หลิงอวี๋มาถึงห้องของฮูหยินเฉิง ตรวจชีพจรให้นาง เขียนใบเทียบยาให้ตามอาการ ทั้งยังมอบยาถอนพิษที่ตนปรุงขึ้นหนึ่งขวดให้แก่เฉิงเหล่ย“ยานี้ให้กินวันละหนึ่งเม็ด ส่วนยาตามใบเทียบให้ไปจัดมาต้มวันละหนึ่งเทียบ กินวันละสามครั้ง!”หลิงอวี๋กำชับเฉิงเหล่ยเฉิงเหล่ยพยักหน้า จากนั้นก็ให้บ่าวรับใช้ไปจัดยาตามสั่งทันทีอาการพิษของเฉิงซวี่มิรุนแรงเท่าฮูหยินเฉิง หลิงอวี๋เพียงให้เขากินยาถอนพิษ และดื่มน้ำตามมาก ๆเฉิงซวี่ยังมิรู้ว่าตนถูกพิษ ยังคิดว่าช่วงนี้เหนื่อยเกินไป จึงมีอาการวิงเวียนศีรษะและนอนมิหลับเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากเฉิงเหล่ย เฉิงซวี่ก็หน้าเปลี่ยนสี อยากจะพุ่งไปสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงเพื่อแก้แค้นให้ตนและมารดาเรื่องการปลอบโยนเฉิงซวี่ หลิงอวี๋มิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจัดการกันเอง นางกำชับข้อควรระวังกับเฉิงซวี่ จากนั้นก็ไปรอแม่ทัพเฉิงที่ห้องตำราแม่ทัพเฉิงเสียเวลาอยู่นานกว่าจะมา สีหน้าดูมิสู้ดีนักหลิงอวี๋เล่าขั้นตอนการรักษาฮูหยินเฉิงให้ฟัง ท่านแม่ทัพพยักหน้า “คุณหนูสิงรักษาเช่นนี้ ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง จัดการตามที่เจ้าว่าเถิด!”“คุณหนูสิง เรื่องในวันนี้หวังว่าเจ้า
แม่ทัพเฉิงเดินไปที่โต๊ะหนังสือด้วยสีหน้าตึงเครียด และหยิบตั๋วเงินสองล้านตำลึงออกมาจากลิ้นชัก"เรื่องนี้ข้าจะมิพูดกับใคร พวกเจ้ารับตั๋วเงินไปเถอะ!"เย่หรงมองหลิงอวี๋อย่างผิดหวังเดิมทีคิดว่า หากช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ท่านแม่ทัพเฉิงจะยอมยื่นมือช่วยเหลือ ไหนเลยจะคิดว่าท่านแม่ทัพเฉิงกลับปฏิเสธหลิงอวี๋เองก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดดูอีกที หากจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงและครอบครัวต้องเดือดร้อน นางก็รู้สึกมิสบายใจเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?ในสมองของหลิงอวี๋พลันเกิดประกายความคิด ถามอย่างร้อนรน "ท่านแม่ทัพเฉิง ผู้ที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำ หากตายไปจะจัดการกับศพอย่างไร?"ท่านแม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างมิเข้าใจ แล้วเอ่ยว่า "หากมีญาติก็สามารถมารับศพกลับไปได้ หากไม่มีใครมารับศพก็จะนำไปฝังแทน!"หลิงอวี๋ตื่นเต้นขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพเฉิง ท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้หรือไม่?"มิเพียงแต่ท่านแม่ทัพเฉิง แม้แต่เย่หรงก็ยังตามความคิดของหลิงอวี๋มิทัน หลิงอวี๋คิดจะทำอะไรกันแน่?หลิงอวี๋มองแม่ทัพเฉิงแล้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึม "ข้าเคยอ่านเจอในตำราว่า มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หากกินเข้าไปแล้วคนผู้นั้นจะอยู่ในสภาพเหมื
“ใครจะไปตรวจสอบ?”หลิงอวี๋อยากรู้ให้แน่ชัด จะได้ช่วยเลี่ยวหงเสียวางแผนหลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ“เจ้าแห่งทะเล มหาเทพหลง!”แม่ทัพเฉิงตกลงจะช่วยแล้วก็หวังว่าหลิงอวี๋จะทำได้สมบูรณ์แบบ และมิทำให้ตนต้องเดือดร้อน“นักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำล้วนเป็นพวกที่มีความผิดร้ายแรง ยกเว้นเลี่ยวหงเสีย! นางถูกจับเข้าคุกน้ำไปเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็มิเคยมีการไต่สวนนาง!”“ช่วงปีแรก เจ้าแห่งทะเลจะไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียปีละครั้ง มิพาองครักษ์ไปด้วย เข้าไปแล้วก็อยู่ที่นั่นถึงสองชั่วยาม!”“เป็นเช่นนี้อยู่ห้าปี หลังจากนั้นเจ้าแห่งทะเลก็ไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียสองปีครั้ง!”ท่านแม่ทัพเฉิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “ข้าสงสัยว่า เลี่ยวหงเสียมีความลับ เจ้าแห่งทะเลก็ไปเพื่อขุดคุ้ยความลับนี้! แต่เห็นได้ชัดว่าเขามิได้คำตอบสมปรารถนา!”หลิงอวี๋และเย่หรงมองหน้ากัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าสงสัยเลี่ยวหงเสียไปรู้ความลับอะไรมา?แม่ทัพเฉิงเห็นสีหน้าสงสัยของทั้งสองคนก็ชี้แนะว่า “เย่หรง ลองคิดถึงชาติกำเนิดของแม่เจ้าสิ!”“ท่านตาเจ้าเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ข้างกายมหาเทพหลง มหาเทพหลงทรงไว้วางพระทัยเขามากกว่ามหาปราชญ์คนปัจจุบันเสียอีก! แต่เมื่อสามสิบ
เย่หรงและหลิงอวี๋แยกกัน เย่หรงก็ตรงไปหาฉินซานที่คฤหาสน์อู่ทันทีเมื่อฉินซานได้ยินว่าอีกฝ่ายขอให้ไปส่งหลิงอวี๋ที่ภูเขาหมางหลิ่ง เขาก็ตอบตกลงโดยมิลังเล“นี่มิใช่เรื่องใหญ่อะไร วางใจได้ พวกเราจะส่งสิงอวี๋ไปที่นั่นอย่างปลอดภัย และพานางกลับมาอย่างปลอดภัย!”เย่หรงเห็นฉินซานเป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้ก็นัดหมายเวลากับฉินซาน จากนั้นเขาก็กลับไปบอกหลิงอวี๋เดิมทีหลิงอวี๋ก็คิดว่า เซียวหลินเทียนและคณะย่อมมิปฏิเสธที่จะไปภูเขาหมางหลิ่งกับตน เมื่อเห็นเย่หรงจัดการเรียบร้อยแล้วจึงได้ตัดสินใจออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นทันทีเย่หรงกลับถึงบ้านก็ไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่าเย่ท่านผู้เฒ่าเย่อาการดีขึ้นมากแล้ว เย่ซงเฉิงบังคับให้ชายชรานอนพักอยู่บนเตียง เมื่อเห็นเย่หรงก็ตำหนิว่า“เจ้าได้รับบาดเจ็บ ไยมิพักผ่อนอยู่บ้านให้ดี ออกไปวุ่นวายอะไรอีก?”เย่หรงยิ้ม “เสี่ยวชีหาวิธีช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ ข้าจึงติดตามเสี่ยวชีไปรักษาฮูหยินเฉิงด้วยขอรับ!”ท่านผู้เฒ่าเย่ประหลาดใจ “เสี่ยวชีตรวจพบแล้วหรือว่าฮูหยินเฉิงถูกพิษอะไร? นางเก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว!”“ขอรับ เสี่ยวชีมีพรสวรรค์จริง ๆ หากให้เวลาสักหน่อย นางจะต้องประสบความสำเร็จอย่างที
เย่หรงเหงื่อชุ่มฝ่ามือไปหมดแล้ว ความคิดของเขาถูกอ่านออกได้ง่ายดายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“หามิได้ขอรับ ข้าแค่ไปเป็นเพื่อนเสี่ยวชีรักษาฮูหยินเฉิงเท่านั้น!”เย่หรงฝืนยิ้ม “ท่านแม่ทัพเฉิงมิได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอะไรกับข้า เขาจะเสี่ยงยั่วยุฝ่าบาทเพียงเพราะข้าได้อย่างไร? ท่านปู่ ท่านอย่าคิดมากเลย!”“อีกอย่าง ท่านแม่ทัพเฉิงยังให้เงินเสี่ยวชีสองล้านตำลึงเป็นค่าตอบแทนในการช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงด้วย เขามิได้ติดค้างอะไรพวกเรา!”ท่านผู้เฒ่าเย่ลองตรึกตรองดูก็รู้สึกว่าตนคิดมากเกินไปท่านแม่ทัพเฉิงจงรักภักดีต่อฝ่าบาทมาหลายสิบปี จะเอาชีวิตและทรัพย์สินทั้งหมดมาเสี่ยงเพื่อเลี่ยวหงเสียคนเดียวได้อย่างไร!“เย่หรง แม้ว่าพ่อของเจ้าจะเย็นชากับเจ้ามาหลายปี แต่เจ้าก็ยังคงเป็นบุตรหลานของตระกูลเย่และมีชื่ออยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูล มิว่าเมื่อใด ต้องจำไว้เสมอว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเย่ อย่าได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตระกูลเย่เป็นอันขาด!”ท่านผู้เฒ่าเย่กำชับด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ข้าทราบขอรับ!”เย่หรงยิ้มรับ “ท่านปู่ เสี่ยวชีบอกว่า ท่านมิควรวิตกกังวล ท่านก็อย่าคิดมากเลยนะขอรับ!”“มิต้องพูดถึงเรื่องอื่น ท
เย่ซงเฉิงกล่าวเสียงขรึม “น้องรอง การต่อสู้ระหว่างฝูไห่ หลงอี้ และหวงฝู่ฉีในครั้งนั้น เจ้าคงเคยได้ยินท่านปู่ของตระกูลเราเล่าให้ฟังแล้ว ในยามนั้นแดนเทพถูกทำลายไปกว่าครึ่ง สุดท้ายต้องใช้เวลาหลายร้อยปีและความพยายามของคนหลายรุ่นจึงได้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างทุกวันนี้!”“หากฝูไห่ถูกปล่อยตัวออกมา เจ้าลองมองไปรอบ ๆ แดนเทพสิ ยามนี้ใครจะเก่งกาจพอเป็นคู่ต่อสู้ของฝูไห่ได้บ้าง?”ร่างของท่านผู้เฒ่าเย่สั่นสะท้านขึ้นมา เย่ซงเฉิงกลับมาในวันนั้นก็ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเขาแล้ว ทว่ายามนั้นท่านผู้เฒ่าเย่มิได้ให้ความสำคัญเขาคิดว่าฝูไห่ก็เหมือนกับหลงอี้ ที่มิอยู่ในใต้หล้านี้แล้วยามนี้เย่ซงเฉิงพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ท่านผู้เฒ่าเย่จึงถามด้วยเสียงสั่นเครือ “หรือว่าฝูไห่ยังมีชีวิตอยู่?”เย่ซงเฉิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ยามนั้นเขาเพียงแค่ถูกหลงอี้และหวงฝู่ฉีสะกดไว้ใต้ภูเขาหิมะ ถูกแช่แข็งไว้!”“แต่สองวันมานี้ข้าได้สอบถามจากผู้รู้หลายคน พวกเขาต่างก็บอกว่าหากมีโอกาสที่เหมาะสม ผู้ที่ถูกแช่แข็งก็สามารถฟื้นคืนชีพได้!”“น้องรอง ตำหนักปีกเงินก็คือลูกหลานของตระกูลฝูที่นำมหาปราชญ์มาทำลาย ตระกูลจงเจิ้งในยามนี้ก็ร่
สีหน้าของท่านผู้เฒ่าเย่ซีดเผือด เขาเข้าใจพี่ชายของตนดี หากมิใช่เรื่องที่สำคัญร้ายแรง เขาจะมิพูดจาให้ตื่นตระหนกตามที่เย่ซงเฉิงพูด แม้ว่าตนจะส่งลูกหลานของตระกูลเย่ไปแล้ว พวกเขาก็มิอาจรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้!“พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ไขเลยเชียวหรือ?”ท่านผู้เฒ่าเย่ถามอย่างร้อนรน “ฝูไห่มิตาย หลงอี้ก็อาจจะยังมิตาย หากพวกเราร่วมมือกับตระกูลอื่น ๆ จะต้องสามารถสังหารฝูไห่ได้แน่!”ท่านผู้เฒ่าเย่พูดไปก็เริ่มมิมั่นใจ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของหลงอี้ก็ปรากฏออกมาแล้ว เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!เย่ซงเฉิงยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “สองวันมานี้ ข้าและเจ้าสำนักศึกษาจินได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสของตระกูลต่าง ๆ หลายตระกูล พวกเขาก็เหมือนกับท่าน มิเชื่อคำพูดของเรา!”“แดนเทพสงบสุขมาหลายร้อยปี คนที่มองการณ์ใกล้เหล่านี้ต่างก็คิดว่าเราสองคนกำลังพูดจาให้ตื่นตระหนก!”“มหาเทพหลงก็มิไว้วางพระทัยข้าเหมือนเมื่อก่อน คอยแต่ถามข้าว่ามียาอายุวัฒนะที่ทำให้เป็นอมตะหรือไม่ พระองค์เองก็อยากจะมีชีวิตอยู่หลายร้อยปีเหมือนหลงอี้!”เย่ซงเฉิงส่ายหน้าอย่างนึกผิดหวัง “มีเพียงรอให้อันตรายมาถึงเสียก่อนเท่านั้น พวกเขาจึง
พี่น้องตระกูลเย่เปิดอกคุยกัน การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาทำให้ท่านผู้เฒ่าเย่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างไรเสียก็มิอาจหลีกหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ เช่นนั้นเชื่อฟังพี่ใหญ่เถิด สนับสนุนหลิงอวี๋อย่างเต็มที่!หลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้เลย วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางไปยังภูเขาหมางหลิ่งพร้อมกับฉินซานและคนอื่น ๆเซียวหลินเทียนได้โอกาสที่จะร่วมเดินทางไปกับหลิงอวี๋ จึงมาแต่เช้าตรู่ครั้งนี้ไม่มีจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและคนอื่น ๆ มาขัดขวาง พวกเขาจึงเดินทางมาถึงหน้าผานั้นในวันเดียวกันหลิงอวี๋กำลังจะให้เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ช่วยตัดเถาวัลย์มาถักเป็นบันไดเชือกปีนลงไป เซียวหลินเทียนก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “จะทำเรื่องยุ่งยากไปไย ดูข้า!”เซียวหลินเทียนลูบหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ มิถึงสิบวินาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาจากใต้หน้าผาหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ผ่านไปเพียงมินานเสือปีกกาฬก็เติบโตขึ้นมาก ปีกทั้งสองข้างแข็งแรง เมื่อกางออกก็ยาวถึงสองเมตรกว่า“นี่เป็นเพราะโอสถสร้างรากฐานปราณที่เจ้าให้!”เซียวหลินเทียนยื่นขวดโอสถเสริมพลังวิญญาณให้หลิงอวี๋ “เจ้าป้อนมันเองเถอะ ต้องการสมุนไพรอะไรก็บอกมัน ให้มันไปเก็บให้!”นางเคยให
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร