“หลิงอวี๋?”เซียวหลินเทียนมิเห็นหลิงอวี๋ตรวจขาเขา จึงเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด “ข้าถามเจ้านะ? เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”“ได้ยินแล้ว… หม่อมฉันกำลังคิดอยู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชาชั่วครู่นางอยากจะเดินออกไปเลย แต่นึกถึงที่เซียวหลินเทียนช่วยตนมาหลายครั้ง ออกไปเช่นนี้ดูไร้หัวใจไปสักหน่อย!ช่างมันเถิด นับจากนี้ก็แค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ!รักษาขาของเขาเสร็จ รอวันที่จะได้เข้าไปในวังอีกครั้ง จะขอให้ไทเฮาช่วยขอองค์จักรพรรดิ ให้นางได้หย่ากับเซียวหลินเทียน!ต่อไปก็อยู่ให้ห่างกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!หลิงอวี๋หยิบคีมยาวออกมาจากล่วมยาแล้วนั่งยอง ๆ อีกครั้งนางใช้คีมยาวเคาะที่เข่าของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนมีการตอบสนอง น่องมีการขยับหลิงอวี๋ใช้คีมตรวจน่องของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ย“วันนี้ฝังเข็มให้ท่านอีกครั้ง แล้วให้อาบน้ำสมุนไพรสักสองสามสัก รอดูผลแล้วค่อยว่ากัน!”“หากได้ผลดี ต่อไปก็มิจำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว ท่านค่อย ๆ ฟื้นตัวก็พอแล้ว!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังเรื่องวิธีการฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดอะไรมาก ได้แค่เอ่ยไปตรง ๆ“ข้าจักเริ่มฝ
เซียวหลินเทียนยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็น “เช่นนั้นแม่นมจูรู้หรือไม่ว่าหลิงอวี๋มิได้กลับเรือนตอนกลางคืนนั้น นางไปพบใคร?”“แม่นมจูบอกว่ามิรู้ แต่นางมีหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ...”จ้าวซวนหยิบจดหมายออกมาส่งให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรับมาเอาออกมาดู มันเป็นจดหมายของจางเฉินเหนียน เป็นจดหมายรัก...ในจดหมายไม่มีการเรียกชื่อ เนื้อหาข้างในเต็มไปด้วยคำรัก มันเลี่ยนเกินกว่าจะอ่านได้!เขามองอย่างรังเกียจ พวกคำที่บอกข้าชอบมองรอยยิ้มของเจ้า ตั้งแต่ที่ชอบเจ้า เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญ เพราะหัวใจของข้าถูกเจ้าครอบครองไปแล้ว...ช่วงนี้เซียวหลินเทียนคุ้นเคยกับลายมือของหลิงอวี๋มาก แค่มองปราดเดียวก็ยืนยันได้เลยว่าเป็นลายมือของหลิงอวี๋เขาขยำจดหมายอย่างโมโห!หลิงอวี๋ เจ้ากล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้กับข้าหรือ!!เมื่อเซียวหลินเทียนนึกถึงที่หลิงอวี๋พาลูกของคนอื่นมาแต่งงานกับเขา ก็โกรธมากจนอยากจะบีบคอหลิงอวี๋ให้ตายยังมิทันที่เขาจะคิดว่าจะทำเยี่ยงไรกับหลิงอวี๋ดี องครักษ์ก็ตะโกนจากข้างนอก “พระชายามาแล้ว...”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็เอ่ยอย่างกังวลใจ “ท่านอ๋อง เวลานี้ยังมิใช่เวลาชำระบัญชีกับหลิงอวี๋! ท่านอ
เป็นเวลาสองวันแล้วที่หลิงอวี๋มิได้ไปที่เรือนริมวารี ในทุกวันนางจะพาหลิงซวนกับเถาจื่อไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง หรือไปซื้อเครื่องยาสมุนไพรกับเกิ่งเสี่ยวหาวการค้าของเกิ่งเสี่ยวหาวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่เพียงแต่คุ้นเคยกับทุกหมู่บ้านภายในรัศมีร้อยลี้จากเมืองหลวงเท่านั้น เขายังคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรที่มีในภูเขาทุกแห่งในพื้นที่ด้วย“ท่านพี่ คราที่ข้าออกไปเดินดูรอบ ๆ ถึงได้พบว่าใต้หล้านี้กว้างใหญ่มาก มีคนยากจนมากมาย สงครามในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทำลายบ้านเรือนของผู้คนไปมิน้อยเลย!”“ท่านพี่ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าบางคนยังอาศัยอยู่ในถ้ำอยู่เลย! ชีวิตของพวกเขายากลำบากนัก!”เกิ่งเสี่ยวหาวถอนหายใจพลางเอ่ย “ข้าอยากช่วยเหลือพวกเขา แต่ข้าก็ช่วยคนมากถึงเพียงนั้นมิได้!”พอได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋จึงเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นสามารถช่วยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย! อีกอย่าง เสี่ยวหาว การหาปลามาให้เขากินนั้นมิดีเท่าสอนเขาตกปลาหรอก...”หลิงอวี๋เห็นว่าเกิ่งเสี่ยวหาวไม่เข้าใจ จึงอธิบายอย่างเข้าใจง่ายให้เขาฟัง“เจ้าช่วยพวกเขา ให้เงินพวกเขา แต่เงินมันก็ต้องหมดไป แต่หากเจ้าสอนวิธีหาเงินกับพวกเขา นั่นต่างหากที
“ท่านเอ้อร์!”หลิงอวี๋เดินเข้าไป ถึงได้พบว่านอกจากท่านกวนเอ้อร์แล้ว ยังมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งอีกสองคนอยู่ข้างในด้วย“พระชายาอ๋องอี้เชิญนั่งเถิด!”พอท่านกวนเอ้อร์เห็นหลิงอวี๋มองผู้คุ้มกันทั้งสอง ก็เอ่ยขึ้นมา “นี่คือคนสนิทของข้า พระชายาอย่าได้ถือสา!”“อ๋อ!”หลิงอวี๋นั่งลง พลางเอ่ยถาม “ท่านเอ้อร์ ยาแก้พิษที่ข้าส่งไปให้มิได้ผลหรือ?”“พระชายาวางใจได้ ยาแก้พิษนั้นดีมาก นายท่านกวนสบายดีแล้ว!”ท่านกวนเอ้อร์ยิ้มเล็กน้อย ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเดินเข้ามารินน้ำชาให้ทั้งสองคน“พระชายา ที่แซ่กวนมาที่นี่ในวันนี้ก็ตั้งใจมาขอบคุณพระชายาขอรับ! หากไม่มีพระชายา นายท่านก็คงอยู่ได้ไม่นาน!”“นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระชายา พระชายาโปรดรับไว้ด้วยเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์หยิบกล่องหนึ่งกล่องออกมา แล้วผลักมาให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รีบเอ่ย “ท่านเอ้อร์เกรงใจกันเกินไป เท่านให้รางวัลข้ามาแล้ว หลิงอวี๋มีหรือจักต้องการมากมาย! ท่านเอ้อร์เก็บกลับไปเถิด!”ท่านกวนเอ้อร์ไม่คะยั้นคะยอ ยิ้มพลางเอ่ย “ข้าให้คนยกอาหารมาแล้ว พระชายาดื่มชาก่อนเถิด อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว!”หลิงอวี๋เหนื่อยมาทั้งวัน นางจึงหยิบ
“หลิงอวี๋… นังสารเลว!”กวนอิ่งพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่หน้าหลิงอวี๋อย่างแรงขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะหลบ ผู้คุ้มกันสองคนก็คว้าแขนของนางไว้เพียะ เพียะ เพียะ…กวนอิ่งง้างมือซ้ายทีขวาด้วยความโกรธ แล้วตบไปหลายครั้งจนหลิงอวี๋เวียนหัว“หมาบ้า เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? กล้าทุบตีข้า เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะลงโทษเจ้ารึ?”หลิงอวี๋มึนงง นางกับกวนอิ่งมีความแค้นกันฝังลึกแค่ไหนกัน กวนอิ่งถึงได้บ้าถึงเพียงนี้?“เจ้าทำอะไร? เจ้ามิรู้รึ? เจ้าทำร้ายข้า… ข้าจักมิเสียเวลาพูดกับเจ้าอีก...”กวนอิ่งจิกผมของหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“วันนี้ข้าจักทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น!”“สำหรับความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ ข้าจักทำให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า!”กวนอิ่งเตะเข่าของหลิงอวี๋อย่างแรง หลิงอวี๋จึงคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด“กวนอิ่ง เจ้าทำบ้าอะไร? เซียวหลินเทียนไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “กวนอิ่ง เจ้ากล้ามีเรื่องกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”“เอายาให้นาง!”“สารเลว! หากเจ้ามีชีวิตอยู่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ เจ้าค่อยมาพูดคำโหดร้ายเช่นนี้ใหม่!”
“ท่านแม่ ผู้หญิงคนนี้คุณหนูใหญ่สั่งเป็นการส่วนตัวว่าให้ดูแลให้ดี คืนนี้อย่าปล่อยให้นางอยู่เฉย ๆ…”เสียงหัวเราะลามกของผู้คุ้มกันมาจากประตูหลิงอวี๋ลืมตาขึ้น เห็นว่าผู้คุ้มกันหันหลังให้ตน นางรีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มยาสลบและยาถอนพิษออกมายาที่ทำให้มึนเมาเช่นนี้ หลิงอวี๋เคยศึกษามาก่อนจึงพยายามเตรียมยาแก้พิษนางรีบฉีดยาให้ตน แต่ก่อนที่จะดึงเข็มออก นางก็ได้ยินผู้คุ้มกันอีกคนพูด“พี่… ให้พวกเรามาสนุกกันก่อนดีกว่า แทนที่จะเสียเปรียบคนอื่น สู้พวกเราได้ก่อนดีกว่า!”ผู้คุ้มกันตรงหน้าลังเล “หากคุณหนูใหญ่รู้เข้า...”“เหอะ นางแค่ให้เราดูผู้หญิงคนนี้ไม่ให้หนีไปไหน นางจะรู้หรือว่าเราทำอะไร?”เมื่อกี้เขาพาหลิงอวี๋มา ร่างกายที่อ่อนนุ่มของหลิงอวี๋ทำให้ผู้คุ้มกันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่น้องชายพูด ก็หวั่นไหวทันที!“ท่านแม่ เช่นนั้นท่านลงไปก่อนเถิด! พวกเราเสร็จแล้วจะเรียก!”พูดแล้วผู้คุ้มกันทั้งสองก็ปิดประตู แล้วเดินไปหาหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้มหลิงอวี๋บีบเข็มยาสลบแน่น แอบดีใจที่ผู้คุ้มกันสองคนนี้กล้าพอที่จะมาพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากสำหรับตนที่จะจัดการกับพวกเขาทีละคน
รถม้ามุ่งกลับไปยังตำหนักอ๋องอี้ระหว่างทาง หลิงอวี๋ผลัดผ้าเปลี่ยนเป็นอาภรณ์ที่หลิงซวนเตรียมไว้ให้นาง ให้ดูแล้วไม่ได้ดูแย่อะไรกระทั่งมาถึงตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็พาคนสองสามคนวิ่งไปที่เรือนริมวารีที่ประตูมีองครักษ์ที่ไม่คุ้นเคยสองคนอยู่ หลิงอวี๋ไม่รู้จัก เมื่อเห็นว่าไฟในเรือนยังสว่างอยู่ จึงเอ่ย “ข้าต้องการพบท่านอ๋อง!”องครักษ์คนหนึ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องบรรทมแล้ว! ท่านรับสั่งมิอนุญาตให้ผู้ใดไปรบกวน!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว แต่ยังคงเอ่ยอย่างอดทน“รบกวนพวกเจ้าไปรายงานทีว่าข้ามีเรื่องด่วนมากจะพูดกับท่านอ๋อง!”องครักษ์อีกคนหัวเราะอย่างดูถูก“พระชายาล้อเล่นหรือ! ชิวเหวินซวงกลับมาแล้ว ท่านมิต้องดูแลบ้านแล้ว ยังจะมีเรื่องด่วนมากอันใดอีก!”“พระชายา โปรดกลับไปเถิด! อย่าทำให้พวกเราลำบากเลย!”หลิงอวี๋อยากจะพูดอีก แต่ก็เห็นไฟในห้องนอนของเซียวหลินเทียนดับลง!นี่หมายความว่าเซียวหลินเทียนไม่เต็มใจที่จะพบนางใช่หรือไม่?หลิงอวี๋นึกถึงวันที่นางฝังเข็มให้เซียวหลินเทียนได้ เขามิยอมให้ตนสัมผัสเขา!หัวใจของนางเย็นวาบทันที!คิดไม่ถึงว่าเซียวหลินเทียนจะแยกเรื่องอื่นกับเรื่องส่วนตัว
“ท่าน… ช่วยข้าด้วย…”ฮูหยินกวนกู่ร้องเศร้าสลด เสียงอันเจ็บปวดดุจมีดกรีดหัวใจท่านกวนเอ้อร์!เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดตัวเองไว้ แต่เชือกหนังวัวโชกไปด้วยน้ำ เขายิ่งดิ้นรนก็ยิ่งมัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ!“กวนอิ่ง เจ้าเดรัจฉาน เจ้ามันมิใช่มนุษย์…”ท่านกวนเอ้อร์คำรามเสียงแหบ “เจ้าจะฆ่าจะแทงก็มาลงที่กวนผิง ไยเจ้าไปลงที่สตรี?”“เหอะ… บัดนี้ปวดใจแล้วหรือ? แล้วตั้งนานเจ้ามั่วทำกระไร?”กวนอิ่งยิ้มหยันกล่าว “หากเจ้าเชื่อฟ้าคำพูดข้า ให้หลิงอวี๋ดื่มชาถ้วยนั้น ทุกอย่างคงหาได้เกิดขึ้นไม่?”“เจ้ามันไร้เมตตาธรรม ยังคิดให้ข้าไว้ชีวิตครอบครัวเจ้าอีกรึ?”“ตัวข้าพูดไปแล้ว หากทำให้หลิงอวี๋เจ็บปวดไม่ได้ งั้นก็ให้ฮูหยินของเจ้าเจ็บปวดเถอะ!”ท่านกวนเอ้อร์กู่คำราม “อย่าพูดให้ดูดีนักเลย! กวนอิ่ง แม้ข้าจะเชื่อฟังเจ้า เจ้าก็ไม่ละเว้นครอบครัวข้า!”“ฮิฮิ กวนผิง เจ้าฉลาดนี่! แต่เจ้ามาตอกกลับเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยรึ?”กวนอิ่งใช้แส้หวดใบหน้าท่านกวนเอ้อร์ กล่าวเสียงเหี้ยม“เป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยง บังอาจแย่งทรัพย์สมบัติของพ่อข้า! ในเมื่อนายท่านรักเจ้านัก เจ้าก็ลงไปอยู่กับเขาเถอะ!”หัวใจท่านกวนเอ้อร์หมดหวัง
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว