“อ๊ะ อื้อ” นิราเช็ดเหงื่อตามซอกคอตัวเองออกแรงๆ ก่อนจะครางแผ่วเบาอย่างไม่ชอบใจ สภาพอากาศตอนนี้ เธอร้อน เธออยากได้แอร์เย็นๆ
“อ่ะ อื้อ ร้อน” นิราบ่นกับตัวเอง เธอร้อนมาก แต่ไม่มีแรงจะเดินไปเปิดแอร์ ที่นี่ที่ไหน ขออากาศเย็นๆให้นิราหน่อย
“ฮึ่ม!” นิราย่นคิ้วลง เมื่ออากาศในห้องไม่ได้เย็นขึ้นสักนิด เธอเปิดเปลือกตามองรอบกาย โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นใครสักคน ที่ยืนมองเธออยู่ทางด้านหัวเตียงเลย
อ่า! นี่ห้องเธอเอง งั้นแก้ผ้านอนคงไม่มีใครว่าหรอกมั้ง
นิราไม่รู้ว่าตัวเองมาที่นี่ได้ยังไง แต่ในสติอันน้อยนิดบอกว่าห้องนี้คือห้องของเธอเอง เธอคงเมานั่นแหละ เจ้พิมคงลากมาส่ง แต่เจ้พิมลืมเปิดแอร์ให้ไง โคตรร้อน
“อื้อ อ่า”
นิราครางอื้ออึง เมื่อพยายามถอดชุดรัดรูปของตัวเองออกจากตัว เมื่อถอดมันไม่ได้ เธอก็กระชากมันออกแรงๆ จนผ้าบางๆมันขาด จากนั้นก็ก้มลงไปดึงถุงน่องสีดำ ที่มันทำให้คันยุบยิบนั่นทิ้ง ตอนนี้ทั้งร่างของนิรา เหลือเพียงบรากับกางเกงชั้นในลูกไม้เข้าชุด
“แม่งยั่วสัส! กูต้องทนไหม ก็ไม่นะ”
เสือที่ยืนมองการกระทำของเธอเงียบๆ พูดกับตัวเองแผ่วเบา เขาเห็นหมดเลย ตั้งแต่เธอถอดชุดตัวเองออก ไหนจะถอดไปด้วยครางไปด้วย มันยั่วอารมณ์เขาแบบสุดๆไปเลย จนเขาเริ่มปลดเสื้อเชิ้ตเนื้อดีกับกางเกงลงไปพร้อมๆกับเธอนั่นเอง
เสือเดินไปเปิดแอร์จนสุด ก่อนจะเดินกลับมาเช็ดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มไว้อย่างสวยงาม
“อื้อ ร้อน” นิราขยับหนีมือร้อนๆของเสือ ทันทีที่เขาใช้มันเช็ดหน้าให้
“เดี๋ยวก็เย็นน่า”
พูดอย่างหงุดหงิดใส่คนที่นอนอยู่ใต้ร่าง เธอเอาแต่หันหน้าไปมา จนเขาเช็ดเหงื่อให้เธอไม่ได้ ไหนจะร่างที่ดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างเขานั่นอีก เธอจะรู้ไหมว่ายิ่งดิ้นมันยิ่งยั่วยุ ให้เขาทำอะไรมากกว่านี้ จะรู้ไหมว่าตอนนี้ร่างกายส่วนล่างของเขากับเธอ มันมีเพียงแค่กางเกงในกับอากาศน้อยนิดกางกั้นเท่านั้นเอง
“อ๊ะ ร้อนค่ะ” นิราร้อนจริงๆ เพราะร่างสูงของเขาที่ทาบทับอยู่ อุณหภูมิในห้องก็เย็นช้ากว่าความต้องการของเธอมาก
“อืม เดี๋ยวจะร้อนกว่านี้อีก”
เสือก้มลงไปบดจูบริมฝีปากบางที่บ่นแค่คำว่าร้อน ไม่รู้จะร้อนอะไรนักหนา เขานี่สิที่ร้อนกว่าเธอ ร้อนมากๆ ด้วย
“อ่า” นิราครางด้วยเสียงน่าเกียจอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเขาบดจูบเร้าอารมณ์ตามความต้องการ ด้วยความช่ำชอง
“เก็บไว้ครางต่อจากนี้บ้างสิ” เสือผละออกมาพูดแป๊ปเดียว ก่อนจะก้มลงไปดูดเม้มตามซอกคอ จนมันเกิดรอยแดงหลายจุด เสือยกยิ้มอย่างพอใจกับผลงานของตัวเอง จากนั้นก็เลื่อนใบหน้าและริมฝีปากลงไปที่หน้าอกอวบของเธอต่อ
“อืม ใหญ่จริงนี่หว่า” เสือพูดเสียงกระเส่า ตอนนี้เขาเหมือนคนโรคจิตที่กำลังจะลักหลับคนเมา มากขึ้นไปทุกที แต่ยอมรับเลยว่า หลงใหลกับร่างกายเย้ายวนของเธอ มากกว่าผู้หญิงที่เคยนอนด้วย
“อ่า อื้อ อ๊ะ อ่า~”
เสือได้ยินแต่เสียงครางหวานๆ ถึงแม้จะชอบฟัง แต่ก็อยากฟังไอ้คำที่ว่า เสียวจังเลยค่ะ หรืออะไรที่มันมากกว่าเสียงอิอะจากปากเธอ
ทุกอย่างที่เธอทำมันขัดใจเขาไปซะหมด ไม่ว่าจะดวงตาที่หลับพริ้มอย่างคนเสียวซ่าน มากกว่าจะลืมขึ้นมามองหน้าเขา หรือเสียงครางที่ไม่มีชื่อเขาเลย
ยัยนี่เอาเปรียบเขา ไม่ช่วยทำ เอาแต่รักสบายนอนครางอย่างเดียว
“ซี๊ด~ อ๊าย”
เสือบีบเค้นเต้างามแรงๆ อีกข้างใช้ปากดูดดึงยอดจุกสีชมพูสะอาดสะอ้าน ส่วนมือที่ว่างจากหน้าอกเธอ ลูบไล้วนเวียนไปตามร่างนุ่มนิ่มขาวนวล ก่อนมันจะหยุดลงตรงดอกไม้อวบอูมช่องามที่มีกางเกงในปิดไว้มิดชิด
“อ๊า! / อืม แม่งแน่น”
ทันทีที่มือใหญ่ของเสือเลื่อนไปถึงดอกไม้ช่องามของเธอ เขาก็ใช้นิ้วเกี่ยวกางเกงในของเธอไปไว้ด้านข้าง จ้วงนิ้วเข้าไปในร่องรักเธอทันที อย่างไม่มีการเล้าโลมก่อน เพราะคิดว่าแค่นี้คงพอแล้ว สำหรับสาวกลางคืนแบบเธอ แต่เสือกลับตกใจกับสิ่งที่ได้สัมผัส
“แม่งรีแพร์มาซะด้วย”
เสือยกยิ้มอย่างเหยียดหยัน แน่นขนาดนี้คงไปผ่ารีแพร์มาแน่นอน แสดงว่าก่อนหน้านั้น โดนมาเยอะจนบานเบอะไปแล้วสินะ ไอ้จูบที่เหมือนไร้ประสบการณ์นั่นก็ช่างแสดงเก่ง
“อ๊ะ อ๊า อื้อ เจ็บ”
เสือโมโหมาก เพราะคิดว่าเธอผ่านมาอย่างโชกโชน แต่มาหลอกเขาด้วยจูบอ่อนประสบการณ์ เขาจ้วงนิ้วมือเข้าหาเธออย่างหยาบโลนเพราะความโกรธ เธอก็เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ที่วางแผนทั้งหมดเพื่อเข้าหาเขา
“อื้อเจ็บค่ะ เจ็บ”
นิราร้องลั่น ยกศรีษะมองไปจุดอ่อนไหวของตัวเอง ที่มันรู้สึกเจ็บเพราะมีอะไรสักอย่างโจนจ้วงเข้าไปด้วยความเร็วและแรง
“กรี๊ด ปล่อยนะคะ”
นิราหวีดร้องลั่นด้วยสติอันน้อยนิด เธอมองเห็นร่างสูงของใครสักคนกำลังลวนลามเธอ เขาเอาแต่ก้มหน้าดูดดึงยอดอก ส่วนมือก็กำลังขยับเข้าออกที่กายสาวของเธออย่างหยาบช้า
“อ่า อื้อ เจ็บค่ะ ปล่อย ฮือ” นิราร้องไห้กับสิ่งที่ตัวเองกำลังเจอ มองไม่เห็นหน้าเขาเลย ใครน่ะที่กล้ามาทำกับเธอแบบนี้ แล้วนี่ความจริงหรือว่าความฝัน
“อ๊ะ อ๊า อะ” เสือไม่สนใจนิราสักนิด ตื่นแล้วก็ดีจะได้มาช่วยกันทำ
“ครางดังๆ หน่อย” เสือออกคำสั่ง เมื่อคนที่เขาดูดนมอยู่เอาแต่ร้องครางอู้อี้ในลำคอ ทั้งยังยกมือมาดึงมือเขาออกอีก
“อื้อ” นิราทำอะไรไม่ได้เลย เธออยากขัดขืน แต่กลับรู้สึกดีเพราะนิ้วมือที่กำลังขยับเข้าออกแรงๆ ในช่องทางคับแน่นของเธอ ไหนจะหัวแม่มือที่เขี่ยไปมากับจุดอ่อนไหวของเธออีก มันรู้สึกดีจนร่างกายเธออยากปลดปล่อยบางอย่าง
“อ๊ะ อ่า อ๊า อร้าย”
นิราที่โดนเสือเล้าโล้มทั้งหน้าอกอวบอิ่ม ทั้งจุดกระสันและร่องรักพร้อมกัน กรีดร้องกับความรู้สึกแปลกใหม่ ที่เขาทำให้ข้างในตัวเธอเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง ทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยน้ำใสๆออกมา
“ไม่ได้อารมณ์เลย”
เสือพูดอย่างหงุดหงิด เขาอยากฟังคำว่า พี่เสือจะแตกแล้วค่ะ มากกว่าเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมนั่น
“จะ จะทำอะไรคะ” นิรามองมาที่ร่างแกร่ง ที่เอาแต่ก้มหน้ามองจุดซ่อนเร้นทั้งหมดของเธอ เธอรีบหนีบขาเข้าหากันทันที ด้วยความอับอาย
“ทำโทษ คนขี้ยั่ว”
เสือพูดจบก็จับร่างเธอดึงมาปลายเตียง ส่วนเขาลงไปยืนรออยู่ก่อนแล้ว หลังจากถอดกางเกงในที่เหลือของตัวเองเสร็จ ใช้มือจับแท่งเนื้อขนาดใหญ่ถูไถเบาๆ เข้ากับร่องรักของเธอ ไม่นานก็กดมันลงไปอย่างไม่ยั้งแรง
“ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อง่ายๆ เพราะเพิ่งจะโดนหลอกมา ผมถึงให้เวลาคุณเรียนรู้ผมไง” มองใบหน้าสวยใต้ร่างด้วยสายตาจริงใจ จับมือซ้ายเธอขึ้นมากดจูบกลางฝ่ามือ หยืดตัวขึ้นนั่งทั้งที่เธอยังอยู่ใต้ร่าง ล้วงหากล่องแหวนที่ได้มาจากวีรญา เปิดกล่องหยิบแหวนด้านในออกมา สวมลงไปบนนิ้วนางเรียวสวย “จองแล้วนะ ผมขอจองคุณไว้ก่อน ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ ผมจะทำให้คุณเป็นภรรยาผมอย่างถูกต้อง” “มะ หมายความว่ายังไงคะ?” “หมั้นไว้ก่อนไง คุณลงวันลาไว้นี่ แจ้งในใบลาว่าจะกลับบ้าน ผมขอไปนะ ขอให้ผู้ใหญ่ฝั่งผม ไปหมั้นหมายคุณตามประเพณี” “คุณมั่นใจเหรอคะว่าเป็นรุ้งมันดีแล้ว รุ้งไม่มีอะไรที่เหมาะกับคุณเลย” วายุภักษ์ดึงคนใต้ร่างขึ้นมาอีกครั้ง คงต้องเคลียร์กับเธออีกนาน ทั้งที่ร่างกายต้องการทำเรื่องที่เคยทำกับเธอบ่อยๆ “มั่นใจ ผมมั่นใจว่าคุณจะเป็นเมียที่ดีที่สุดของผม และเป็นแม่ที่ดีที่สุดของลูกผม แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับผมเหรอ มั่นใจหรือเปล่า ดีหรือเปล่าที่ได้เป็นคนรักของผม” “ดีสิคะ ตอนนี้รุ้งดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ” รุ่งทิวาไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ สมองเธอขาวโพลนไปหมด รู้สึกมีความสุขราวกับนอนอ
“คุณอ้วก!” “อ่า!” ใบหน้าสวยสะอาดซับสีเลือดจนแดงก่ำ เธอสร้างเรื่องให้เขาแก้อีกแล้ว ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ยืนพิงกำแพงห้องอยู่อย่างนั้น “มานี่สิรุ้ง” มือใหญ่ตบลงบนต้นขา ใช้สายตากดดัน จนรุ่งทิวาก้าวขาเดินไปหา ร่างกายเธอเหมือนจะฟังคำสั่งเขา เพียงแค่เขาออกคำสั่งและส่งสายตากดดัน ร่างกายก็ทำตามทั้งที่สมองสั่งว่าไม่ หมับ! พรึ่บ! รุ่งทิวายกมือขึ้นดันแผ่นอกไว้ เมื่อโดนคนเอาแต่ใจ รวบขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับยกมือกดแผ่นหลังเข้าหาตัว เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะหลบสายตาลงต่ำ เธอไม่กล้ามองหน้าเขา ทั้งที่หัวใจเรียกร้องให้มองเพราะคิดถึง “เงยหน้าขึ้นมา!” “ไม่ค่ะ!” “เดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” เพียงแต่เธอทำตาม ริมฝีปากกระจับสวยก็บดเข้าหาทันที ลิ้นร้อนตวัดเลียทั่วกลีบปากนุ่ม แยกมันออกจากกันช้าๆ คว้านลิ้นชิมด้านในก่อนจะครางฮึม เมื่อรสชาติและกลิ่นของเหล้ายังติดอยู่ในโพรงปาก ทั้งที่ตอนอาบน้ำ เขาแปรงฟันให้เธอไปแล้ว “เหม็นเหล้า! ไม่ชอบเลย” ที่ไม่ชอบ ม่ใช่ว่ามันเหม็นหรอก เพราะตัวเองกำลังหงุดหงิด ถ้าหากเธอไม่ดื่มจนเมามายไร้สติ ผู้ชายอย่างวชิราคงไม่มีช่องเข้าหา วันนี้ถ้าเขาไปช่วยไม่ทัน บอกได้คำ
“เอาไงดีอะจิน รุ้งโดนไอ้นั่นพาตัวไปแล้ว” วชิราเป็นผู้ชายดีแค่เปลือกนอก น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง ธารธาราเป็นเพื่อนกับผู้หญิงที่เคยถูกวชิราทำร้าย จึงไม่กล้ายื่นมือเข้าไปมาก กว่าเขาทำร้ายรุ่งทิวาให้ได้รับบาดเจ็บ “พี่ชายคุณ โทรหาพี่ชายคุณ” “โทรแล้ว พี่สายลมไม่รับ” “แจ้งตำรวจเลยไหม?” “กลัวตำรวจไม่รับแจ้งนี่สิ” “โอ้ย!” ธารธารายีผมจนฟู กดต่อสายหาพี่ชายอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รับเหมือนเดิม จึงกดเข้าไปในไลน์ เมื่อเห็นว่าพี่ชายอ่านแต่ไม่ยอมตอบ ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิด “อ่านแต่ไม่ตอบ! โอ้ย! โมโหแล้วนะ” “น้ำ จะไปไหนอะ!” “ไปจัดการเองไง ใครจะยอมปล่อยให้ว่าที่น้องสะใภ้โดนลากไปอย่างนั้นวะ!” “เห้ย! รอด้วย” จิรายุรีบตามคนรักไป ธารธาราวิ่งหายไปยังลานจอดรถ มองซ้ายขวาแต่ไม่เห็นใคร กำลังจะวิ่งไปหน้าร้าน ร่างทั้งร่างก็ถูกรวบไปกอดไว้ จิรายุจุ๊ปากเป็นเสียงปราม เมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นรนหนี จนเหนื่อยหอบ “มีคนมาจัดการแล้ว” ธารธารามองตามสายตาคนตัวสูงกว่าไป เมื่อเห็นพี่ชายยืนอยู่ด้านหน้าวชิรากับรุ่งทิวา ก็หยุดดิ้นรนหนี ยอมอยู่นิ่งๆในอ้อมกอด ซบใบหน้าอยู่อย่างนั้น จนคนถูกซบห
