“อย่ามาล้อฟองเล่นนะคะพี่หมอพะนาย” พี่หมอพะนายขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉัน แล้วจับตัวฉันไว้ไม่ให้ขยับหนีเขา
“จริงจังครับ!” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างคำพูดจริงๆ แล้วเขาก็ก้มหน้าเข้ามาเหมือนจะจูบฉัน
“โอ๊ย!” หน้าพี่หมอพะนายทิ่มลงกับโซฟาอย่างเต็มๆ แรงที่เขาตั้งใจจะจูบฉันเพราะไอ้ฟองคนนี้ดันหลบทันอย่างหวุดหวิด
“ฟะฟองขอโทษพะพี่หมอเจ็บมากไหม” พี่หมอพะนายเงยหน้าขึ้นมาจากบนโซฟา จมูกของเขาแดงมากเลยทีเดียวสงสัยจะเจ็บอยู่ไม่น้อย
“เฮียโอเค ยัยตัวแสบ” เขาพูดอย่างเข็นเขี้ยวเหมือนอยากจะเอาคืนฉันแต่ระงับอารมณ์เอาไว้อย่างเต็มที่
“หาว!ฟองง่วงนอนอีกแล้ว” ฉันทำท่าหาวประกอบให้เขาคิดว่าฉันง่วงนอนจริงๆ เพราะกลัวเขาจะทำอะไรฉันเหมือนเมื่อสักครู่ถึงฉันจะชอบเขาเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าผู้ชายที่หล่อ เรียนหมอ แถมบ้านรวยมากจะมาจริงจังกับเด็กต่างจังหวัดอย่างฉันจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าเกิดมีอะไรเกินเลยทั้งที่ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันจริงๆ และแน่ใจว่าเขาจะจริงจังและจริงใจกับเรา ถ้าเขาแค่มาเล่นๆ จะไม่เสียตัวฟรีหรือยังไง
“งั้นวันนี้เฮียกลับห้องก่อน แต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเฮียจะเริ่มจีบเราอย่างจริงจัง เตรียมตัวไว้นะ”
ณ.ห้องหมอพะนาย
ยัยตัวแสบของผมทำผมไว้แสบจริงๆ ปกติถ้าผมทำท่าจะจูบ ไม่สิผมไม่ต้องทำอะไรผู้หญิงคนอื่นก็พร้อมจะพลีกายให้ผมแล้วแต่หนูฟองของผมนี่จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนแบบที่ผ่านๆ มาของผมจริงๆ สมแล้วที่ผมรู้สึกอยากจะจีบและครบกับเธอเป็นแฟนอย่างจริงจังหลังจากที่ไม่ได้คบใครเป็นแฟนมา5ปี
ณ.โรงอาหารกลางคณะวิศวกรรม
อีกสองวันก็จะถึงวันประกวดดาวเดือนคณะวิศวกรรม เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาฟองจันทร์บอกเลยเป็นอาทิตย์แห่งนรกอเวจีสำหรับฟองจันทร์คนนี้จริงๆ เพราะทั้งซ้อมละครอีกทั้งยังต้องไปซ้อมเดินกับพี่ๆ ฝึกสอนดาวเดือนวิศวะและมีสอบควิซเก็บคะแนนก่อนเรียนมีเรื่องให้ทำเยอะแยะไปหมดเลยจนแทบจะไม่ได้คุยกับพี่หมอพะนายที่โทรเข้ามาหาและถ้าวันไหนเขานอนที่คอนโดที่เดียวกันกับฉันเขาก็จะมาหาที่ห้อง แต่ฉันก็จะยุ่งจนทำให้เขาไม่กล้ารบกวนนานๆ
“นี่ฟองจันทร์ การบ้านแคลข้อนี้ทำไมตอบแบบนี้ นิดไม่เข้าใจช่วยอธิบายให้ฟังก่อนได้ไหม” ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่โต๊ะที่โรงอาหารของคณะกำลังจะไปซื้อข้าวเที้ยงมากินกับเพื่อนๆ และคาบต่อไปมีควิซเก็บคะแนนแคลก่อนเข้าเรียน เพื่อนๆ เลยต้องเอาโจทย์ขึ้นมาทำเพื่อทบทวนก่อนสอบเพราะควิซแคลจะเป็นวิธีทำทั้งหมด จึงค่อนข้างที่จะยากและต้องหัดทำบ่อยถึงจะทำได้
“ได้ๆ ไม่มีปัญหาเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง” จากนั้นฉันกับนิดหน่อยก็เอาโจทย์ขึ้นมาดูแล้วทำและอธิบายให้นิดหน่อยดูไปพร้อมๆ กันเลยจะได้ฝึกไปพร้อมในตัว
“ฟองจันทร์ข้อนี้ฉันไม่เข้าใจว่ะ” ติวเตอร์ที่นั่งทำๆ การบ้านอยู่เหมือนกันเงยหน้าจากสมุดมาถามฉัน
“ไหนๆ อ่อข้อเดียวกับนิดหน่อยกำลังอธิบายอยู่เนี้ยมานั่งฝั่งนี้เดี๋ยวเริ่มอธิบายใหม่อีกรอบ” จากนั้นพวกเราก็ทำโจทย์อยู่เกือบชั่วโมงจนคิดว่าเข้าใจแล้ว
“ปะไปซื้อข้าว” ติวเตอร์ที่เก็บสมุดใส่กระเป๋าเป้ของมันแล้วชวนพวกเราที่นั่งอยู่ตอนนี้ ที่ประกอบด้วย ฉัน แสตมป์ นิดหน่อย ป๋องแป้ง บิ๊ก
“ไปไปกัน” หลังจากเปิดเทอมมาจะหนึ่งเดือนอยู่แล้วฉัน พิสูตรได้ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระที่นี่อร่อยมาก
“แกจะกินอะไรฟองจันทร์” แสตมป์ที่เดินมองร้านนั้นร้านนี้อยู่หันมาถามฉันที่เดินตามหลังมา
“ฟองอยากกินก๋วยเตี๋ยวไก่มะระร้านป้านิ่ม” ฉันเล็งร้านไว้แล้วและกำลังจะเดินไปต่อแถวซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ตอนนี้แถวยังไม่ค่อยยาว
“อีกแล้วเหรอว่ะฟองจันทร์ กินทุกวันไม่เบื่อบ้างเลยเหรอวะ” แสตมป์บ่นฉัน ก็มันอร่อยที่สุดแล้วนิไม่เห็นแปลกที่จะกินบ่อยๆ
“ทีแกลากฉันกับติวเตอร์ไปกิน เอ็มเคทุกวันยังกินได้เลยทำมาเป็นว่าฉัน!”
“อ้าวก็คนมันชอบนี้หว่า” แสตมป์มันยักไหล่แล้วเดินไปร้านข้าวที่อยู่ข้างๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวในขณะที่ฉันกำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวไก่มะระเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นความหิวกำลังบังตา
“หนูฟอง!”
“แครกๆ อ้วก!” พุ่งไปข้างหน้าเต็มๆ โดนหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉันพอดิบพอดี และคนที่รับกรรมไปเต็มคำก็คือไอ้แสตมป์เพื่อนรัก
“เฮ้ยฟองจันทร์ทำอะไรเนี้ยสกปรกหมดแล้ว” แสตมป์กระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที สีหน้ามันตอนนี้เหมือนคนกำลังจะร้องไห้อย่างคับแค้นใจมาก!
“ขอโทษนะแสตมป์ฟองไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ฉันถึงกับยกมือขึ้นไหว้แสตมป์เลยทีเดียว สภาพแสตมป์ตอนนี้มีทั้งเส้นทั้งผักและน้ำลาย
“หนูฟองเป็นอะไรหรือเปล่า” พี่หมอพะนายที่ยืนอยู่ข้างๆ เก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่จับไม้จับมือฉันขึ้นมาดูด้วยสีหน้ากังกล
“พี่หมอพะนายควรจะถามประโยคนั้นกับผมมากกว่านะ” ตอนนี้แสตมป์กำลังเอาผ้าเช็ดหน้าที่นิดหน่อยยื่นให้แล้วเอาน้ำเทใส่ผ้ามาเช็ดเศษอาหารออกจากใบหน้าอย่างขยะแขยงสุดๆ ฟองจันทร์คนนี้ไม่ใช่ตัวเชื้อโรคชะหน่อยทำไมต้องทำท่าทางรังเกียจกันขนาดนั้น
“หึโทษทีนะแสตมป์ ที่พี่เรียกหนูฟองเสียงดังจนทำให้หนูฟองตกใจแสตมป์เลยซวยไปด้วย”
“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ผมจะเก็บไว้คิดบัญชีแค้นกับฟองจันทร์ทีหลัง” แสตมป์ส่งสายตามาดร้ายมาให้ฉันแล้วขอตัวจากทุกคนไปเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าให้สะอาด
หลังจากแสตมป์ไปเข้าห้องน้ำฉันก็หันไปสำรวจตัวต้นเหตุของอุบัติเหตุที่เป็นความไม่ได้ตั้งใจของฉัน แต่เขาตั้งใจเรียกฉันเสียงดังตอนนี้พี่หมอพะนายอยู่ในเสื้อกาวเหมือนพึ่งไปเรียนเสร็จมาและกลายเป็นจุดเด่นทำให้สาวๆ วิศวะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่หันมามองเขากันใหญ่เลย ฮอตจังเลยนะคะพี่หมอ
“เฮียมากินข้าวกับหนูฟอง” พี่หมอพะนายที่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ฉันที่ว่างอยู่พอดี แล้วหันมายิ้มหวานให้ฉันอย่างประจบ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันต้องเดือดร้อนโดนไอ้แสตมป์อาฆาตร้าย
“ซิ!แล้วไม่มีเรียนต่อเหรอคะทำไมมากินข้าวซะไกลจากคณะแพทย์เชียว” ว่าจะทำเป็นโกรธเขาแล้วแต่พอเห็นรอยยิ้มกระชากใจของเขาแล้วโกรธไม่ลงเลย
“ก็เฮียอยากเห็นหน้าหนูฟอง เมื่อคืนเฮียก็ไม่ได้นอนคอนโดได้ยินแต่เสียงเราอยากเห็นหน้าอยาก สัมผัสแบบนี้ๆ” พี่หมอพะนายเล่นบีบแก้มฉันทั้งสองข้างแล้วโยกเบาๆ อย่างกับเขามันเขี้ยวฉัน เหมือนไอ้ฟองคนนี้เป็นเด็กๆ ไปได้
“โอ๊ยเจ็บนะ” ฉันแกล้งโอดครวญเพราะอายสายตาผู้คนในโรงอาหารที่กำลังมองมาทางเราด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์แต่ที่แน่ๆ ต้องมีคนเอาฉันไปเมาส์ทั่วคณะแน่ว่าฟองจันทร์ดาวสาขาเครื่องกลนั่งจีบกันกับรุ่นพี่คณะแพทย์กลางโรงอาคารคณะ โอ๊ยอยากจะแทรกแผ่นดินหนีชื่อเสียงต้องดังตั้งแต่ยังไม่ทันได้เป็นดาวคณะแน่งานนี้
“เจ็บเหรอพะพี่ขอโทษ” พี่หมอพะนายทำหน้ากังวลอีกรอบ
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่หมอจะกินข้าวอะไรคะเดี๋ยวฟองจะเดินไปซื้อมาให้” ฉันรีบพูดอยากให้เขารีบกินรีบกลับไป ไอ้ฟองเขินจนไม่รู้ว่าแก้มจะแดงไปถึงไหนแล้วน่าอายมากด้วย
.............................................................................................................
จบบทแล้วเม้นให้กำลังใจไรท์หน่อยนะถ้าใครหลงกลเข้ามาอ่าน