ทางด้านเฮ่อจู้กับหมอจางและถังถีเตี่ยนกำลังล้อมรอบเฮ่ออันอยู่ เฮ่ออันยังคงหมดสติ พอได้ยินขันทีน้อยเซี่ยมาถ่ายทอดคำสั่งเฮ่อจู้ก็อุ้มลูกชายของเขาเดินเข้ามา เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง แล้วยกมือทั้งสองของเฮ่ออันด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท มิรู้ว่าหลิงอวี๋ทำร้ายลูกชายของกระหม่อมเยี่ยงไร หมอจางกับถังถีเตี่ยนล้วนตรวจสอบมิได้เลย จนถึงตอนนี้อันเอ๋อร์ของกระหม่อมยังมิฟื้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เฮ่อจู้กับภรรยาของเขาแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพิ่งจะมีลูกชายเพียงคนเดียวคือเฮ่ออันปีนี้เฮ่ออันเพิ่งจะอายุเพียงหกขวบ ซึ่งอ่อนกว่าจ่างหนิงหนึ่งปีองค์ชายเว่ยไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ ฮองเฮาเว่ยจึงพาจ่างหนิงเข้ามาดูแลในวัง เฮ่ออันกับจ่างหนิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จ่างหนิงจึงอ้อนให้ฮองเฮาเว่ยรับตัวเฮ่ออันเข้ามาเป็นเพื่อนของตนด้วยเฮ่อจู้มีหรือจะคาดคิดว่าครั้งนี้ส่งลูกชายเข้าวังมายังมิถึงสองวัน เฮ่ออันก็ประสบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้วจักรพรรดิอู่อันมองเฮ่ออัน ดวงตาของเขาปิดสนิท ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็ซีดเซียวจักรพรรดิอู่อันเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรเขา?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉัน
ตอนนั้นหลิงอวี๋เอาที่วางแขนเก้าอี้แทงเข้าไปในตัวของเหล่าเอ้อร์ แต่ด้วยความรีบจึงไม่แน่ใจว่าเหล่าเอ้อร์ตายหรือไม่ จึงบอกได้เพียงว่าได้รับบาดเจ็บท่านอ๋องเฉิงพยักหน้า เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเช่นกันหลิงอวี๋อุ้มเฮ่ออันไปที่ห้องโถงอีกด้านอย่างสบายใจทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็รีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มฉีดยาออกมาเจาะเลือด แล้วเอาเลือดของเฮ่ออันบางส่วนไปทำการทดสอบในมิติแต่กระทั่งผลการทดสอบออกมาแล้ว กลับพบว่าเฮ่ออันไม่มีร่องรอยการถูกพิษหลิงอวี๋ถอดเสื้อผ้าของเฮ่ออันออก แล้วก็พบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกบนร่างกายของเฮ่ออันเลยนางยังกังวลอยู่ว่าตนประมาทไปหรือไม่ จึงพลิกตัวเฮ่ออันแล้วตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ร่างกายของเฮ่ออันก็ไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย ยกเว้นรอยช้ำขนาดเท่าเล็บมือบนหน้าอกของเขารอยช้ำขนาดเท่าเล็บนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเฮ่ออันไปโดนอะไรมาเมื่อใด หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บจากคนลึกลับนั่น!หลิงอวี๋ลูบ ๆ ดู แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากว่ามีความเย็นเล็กน้อยหลังจากที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว ก็สวมเสื้อผ้าให้กับเฮ่ออันเมื่อเห็นว่าเขาหมดสติไม่ฟื้นอยู่เช่นนั้น หลิงอวี๋ก็กังวลว่าเขาจะได้รับบ
ท่านอ๋องเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างลำบากใจ พลางเอ่ยเสียงเข้ม “ข้าได้ไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีเก้าอี้ที่เจ้าว่า และไม่มีคนชุดดำที่ถูกยาสลบด้วย!”“ในพระตำหนักหย่งเหอ นอกจากพวกเจ้าแล้ว ข้ามิพบสิ่งใดที่น่าสงสัยเลย!”“ท่านอ๋องเฉิง มีอะไรที่ท่านมองข้ามไปหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกังวล “วังใหญ่โตถึงเพียงนี้ หากพวกนางมิได้อยู่ในพระตำหนักหย่งเหอ บางทีอาจซ่อนตัวอยู่ที่อื่นหรือไม่?”เฮ่อจู้หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ จะตายอยู่แล้วยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระใส่ร้ายผู้อื่นอีกหรือ! ในวังมีกองทัพหลวงคอยลาดตระเวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง คนชุดดำสามคนรวมกับคนลึกลับที่แปลกประหลาดที่เจ้าว่า รวมทั้งหมดมีสี่คน!”“กองทัพหลวงจะมิพบที่อยู่ของพวกเขาเลยได้เยี่ยงไร? พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่อื่นได้เยี่ยงไร? เจ้าจะใส่ร้ายกองทัพหลวงที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์หรือ?”“เจ้าสังหารจ่างหนิง จึงจงใจสร้างเรื่องคนชุดดำเหล่านี้ขึ้นมาหลอกลวงองค์จักรพรรดิเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการลงโทษ! เจ้าช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“ลากตัวออกไป! ประหาร!”จักรพรรดิอู่อันมิอดทนอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกคำสั่ง องครักษ์ของกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งมาข้างหน้าทันที“เส
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดช่วยหลิงอวี๋ จักรพรรดิอู่อันก็คิดแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงว่าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”“หลังจากสามวัน หากหลิงอวี๋มิสามารถช่วยเฮ่ออัน และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เช่นนั้นใครก็ตามที่ร้องขอความเมตตาให้นางอีก จะต้องมีความผิดร่วมกับนางด้วย!”“เอาตัวไป! ส่งราชสำนักฝ่ายในไปเฝ้าอย่างเข้มงวดด้วย!”เดิมทีเซียวหลินเทียนอยากพาหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ ไหนเลยจะคิดว่าจักรพรรดิอู่อันจะออกคำสั่งเช่นนี้เขาพูดให้กับหลิงอวี๋แล้วครั้งหนึ่ง รู้ว่าหากพูดอีกจักรพรรดิอู่อันจะมิยอมตกลงเป็นแน่ เขาจึงนิ่งเงียบไปทหารกองทัพหลวงหลายคนก้าวไปจับตัวหลิงอวี๋ไว้ แล้วลากตัวนางกับหลิงซวนออกไปด้วยกันเดิมทีเฉาอี้พบเถาจื่อแล้ว และกำลังรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นหลิงอวี๋ถูกลากออกไป เถาจื่อก็ก้าวไปอย่างบุ่มบ่าม แต่ถูกเฉาอี้จับไว้ก่อนเฉาอี้ดุนางด้วยเสียงต่ำที่ข้างหู “เจ้าจะไปทำอะไร? จะให้พวกเขาจับตัวเจ้าไปด้วยกันอีกคนหรือ? หากเจ้าอยากช่วยพระชายาอ๋องอี้ เจ้าอยู่ข้างนอกนี่จะไม่มีประโยชน์มากกว่าหรือ?”จากนั้นเถาจื่อก็หยุดแล้วนวดขมับของนางนางกับหลิงอวี๋แยกกันมิเท่าไหร่ นางก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ
จ้าวซวนพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านอ๋อง คนชุดดำสามคนล้วนเป็นหญิง! เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางนางกำนัลได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่ถูกนางกำนัลที่ถูกพระชายาทำให้บาดเจ็บหรือแม้กระทั่งตายไป ไม่ว่าจะปกปิดเยี่ยงไรก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิด แล้วกระซิบ“ไปส่งข้อความถึงขันทีเซี่ยอย่างเงียบ ๆ ให้เขาช่วยข้าดูนางกำนัลที่ออกจากวังในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตลอดจนนางกำนัลที่ป่วยแล้วเชิญแพทย์หลวงมาด้วย และแม้กระทั่งนางสนมก็ด้วย!”ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงซวนกับขันทีเซี่ยนั้นมิธรรมดา หากหลิงอวี๋ถูกจัดการ หลิงซวนก็จะถูกตัดหัวด้วยเช่นกัน!เซียวหลินเทียนเชื่อว่าขันทีเซี่ยจะช่วยอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบห้องโถงใหญ่ แล้วออกไปตรวจสอบข้างนอกหลิงอวี๋บอกว่านางล่อตัวหัวหน้าวิ่งออกไปถึงป่าไผ่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบอย่างละเอียด เซียวหลินเทียนก็พบเข็มเงินอีกอันหนึ่งเข็มเงินนี้เป็นของหลิงอวี๋!นั่นพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋ได้ปักยาสลบใส่ตัวหัวหน้าจริง ๆคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุมีเวลาจำกัด ด้วยความเร่งรีบจึงได้หาเข็มเงินนี้จนพบ
หลิงอวี๋มองไปรอบ ๆ เห็นว่าไม่มีใครดูอยู่ จึงรีบเข้าไปในมิติแล้วเอายากับผ้าพันแผลออกมารักษาบาดแผลของหลิงซวนขณะที่นางกำลังจัดการอยู่นั้น ในห้องขังอาจจะเงียบเกินไป หลิงอวี๋จึงค่อนข้างมีสมาธิ นางรู้สึกได้ว่าในร่างกายของหลิงซวนอ่อนแอมาก ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจหลิงซวนหลิงซวนมีกำลังอยู่สั้นมาก การเต้นหัวใจก็เหมือนกับการเต้นหัวใจของเฮ่ออัน มันมา ๆ หาย ๆ ไม่สม่ำเสมอหลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหลิงซวนอุ้มเฮ่ออันไว้ ตอนที่คนลึกลับโจมตีเฮ่ออัน หลิงซวนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันนั่นหมายความว่า พลังของคนลึกลับผู้นั้นส่งผลต่อทั้งหลิงซวนกับเฮ่ออันเลยหรือ?เพียงแต่เฮ่ออันอายุยังน้อย จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าอย่างนั้นหรือ?หลิงอวี๋ให้ยาหลิงซวนแล้วพันผ้าพันแผล เมื่อเห็นว่าหลิงซวนยังคงหมดสติ นางจึงนอนลงข้าง ๆ แล้วคิดถึงเรื่องในวันนี้คนลึกลับผู้นั้นเป็นใครกันแน่?หลิงอวี๋พบความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยในตัวเขา!แต่นางสาบานได้ว่า นางไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน!หากวันนี้ทั้งสี่คนนี้เป็นคนที่พระชายาเส้าส่งมาจริงๆ เช่นนั้นพวกเขาก็ฆ่าจ่างหนิงเพื่อจะใส่ร้ายตนเอง!ตอนฮองเฮาเว่ยเสนอให้ฆ่าตน เห็
“มีใครอยู่หรือไม่?”หลิงอวี๋เรียกอยู่สองสามครั้ง ถึงจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่แตกต่างกันของคนสองคนเดินมาไกล ๆเมื่อเข้ามาใกล้ หลิงอวี๋ก็เห็นสองคนที่มาได้ชัดเจนขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้คุมหญิงรูปร่างอ้วน ส่วนอีกคนจะผอมกว่าทั้งคู่อยู่ในวัยสี่สิบกว่าปี“ตะโกนอะไร?”หญิงอ้วนหรี่ตาที่เหมือนปลาทอง แล้วตะคอกด้วยความโกรธ“เข้าไปในห้องขังแล้วก็อยู่อย่างสงบ! ข้ามิสนใจว่าสถานะก่อนหน้านี้ของท่านจะเป็นเช่นไร อยู่ที่นี่ ท่านต้องฟังบ่าว!”คนที่เข้าไปในราชสำนักฝ่ายใน ปกติแล้วจะเป็นญาติของจักรพรรดิที่สูญเสียอำนาจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้งดังนั้นผู้คุมเหล่านี้จะไม่สนใจพวกเขามากนักหลิงอวี๋มิสนใจท่าทีของหญิงอ้วน พลางเอ่ยอย่างใจเย็น“เราเข้ามาในนี้นานแล้ว เจ้าช่วยเติมน้ำให้เราหน่อยได้หรือไม่? อีกอย่าง ข้าอยากพบท่านอ๋องเฉิง รบกวนเจ้าไปบอกให้ข้าที!”หญิงอ้วนหัวเราะเยาะพลางตะคอก “ท่านอ๋องเฉิงทรงงานยุ่งมากอยู่แล้ว ท่านอยากจะพบพระองค์เมื่อใดก็พบได้เยี่ยงนั้นหรือ! อยู่ที่นี่อย่างสงบไปเถิด หากกล้าส่งเสียงดังอีก บ่าวจะไม่เกรงใจท่านแล้ว!”พูดจบ หญิงอ้วนก็หันหลังเดินจากไปป้าผอมมีท่า
ป้าหลี่เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วรีบวิ่งไปพร้อมกับตะโกน“แม่นางเหยียน ข้าเห็นว่ามีนักโทษคนหนึ่งที่ยังไม่ฟื้น เกรงว่าหากนางตายไปแล้วเราจะอธิบายให้ท่านอ๋องเฉิงฟังมิได้ ก็เลยมาดู...”เสียงของป้าหลี่จางหายไปแล้ว แต่หลิงอวี๋ยังคงได้ยินแม่นางเหยียนดุด่าป้าหลี่อยู่เลยนางเองก็มิสนใจพวกนาง แล้วคุกเข่าลงข้างหลิงซวน พยุงหลิงซวนขึ้นมาป้อนน้ำให้นางหลิงซวนมีไข้อยู่จริง ๆ หลิงอวี๋ฉีดยาลดไข้กับยาปฏิชีวนะให้แล้ว แต่ร่างกายของนางยังคงร้อนมากหลิงอวี๋ป้อนน้ำให้นางไปครึ่งโหล จากนั้นหลิงซวนก็ลืมตาด้วยความงุนงงหลิงอวี๋เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของนางอย่างรู้สึกผิด แล้วช่วยจัดผมของนางด้วย“อาจารย์...”หลิงซวนโน้มตัวพิงไปในอ้อมแขนของหลิงอวี๋ ครั้นมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน นางก็ยิ้มแล้วเอ่ย “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเข้ามาในห้องขัง มิคิดเลยว่าห้องขังจะเป็นเช่นนี้!”“ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเดือดร้อน ข้าขอโทษ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นหลิงซวนเอ่ยอย่างโง่เขลา “หากมิใช่เพราะอาจารย์ ข้าก็คงตายไปนานแล้ว! ตอนนี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ แค่ทนทุกข์เล็กน้อยชั่วคราว มิได้มีอะไรเลย!”“ข้าเชื่ออาจารย์ ท่านจะต้องมี
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร