“ง่วงแล้วค่ะ แม่” เธอยกหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาก่อนระบายรอยยิ้มหวานส่งไป เมื่อคิดว่านอนกอดแม่ที่จากมาทำงานในเมืองกรุง
“ยั่วเก่ง” เสือพูดเบาๆกับตัวเอง มองใบหน้าสวยที่ยกยิ้มหวานหยดย้อยให้เขา เพราะคิดว่าเขาเป็นแม่ซะงั้น
“ฝันดีนะคะ” นิราพูดจบก็หลับตาลงอีกครั้ง เธอยังอยู่ในความฝันแสนหวาน ฝันที่ว่าได้นอนในอ้อมกอดแม่ที่เธอคิดถึงสำหรับเธอจะมีอะไรดีไปกว่านี้
“ชิบหายละ!” เสือมัวแต่มองหน้าเธอ จนเผลอปล่อยเธอหลับไปอีกแล้ว นี่เขาต้องปลุกเธอยังไงดี เธอถึงจะตื่น
“เธอบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ”
เสือพลิกร่างเย้ายวนไปอีกด้านของโซฟา เกยร่างคร่อมทับตัวเธอไว้ กดจูบลงไปตามซอกคอขาวผ่อง แม้หน้าเธอจะไม่ขาวมาก แต่คอและผิวเนื้อที่อื่นกลับขาวเนียนละเอียดน่าฟัด
“อื้อ จะ เจ็บค่ะ” นิราครางเสียงแผ่วเบา เพราะเสือกัดผิวเนื้อเธอแรงๆ เธอเลยต้องลืมตาจากฝันแสนหวาน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“อ๊ะ เจ็บนะคะ อื้อ”
นิราดุร่างสูงเลือนรางที่คร่อมทับเธออยู่ เสือจึงต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอ ตอนบอกเขาว่าเจ็บ
นิรายอมรับเลยว่าตัวเองฝันดี ผู้ชายที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้โคตรหล่อ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจเต้นโครมคราม แถมยังทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั่วช่องตลอดเวลา
“เธอยั่วเอง”
เสือพูดเหมือนละเมอ ร่างกายนี้ช่างเย้ายวน มันยั่วอารมณ์เขาตั้งแต่ครั้งแรก แต่เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบบังคับใครซะด้วยสิ ไม่อย่างนั้นเขาคงจับเธอขย่มแรงให้ครางเสียงสยิวบนโซฟานี่ไปนานแล้ว
“เปล่าค่ะ อ๊า อื้อ” นิราปฎิเสธ แต่ถูกเขาฉกริมฝีปากลงมากัดริมฝีปากเธอเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว ที่เธอเอาแต่ปฎิเสธ ทั้งที่ร่างกายเธอกำลังยั่วเขาอย่างหนัก
ไม่ว่าจะใบหน้าสวยที่แดงซ่านเพราะเหล้าราคาแพง ไหนจะชุดของร้านที่มันโชว์เนื้อหนังมังสา ไหนจะอกอวบๆ ที่เขาอยากขย้ำแรงๆตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น รวมทั้งปากอวบอิ่มที่ชิมครั้งแล้วครั้งเล่านี่อีก ตอนนี้มันกำลังเผยอขึ้นน้อยๆ อย่างต้องการบางอย่างใหญ่ๆ อย่างเช่นของเขาเข้าไปกิน
ทุกอย่างบนร่างกายเธอ กำลังยั่วยวนเขาอย่างหนัก!
“ปฎิเสธในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่น่ารักเลย” พูดจบเสือก็ก้มลงจูบปากเธอทันทีอย่างต้องการ ใช่! เขาต้องการเธอเหมือนผู้ชายปกติทั่วไป ที่เห็นร่างยั่วยวนของผู้หญิงนั่นแหละ
“อื้อ” นิราโดนเขาว่าอีกแล้ว เธอจึงเบะปากใส่ เสือเห็นแบบนั้นยกมือดึงจมูกเธออย่างหมั่นเขี้ยว ยัยนี่โคตรเหมือนเด็ก อายุเท่าไหร่แล้ววะ 20-22 น่าจะไม่เกินนี้
โดยที่ไม่รู้เลยว่าปีนี้ นิราอายุ 25 ปีแล้ว
“ตื่นได้แล้วนะ จะกลับ” เสือดุอีกครั้ง แต่เธอเหมือนไม่มีสติเลยซะเลย เอาแต่ทำตัวงอแงใส่เขา เขาต้องกลับบ้าน ยิ่งนานเวลายิ่งหมดลงไปทุกที
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูเบาๆจากด้านนอก ทำให้เสือหันไปมอง คงจะปิดร้านแล้วสินะ เสือคิดในใจ แล้วเขาต้องทำยังไงกับยัยนี่ดี
เสือตัดสินใจอุ้มร่างเย้ายวนขึ้นฟาดไว้บนบ่า แอบใช้มือบีบเค้นบั้นท้ายเธอแรงๆ ก่อนจะเดินมาเปิดประตู และทันทีที่ประตูเปิดออก เสือก็เห็นว่ามีผู้หญิงสวยอย่างเจ้าของร้าน ยืนทำหน้าบึ้งตึงมองมาที่เขา
“นิรา! คุณพยัคฆ์ ไหนบอกจะไม่ทำอะไรคนของฉันไงคะ” เจ้าของร้านคนสวยแต่ท่าทางห้าวเป้ง ถลกแขนเสื้อยืดขึ้นนิดๆ เหมือนพร้อมมีเรื่องตลอดเวลา
“ผมไม่ได้ทำอะไรเธอ เธอแค่ดื่มเยอะไปหน่อย บอกที่อยู่มาพิมพา ผมจะไปส่งเธอเอง”
พยัคฆ์หรือเสือพูดเสียงดังฟังชัด ตอนนี้เพลงในผับเงียบลงไปแล้ว แต่ลูกค้าบางส่วนกำลังดื่มอยู่ ในขณะที่พนักงานบางคนเริ่มเก็บข้าวของแล้ว
“คอนโดของคุณที่อยู่ในซอย 1 ใกล้ๆ ร้านนี่แหละค่ะ ชั้นบนสุด”
พิมพาเจ้าของร้านคนสวย บอกพยัคฆ์ที่ยืนรอคำตอบนิ่งๆ เธออยากไปส่งนิราเอง แต่ลูกค้าบางส่วนยังไม่กลับ แถมโต๊ะในสุดทำท่าจะชิ่งค่าเหล้าเธอด้วย เธอไว้ใจเสือเพราะรู้จักกันมาก่อน เสือไม่นอนกับคนเมา อันนี้เธอรู้ดี
“ครับ” เสือก้าวเดิน ไม่สนใจสายตาดุดันของพิมพาสักนิด รู้ว่าเธอต้องการจะสื่ออะไร แล้วไงละ เขาไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก ไม่ชอบนอนกับคนเมา
“อย่าทำอะไรน้องสาวพิมนะคะคุณเสือ พิมขอร้อง” พิมพาพูดเสียงดัง มองแผ่นหลังกว้างของลูกค้าวีไอพีของเธอ รู้ดีว่าเขาเสน่ห์แรงแค่ไหน แต่อยากให้เว้นนิราไว้สักคน เพราะเด็กคนนี้เธอรักและหวงไม่ต่างจากน้องสาวจริงๆ
“ผมไม่ชอบนอนกับคนเมา มันไม่ได้อารมณ์”
เสือพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก้าวเดินพาร่างคนเมาไปขึ้นรถยนต์คันหรูของตัวเอง ขับมุ่งหน้าไปที่คอนโด ที่เขาเป็นเจ้าของทั้งหมดอย่างไม่ต้องเปิดแผนที่เลย
รถคันหรูขับเข้ามาจอดในคอนโดขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องแลกบัตร เพราะพนักงานรักษาความปลอดภัยรู้จักเขาดีมากกว่าใคร แม้จะไม่ได้ลงมาตรวจงานพวกอสังหาริมทรัพย์ เอง แต่เขาก็เคยมาที่นี่บ่อยๆ เพราะเด็กๆของเขาอยู่ที่นี่กันหลายคน
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขามีเด็กกี่คน เพราะเขาไม่เคยบอกใคร มันเป็นเรื่องที่ต้องบอกคนอื่นไหม ก็ไม่นี่นา
“นี่เธอ คีการ์ดอยู่ไหน” ถามคนเมาที่ร่างพาดอยู่บนบ่าเสียงเบา ดังกว่านี้ไม่ได้ ชาวบ้านได้ออกมาด่าเขาแน่
“นี่นิรา!”
เสือเรียกชื่อที่เขาเพิ่งได้ยินจากพิมพาเจ้าของร้าน นี่ยัยนิราหรือยัยนิทราวะ ทำไมหลับเป็นตายได้ขนาดนี้ ยัยนี่ภาระชัดๆ เลย นี่ถ้าไม่ติดว่าสวยแล้วตรงสเปกเขานะ จะทิ้งไว้ข้างทางแม่งเลย เสือคิดอย่างหงุดหงิด
“แม่งเอ้ย! ยัดไว้ในนมนี่นะ ที่นมใหญ่เพราะไอ้นี่หรือเปล่าวะ”
เสือที่เคยมีท่าทีนิ่งๆ พูดอย่างหงุดหงิด เมื่อคลำหาคีการ์ดตามตัวเธอแล้วไม่เจอ แต่ดันมาเจอกระเป๋าใบเล็ก ซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในแบบเกาะอกของเธอ
เสือใช้ความพยายามอย่างมากในการหยิบคีการ์ด เพราะเธออยู่ในท่าที่ห้อยหัวต่องแต่งอยู่ มือข้างนึงของเขาก็ต้องใช้มันจับเธอไว้ เพราะกลัวเธอจะร่วงลงมากองอยู่บนพื้น
“โอ้ย ยัยภาระ”
ทันทีที่เปิดประตูห้องได้ เสือก็สาวเท้ายาวๆ เดินไปทิ้งร่างนิราลงบนเตียงใหญ่ ก่อนจะยกมือบีบไหล่ตัวเองเบาๆ เพราะรู้สึกปวด บอกเลยว่าเขาเพิ่งจะเคยหิ้วผู้หญิงมาด้วยสภาพนี้
เขาไม่ชอบนอนกับคนเมา เพราะมันไม่ได้อารมณ์ และคนที่เขานอนด้วย ก็ไม่เคยเมาสักคน ยกเว้นยัยบ้านี่ละ
“อ่ะ อุก อื้อ”
นิราร้องด้วยความเจ็บ ก่อนที่จะรู้สึกจุก และรู้สึกอยากจะอ้วก เธอลุกขึ้นนั่งปิดปากตัวเองไว้แน่น รีบหอบร่างไร้สติ ผ่านหน้าเสือไปทางห้องน้ำอย่างรีบร้อน
“อ้วก” นิราเอาของที่อยู่ในท้องออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง ก่อนจะเดินโซเซมาบ้วนปากจนสะอาด ด้วยสติที่มีเพียงน้อยนิด แล้วหอบร่างเมาๆของตัวเอง กลับมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนุ่มนิ่ม
“บ้าเอ้ย”
เสือสบทลั่นกับภาพที่เห็น ไม่ได้โมโหที่เธอเมินเขาแล้วไปอ้วกอย่างน่ารังเกียจ แต่โมโหที่เธอเอาแต่ยั่วเขาด้วยร่างกายแสนเย้ายวนของตัวเอง ด้วยสภาพเมาๆนั่น
เขาไม่ชอบนอนกับคนเมาไง ต่อให้ตอนนี้จะอยากทำกับเธอมากแค่ไหน แต่พอคิดว่ามันไม่ได้อารมณ์ เขาก็หยุดความคิดทันที แม้แท่งเนื้อขนาดใหญ่จะขยายตัวแน่นขึงคับกางเกงแล้วก็ตาม
“ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อง่ายๆ เพราะเพิ่งจะโดนหลอกมา ผมถึงให้เวลาคุณเรียนรู้ผมไง” มองใบหน้าสวยใต้ร่างด้วยสายตาจริงใจ จับมือซ้ายเธอขึ้นมากดจูบกลางฝ่ามือ หยืดตัวขึ้นนั่งทั้งที่เธอยังอยู่ใต้ร่าง ล้วงหากล่องแหวนที่ได้มาจากวีรญา เปิดกล่องหยิบแหวนด้านในออกมา สวมลงไปบนนิ้วนางเรียวสวย “จองแล้วนะ ผมขอจองคุณไว้ก่อน ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ ผมจะทำให้คุณเป็นภรรยาผมอย่างถูกต้อง” “มะ หมายความว่ายังไงคะ?” “หมั้นไว้ก่อนไง คุณลงวันลาไว้นี่ แจ้งในใบลาว่าจะกลับบ้าน ผมขอไปนะ ขอให้ผู้ใหญ่ฝั่งผม ไปหมั้นหมายคุณตามประเพณี” “คุณมั่นใจเหรอคะว่าเป็นรุ้งมันดีแล้ว รุ้งไม่มีอะไรที่เหมาะกับคุณเลย” วายุภักษ์ดึงคนใต้ร่างขึ้นมาอีกครั้ง คงต้องเคลียร์กับเธออีกนาน ทั้งที่ร่างกายต้องการทำเรื่องที่เคยทำกับเธอบ่อยๆ “มั่นใจ ผมมั่นใจว่าคุณจะเป็นเมียที่ดีที่สุดของผม และเป็นแม่ที่ดีที่สุดของลูกผม แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับผมเหรอ มั่นใจหรือเปล่า ดีหรือเปล่าที่ได้เป็นคนรักของผม” “ดีสิคะ ตอนนี้รุ้งดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ” รุ่งทิวาไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ สมองเธอขาวโพลนไปหมด รู้สึกมีความสุขราวกับนอนอ
“คุณอ้วก!” “อ่า!” ใบหน้าสวยสะอาดซับสีเลือดจนแดงก่ำ เธอสร้างเรื่องให้เขาแก้อีกแล้ว ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ยืนพิงกำแพงห้องอยู่อย่างนั้น “มานี่สิรุ้ง” มือใหญ่ตบลงบนต้นขา ใช้สายตากดดัน จนรุ่งทิวาก้าวขาเดินไปหา ร่างกายเธอเหมือนจะฟังคำสั่งเขา เพียงแค่เขาออกคำสั่งและส่งสายตากดดัน ร่างกายก็ทำตามทั้งที่สมองสั่งว่าไม่ หมับ! พรึ่บ! รุ่งทิวายกมือขึ้นดันแผ่นอกไว้ เมื่อโดนคนเอาแต่ใจ รวบขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับยกมือกดแผ่นหลังเข้าหาตัว เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะหลบสายตาลงต่ำ เธอไม่กล้ามองหน้าเขา ทั้งที่หัวใจเรียกร้องให้มองเพราะคิดถึง “เงยหน้าขึ้นมา!” “ไม่ค่ะ!” “เดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” เพียงแต่เธอทำตาม ริมฝีปากกระจับสวยก็บดเข้าหาทันที ลิ้นร้อนตวัดเลียทั่วกลีบปากนุ่ม แยกมันออกจากกันช้าๆ คว้านลิ้นชิมด้านในก่อนจะครางฮึม เมื่อรสชาติและกลิ่นของเหล้ายังติดอยู่ในโพรงปาก ทั้งที่ตอนอาบน้ำ เขาแปรงฟันให้เธอไปแล้ว “เหม็นเหล้า! ไม่ชอบเลย” ที่ไม่ชอบ ม่ใช่ว่ามันเหม็นหรอก เพราะตัวเองกำลังหงุดหงิด ถ้าหากเธอไม่ดื่มจนเมามายไร้สติ ผู้ชายอย่างวชิราคงไม่มีช่องเข้าหา วันนี้ถ้าเขาไปช่วยไม่ทัน บอกได้คำ
“เอาไงดีอะจิน รุ้งโดนไอ้นั่นพาตัวไปแล้ว” วชิราเป็นผู้ชายดีแค่เปลือกนอก น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง ธารธาราเป็นเพื่อนกับผู้หญิงที่เคยถูกวชิราทำร้าย จึงไม่กล้ายื่นมือเข้าไปมาก กว่าเขาทำร้ายรุ่งทิวาให้ได้รับบาดเจ็บ “พี่ชายคุณ โทรหาพี่ชายคุณ” “โทรแล้ว พี่สายลมไม่รับ” “แจ้งตำรวจเลยไหม?” “กลัวตำรวจไม่รับแจ้งนี่สิ” “โอ้ย!” ธารธารายีผมจนฟู กดต่อสายหาพี่ชายอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รับเหมือนเดิม จึงกดเข้าไปในไลน์ เมื่อเห็นว่าพี่ชายอ่านแต่ไม่ยอมตอบ ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิด “อ่านแต่ไม่ตอบ! โอ้ย! โมโหแล้วนะ” “น้ำ จะไปไหนอะ!” “ไปจัดการเองไง ใครจะยอมปล่อยให้ว่าที่น้องสะใภ้โดนลากไปอย่างนั้นวะ!” “เห้ย! รอด้วย” จิรายุรีบตามคนรักไป ธารธาราวิ่งหายไปยังลานจอดรถ มองซ้ายขวาแต่ไม่เห็นใคร กำลังจะวิ่งไปหน้าร้าน ร่างทั้งร่างก็ถูกรวบไปกอดไว้ จิรายุจุ๊ปากเป็นเสียงปราม เมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นรนหนี จนเหนื่อยหอบ “มีคนมาจัดการแล้ว” ธารธารามองตามสายตาคนตัวสูงกว่าไป เมื่อเห็นพี่ชายยืนอยู่ด้านหน้าวชิรากับรุ่งทิวา ก็หยุดดิ้นรนหนี ยอมอยู่นิ่งๆในอ้อมกอด ซบใบหน้าอยู่อย่างนั้น จนคนถูกซบห
“สวัสดีครับคุณเลขา” จิรายุนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆ เขาเห็นเธอตั้งแต่อยู่หน้าร้าน เห็นว่าเป็นเลขาของว่าที่พี่เขยเลยเข้ามาทักทาย แอบสำรวจใบหน้าเศร้าหมองของเธอนิดๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยโดด แต่กลับมีเสน่ห์มาก จนไม่อยากละสายตา “สวัสดีค่ะ คุณจิรายุ?” “ครับ คุณชื่ออะไรน่ะ เหมือนผมจะยังไม่รู้ชื่อคุณเลย” “รุ่งทิวาค่ะ” รุ่งทิวาแนะนำตัวเสร็จ พนักงานก็ยกเหล้ามาเสริฟพอดี จิรายุหรี่ตามองขวดเหล้าสลับกับใบหน้าสวยหวาน ผู้หญิงท่าทางไม่เจนโลกอย่างเธอ ดื่มเหล้าไม่ผสมอะไรเลยเหรอ “คุณดื่มเหล้าไม่ผสมเหรอ” “มันต้องผสมเหรอคะ?” “อะห่ะ! ผมว่าดื่มแบบผสมดีกว่านะ คือว่าเหล้ามันแรงมาก” “เหรอคะ ฉันไม่รู้” “ผมขอแนะนำในฐานะเจ้าของร้านนะ คุณอย่าพูดแบบนี้ถ้าหากมาดื่มคนเดียว มันจะกลายเป็นเหยื่อให้เสือในร้านผมหมายตา” จิรายุขยิบตาให้ข้างหนึ่ง ท่าทางเจ้าเสน่ห์ของเขา ไม่มีผลต่อรุ่งทิวา เธอยังคงสีหน้าเดิม จนคนหว่านเสน่ห์รู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบ เพิ่งจะเคยโดนผู้หญิงเมิน “ค่ะ” “อ่า ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้นะ ผมจะบริการเอง” “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันอยากอยู่คนเดียว” “อ่า! โอเค! เดี๋ยวผมให้พนักงานของผม
“นั่น…ชงให้ผมก่อนนะ” “ถ้าท่านอยากได้ก่อน ดิฉันจะชงให้ก่อนค่ะ ประชุมใกล้เสร็จหรือยังค่ะ มีแขกมารอท่านอยู่ที่ห้องรับรองค่ะ” “ผู้หญิง?” “ค่ะ ผู้หญิง” “อืม อย่างนี้ต้องรีบจบการประชุมเร็วๆแล้วสิ” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟร้อนๆ ที่รองอยู่ใต้เครื่องชงกาแฟมาถือไว้ เอื้อมไปหยิบน้ำตาลมาเทใส่หนึ่งซอง จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องชงกาแฟ เลี้ยวหายเข้าไปในห้องประชุม เพื่อจบการประชุมลง “พอดีผมมีแขก ถ้าไม่มีอะไรด่วน ผมขอจบการประชุมวันนี้ก่อนนะ คุณริสา ช่วยจองร้านอาหารให้ผมหน่อยครับ” พูดจบก็ก้าวเดินไปพร้อมเลขาสาว แม้ริสาจะสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้านายกับรุ่นน้อง แต่เจ้านายบอกเองว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เธอจึงได้แต่สงสัยและไม่กล้าถาม ได้แต่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด “เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำดีไหมคะบอส?” “ดีเลย คุณจองให้ผมหน่อยนะ” “ค่ะท่าน” วายุภักษ์หยุดยืนอยู่หน้าห้องรับรอง แอบใช้หางตามองไปหน้าห้องทำงานของตัวเอง เห็นรุ่งทิวานั่งทำหน้าเรียบเฉยอยู่ตรงนั้น มุมปากก็ขยับขึ้น ถอนหายใจออกไปเบาๆ ผลักประตูเข้าไปด้านใน ปิดมันลงพร้อมกับอ้าแขนรับร่างของผู้หญิงในห้อง “คิดถึงมาก
กว่าจะกินข้าวเสร็จ ก็เป็นเวลาใกล้เลิกงานตามเวลาปกติพอดี วายุภักษ์ไม่มีคิดจะกลับเข้าไปในบริษัทอีก จึงขับรถชมวิวไปเรื่อย เมื่อขับมาถึงเขื่อนเก็บน้ำประจำจังหวัด ก็ขับรถไปจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ รุ่งทิวาลงจากรถไปก่อน ทอดสายตามองฝืนน้ำกว้างใหญ่ ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปตามการกระเพื่อมของน้ำ คิดหาคำพูดดีๆ มาใช้จบความสัมพันธ์กับเจ้านายหนุ่ม เมื่อคนตัวโตเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ก็ตัดสินใจพูดออกไปเสียงเบา “เรื่องของเรา ขอให้มันจบแค่นี้ได้ไหมคะ” “ทำไม?” เพราะสังเกตอยู่ตลอด จึงไม่แปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น แม้เธอจะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่เขารู้ดีว่าเธอมีบางอย่างแปลกไป ร่างสูงขยับไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง วางคางลงบนไหล่เล็กอย่างที่ชอบทำ โอบกอดร่างเย้ายวนไว้หลวมๆ “รุ้งจะกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักค่ะ” มันเป็นเหตุผลที่เธอคิดว่า น่าจะจบความสัมพันธ์ได้ดีที่สุด “ลืมเขาไม่ได้เหรอ” วายุภักษ์หลับตาลงแล้วลืมขึ้นใหม่ เรื่องของหัวใจเขาคงบีบบังคับเธอไม่ได้ ถ้าหากว่าเธอยังลืมผู้ชายคนนั้นไม่ได้ เขาก็พร้อมจะถอย และให้เกียรติการตัดสินใจของเธอ “…ค่ะ รุ้งลืมเขาไม่ได้” พูดจบน้ำตาก็เอ่อขึ้นมารอบดวงตา ที่เสียใจต