เสียงรถที่ขับเคลื่อนเข้ามาในบริเวณอาณาจักรตระกูลซือทำคนที่กำลังรออยู่ลุกขึ้นจากที่นั่ง ซือลู่เหลียนยังนอนไม่หลับเพราะมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ชายฝาแฝดก่อน ที่จริงวันนี้เธอจะต้องเดินทางไปกับพี่ชายที่งานประกาศและมอบรางวัลของวงการบันเทิง แต่เพราะเธอรู้สึกปวดท้องกะทันหันจึงไม่ได้ไป
“พี่ลู่ชิง...น้องซูหนี่ว์ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดนิยมของปีนี้ใช่หรือเปล่า”
เสียงหวานของแฝดน้องเอ่ยถามพี่ชายอย่างตื่นเต้น ซือลู่ชิงก้มมองนาฬิกาเรือนหรูที่ข้อมือก็ถึงกับคิ้วขมวดแล้วเงยหน้ามองน้องสาว
“ลู่เหลียน ทำไมน้องยังไม่นอนอีก อย่าบอกว่ารอพี่เพียงเพราะอยากถามเรื่องแค่นี้” ซือลู่ชิงเอ่ยถามน้องสาวฝาแฝดด้วยความสงสัย
“คือน้องมีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่ลู่ชิงน่ะค่ะ” ซือลู่เหลียนตัดสินใจเอ่ยออกมา
“มีอะไรจะปรึกษากับพี่อย่างนั้นหรือ”
เขาเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวข้างๆ กับน้องสาวก่อนที่จะยกแขนมาพับแขนเสื้อขึ้น กลิ่นน้ำหอมของหลินซูหนี่ว์ยังติดเสื้อผ้าเขามาไม่หายจนเขาเผลอสูดดมเข้าไปหลายทีราวกับพวกโรคจิต
“เอ๊ะ! กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนี่คะ นี่พี่ลู่ชิงมีผู้หญิงแล้วหรอคะ”
ซือลู่เหลียนเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ตั้งแต่เติบโตมาด้วยกันเธอไม่เคยเห็นว่าพี่ชายจะควงสาวๆ ในเมืองแอลหรือนอกเมืองแอลเลยสักครั้งจนมีคนลือกันว่าพี่ชายของเธอเป็นเกย์ เพราะมีแต่พวกบอดี้การ์ดหนุ่มๆ รายล้อม
“อืม... กลิ่นน้ำหอมจากน้องน้อยของเธอนั่นแหละ ผู้หญิงอะไรดื้อเป็นบ้าเลย”
เขาตอบน้องสาวก่อนที่จะเอ่ยประโยคหลังออกมาเสียงเบา ซือลู่เหลียนถึงกับถามย้ำ
“ห๊า........ กลิ่นน้ำหอมของน้องซูหนี่ว์หรอคะ”
“อืม...พอดีพี่ยืนถ่ายรูปใกล้กับเธอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงจะมีรูปออกมา” เขาบอกน้องสาวฝาแฝดก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
“อ๋อ...ยืนถ่ายรูปใกล้กัน”
เสียงหวานร้องอ๋อออกมาเสียงยาวก่อนที่จะอมยิ้มน้อยๆ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพี่ชายอยากจะทำมากกว่าแค่ยืนถ่ายรูปกับน้องซูหนี่ว์เสียอีก หากแต่เพราะความขี้เก๊กก็เลยต้องเป็นแบบนี้ต่อไป
“ไหนมีเรื่องอะไรอยากจะปรึกษาว่ามาเร็วพี่ง่วงนอนแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาก่อนที่จะทำท่าหาวราวกับว่าง่วงนอนจริงๆ
“คืออย่างนี้ น้องจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่เกาะหวงไห่ น้องขอพ่อกับแม่แล้ว ไม่มีปัญหา ทีนี้น้องเลยอยากจะขออนุญาตพี่ชายด้วย” ซือลู่เหลียนฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“มีใครไปบ้าง” อารมณ์พี่ชายหวงน้องสาวคนสวยกำเริบขึ้นมาทันที
“ก็มีหลี่น่ากับฮุ่ยหลิงเพื่อนสนิททั้งสองของน้องยังไงคะ ให้น้องไปนะคะ ป๊าของยัยหลี่น่าเปิดโรงแรมอยู่ที่เกาะนั่น รับรองปลอดภัยล้านเปอร์เซ็นต์”
ถึงน้องสาวของเขาจะมีวิชาศิลปะป้องกันตัวทุกแขนง แต่ก็มีสรีระร่างกายเป็นผู้หญิง แถมหน้าตาเธอก็จัดว่าสวยจนสามารถเป็นนักแสดงได้สบายแต่เธอกลับไม่ทำ
หญิงสาวเลือกที่จะเป็นช่างภาพอิสระ ซึ่งบิดามารดาและตัวเขาก็ไม่บังคับอะไร ส่วนน้องชายที่อยู่ในวัยเพียงสิบเก้าปีก็ยังคงเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และแน่นอนว่าซือลู่จื้อนั้นเป็นหนุ่มฮอตพอสมควร เรียกได้ว่าได้เชื้อบิดามาเต็มๆ
“เดี๋ยวพี่จะให้ต้าเฟยไปเป็นเพื่อน”
พี่ชายเอ่ยออกมา และก็เป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้ หญิงสาวถอนลมหายใจออกมาเสียงดังจนพี่ชายเลิกคิ้วถาม
“ทำไม!! มีปัญหา...ถ้ามีก็ไม่ต้องไป”
คำพูดของพี่ชายทำให้เธออดที่จะเป็นห่วงผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนของพี่ชายในอนาคตไม่ได้ และผู้หญิงที่โชคร้ายคนนั้นก็คงไม่พ้นน้องซูหนี่ว์อย่างแน่นอน
ก็พี่ชายของเธอเล่นส่งคนไปจัดการกับผู้ชายทุกคนที่เข้าไปเฉียดใกล้ซุปตาร์สาวจนผู้ชายทุกคนหายไปจากชีวิตของเธอ เรื่องนี้ซือลู่เหลียนเคยบอกกับน้องน้อยไปแล้ว
เธอเชื่อว่าพี่ชายของเธอหึงและหวงคู่หมั้นสาวมาก หากแต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกจนเธอรู้สึกรำคาญกับความขี้เก๊ก ปากหนักของพี่ชายจึงแกล้งยุให้น้องซูหนี่ว์ประชดด้วยการทำตัวสวย รวยโสดให้ผู้ชายเสียดายเล่น
“ไม่มีค่ะ ให้ต้าเฟยไปด้วยก็ได้ แต่ไปแบบไม่ต้องแสดงตัวนะคะ ขืนไปแบบแสดงตัว ยัยสองคนนั้นได้แซวน้องแน่ว่าโดนคุมทั้งๆ ที่ยังไม่มีแฟน แบบนี้น้องจะมีแฟนเมื่อไหร่ล่ะคะ ชอบให้บอดี้การ์ดตามน้องไปอยู่เรื่อย”
ซือลู่เหลียนอดที่จะตัดพ้อพี่ชายออกมาไม่ได้ เขายังดีที่มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว แต่เธอนี่สิ หนุ่มๆ มาจีบเยอะก็จริงแต่โดนพี่ชายสกัดดาวรุ่งไปหมด
รถตู้ของตระกูลหลินพาเจ้านายและเพื่อนๆ เคลื่อนออกจากคฤหาสน์ของตระกูลซือ มุ่งหน้าไปคลับสุดหรูใจกลางเมืองแอลซึ่งเป็นคลับในเครือของตระกูลซือที่ซือลู่ชิงเข้าดูแลต่อจากบิดานั่นเองเมื่อรถจอดการ์ดของร้านที่จำคุณหนูกลางของตระกูลซือกับคุณหนุหลินของตระกูลหลินได้ก็เข้ามารอต้อนรับและพาเดินไปที่โต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะวีวีไอพีสายตาทุกคู่ของบรรดานักเที่ยวต่างมองมาที่คนทั้งสามเป็นตาเดียว โดยเฉพาะซือลู่เหลียนและหลินซูหนี่ว์ที่ได้รับความนิยมจากหนุ่มๆ นักเที่ยวแทบทุกโต๊ะร่างสูงยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านหลังกระจกชั้นสอง สายตาคมจดจ้องไปยังร่างระหงของคู่หมั้นวัยเด็กที่แต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันจนเขาอยากจะจับเธอมาลงโทษซะให้เข็ด ว่าเป็นผู้หญิงไม่ควรแต่งตัวล่อเสือล่อจระเข้ขนาดนั้นดีที่ยัยน้องสาวตัวแสบยังแต่งตัวมิดชิดแต่ก็ยังดูดีเพราะความสวยของเธอมีกว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จนหนุ่มๆ ทั้งคลับมองมาที่โต๊ะของซุปตาร์สาวกับทายาทคนกลางของตระกูลซือเป็นตาเดียวกัน“ให้ส่งคนไปคอยดูแลความปลอดภัยให้คุณหนูหลินกับคุณหนูลู่เหลียนไหมครับ” ต้าเฟยเอ่ยถามออกมาอย่างรู้ใจผู้เป็นนาย“อืม...ให้คนคอยดูแลอยู่ห่างๆ”เขาบอกก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ถึงไม
หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะสารภาพความรู้สึกที่มีต่อคู่หมั้นวัยเด็ก ซือลู่ชิงก็ต้องการที่จะรู้ประวัติความเป็นมาของผู้ชายชาวต่างชาติ ผมทองตาฟ้าที่หลินซูหนี่ว์ไปรับด้วยตัวเองถึงสนามบินเมืองแอลแบบไม่แคร์ต่อสายตาคนมองว่าเป็นใคร มาจากไหน และมีความสัมพันธ์แบบไหนกับน้องน้อยของเขา“ว่าไง ได้เรื่องอะไรบ้าง” เสียงเย็นชาเอ่ยถามตงหลงทันทีที่เห็นหน้าบอดี้การ์ดหนุ่ม“สืบมาได้แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของคุณหนูหลินครับ ข้อมูลอย่างอื่นไม่มีใครทราบเลยเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่บุคคลสาธารณะ” ตงหลงตอบออกมาตามที่ไปสืบได้มา“อืม... ไม่เป็นไร เห็นทีฉันต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนของเธอสักหน่อย” ซือลู่ชิงเอ่ยออกมาก่อนที่จะลุกขึ้นยืน เขาเดินไปหยุดอยู่ที่กำแพงกระจกซึ่งมองทะลุไปยังรอบๆ คลับของตระกูลสองบอดี้การ์ดหนุ่มหันมามองหน้ากันก่อนที่จะเผยรอยยิ้มอย่างรู้ทันออกมา ถ้าคุณชายบอกว่าจะไปทำความรู้จักกับอีกฝ่าย คงจะต้องไปแสดงตัวอีกแน่ๆ ปากแข็ง ปากหนัก ปากไม่ตรงกับใจต้องยกให้คุณชายของพวกเขาเลยทางด้านหลินซูหนี่ว์ที่พาเพื่อนสนิทไปพักที่คฤหาสน์ตระกูลหลินด้วยก็แนะนำเพื่อนชายใจสาวให้กับบิดาและมารดาได้รู้จัก สองสามีต้อนรับข
ปัง!!! เสียงตบโต๊ะดังขึ้นทันทีที่อ่านข่าวในสมาร์ทโฟนเครื่องหรูจบ สายตาเย็นชาแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้ารูปที่อยู่ในข่าวไม่ใช่คู่หมั้นวัยเด็กของเขา เธอกล้าไปกอดและหอมแก้มผู้ชายคนอื่นที่สนามบิน แบบนี้มันเท่ากับหักหน้าเขาชัดๆ“ตงหลง!!! นายไปสืบมาว่าไอ้ฝรั่งคนนี้มันเป็นอะไรกับซูหนี่ว์” เสียงเข้มสั่งบอดี้การ์ดคนสนิท“ครับ!! คุณชาย” ตงหลงออกไปจัดการสืบตามที่คุณชายต้องการทันที“ต้าเฟย นายว่าฉันควรจะจัดการกับยัยน้องน้อยจอมดื้อยังไงดี” ด้วยความที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กเขาจึงสนิทใจที่จะเอ่ยถามต้าเฟยมากกว่าตงหลง“อืม.... อย่างแรก คุณชายต้องรู้ใจตัวเองก่อนครับ และอย่างที่สอง เมื่อรู้ใจตัวเองแล้วก็บอกอีกฝ่ายไปเลย ผมเชื่อว่าคุณหนูหลินเธอยังรักคุณชายเหมือนเดิม”และเพราะความสนิทต้าเฟยจึงกล้าเอ่ยคำแนะนำแบบนี้ออกมา คำตอบของต้าเฟยทำเอาซือลู่ชิงคิดหนัก เขาเฝ้าถามตนเองมาหลายรอบแล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับหลินซูหนี่ว์ แต่เขาก็ตอบตนเองไม่ได้ เขารู้เพียงว่าเขาหวงเธอ และเขาจะไม่มีวันปล่อยเธอให้ไปเป็นคนของใคร เธอเป็นของเขามาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน เธอก็ยังต้องเป็นของเขา และต้อง
หลินซูหนี่ว์อยากจะรู้นักว่าคู่หมั้นวัยเด็กของเธอนั้นรู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่ ความคิดที่อยากจะลองใจจึงเกิดขึ้นมา เธอตัดสินใจทักไปหาเพื่อนที่เคยเรียนอยู่ที่ต่างประเทศNee : ไฮ แดนนี่ ทำอะไรอยู่จ๊ะDanny : นอนสิยะ ยูจะให้ไอทำอะไร ทักมาไม่ดูเวลาเลยนะแม่คุณNee: ไอมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากยูหน่อยDanny : ………….Nee : ได้ไหม....Danny : บอกมาก่อนว่าเรื่องอะไรNee : โทรได้ไหม พิมพ์ไม่สะดวกอะDanny : ได้สิยะแม่ดาราหลินซูหนี่ว์รอสายเพียงไม่นานปลายสายก็รับสายของเธอ เสียงหวานเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่ใช่ผู้ชายแท้เพียงคนเดียวที่เธอคบสมัยไปเรียนต่อ“คิดถึงยูจังเลย แดนนี่”“อย่ามาแสดง.... มีเรื่องอะไรอยากจะขอความช่วยเหลือจากไอว่ามา” แดนนี่เอ่ยออกมาอย่างรู้ทัน“แหม...... คืออย่างนี้ หล่อนจำคู่หมั้นวัยเด็กของไอที่ไอเคยเล่าให้ยูฟังบ่อยๆ ได้ปะ” หลินซูหนี่ว์เอ่ยถามเพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายเปิดโอกาส“จำได้สิยะ ไอก็อยากจะเห็นหน้าคู่หมั้นที่ทำร้ายจิตใจยูอยู่เหมือนกันว่าจะหล่อขนาดไหนถึงทำให้คนสวยๆ แบบยูไม่ชายตามองผู้ชายคนไหนเลยตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่”“อืม.... ถ้ายูได้เห็นยูจะหวั่นไหวเลยแหละขอบอก
ซือลู่ชิงลงไปชั้นล่างเพื่อจะออกไปที่คลับของบิดาที่เขารับช่วงดูแล สองบอดี้การ์ดนั้นรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายหนุ่มนั้นกำลังจะออกไปไหน เพราะก่อนที่จะกลับเข้าบ้านมาเพื่อจัดการกับคุณหนูกลาง คุณชายใหญ่นั้นได้คุยสายกับผู้จัดการคลับว่ามีคนเข้ามาก่อกวนที่นั่น และนี่คือเหตุผลที่คุณชายใหญ่ต้องเดินทางไปจัดการด้วยตัวเองซือลู่ชิงนั่งเงียบไปตลอดทาง เขากำลังครุ่นคิดเรื่องที่น้องสาวฝาแฝดถาม เขาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับ ‘น้องน้อย’ กันแน่ แต่ถ้าจะให้เขาปล่อยเธอให้ไปเป็นของคนอื่น เขาก็ยอมไม่ได้เช่นกัน แบบนี้เรียกว่า’ รัก’ ได้หรือยังนะ“คุณชายครับ ถึงแล้วครับ”เสียงต้าเฟยดังขึ้นเรียกสติเจ้านายหนุ่มให้กลับมา ซือลู่ชิงมองไปที่ด้านนอกก่อนที่จะก้าวลงจากรถไปอย่างสง่างาม“ไอ้คนที่มันก่อกวนล่ะ” เสียงเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ“คนของเราคุมตัวไว้ข้างในแล้วครับ” ตงหลงรายงานขณะที่เดินตามหลังของเจ้านายหนุ่มท่าทางน่าเกรงขามบวกกับหุ่นสูงใหญ่ของซือลู่ชิง ทายาทคนโตของตระกูลซือที่เดินเข้ามาภายในคลับของตระกูลที่มีเสียงดังกึกก้องไปด้วยท่วงทำนองเพลงEDMเหล่านักเที่ยวกลางคืนกำลังโยกย้ายเคลื่อนไหวร่างกายไปมากันตาม
รถตู้คันหรูที่มีผู้โดยสารเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซือ พร้อมด้วยสองบอดี้การ์ดหนุ่มแล่นกลับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าคฤหาสน์ตระกูลซือในเวลาต่อมาหลังจากที่ออกไปส่งซุปตาร์สาวซูหนี่ว์กลับคฤหาสน์ตระกูลหลิน ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่าเย็นชาลงมาจากรถก่อนที่จะสาวเท้าก้าวเข้าไปในคฤหาสน์และตรงไปที่ห้องของน้องสาวฝาแฝดทันทีก๊อก....ก๊อก...ก๊อก......ใบหน้าสวยซีดเผือดเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่ซือลู่เหลียนก็ทำใจดีสู้เสืออย่างพี่ชายฝาแฝดด้วยการตะโกนออกไป“ประตูไม่ได้ล็อกค่ะ เปิดเข้ามาได้เลย”เท่านั้นแหละร่างสูงที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเธอเดินตัวปลิวเข้ามาในห้องของเธอก่อนที่จะไปนั่งลงบนโซฟา ขายาวยกขึ้นมาไขว่ห้าง แขนสองข้างก็ยกขึ้นมากอดอกเอาไว้ สายตาคมจดจ้องมาที่ใบหน้าสวยของเธอ“ม่ะ..มีอะไรจะคุยกับลู่เหลียนหรือคะ” เสียงห้าวหวานเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ“ที่เกาะ....มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า” เสียงเย็นชาดังขึ้นจนคนฟังรู้สึกสั่นสะท้านในอก“ม่ะ...ไม่มีนี่ พี่ไปฟังต้าเฟยเล่าอะไรให้ฟังมาล่ะ” ซือลู่เหลียนทำใจกล้าเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดออกไป“พี่จะให้โอกาส เล่าให้พี่ฟังหรือจะอดไปเที่ยวกับเพื่อนอีก”