“เหตุใดท่านอ๋องยังมิตื่น?”หลังจากจ้องมองมาเป็นเวลานาน เซียวหลินเทียนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยลู่หนานเอ่ยถามอย่างทนไม่ไหว “พระชายา ยาเหล่านั้นมิได้ผลใช่หรือไม่ขอรับ?”“รีบร้อนกระไรกัน! หัวใจของเซียวหลินเทียนเต้นช้า ข้าให้ยาแรงกับเขามิได้ การให้น้ำเกลือนี้จะทำให้เขาค่อย ๆ ปรับตัว!”หลิงอวี๋เหลือบมองขวดอย่างเหนื่อยล้าพลางสั่ง “เจ้าดูขวดนี้ไว้ ยาหยดหมดแล้วก็ไปเรียกข้าเถอะ!”“หากเซียวหลินเทียนไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านยาขวดนี้ ข้าจักเพิ่มขนาดยาในขวดต่อไป จากนั้นอีกขวดหนึ่งเขาก็น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็รีบเอ่ย “นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถิด! พระชายาไปพักผ่อนสักหน่อยเถิดขอรับ!”หลิงอวี๋ทนไม่ไหวจึงพยักหน้าแล้วเดินไปที่ประตูห้องถัดไป นอนลงบนเก้าอี้ ปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปภายในไม่กี่วินาทีในขณะที่กำลังสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ข้างนอก“พี่จ้าว ยาของข้าสามารถช่วยท่านอ๋องได้อย่างแน่นอน! เจ้าให้ท่านอ๋องกินแล้วท่านอ๋องจักฟื้นทันที!”“ยาของพระชายานี่เกือบจะหมดขวดแล้ว ท่านอ๋องก็ยังมิฟื้น เช่นนั้นมันคงมิได้ผลแน่นอน!”“พี่จ้าว ห
พระชายาหรงเป็นน้องสาวของพระชายาอวิ๋นในองค์จักรพรรดิผู้เป็นแม่ของเซียวหลินเทียน นายท่านเสิ่นเป็นท่านตาของเซียวหลินเทียน ส่วนท่านลุงเสิ่นเป็นลุงของเซียวหลินเทียนและคุณหนูใหญ่ตระกูลเสิ่นก็คือเสิ่นจวนที่ต่อต้านตนมาโดยตลอด!ก่อนหน้านี้คนในตระกูลเสิ่นไม่เคยมาที่ถึงที่ตำหนักมาก่อน นี่ก็ไม่รู้ว่าลมอะไรหอบมากันได้!หลิงอวี๋ทำได้เพียงพาพวกจ้าวซวนออกไปต้อนรับกับพระายาหรงเคยได้พบกันที่งานฉลองในวังเมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนั้นนางเออออไปกับคำพูดของพระชายาผิงหยาง ให้เซียวหลินเทียนหย่ากับตนเอง หลิงอวี๋ไม่มีความประทับใจที่ดีต่อนางสักเท่าไหร่ส่วนกับนายท่านสิ่นนี่หลิงอวี๋ได้พบกับเขาเป็นครั้งแรก แล้วก็เห็นว่าผมของนายท่านผู้นี้ถูกหวีอย่างพิถีพิถันมาก ไม่มีผมตรงไหนยุ่งเลยแม้แต่น้อยเขามีรูปร่างเตี้ย ใบหน้าอวบอ้วน และมีเคราแพะตรงคางท่านลุงเสิ่นที่อยู่ข้างหลังนายท่านเสิ่น มีหนวดกระจุกสั้น ๆ และดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็จมลึกตรงเบ้าตาเขาเป็นคนสูง ไหล่กว้าง มีท่าทีเศร้าหมอง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเขามิใช่คนที่จะเข้ากับใครง่าย!เสิ่นจวนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ใบหน้าของนางดูซีดเซียวเล็กน้อยหลังจากถูกไทเฮาตำหนิ
ท่านลุงเสิ่นมิได้ใจแคบเหมือนนายท่านเสิ่น เขามาด้วยสองจุดประสงค์หากได้รับการยืนยันว่าเซียวหลินเทียนช่วยชีวิตมิได้แล้ว เช่นนั้นก็จะใช้ข้ออ้างว่าหลิงอวี๋จงใจมิช่วยเซียวหลินเทียน ไปขอให้องค์จักรพรรดิทำการหย่าหลิงอวี๋ แล้วยึดทรัพย์สินในตำหนักอ๋องอี้แต่หากได้รับการยืนยันว่าเซียวหลินเทียนยังคงช่วยชีวิตได้ เช่นนั้นก็หาโอกาสให้เสิ่นจวนแต่งงานกับเซียวหลินเทียนเสิ่นจวนถูกไทเฮาตำหนิ ชื่อเสียงของนางถูกทำลาย มิสามารถไปหาคนดี ๆ ในเมืองหลวงได้อีกแล้ว!แต่ขอเพียงเซียวหลินเทียนยังมีชีวิตอยู่ และสามารถแย่งโครงการก่อสร้างฟื้นฟูร้านค้ากลับคืนมาได้ ตระกูลเสิ่นก็จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย!โครงการก่อสร้างฟื้นฟูร้านค้าใหญ่ถึงเพียงนั้น สามารถสร้างเงินมหาศาลได้!แม้ว่าขาของเซียวหลินเทียนจะพิการ ไม่มีวาสนาได้เป็นองค์รัชทายาท แต่หากเขาสามารถช่วยทำเงินให้ตระกูลเสิ่นได้ เขาก็จะตายไม่ได้!ทันทีที่ได้ยินว่ามียาแก้พิษ ดวงตาของท่านลุงเสิ่นก็เป็นประกายลุกวาว พลางตะโกนด้วยความโกรธ“หลิงอวี๋ เจ้ามีเจตนาอันใดกัน? มียาแก้พิษกลับมิให้เทียนเอ๋อร์ใช้รักษา เจ้าจักฆ่าเทียนเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”“หมอว่าน เอายาแก้พิษไปให้เทียนเ
จ้าวซวนเป็นชายร่างสูง ทั้งยังอยู่ในวัยหนุ่มด้วยในช่วงสองวันมานี้เขาใกล้ชิดกับหลิงอวี๋มาก เขาคิดว่าตนกับหลิงอวี๋บริสุทธิ์ใจ แต่ก็ทนมิได้กับการใส่ร้ายเช่นนี้จ้าวซวนโกรธมากจนหน้าแดง แต่อีกฝ่ายคือพระชายาหรงในองค์จักรพรรดิ เขาจะตบพระชายาหรงได้หรือ?หลิงอวี๋ในแง่มุมของตระกูลเสิ่นนั้น ต่างถูกกล่าวหาจากคนนั้นทีคนนี้ทีว่าสมคบคิดที่จะสังหารเซียวหลินเทียนเพื่อยึดทรัพย์สินของครอบครัวก่อนหน้านี้นางแค่อยากให้เซียวหลินเทียนปลอดภัย มิได้อยากจะถือสาหาความกับตระกูลเสิ่น!บัดนี้เห็นพระชายาหรงที่นานไปก็ยิ่งทำเกินไปเช่นนี้ ทั้งยังทำลายชื่อเสียงตนหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอีก แล้วยังจะทนต่อไปได้เยี่ยงไร!ตระกูลเสิ่นคิดว่าจะรังแกตนเองได้ง่าย ๆ หรือ?หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “พระชายาหรงโปรดระวังวาจาด้วย! ข้ากับพี่จ้าวบริสุทธิ์ใจ พระชายามาใส่ร้ายพวกเราส่ง ๆ เช่นนี้ หมายความเยี่ยงไร?”“ข้าเคารพท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่ท่านผู้เป็นผู้อาวุโสกลับมาใส่ร้ายผู้อื่นง่าย ๆ โดยไม่มีหลักฐานใดเช่นนี้ มันได้หรือ?”“องครักษ์จ้าวสละชีวิตช่วยท่านอ๋อง ในช่วงหลายวันมานี้เขามิสนใจพักผ่อนแล้ว เอาแต่ออกไปหายาแก้พิษให
หลิงอวี๋พูดไม่ออก มองตระกูลเสิ่นที่เข้ามาแบบเอิกเกริก แต่กลับทิ้งเสิ่นจวนไว้ ที่แท้นี่ก็คือเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขานี่เอง!เสิ่นจวนผู้นี้ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่หลิงอวี๋ไม่เชื่อเด็ดขาดว่านางจะแค่อยู่ดูแลเซียวหลินเทียนเท่านั้นนี่ต้องมาเพราะจุดประสงค์ในการแต่งงานกับเซียวหลินเทียนเป็นแน่!มิฉะนั้นสตรีที่ยังมิได้แต่งงาน ดูแลผู้ชายอยู่ข้างกายเช่นนี้ มันมีเหตุผลหรือ?“ท่านพี่ ท่านพี่ต้องกระหายน้ำแน่! หม่อมฉันเอาน้ำให้!”เสิ่นจวนไม่สนใจสิ่งที่ทุกคนคิด นางเข้าสู่บทบาททันที เข้ามาดูแลเซียวหลินเทียนอย่างขยันขันแข็งเมื่อเห็นคนเหล่านี้ไม่ออกไปข้างนอก เสิ่นจวนจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าออกไปกันให้หมด ข้าดูแลท่านพี่ก็พอแล้ว!”“ท่านพี่เพิ่งฟื้นต้องการพักผ่อนให้มาก พวกเจ้าอยู่กันมากเพียงนี้ จักรบกวนเขาท่านพี่!”นางรับใช้ที่เสิ่นจวนพามาสองคนร่วมมือกันไล่พวกเขาออกไปทันทีหลิงอวี๋เหลือบมองเซียวหลินเทียน เห็นว่าเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่จึงเอ่ย“ท่านอ๋องพักผ่อนเถิด อีกเดี๋ยวหม่อมฉันมาดูท่านอีก!”นางเดินนำออกไป แม้ว่าจุดประสงค์ของเสิ่นจวนจะไม่บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มีทางทำร้ายเซียวหลินเทียนห
หลิงอวี๋มิได้ยินเสียงน่ารัก ๆ ของเยวี่ยเยวี่ยมาหลายวันแล้ว นางจึงถือโอกาสนี้คุยกับหลิงเยวี่ย“ท่านตาทวดซื้ออาหารอร่อย ๆ ให้เยวี่ยเยวี่ยมากหลาย! ท่านตาทวดยังเล่าเรื่องนิทานให้เยวี่ยเยวี่ยฟังมาก ๆ ด้วย!”หลิงเยวี่ยเล่าเรื่องหลายวันมานี้ที่ไปพักอยู่ที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนให้หลิงอวี๋ฟังอย่างเจื้อยแจ้วหลิงอวี๋ได้ยินว่าเด็กน้อยกับท่านอดีตเสนาบดีเข้ากันได้ดี ใจก็รู้สึกมีความสุขนักหลิงหว่านพูดถูก การที่มีเด็กร่าเริงแจ่มใสอย่างเยวี่ยเยวี่ยอยู่กับท่านอดีตเสนาบดี ท่านอดีตเสนาบดีอารมณ์ดีขึ้นมากเลย!จากที่หลิงเยวี่ยเล่าให้ฟัง หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าท่านอดีตเสนาบดีฟื้นตัวได้ดีทีเดียว!ขณะที่สองแม่ลูกเกาะก่ายกันอยู่บนเตียง ก็ได้ยินแม่นมลี่เอ่ยเสียงแข็งอยู่ข้างนอก“การจัดเตรียมอาหารเป็นงานของชิวเหวินซวง เกี่ยวอันใดกับคุณหนูของเราด้วย?”“คุณหนูของเรามิสนใจเรื่องของตำหนักอ๋องอี้ ไปเสียเถิด อย่ามารบกวนคุณหนูของเรา!”ทันทีที่หลิงอวี้ได้ยินสิ่งนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าจ้าวซวนขอให้ตนเป็นคนจัดการเรื่องในตำหนัก จึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“แม่นม ใครมาหาข้าหรือ?”“นางรับใช้ของคุณหนูเสิ่นเจ้าค่ะ ขอให้คุณหนูอธิบาย
หลิงอวี๋กระซิบบอกแผนของตนให้แม่นมลี่ฟัง แม่นมลี่ฟังแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข“ได้เจ้าค่ะ จักทำตามที่คุณหนูบอกเจ้าค่ะ!”“เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ คิดตบตาเรา เช่นนั้นเราจักตบหน้าให้ดู!”แม่นมลี่ไปทำตามคำสั่งของหลิงอวี๋อย่างมีความสุขหลิงซวนได้ยินเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้พลางเอ่ย“อาจารย์ ท่านหลักแหลมยิ่ง หากเป็นเช่นนี้เราจ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถยุแยงพวกเขาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ส่ายหัวพลางเอ่ย “แผนการนี้ทำได้แค่ทำให้พวกที่ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง บางคนหันมาหาเราชั่วคราวเท่านั้น แต่พวกที่ภักดีต่อชิวเหวินซวง พวกเขาไม่มีทางโอนอ่อนให้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรอก!”“มิกลัวหรอกเจ้าค่ะ อาจารย์ของเราเก่งที่สุดอยู่แล้ว ต้องจัดการพวกเขาได้อย่างแน่นอน!”หลิงซวนเคารพนับถือหลิงอวี๋อย่างมาก นางยกย่องหลิงอวี๋อย่างร่าเริงหลิงอวี๋มิได้มองโลกในแง่ดีเหมือนนาง หากชิวเหวินซวงกล้ามอบสิทธิ์ดูแลตำหนักไว้ให้ชั่วคราวเช่นนี้ คงต้องวางกับดักไว้ให้ตนมิน้อยแน่!นางต้องระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา!นางมิกลัวปัญหา แต่นางเกลียดที่ต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเวลาของนางมีค่านัก นางมิอยากเสียเวลาไปกับคนเหล่านี้!
แม่นมเกาให้แม่ครัวคนหนึ่งไปเอารายการอาหารมาให้หลิงอวี๋เปิดดู มาตรฐานอาหารของเซียวหลินเทียนคืออาหาร 5 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง มาตรฐานอาหารขององครักษ์คืออาหาร 3 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง ส่วนมาตรฐานอาหารของคนรับใช้ในตำหนักคืออาหาร 2 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่างมาตรฐานเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียน ถือเป็นการจัดการที่ค่อนข้างดูปอน ๆ เกินไปแต่ถึงกระนั้น หลิงอวี๋ก็มิคิดว่าเซียวหลินเทียนจะกินได้หมด มันสิ้นเปลืองเกินไปจริง ๆ!หลิงอวี๋นึกถึงอาหารบนโต๊ะของแม่นมเกา ที่เต็มไปด้วยอาหารเจ็ดแปดอย่าง แล้วนางก็ยกมุมปากยิ้มเยาะอาหารมื้อนี้กินดีกว่าของท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียนอีก!หลิงอวี๋มิได้พูดโพล่งขึ้นมาทันที ในใจก็คำนวณจำนวนคนที่กินอาหารอยู่ในตำหนักอ๋องอี้เป็นประจำ ตั้งแต่เซียวหลินเทียนไปจนถึงองครักษ์ในตำหนักมีเกือบร้อยคนแล้วเตรียมอาหารให้คนเกือบร้อยคนทุกวัน ในครัวมีคนมากถึงเพียงนี้ก็ไม่นับว่ามากเพียงแต่หลิงอวี๋นึกถึงอาหารที่โลหิตจางอย่างปี้ไห่เฟิงสามารถกินได้ ในครัวนี้สามารถทำอาหารอย่างเท่าเทียมได้จริงหรือ?นางดูสมุดบัญชีการจ่ายตลาด บัญชีเป็นระเบียบมาก แต่เมื่อดูอย่างละเอียด หลิงอ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี