแรงเท่าฮูหยินเฉิง หลิงอวี๋เพียงให้เขากินยาถอนพิษ และดื่มน้ำตามมาก ๆเฉิงซวี่ยังมิรู้ว่าตนถูกพิษ ยังคิดว่าช่วงนี้เหนื่อยเกินไป จึงมีอาการวิงเวียนศีรษะและนอนมิหลับเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากเฉิงเหล่ย เฉิงซวี่ก็หน้าเปลี่ยนสี อยากจะพุ่งไปสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงเพื่อแก้แค้นให้ตนและมารดาเรื่องการปลอบโยนเฉิงซวี่ หลิงอวี๋มิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจัดการกันเอง นางกำชับข้อควรระวังกับเฉิงซวี่ จากนั้นก็ไปรอแม่ทัพเฉิงที่ห้องตำราแม่ทัพเฉิงเสียเวลาอยู่นานกว่าจะมา สีหน้าดูมิสู้ดีนักหลิงอวี๋เล่าขั้นตอนการรักษาฮูหยินเฉิงให้ฟัง ท่านแม่ทัพพยักหน้า “คุณหนูสิงรักษาเช่นนี้ ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง จัดการตามที่เจ้าว่าเถิด!”“คุณหนูสิง เรื่องในวันนี้หวังว่าเจ้า
แม่ทัพเฉิงเดินไปที่โต๊ะหนังสือด้วยสีหน้าตึงเครียด และหยิบตั๋วเงินสองล้านตำลึงออกมาจากลิ้นชัก"เรื่องนี้ข้าจะมิพูดกับใคร พวกเจ้ารับตั๋วเงินไปเถอะ!"เย่หรงมองหลิงอวี๋อย่างผิดหวังเดิมทีคิดว่า หากช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ท่านแม่ทัพเฉิงจะยอมยื่นมือช่วยเหลือ ไหนเลยจะคิดว่าท่านแม่ทัพเฉิงกลับปฏิเสธหลิงอวี๋เองก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดดูอีกที หากจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงและครอบครัวต้องเดือดร้อน นางก็รู้สึกมิสบายใจเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?ในสมองของหลิงอวี๋พลันเกิดประกายความคิด ถามอย่างร้อนรน "ท่านแม่ทัพเฉิง ผู้ที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำ หากตายไปจะจัดการกับศพอย่างไร?"ท่านแม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างมิเข้าใจ แล้วเอ่ยว่า "หากมีญาติก็สามารถมารับศพกลับไปได้ หากไม่มีใครมารับศพก็จะนำไปฝังแทน!"หลิงอวี๋ตื่นเต้นขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพเฉิง ท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้หรือไม่?"มิเพียงแต่ท่านแม่ทัพเฉิง แม้แต่เย่หรงก็ยังตามความคิดของหลิงอวี๋มิทัน หลิงอวี๋คิดจะทำอะไรกันแน่?หลิงอวี๋มองแม่ทัพเฉิงแล้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึม "ข้าเคยอ่านเจอในตำราว่า มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หากกินเข้าไปแล้วคนผู้นั้นจะอยู่ในสภาพเหมื
“ใครจะไปตรวจสอบ?”หลิงอวี๋อยากรู้ให้แน่ชัด จะได้ช่วยเลี่ยวหงเสียวางแผนหลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ“เจ้าแห่งทะเล มหาเทพหลง!”แม่ทัพเฉิงตกลงจะช่วยแล้วก็หวังว่าหลิงอวี๋จะทำได้สมบูรณ์แบบ และมิทำให้ตนต้องเดือดร้อน“นักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำล้วนเป็นพวกที่มีความผิดร้ายแรง ยกเว้นเลี่ยวหงเสีย! นางถูกจับเข้าคุกน้ำไปเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็มิเคยมีการไต่สวนนาง!”“ช่วงปีแรก เจ้าแห่งทะเลจะไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียปีละครั้ง มิพาองครักษ์ไปด้วย เข้าไปแล้วก็อยู่ที่นั่นถึงสองชั่วยาม!”“เป็นเช่นนี้อยู่ห้าปี หลังจากนั้นเจ้าแห่งทะเลก็ไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียสองปีครั้ง!”ท่านแม่ทัพเฉิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “ข้าสงสัยว่า เลี่ยวหงเสียมีความลับ เจ้าแห่งทะเลก็ไปเพื่อขุดคุ้ยความลับนี้! แต่เห็นได้ชัดว่าเขามิได้คำตอบสมปรารถนา!”หลิงอวี๋และเย่หรงมองหน้ากัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าสงสัยเลี่ยวหงเสียไปรู้ความลับอะไรมา?แม่ทัพเฉิงเห็นสีหน้าสงสัยของทั้งสองคนก็ชี้แนะว่า “เย่หรง ลองคิดถึงชาติกำเนิดของแม่เจ้าสิ!”“ท่านตาเจ้าเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ข้างกายมหาเทพหลง มหาเทพหลงทรงไว้วางพระทัยเขามากกว่ามหาปราชญ์คนปัจจุบันเสียอีก! แต่เมื่อสามสิบ
เย่หรงและหลิงอวี๋แยกกัน เย่หรงก็ตรงไปหาฉินซานที่คฤหาสน์อู่ทันทีเมื่อฉินซานได้ยินว่าอีกฝ่ายขอให้ไปส่งหลิงอวี๋ที่ภูเขาหมางหลิ่ง เขาก็ตอบตกลงโดยมิลังเล“นี่มิใช่เรื่องใหญ่อะไร วางใจได้ พวกเราจะส่งสิงอวี๋ไปที่นั่นอย่างปลอดภัย และพานางกลับมาอย่างปลอดภัย!”เย่หรงเห็นฉินซานเป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้ก็นัดหมายเวลากับฉินซาน จากนั้นเขาก็กลับไปบอกหลิงอวี๋เดิมทีหลิงอวี๋ก็คิดว่า เซียวหลินเทียนและคณะย่อมมิปฏิเสธที่จะไปภูเขาหมางหลิ่งกับตน เมื่อเห็นเย่หรงจัดการเรียบร้อยแล้วจึงได้ตัดสินใจออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นทันทีเย่หรงกลับถึงบ้านก็ไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่าเย่ท่านผู้เฒ่าเย่อาการดีขึ้นมากแล้ว เย่ซงเฉิงบังคับให้ชายชรานอนพักอยู่บนเตียง เมื่อเห็นเย่หรงก็ตำหนิว่า“เจ้าได้รับบาดเจ็บ ไยมิพักผ่อนอยู่บ้านให้ดี ออกไปวุ่นวายอะไรอีก?”เย่หรงยิ้ม “เสี่ยวชีหาวิธีช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ ข้าจึงติดตามเสี่ยวชีไปรักษาฮูหยินเฉิงด้วยขอรับ!”ท่านผู้เฒ่าเย่ประหลาดใจ “เสี่ยวชีตรวจพบแล้วหรือว่าฮูหยินเฉิงถูกพิษอะไร? นางเก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว!”“ขอรับ เสี่ยวชีมีพรสวรรค์จริง ๆ หากให้เวลาสักหน่อย นางจะต้องประสบความสำเร็จอย่างที
เย่หรงเหงื่อชุ่มฝ่ามือไปหมดแล้ว ความคิดของเขาถูกอ่านออกได้ง่ายดายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“หามิได้ขอรับ ข้าแค่ไปเป็นเพื่อนเสี่ยวชีรักษาฮูหยินเฉิงเท่านั้น!”เย่หรงฝืนยิ้ม “ท่านแม่ทัพเฉิงมิได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอะไรกับข้า เขาจะเสี่ยงยั่วยุฝ่าบาทเพียงเพราะข้าได้อย่างไร? ท่านปู่ ท่านอย่าคิดมากเลย!”“อีกอย่าง ท่านแม่ทัพเฉิงยังให้เงินเสี่ยวชีสองล้านตำลึงเป็นค่าตอบแทนในการช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงด้วย เขามิได้ติดค้างอะไรพวกเรา!”ท่านผู้เฒ่าเย่ลองตรึกตรองดูก็รู้สึกว่าตนคิดมากเกินไปท่านแม่ทัพเฉิงจงรักภักดีต่อฝ่าบาทมาหลายสิบปี จะเอาชีวิตและทรัพย์สินทั้งหมดมาเสี่ยงเพื่อเลี่ยวหงเสียคนเดียวได้อย่างไร!“เย่หรง แม้ว่าพ่อของเจ้าจะเย็นชากับเจ้ามาหลายปี แต่เจ้าก็ยังคงเป็นบุตรหลานของตระกูลเย่และมีชื่ออยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล มิว่าเมื่อใด ต้องจำไว้เสมอว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเย่ อย่าได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตระกูลเย่เป็นอันขาด!”ท่านผู้เฒ่าเย่กำชับด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ข้าทราบขอรับ!”เย่หรงยิ้มรับ “ท่านปู่ เสี่ยวชีบอกว่า ท่านมิควรวิตกกังวล ท่านก็อย่าคิดมากเลยนะขอรับ!”“มิต้องพูดถึงเรื่องอื่น ท
เย่ซงเฉิงกล่าวเสียงขรึม “น้องรอง การต่อสู้ระหว่างฝูไห่ หลงอี้ และหวงฝู่ฉีในครั้งนั้น เจ้าคงเคยได้ยินท่านปู่ของตระกูลเราเล่าให้ฟังแล้ว ในยามนั้นแดนเทพถูกทำลายไปกว่าครึ่ง สุดท้ายต้องใช้เวลาหลายร้อยปีและความพยายามของคนหลายรุ่นจึงได้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างทุกวันนี้!”“หากฝูไห่ถูกปล่อยตัวออกมา เจ้าลองมองไปรอบ ๆ แดนเทพสิ ยามนี้ใครจะเก่งกาจพอเป็นคู่ต่อสู้ของฝูไห่ได้บ้าง?”ร่างของท่านผู้เฒ่าเย่สั่นสะท้านขึ้นมา เย่ซงเฉิงกลับมาในวันนั้นก็ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเขาแล้ว ทว่ายามนั้นท่านผู้เฒ่าเย่มิได้ให้ความสำคัญเขาคิดว่าฝูไห่ก็เหมือนกับหลงอี้ ที่มิอยู่ในใต้หล้านี้แล้วยามนี้เย่ซงเฉิงพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ท่านผู้เฒ่าเย่จึงถามด้วยเสียงสั่นเครือ “หรือว่าฝูไห่ยังมีชีวิตอยู่?”เย่ซงเฉิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ยามนั้นเขาเพียงแค่ถูกหลงอี้และหวงฝู่ฉีสะกดไว้ใต้ภูเขาหิมะ ถูกแช่แข็งไว้!”“แต่สองวันมานี้ข้าได้สอบถามจากผู้รู้หลายคน พวกเขาต่างก็บอกว่าหากมีโอกาสที่เหมาะสม ผู้ที่ถูกแช่แข็งก็สามารถฟื้นคืนชีพได้!”“น้องรอง ตำหนักปีกเงินก็คือลูกหลานของตระกูลฝูที่นำมหาปราชญ์มาทำลาย ตระกูลจงเจิ้งในยามนี้ก็ร่
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี