“ถึงเวลาเดี๋ยวก็มีเองแหละ ความรักไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆ ดูให้แน่ใจจะได้ไม่ต้องมาร้องไห้เสียใจเพราะความผิดหวังทีหลัง”
ซือลู่ชิงถือโอกาสสอนน้องสาวฝาแฝดออกมา เขารักและเป็นห่วงน้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นน้องสาวหรือน้องชาย ในเมื่อเขาเกิดมาเป็นพี่ชายเขาก็ต้องดูแลทุกคน
“น้องเข้าใจแล้วค่ะ แต่ขอให้ต้าเฟยซ่อนตัวได้ไหมคะ รอเกิดเรื่องค่อยเข้ามาช่วย ไม่อย่างนั้นไปเที่ยวครั้งนี้ก็ไม่สนุกหรอกค่ะ” น้องสาวคนสวยเอ่ยออกมาอย่างยอมแพ้แต่ก็ยังมีข้อตกลงกับพี่ชาย
“อืม... แบบนั้นก็ได้ มีอะไรจะปรึกษาพี่อีกไหม ถ้าไม่มีพี่ไปนอนนะ เธอก็ด้วยไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวตื่นมาไม่สวยนะ” ซือลู่เหลียนส่ายใบหน้างามไปมาก่อนที่ทั้งคู่จะเดินขึ้นห้องไปพร้อมกันและแยกกันเข้าห้องของตนไป
ซือลู่ชิงเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทในเครือของตระกูลซือซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารและคลับ ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมนั้นบิดายังเป็นประธานดูแลอยู่
ชายหนุ่มทำหน้าที่แทนผู้เป็นบิดาได้เป็นอย่างดีจนทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นให้ความไว้วางใจในตัวทายาทคนโตของตระกูลซือ เขาตกเป็นที่จับตามองในวงการนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทำผลกำไรให้กับบริษัทได้เกินเป้าหมาย ภายในระยะเวลาเพียงสองปีที่เขาเข้าไปรับช่วงต่อจากบิดา
“สวัสดีครับท่านประธาน”
เสียงเข้มของเลขาหนุ่มเอ่ยทักทายท่านประธานที่เขานับถือ ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าเขาไปถึงสามปี แต่ผลลัพธ์ของงานที่ทำนั้นเรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
“อืม.... สือจิ้น วันนี้ฉันมีงานอะไรบ้าง”
ซือลู่ชิงเอ่ยถามเลขาหน้าห้องก่อนที่จะยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เช้านี้เขาเข้ามาที่บริษัทที่บิดาเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานอยู่ หากแต่ตอนนี้เปลี่ยนมือมาให้เขารับตำแหน่งแทนแล้ว
“ไม่มีครับท่านประธาน” เสียงทุ้มของเลขาหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีเอ่ยขึ้น
“อืม... ถ้าอย่างนั้นฉันจะออกไปดูงานข้างนอกนะ วันนี้ไม่กลับเข้าบริษัทแล้ว ใครมีงานหรือเอกสารอะไรให้เซ็นคุณก็รับไว้ให้ผมได้เลยนะ พรุ่งนี้ผมเข้ามาจะเซ็นให้"
“ครับ...ท่านประธาน”
ร่างสูงโปร่งคว้าสูทก่อนที่จะก้าวออกไป ตงหลงที่ยืนอยู่ด้านนอกรีบเดินตามหลังเจ้านายหนุ่มทันที วันนี้ต้าเฟยได้รับคำสั่งจากคุณชายลู่ชิงให้ไปตามดูแลคุณหนูลู่เหลียนจึงทำให้เขาต้องดูแลคุณชายใหญ่กับบอดี้การ์ดใหม่อีกหนึ่งคน
ทุกย่างก้าวของท่านประธานหนุ่มเรียกสายตาชื่นชมจากพนักงานสาวๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ทุกคนก็ยังมีความกังวลว่าคุณชายซือลู่ชิง จะไม่สนใจผู้หญิง เพราะตลอดระยะเวลาที่เข้ามาบริหารงาน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน ที่จะมาขอพบคุณชายเลย และสายตาของเขาก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลย
“น้องซูหนี่ว์นี่โชคดีจังเลยนะคะที่ได้ถ่ายรูปคู่กับคุณชายลู่ชิงด้วย” เสียงของอดีตศัตรูหัวใจวัยเด็กของเธอดังขึ้นขณะที่ซุปตาร์สาวกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านบทในมืออยู่
“ก็ได้รับรางวัล มันก็เป็นธรรมดาที่เราต้องถ่ายรูปกับคนมอบไม่ใช่หรอคะ” ซุปตาร์สาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินมาหยุดพูดกับเธอก่อนที่จะเอ่ยออกไป
“ก็ถูกค่ะ เสียดายที่พี่ไม่ได้รางวัล ถ้าไม่อย่างนั้นพี่จะยินดีเป็นที่สุดถ้าจะถูกคุณชายลู่ชิงกอดเอวเอาไว้แบบนั้น พี่นี่อดที่จะอิจฉาน้องซูหนี่ว์ไม่ได้เลยนะคะเนี่ย”
ดาราสาวกระแนะกระแหนซุปตาร์สาวรุ่นน้องทันที เข้าวงการก็ทีหลังเธอ กลับประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเธอ ที่สำคัญครอบครัวของรุ่นน้องสาวยังสนิทกับครอบครัวของคุณชายซือลู่ชิงอีก
“ค่ะ... มีอะไรอีกไหมคะ พอดีซูหนี่ว์ต้องรีบท่องบทเพื่อเข้าฉากต่อไปน่ะค่ะ” หลินซูหนี่ว์ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เพื่อระงับอารมณ์ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่มีอะไรแล้วจ้ะ”
หุ้ยหรูหรูเอ่ยออกมา ก่อนที่จะมองซุปตาร์สาวรุ่นน้องด้วยแววตาหมั่นไส้ และเดินจากไปที่ห้องพักของเธอเอง
เยว่เหมยที่เพิ่งจะไปคุยโทรศัพท์เดินกลับมาหาซุปตาร์สาวก็เดินสวนกับดาราสาวหุ้ยหรูหรูเข้าพอดี อีกฝ่ายเพียงส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินจากไป เยว่หรูรีบเดินเข้าไปถามไถ่หลินซูหนี่ว์ทันที ด้วยรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคู่แข่งในวงการบันเทิง และซุปตาร์สาวมักจะมาเหนือกว่าทุกครั้ง ด้วยฐานแฟนคลับของมารดาและคนที่ชื่นชอบการแสดงของเธอ
“มีอะไรกันหรือเปล่า เมื่อกี้พี่เห็นยัยหรูหรูเดินสวนพี่ออกไป”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เธอแค่อยากจะมาแสดงความขี้อิจฉาจนตาร้อนที่ซูหนี่ว์ได้ถ่ายรูปคู่กับคุณชายซือลู่ชิง”
ซุปตาร์สาวตอบออกมาราวกับไม่ได้คิดอะไรมาก ทั้งๆ ที่ภายในใจนั้นนึกแค้นเคือง ว่าทำไมหรูหรูถึงไม่ยอมถอดใจจากซือลู่ชิงสักที
“หึๆ นี่ถ้ารู้ว่าเมื่อคืนคุณชายซือลู่ชิงไปส่งหนูที่บ้าน พี่ว่านางต้องอิจฉาจนอกแตกตายแน่ๆ”
ผู้จัดการสาวเอ่ยออกมาด้วยความหมั่นไส้อีกฝ่าย ที่คอยเป็นคู่แข่งกับซุปตาร์สาวที่เธอดูแลมาตั้งแต่เข้าวงการไม่ว่างานอะไรที่หลินซูหนี่ว์อยากจะรับ หุ้ยหรูหรูก็มักจะเสนอตัวด้วย แต่ทุกครั้งสปอนเซอร์และผู้จัดละครต่างก็เลือกหลินซูหนี่ว์ตลอด
‘นี่ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นคู่หมั้นกับผู้ชายที่เธอชอบมาตั้งแต่เด็ก เธอจะรู้สึกยังไงนะ’ หลินซูหนี่ว์คิดในใจก่อนที่จะยิ้มร้ายออกมาโดยที่ผู้จัดการส่วนตัวสาวไม่ทันได้สังเกต
เสียงเด็กพูดคุยกันเสียงดังจอแจ พี่ใหญ่อย่างซือเฟยหนี่ว์และพี่รองอย่างซือเฟยหลงคอยดูแลน้องๆ ไม่ห่าง วันนี้ครอบครัวตระกูลซือประกอบด้วย คุณปู่ควบตำแหน่งคุณตาอย่างซือมู่อัน คุณย่าควบตำแหน่งคุณยายอย่างซือถิงถิง ซือลู่ชิง ครอบครัวของทายาทคนโตซือลู่ชิงที่มีกันห้าคนพ่อแม่และลูกๆ ทั้งสาม ซือลู่จื้อและคู่หมั้นหมาดๆ อย่างฟางหรง ตระกูลสวีประกอบไปด้วย สวีอวี้เฉิน สวีลู่เหลียน และลูกๆ ทั้งสาม ตระกูลหลินที่มีเพียงสองตายายอย่างหลินเจียอีและหลินซือซือ“ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าครอบครัวเราจะมีกันมาจนถึงวันนี้”คุณย่าซือถิงถิงเอ่ยขึ้นขณะที่สายตาก็ทอดมองไปยังกลุ่มของลูกสาวและลูกสะใภ้ที่กำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหารอยู่ตรงสวน ก่อนที่จะละสายตาจากสาวๆ แล้วทอดสายตาไปมองอีกฝั่งที่มีสองหนุ่มคุณพ่อลูกอ่อนซือลู่ชิงและสวีอวี้เฉินกำลังดูแลลูกๆ ที่อายุเพียงไม่กี่เดือน ซือลู่จื้อก็กำลังวิ่งตามหลานๆ ทั้งสาม ซือเฟยหนี่ว์ ซือเฟยหลง และสวีลี่ถัง“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกันจนถึงวันที่ลูกๆ มีหลานๆ ให้เชยชมกันแล้วคิกๆ” หลินซือซือเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ“นั่นน่ะสิ จะว่าไปพวกเราก็แก่มากขึ้นแล้วนะเนี่ย โดยเ
เวลาที่ผ่านไปทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ทว่าความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัวไม่เคยเปลี่ยนไปไหน ซือซูหนี่ว์ได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่บิดาตั้งชื่อให้ว่า เฟยหรู แซ่ซือ ทารกเพศหญิงตัวขาวอวบ ผมดกดำ ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยจนคนเป็นพี่ชายวัยหกขวบหวงน้องสาวราวกับไข่ในหิน ใครจะเข้าใกล้นอกจากบิดา มารดา และพี่สาวแล้ว ทุกคนต้องล้างมือก่อนทุกครั้ง“นี่อาล้างมือแล้วนะ” ซือลู่จื้อบอกกับหลานชายที่ทำตัวราวกับบอดี้การ์ดให้กับน้องสาววัยสามเดือน“อาลู่จื้อผ่านฮะ” เด็กชายวัยหกขวบบอกกับคุณอาหนุ่ม“อาก็ล้างแล้วจ้ะ” ฟางหรงชูมือให้กับหลานชายตัวน้อยได้เช็กดู“อาฟางหรงคนสวยผ่านฮะ” คำตอบของหลานชายทำเอาคุณอาสุดหล่อมองบน สองมาตรฐานคงไม่พ้นหลานชายของเขาคนนี้ ทีเขานี่โดนตรวจละเอียด แต่กับสาวๆ อย่างเช่นแฟนสาวของเขากลับผ่านได้โดยไม่ต้องตรวจดูให้มากหลังจากได้รับอนุญาตจากบอดี้การ์ดตัวน้อย ซือลู่จื้อกับฟางหรงจึงพากันเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น เวลานี้ทายาทคนเล็กของคฤหาสน์แห่งนี้กำลังนอนอยู่บนเปลเด็กอ่อนและกำลังตื่นนอนพอดี ซือซูหนี่ว์ที่กำลังลุกขึ้นไปอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมาจากเปลถึงกับหันไปมองเมื่อบุตรสาววิ
“ซูหนี่ว์ เธอร้องไห้ทำไมหืม....เธอไม่ดีใจหรอ”เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทั้งน้ำตา“ฮึก.... พี่รู้ไหมว่าน้องกลัวและกังวลใจมากขนาดไหน ฮึก..... ทำไมไม่บอกน้องก่อนว่าพี่ไปแก้หมันมา” เสียงหวานเอ่ยออกมาปนสะอื้น“โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะคะ... พี่ขอโทษ”ซือลู่ชิงกอดปลอบภรรยาที่กำลังร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้นเพราะอารมณ์น้อยใจ เสียใจ และอาจจะเป็นเพราะอารมณ์แปรปรวนจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง“ฮึก... น้องก็คิดอยู่ว่าน้องจะท้องได้ยังไง พี่ลู่ชิงรู้ไหมว่าน้องกลัวขนาดไหน กลัวว่าพี่จะคิดว่าน้องไปมีอะไรกับคนอื่นจนท้อง...”“พี่ไม่คิดแบบนั้นหรอกนะที่รัก อย่าคิดมากเลย พี่รู้ว่าเธอซื่อสัตย์ มีเพียงแค่พี่ และรักพี่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กจนโต เงียบนะครับ พี่ขอโทษนะ ต่อไปนี้เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี อีกเรื่อง พี่ว่าเธอลาวงการไปดีกว่าไหมจะได้มีเวลาให้ลูกๆ ลืมไปแล้วหรือไงว่าสามีเธอรวย เงินมีให้ใช้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมด” ซือลู่ชิงบอกเสียงนุ่ม ก่อนที่จะบอกภรรยาถึงเรื่องที่เขาคิดมาได้สักพักแล้ว“ค่ะ น้องจะออกจากวงการ อยากมีเวลาอยู่กับเด็กๆ ให้มากกว่าเมื่อก่อน”ซือซูหนี่ว์บอกผู้เป็นสามี เธ
สามเดือนต่อมา“แอว๊ะ!!! อ้วก.........อึก....”เสียงอาเจียนดังมาจากในห้องน้ำยามเช้าตรู่ ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากที่นอนและเดินตามเข้ามาดูภรรยาด้วยความเป็นห่วง“น้องเป็นอะไรซูหนี่ว์ ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้ามาอาเจียนบ่อยๆ”ซือลู่ชิงส่งมือหนาไปลูบหลังก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาด้วยความแปลกใจ“ไม่รู้ค่ะ เอ่อ.... คือว่า”เธอไม่กล้าบอกเขาว่าประจำเดือนไม่มาจะสองเดือนแล้ว ถ้าบอกว่าท้องมันก็คงแปลกเพราะสามีของเธอทำหมันไปแล้ว“คืออะไรหืม...”เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างใจเย็น ร่างบางพยุงตัวลุกขึ้นจากโถชักโครกแล้วเดินไปเปิดน้ำบ้วนปากของตน“น้องสงสัยว่าตัวเองกำลัง..เอ่อ...”หญิงสาวกล้าๆ กลัวๆ ที่จะบอกสามี แต่เธอไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นนอกจากสามีของตนเอง และครั้งล่าสุดก็ดูเหมือนก่อนที่ประจำเดือนของเธอจะหายไป“เอ่อ...เอ่อ....อะไร พูดมาเถอะ”น้ำเสียงราบเรียบที่เอ่ยถามออกมามันต่างจากในใจของเขายิ่งนัก หัวใจของเขาสั่นไหวและแอบคาดหวังอยู่ไม่น้อย“น้องอาจจะเครียดมากเกินไปน่ะค่ะ”ซือซูหนี่ว์ไม่กล้าคิดว่าตนเองท้องจึงบอกเขาไปเช่นนั้น ซือลู่ชิงทำหน้าผิดหวังแต่ทว่าเขากลับไม่ยอมแพ้“วันนี้พี่ว่าง เราไปหาหมอกันดีกว่า ไปส่งเด็
“กำลังคิดอะไรอยู่ หืม.....”เสียงทุ้มของซือลู่ชิงดังขึ้นจากทางด้านหลัง วงแขนแข็งแรงสอดเข้ามาช่วงเอวบางของเธอ สองมือประสานกันอยู่ช่วงหน้าท้องของเธอ คางของชายหนุ่มก็วางลงบนไหล่ของเธอ หญิงสาวสะดุ้งจนหายใจติดขัดแต่เมื่อรู้ว่าเป็นใครจึงหายใจเข้าออกเป็นจังหวะปรกติ“อุ้ย!! พี่ลู่ชิง น้องตกใจหมด” มือบางตีลงไปบนมือใหญ่ที่ประสานกันอยู่ที่หน้าท้องของเธอ“พี่ก็ไม่ได้มาเงียบๆ นะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา“น้องกำลังนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่ค่ะ”ใบหน้างามหันไปทางใบหน้าสามีที่ยังคงวางคางอยู่บนไหล่ของเธอ จนจมูกโด่งรั้นเฉียดแก้มเนียนของชายหนุ่ม เขาผละอ้อมแขนก่อนที่จะเปลี่ยนไปยืนข้างเธอแทน“อดีต... เรื่องอะไรหรือ” ซือลู่ชิงทำหน้างงก่อนที่จะจูงมือภรรยาสาวให้เดินตามเขาไปตามแนวชายหาด“ก็... เรื่องที่น้องอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ยังไงล่ะคะ”ซือซูหนี่ว์ตอบออกมาอย่างเขินอาย ใบหน้าสวยก้มลงมองเท้าตนเองที่เหยียบย่ำทรายอยู่“แล้ว...”ซือลู่ชิงหยุดการก้าวเดินก่อนที่จะจ้องใบหน้างามของคนตัวเล็กตรงหน้า“ก็..... น้องไม่คิดยังไงล่ะคะ ว่าเราสองคนจะมาจนถึงวันนี้ วันที่มีลูกๆ ที่น่ารัก และวันที่เราสองคนรักกันได้ขนาดนี้”มือหนาถูกส่งมา
“คุณอาลู่จื้อฮะ พอจะรู้ไหมว่าปะป๊ากับหม่ามี๊รักกันได้ยังไง”เด็กชายวัยห้าขวบเอ่ยถามผู้เป็นน้าชายขณะที่อยู่ในสระว่ายน้ำของบ้านพักแบบพูลวิลล่า วันนี้ซือลู่ชิงพาภรรยาลูกๆ และคู่รักคู่ใหม่มาพักผ่อนที่ทะเลของเมืองเอ็ม“หนูก็อยากรู้ค่ะ คุณอาฟางหรงพอจะรู้ไหมคะ” เด็กหญิงวัยห้าขวบเอ่ยถามแฟนสาวของคุณอาหนุ่มบ้างซือลู่จื้อตามจีบฟางหรงอยู่ถึงสามปีจนหญิงสาวใจอ่อนยอมคบหาด้วย แต่ก็เพราะมีใจให้ชายหนุ่มรุ่นน้องที่ลงทุนไปทำงานอยู่ที่เมืองเดียวกับเธอเพียงเพราะอยากอยู่ใกล้เธอ การได้ทำงานร่วมกันทำให้เธอมองเห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของชายหนุ่ม เขาชนะใจครอบครัวของเธอ รวมไปถึงหัวใจของเธอที่ไม่เคยมอบให้ใครด้วย หญิงสาวส่ายหน้าให้กับหลานๆ ทั้งสอง“อยากรู้กันจริงๆ หรอ เรื่องมันยาว” ซือลู่จื้อตอบก่อนที่จะมองหน้าหลานทั้งสอง“อยากรู้ฮะ/ค่ะ”สองเสียงประสานกัน ซือลู่จื้อหันไปมองหน้าแฟนสาว เธอทำเพียงส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้กับเขาเท่านั้น เพราะเรื่องราววัยเด็กของทั้งสองตระกูลเธอไม่ได้รู้รายละเอียดเท่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ อันที่จริงตอนนั้นซือลู่จื้อก็ยังเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ความมากนัก แต่เพราะซือลู่เหลียนพี่สาวค