LOGIN“พี่จะทำอะไรผม” ผมถอยออกจากอีกฝ่ายที่กำลังเดินก้าวมาหาพร้อมกับหยิบอะไรบางอย่างจากด้านหลัง
“กูจะสั่งสอนให้มึงรู้ ว่าการยุ่งกับคนมีเจ้าของมึงต้องเจอกับอะไร” พี่ชายของนนท์พูดแล้วหยิบมือถือขึ้นมา ผมโล่งใจที่มันไม่ใช่อาวุธ นาฟเปิดกล้องโหมดถ่ายวีดีโอ ตั้งมือถือตั้งพิงไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ
ผมเคยเห็นวีดีโอซ้อมคนบ่อยๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอกับตัวเอง
“พี่อย่าทำอะไรนะ นี่มันห้องผม ผมแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายและบุกรุกได้นะ”
“แล้วไง” นาฟพูดพลางถอดเสื้อสูทออก พาดไว้ที่เก้าอี้ ปลดกระดุมข้อมือเตรียมพร้อม
“ผมก็สู้คนนะ อย่าคิดว่าผมไม่กล้า” ผมพูดความจริง แต่ในใจแอบคิดว่าถ้าสู้กันจริงๆ จะตายรึเปล่า นาฟตัวสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรง ผมว่าอัดผมหมัดเดียวก็คงจะน็อค
“ก็ดี กูชอบคนสู้ กูไม่ชอบทำคนฝ่ายเดียว” นาฟพูดแล้วแสยะยิ้มน่ากลัว เดินเข้ามาหาผม จังหวะนี้ผมตัดสินใจป้องกันตัวสวนหมัดไปก่อนทีหนึ่ง
ผลั่ก!! หมัดผมก็หนักไม่ใช่เล่น ผมมั่นใจเพราะตอนนี้นาฟถึงกับหน้าหันไปอีกทางจากแรงต่อยของผม
“มึงเริ่มก่อนนะ” นาฟหันกลับมา แล้วต่อยเข้าที่ท้องผม ผมถึงกับจุกนอนลงไปกองที่พื้น
‘แรงเยอะฉิบหาย’
นาฟถอดเสื้อออก ผมมองกล้ามท้อง ซิกแพ็คโคตรแน่น แม่งโคตรหุ่นดี กล้ามแน่นขนาดนี้ แสดงว่าต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หุ่นคนปกติแบบผมจะสู้นาฟได้ยังไง สักพักนาฟปลดเข็มขัดและถอดกางเกงออก จะต่อยคนแม่งต้องถอดขนาดนี้เหรอ
“มึงจะทำอะไรกู” ผมไม่รักษามารยาทอะไรแล้วตอนนี้ แม่งน่ากลัวสุดๆ
“มึงคิดว่าคนแก้ผ้าเขาทำอะไรกันล่ะ” นาฟบอกแล้วดึงผมที่นอนตัวงอขึ้นมาจับถอดเสื้อและพยายามจะถอดกางเกง ผมใช้แรงที่เหลือดิ้นรนและถีบนาฟ นาฟถอยไปตามแรงถีบ ต่อยที่ท้องผมอีกรอบ รอบนี้จุกจนไม่มีแรงจะขยับ นาฟยิ้ม จับผมแก้ผ้าออกจนไม่เหลือ กล้องที่มันตั้งอยู่จับภาพมาที่พวกเราอย่างต่อเนื่อง
“อย่าทำอะไรกูนะ ไอ้โรคจิต” ผมด่านาฟออกไป เอามือกุมท้องไว้
นาฟลากผมขึ้นมานอนที่เตียง จูบปากแต่ไม่ดันลิ้นเข้ามา คงระวังตัวกลัวผมจะกัด เอามือกดมือผมสองข้างไว้แน่น นอนทาบตัวตัวไว้ ดูดกัดคอผมแรงจนรู้สึกเจ็บ สักพักก็ใช้ลิ้นสำรวจผมไปคอและหน้าอก นาฟเล้าโลมเก่งมากจนผมห้ามความต้องการของตนเองไม่ได้ ส่วนนั้นชูชันขยายขึ้นเบียดกับแท่งยาวใหญ่ที่ไซส์ไม่ธรรมดา นาฟกำแท่งของผมรูดขึ้นลงแล้วดูดปากผม รอบนี้เขาใช้ลิ้นแทรกเข้ามาสำรวจรอบๆ กระพุงแก้ม เขาเล้าโลมและใช้มือเก่งจนผมเผลอจูบตอบ สักพักผมก็เกร็งตัวปลดปล่อยน้ำพุ่งออกมาเต็มมือของเขา
นาฟยิ้มพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาเอาน้ำของผมมาป้ายที่รูข้างล่างนั้น ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลยจะลุกหนี นาฟใช้แรงที่มีกดผมไว้แล้วดันแท่งใหญ่ยาวนั้นมาจนมิดด้ามในคราวเดียว ผมเจ็บ จุก ทรมานอย่างบอกไม่ถูก เหมือนตัวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาลูกผู้ชายซึมออกมาด้วยความเจ็บปวดและอับอาย
นาฟค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกอย่างถูกบันทึกในวีดีโอที่กำลังถ่ายไว้ด้วยฝีมือคนที่กำลังกระทำผมอยู่ นาฟถุยน้ำลายใส่แท่งของตัวเองแล้วยัดเข้าออกเร่งความเร็งขึ้น ครางด้วยอารมณ์ที่มีความสุข ต่างกับผมที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาไม่ถนอมร่างกายผมเลยสักนิด
นาฟกระแทกเข้าออกจนในที่สุดก็ปลดปล่อยน้ำไหลออกมาเต็มรูด้านหลังของผม นาฟเดินไปกดหยุดวีดีโอแล้วกดโทรศัพท์ไปมาสักพัก
“กูส่งไฟล์เข้าเมลล์กูไว้แล้ว ส่วนวีดีโอในมือถือกูกดลบทิ้งทั้งในอัลบั้ม และถังขยะแล้ว ....กูรับรองว่าจะไม่มีใครเปิดดูได้นอกจากกู” นาฟ บอกผมด้วยน้ำเสียงสะใจ
“มึงต้องการอะไรจากกู” ผมตวาดถามออกไป
“พูดกับกูดีๆ !!” นาฟตวาดคืน
“พี่ต้องการอะไรจากผม” ผมกัดฟันพูด
“กูต้องการให้มึง ให้ความสุขกับกู ทุกครั้งที่กูเรียก มึงต้องมา.....ไม่งั้นกูจะปล่อยคลิปมึง” นาฟพูดความต้องการออกมา ผมอึ้ง โคตรเจ็บใจ แต่ก็ไม่มีทางอื่นให้เลือก ผมน้ำตาไหล
“ผมต้องทำนานแค่ไหน?”
“จนกว่ากูจะเบื่อมึง”
“ถ้าผมติดธุระแล้วไปไม่ได้ล่ะ?”
“ถ้าเกี่ยวกับการเรียนกูไม่ว่า ถ้าสืบดูแล้วไม่ใช่ มึงโดนหนักแน่”
น้ำตาผมไหลในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ผู้ชายคนหนึ่งต้องโดนข่มขืนโดยผู้ชายด้วยกัน แม่งโคตรเจ็บโคตรอาย นึกถึงเหมือนดาว ผมคงไม่มีโอกาสกลับไปคบกับเธอได้อีกแล้ว
“อีกนานแค่ไหนพี่จะเบื่อผม?”
“ไม่รู้ แต่คนที่กูนอนด้วยนานสุดก็สามเดือน” นาฟบอกด้วยท่าทางไม่แคร์อะไร
‘คงเบื่อทันเปิดเทอมพอดี’
“แล้วพี่จะลบเมลล์ให้ผมจริงรึเปล่า?” ผมถามเสียงสั่นๆ
“กูเป็นลูกผู้ชายพอ คำไหนคำนั้น” นาฟพูดแล้วเดินมาทางผม
“เริ่มจากตอนนี้เลย ทำให้กูมีความสุขอีกรอบสิ” นาฟยิ้มเหยียดๆ มาให้ผมอย่างผู้มีอำนาจไว้ในมือ ผมที่แทบจะลุกไม่ขึ้น ที่ก้นก็มีน้ำของมันไหลออกมาเรื่อยๆ ต้องฝืนลุกขึ้นมา มองหน้านาฟนิ่ง
“ผมไม่เคยทำแบบนี้ ไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อน”
นาฟไม่ตอบเดินเข้ามาหาแอ่นสะโพกเข้ามาหาผม ผมน้ำตาไหลอีกรอบหลับตาใช้ปากให้ความสุขกับแท่งที่อยู่ตรงหน้า อมไปเหมือนจะอ้วกไป รู้สึกขยะแขยงบอกไม่ถูก ผมสะอื้นทั้งๆ ที่มีแท่งนั้นคาปาก
นาฟกดผมนอนลงแล้วจูบผม รอบนี้บางเบาและอ่อนโยน ผมเคลิ้มตามรสจูบที่ชำนาญนั้น ตวัดลิ้นจูบกลับอย่างลืมตัว นาฟใช้ลิ้นได้เก่ง จูบเก่ง เล้าโลมเก่ง จนผมลืมความขยะแขยงในอวัยวะที่มีเหมือนกันไปได้ชั่วคราว
นาฟลุกไปหยิบโลชั่นมา ผมมองตามแล้วหลับตา เตรียมใจรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นาฟเล้าโลมผมอีกครั้ง แล้วจับผมคว่ำลงในท่าคลานคุกเข่า ครั้งนี้เขาใช้โลชั่นทานิ้วแล้วค่อยๆ สอดไปทีละนิ้ว ใช้นิ้วควานไปรอบๆ โพรงคับแคบนั้นเพื่อหาจุดกระสัน ผมแอ่นสะโพกไปมา นาฟใช้นิ้วดันสะกิดตำแหน่งนั้นอีกรอบ ผมครางออกมาอย่างลืมตัว
นาฟกดโลชั่นมาทารอบๆ แท่งนั้นแล้วค่อยๆ กดหัวเข้าไป ใช้มือจับสะโพกผมไว้แน่น ค่อยๆ ดันเข้ามาจนสุด ครั้งนี้ไม่เจ็บมากเหมือนครั้งแรก แต่จุกเหมือนเดิม นาฟขยับเข้าออกช้าๆ เบาๆ เน้นไปที่ตำแหน่งที่ผมครางเมื่อตอนแรก ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกทุกครั้งที่เขาสัมผัสโดนตำแหน่งนั้น ผมครางออกมา นาฟยิ้มพอใจโยกสะโพกเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมครางไม่หยุด นาฟ ครางออกมาแล้วกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมปล่อยความสุขไหลออกมาทั้งๆ ที่ไม่ได้สัมผัสแท่งนั้นของตัวเองด้วยซ้ำ นาฟกระแทกต่ออีกสักพักก็ตามผมมาติดๆ น้ำไหลออกมาตามร่องนั้นลงมาเต็มที่นอน ผมทิ้งตัวนอนลง หน่วงๆ ตรงสะโพก นอนมองคนตรงหน้าเดินไปอาบน้ำชำระตัวที่ห้องน้ำแล้วออกมาแต่งตัวจนเสร็จ เดินมาหาผมหยิบมือถือผมมาให้ผมปลดล็อกให้ แล้วกดเบอร์ผมโทรเข้าเครื่องของตัวเอง และแอดไลน์ให้เสร็จสรรพ
“แล้วกูจะติดต่อมา” นาฟพูดแล้วเดินออกไปจากห้องของผม
ผมอยากนอนหลับไปเลย แต่รังเกียจตัวเอง รังเกียจน้ำของมันที่เต็มบนตัวและที่นอนของผม ผมค่อยๆ ลุกขึ้นตั้งหลัก เดินไปเข้าห้องน้ำอย่างทรมาน อาบน้ำและล้างคราบของนาฟให้ออกจากตัว น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอีกครั้ง
‘นี่ใช่ไหมบาปกรรมที่เราทำกับดาว’
‘บาปกรรมที่เรายุ่งกับคนที่มีเจ้าของ’
‘ดาว เราสกปรกเกินกว่าจะกลับไปขอเริ่มต้นใหม่กับเธอแล้ว’
ผมออกมาจากห้องน้ำ แล้วเลือกใส่บ็อกเซอร์แค่ตัวเดียว เพราะไม่คิดจะลงไปไหนอีก เดินไปที่เตียง ดึงผ้าปูที่นอนออกมายัดใส่เครื่องซักผ้าตรงระเบียงห้อง ปูผ้าปูผืนใหม่ที่เหมือนดาวเคยซื้อมาไว้ให้
‘เราคิดถึงดาวเหลือเกิน’ ผมนอนเอาหน้าแนบกับที่นอนจนหลับไปด้วยความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ
*********************
ผลสอบออกแล้ว ฉันผ่านเกือบเต็มในทุกรายวิชา ส่วนปัทม์ก็ผ่านในทุกรายวิชาคะแนนอยู่ระดับปานกลาง ต่างจากเทอมที่แล้วที่ผ่านแบบคาบเส้นมาตลอด
“ดีใจจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าความพยายามแค่สองสัปดาห์จะทำได้ดีขนาดนี้” ปัทม์เอาคะแนนมาอวดฉันที่ห้องพูดอวยตัวเองไม่หยุด
“ถ้าปัทม์ตั้งใจตั้งแต่แรก เราว่าจะอาจจะท็อปนะ” ฉันพูดให้กำลังใจปัทม์
“แบบนี้ต้องฉลองนะ” ปัทม์ยกมือฉันขึ้นมาจับ ฉันดึงมือออก
“อย่ามาเนียน” ฉันบอก
“เหมือนดาว เราลงทะเบียนเรียนซัมเมอร์ให้เธอแล้วนะ เรียนด้วยกันทั้งห้าวิชาเลย ค่าใช้จ่ายคุณย่าก็จัดการให้เรียบร้อยแล้ว” ปัทม์บอกฉัน
ฉันโทรบอกทางบ้านว่าจะเรียนซัมเมอร์โดยจะทำงานพิเศษออกค่าใช้จ่ายเอง เพื่อไม่ให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง
“อืม”
“เริ่มเรียนสัปดาห์หน้านะ ไม่ต้องเอารถไป ไปกับเราเลย”
“ก็ได้” ฉันรู้ว่าปฏิเสธไปก็ไม่ได้ผล ขี้เกียจร่ำไร แต่เหตุผลลึกๆ ก็อยากไปกับปัทม์นั่นแหละ
“เราลืมบอก เราจะกลับบ้านเสาร์นี้นะ กลับเสาร์หน้า” ฉันบอกปัท
“ไม่กลับไม่ได้เหรอ”
“เราเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะปัทม์” ฉันเสียงแข็งนิดหนึ่ง
“ครับ เราจะรอนะ”
“ปัทม์ก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวบ้าง ปัทม์กลับบ้านคุณย่าจะได้ไม่เหงา บ้านอยู่ใกล้แค่นี้ขับรถครึ่งชั่วโมงก็ถึง ไม่รู้จะมาอยู่คอนโดทำไม” ฉันบอกแกมบ่นปัทม์เล็กน้อย
“แหนะ บอกให้เรากลับบ้าน กลัวเราเถลไถลช่วงที่ดาวไม่อยู่ละสิ” ปัทม์ยิ้มพูดเข้าข้างตัวเอง แต่เป็นการเข้าข้างตัวเองที่ดันตรงกับความคิดในส่วนลึกของฉันซะด้วย
“เพ้อเจ้อ”
“เราจะวีดีโอคอลหาเหมือนดาวทุกวันเลย”
“อืม จะทำอะไรก็ทำ แต่ตอนนี้กลับห้องไปได้แล้ว เราจะเก็บของ”
“เดี๋ยวเก็บช่วย”
“เราอยากมีเวลาส่วนตัวมั้ง” ฉันพูด ปัทม์สีหน้าเหมือนน้อยใจ ฉันใจหายนิดๆ
“เก็บของเสร็จแล้วเราค่อยออกไปหาอะไรกินข้างนอก” ฉันพูด
ปัทม์ยิ้ม พยักหน้าเข้าใจ ก้มมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่แล้วเดินกลับห้องไป ฉันเอามือลูบแก้ม ส่ายหน้ากับนิสัยเด็กน้อยของปัทม์
‘รู้สึกดีชะมัด’ (^///^)
*********************
สอบเสร็จวันสุดท้าย ผมออกจากห้องสอบด้วยความมั่นใจ ยังไงซะคะแนนผมยืนไว้ที่เกรดบีเป็นอย่างต่ำแล้วทั้งห้าวิชาเหมือนดาวเดินออกมาจากห้องสอบก่อนผม นั่งรออยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง แล้วลุกเดินไปด้วยกัน ตอนนี้เพื่อนๆ ที่เรียนซัมเมอร์ด้วยกัน รู้แล้วว่าผมจีบเหมือนดาวอยู่ บรรดาสาวๆ ที่ไม่ค่อยเข้ามาเหมือนแต่ก่อน เพราะผมออกตัวแรงว่าชัดเจนกับเหมือนดาวคนเดียวเรานั่งเล่นข้างตึกคณะสังคมฯ สักพัก ยังไม่อยากกลับคอนโดตอนนี้“สอบเสร็จแล้ว ไปเที่ยวไหนกันดี” ผมถาม“เราว่าจะกลับบ้าน อีกตั้งสองสัปดาห์กว่าจะเปิดเทอมอีกรอบ” เหมือนดาวบอก“ไม่กลับมาลงทะเบียนเรียนล่วงหน้าสักอาทิตย์หนึ่งเหรอ?” ผมถาม อยากห้ามไม่ให้กลับด้วยซ้ำ“ไม่อ่ะ ลงที่บ้านก็ได้”“ไม่รอฟังผลสอบด้วยกันเหรอ?”“ไม่อ่ะ รอดูเกรดทีเดียวเลย”“ไม่กลับไม่ได้เหรอ?”“เราคิดถึงพ่อแม่ ยังไงก็ต้องกลับ” เหมือนดาวบอก“แล้วหมูน้อยไม่คิดถึงเราเหรอ?” ผมทำเสียงอ้อน เหมือนดาวหันซ้ายหันขวาแล้วตีแขนผมดังเพี้ยะ“บอกว่าอย่าเรียกแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น” เหมือนดาวกระซิบพูดเบาๆ หน้าแดงด้วยความเขินอายตอนนี้โต๊ะข้างๆ มองเรากันใหญ่ มีหัวเราะคิกคักในความอ้อน(ว่าที่)แฟนของผม แล้วมองเหม
ฉันนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของปัทม์ เล่นโทรศัพท์ในมือ ยังไม่อยากนอนหลับตอนนี้ กลัวปัทม์จะเกิดหายใจลำบากตอนกลางดึกแล้วฉันไม่รู้ตัวปัทม์กินยาแก้แพ้แล้วนอนหลับไปนานแล้ว ฉันวางมือถือลงมองใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่วางตา เดือนมหา’ลัยสุดหล่อบ้านรวย นอนห่างจากฉันแค่ไม่กี่ก้าวตอนนี้หัวใจฉันหวั่นไหวกับปัทม์จนกลัวว่าจะหลงรักเขาจนหมดหัวใจ แล้วจะเจ็บในภายหลัง‘แต่เขาดีขึ้นมาก’‘แต่แค่สามเดือน มันน้อยไป’‘แต่เขาชัดเจนเปิดตัวกับครอบครัวเลยนะ’ความคิดด้านบวกด้านลบของฉันกำลังต่อสู้กัน ถ้าใช้สมองคิด ฉันเลือกที่จะเผื่อใจไว้รักตัวเอง และระวังใจจากคนคนนี้ แต่ถ้าใช้หัวใจถาม ฉันคิดว่าตอนนี้ รักปัทม์แล้วแน่นอนปัทม์ขยับตัวไปมานอนกระสับกระส่าย ฉันเลยลุกเดินไปนั่งขอบเตียง สะกิดไหล่ปัทม์ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง“ปัทม์ หายใจไม่สะดวกเหรอ”“เปล่า เราคันหลัง” ปัทม์พูดอย่างคนที่สะลึมสะลือฉันลุกไปหยิบคารามายด์ จับปัทม์พลิกนอนคว่ำ แล้วเลิกเสื้อขึ้นทาคารามายด์ที่หลังให้ ก่อนจะดึงเสื้อลงแล้วปล่อยให้นอนคว่ำอยู่แบบนั้นสักพักฉันเดินกลับไปนอนที่โซฟา ตั้งนาฬิกาปลุกแบบตั้งสั่นอย่างเดียวให้ปลุกทุก30นาทีเพื่อตื่นขึ้นมาดูปัทม์แล้วยัดไ
ปัทม์ตั้งใจเรียนขึ้นมาก ตั้งแต่ฉันยอมเปิดใจก็ทำตัวดีเป็นคนละคน ฉันเองตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอมาเจอการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของปัทม์ ฉันก็ดีใจที่ทำให้คนคนหนึ่งอยากทำดีเพื่อฉันตลอดเวลาที่เรียนด้วยกัน ฉันได้เห็นปัทม์พัฒนาตัวเองมากขึ้น และมั่นใจเรื่องความเจ้าชู้และสาวๆ ที่ยังไม่มีให้เห็น เพราะปัทม์ประกาศชัดเจนว่ากำลังดูใจกับฉันอยู่ ถึงยังไม่ได้เป็นแฟน แต่ก็ไม่อยากให้ฉันเข้าใจผิดส่วนปัทม์เองก็คงเห็นฉันในอีกหลายๆ มุม โดยเฉพาะเวอร์ชั่นใจร้ายในเวลาที่ปัทม์ขี้เกียจอ่านหนังสือ“ปัทม์ถ้าไม่อ่าน เราจะกลับห้องแล้วนะ”“หมูน้อย เราเหนื่อยแล้ว ขอพักแป๊บนึงสิ” ปัทม์งอแง ฉันอนุญาตให้เรียกฉายานี้เฉพาะตอนไม่มีคนเท่านั้น ส่วนฉายาของปัทม์ฉันแค่แกล้งเรียกเล่นๆ ไปแค่ครั้งเดียว แต่ดูเหมือนปัทม์จะชอบมาก“อีกสองสัปดาห์ก็จะสอบแล้วนะ” ฉันเตือน“เราพอเข้าใจบ้างแล้ว นะ ขอพักก่อน” ปัทม์ขอร้องเสียงอ่อย“อืม พักก็พัก งั้นเรากลับห้องนะ” ฉันทำท่าจะลุกขึ้น“หมูน้อย อย่าพึ่งกลับสิ”“เราให้ปัทม์อ่านแค่วิชาละครึ่งชั่วโมง พักหนึ่งชั่วโมง แต่นี่เล่นแค่อ่านสิบนาที แล้วขอพัก คิดว่าจะทำข้อสอบได้ไหม” ฉันดุปัทม์“เรามั่น
ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วที่ฉันกับปัทม์ใช้เวลาเรียนร่วมกัน วันนี้วันพฤหัสบดีฉันมีเรียนบ่าย แต่ฉันต้องออกไปหาซื้อของมาทำงานกลุ่ม ปัทม์พาขับรถออกมาหาซื้อของแต่เช้าฉันมองไปข้างทางเจอนวพลที่หน้าหอพักของเขากำลังเดินขึ้นรถเก๋งคันเดิมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ลงเรียนซัมเมอร์แต่เขาทำไมไม่กลับบ้านต่างจังหวัด ปัทม์ก็เห็นนวพลเหมือนที่ฉันเห็น แล้วก็ถามขึ้นมา“ห่วงมันเหรอ?”“อืม”“พรุ่งนี้เราพามาหามันดีไหม?”“ก็ดีนะ” ฉันบอก“....”ปัทม์เงียบ รึว่าเมื่อกี๊เขาประชดเหรอ“ปัทม์ หิวรึยัง?”“....” ปัทม์ยังเงียบ“แวะซื้อน้ำเต้าหู้หน้าตลาดให้หน่อยสิ เราอยากกิน”“....” ปัทม์เงียบ แต่ก็เลี้ยวแวะจอดแล้วลงไปซื้อให้ น้ำเต้าหู้สี่ถุง ปาท่องโก๋แบบมีไส้นมอีก6ชิ้นปัทม์ขับรถต่อ ฉันเอาหลอดเจาะถุงน้ำเต้าหู้ดูดกินแล้วกัดปาท่องโก๋ไปหนึ่งชิ้นสลับกัดดูน้ำเต้าหู้ในมือจนหมด แล้วเจาะถุงที่สองยื่นใส่ปากคนที่ขับรถอยู่“อ้าปากสิ” ฉันบอกปัทม์ ปัทม์ไม่พูดแต่ก็ยอมอ้าปากคาบหลอดแล้วดูดไปอึกใหญ่ๆ ฉันป้อนปาท่องโก๋ปัทม์ ปัทม์ก็อ้าปากกัดเคี้ยวอย่างเงียบๆฉันป้อนปัทม์จนน้ำเต้าหู้ถุงแรกหมดไปและปาท่องโก๋หมดไปสองชิ้น“เงียบจัง”
ตลอดเกือบทั้งสัปดาห์ที่ฉันกลับบ้าน ปัทม์ส่งไลน์มาหาฉันตลอด บางทีฉันก็ลองแกล้งไม่ตอบไลน์ ทั้งๆ ที่ก็ยิ้มได้ทุกครั้งที่มีเสียงเตือนเด้งขึ้นมา ปัทม์ก็จะเปลี่ยนเป็นโทรมาหาแทน แต่ฉันก็ไม่ได้รับสายเพราะอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ แม่มองแล้วแซวว่าฉันมีหนุ่มๆ โทรหาแล้วไม่กล้ารับ ฉันลุกขึ้นห้องยิ้มๆโทรมาทำไม : DooDaoPat MK : หมูน้อยไม่อ่านไลน์เมื่อกี๊ไม่ว่าง : DooDaoใครหมูน้อย : DooDaoPat MK : เหมือนดาวไงล้อเราว่าอ้วนเหรอ : DooDaoPat MK : เปล่า อยากเรียกPat MK : น่ารักดีสนิทกันเหรอ : DooDaoมาตั้งฉายาให้ : DooDaoPat MK : ก็อยากเรียกอ่ะPat MK : ตั้งฉายาให้เราบ้างสิคาสโนว่าหน้าหยก : DooDaoPat MK : ไม่เอาหนุ่มเจ้าชู้ : DooDaoPat MK : เลิกเจ้าชู้แล้วแค่นี้แหละ : DooDaoPat MK : คุยกันก่อนจะเก็บของกลับ : DooDaoPat MK : งั้นบายครับฉันยิ้มไปพิมพ์ไป ตั้งแต่เริ่มเปิดใจก็รู้สึกดีกับปัทม์ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยั้งใจไว้ส่วนหนึ่ง เผื่อปัทม์จะล้มเลิกความพยายามขึ้นมากลางครัน คนเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองง่ายๆ ในแค่ไม่กี่วันคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องดูในระยะยาว*********************เปิดเทอมซัมเมอร์วันแรก ปัทม์มารอ
“พี่จะทำอะไรผม” ผมถอยออกจากอีกฝ่ายที่กำลังเดินก้าวมาหาพร้อมกับหยิบอะไรบางอย่างจากด้านหลัง“กูจะสั่งสอนให้มึงรู้ ว่าการยุ่งกับคนมีเจ้าของมึงต้องเจอกับอะไร” พี่ชายของนนท์พูดแล้วหยิบมือถือขึ้นมา ผมโล่งใจที่มันไม่ใช่อาวุธ นาฟเปิดกล้องโหมดถ่ายวีดีโอ ตั้งมือถือตั้งพิงไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือผมเคยเห็นวีดีโอซ้อมคนบ่อยๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอกับตัวเอง“พี่อย่าทำอะไรนะ นี่มันห้องผม ผมแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายและบุกรุกได้นะ”“แล้วไง” นาฟพูดพลางถอดเสื้อสูทออก พาดไว้ที่เก้าอี้ ปลดกระดุมข้อมือเตรียมพร้อม“ผมก็สู้คนนะ อย่าคิดว่าผมไม่กล้า” ผมพูดความจริง แต่ในใจแอบคิดว่าถ้าสู้กันจริงๆ จะตายรึเปล่า นาฟตัวสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรง ผมว่าอัดผมหมัดเดียวก็คงจะน็อค“ก็ดี กูชอบคนสู้ กูไม่ชอบทำคนฝ่ายเดียว” นาฟพูดแล้วแสยะยิ้มน่ากลัว เดินเข้ามาหาผม จังหวะนี้ผมตัดสินใจป้องกันตัวสวนหมัดไปก่อนทีหนึ่งผลั่ก!! หมัดผมก็หนักไม่ใช่เล่น ผมมั่นใจเพราะตอนนี้นาฟถึงกับหน้าหันไปอีกทางจากแรงต่อยของผม“มึงเริ่มก่อนนะ” นาฟหันกลับมา แล้วต่อยเข้าที่ท้องผม ผมถึงกับจุกนอนลงไปกองที่พื้น ‘แรงเยอะฉิบหาย’นาฟถอดเสื้อออก ผมมองกล้าม