“สวัสดีครับคุณเลขา” จิรายุนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆ เขาเห็นเธอตั้งแต่อยู่หน้าร้าน เห็นว่าเป็นเลขาของว่าที่พี่เขยเลยเข้ามาทักทาย แอบสำรวจใบหน้าเศร้าหมองของเธอนิดๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยโดด แต่กลับมีเสน่ห์มาก จนไม่อยากละสายตา “สวัสดีค่ะ คุณจิรายุ?” “ครับ คุณชื่ออะไรน่ะ เหมือนผมจะยังไม่รู้ชื่อคุณเลย” “รุ่งทิวาค่ะ” รุ่งทิวาแนะนำตัวเสร็จ พนักงานก็ยกเหล้ามาเสริฟพอดี จิรายุหรี่ตามองขวดเหล้าสลับกับใบหน้าสวยหวาน ผู้หญิงท่าทางไม่เจนโลกอย่างเธอ ดื่มเหล้าไม่ผสมอะไรเลยเหรอ “คุณดื่มเหล้าไม่ผสมเหรอ” “มันต้องผสมเหรอคะ?” “อะห่ะ! ผมว่าดื่มแบบผสมดีกว่านะ คือว่าเหล้ามันแรงมาก” “เหรอคะ ฉันไม่รู้” “ผมขอแนะนำในฐานะเจ้าของร้านนะ คุณอย่าพูดแบบนี้ถ้าหากมาดื่มคนเดียว มันจะกลายเป็นเหยื่อให้เสือในร้านผมหมายตา” จิรายุขยิบตาให้ข้างหนึ่ง ท่าทางเจ้าเสน่ห์ของเขา ไม่มีผลต่อรุ่งทิวา เธอยังคงสีหน้าเดิม จนคนหว่านเสน่ห์รู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบ เพิ่งจะเคยโดนผู้หญิงเมิน “ค่ะ” “อ่า ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้นะ ผมจะบริการเอง” “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันอยากอยู่คนเดียว” “อ่า! โอเค! เดี๋ยวผมให้พนักงานของผม
“นั่น…ชงให้ผมก่อนนะ” “ถ้าท่านอยากได้ก่อน ดิฉันจะชงให้ก่อนค่ะ ประชุมใกล้เสร็จหรือยังค่ะ มีแขกมารอท่านอยู่ที่ห้องรับรองค่ะ” “ผู้หญิง?” “ค่ะ ผู้หญิง” “อืม อย่างนี้ต้องรีบจบการประชุมเร็วๆแล้วสิ” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟร้อนๆ ที่รองอยู่ใต้เครื่องชงกาแฟมาถือไว้ เอื้อมไปหยิบน้ำตาลมาเทใส่หนึ่งซอง จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องชงกาแฟ เลี้ยวหายเข้าไปในห้องประชุม เพื่อจบการประชุมลง “พอดีผมมีแขก ถ้าไม่มีอะไรด่วน ผมขอจบการประชุมวันนี้ก่อนนะ คุณริสา ช่วยจองร้านอาหารให้ผมหน่อยครับ” พูดจบก็ก้าวเดินไปพร้อมเลขาสาว แม้ริสาจะสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้านายกับรุ่นน้อง แต่เจ้านายบอกเองว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เธอจึงได้แต่สงสัยและไม่กล้าถาม ได้แต่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด “เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำดีไหมคะบอส?” “ดีเลย คุณจองให้ผมหน่อยนะ” “ค่ะท่าน” วายุภักษ์หยุดยืนอยู่หน้าห้องรับรอง แอบใช้หางตามองไปหน้าห้องทำงานของตัวเอง เห็นรุ่งทิวานั่งทำหน้าเรียบเฉยอยู่ตรงนั้น มุมปากก็ขยับขึ้น ถอนหายใจออกไปเบาๆ ผลักประตูเข้าไปด้านใน ปิดมันลงพร้อมกับอ้าแขนรับร่างของผู้หญิงในห้อง “คิดถึงมาก
กว่าจะกินข้าวเสร็จ ก็เป็นเวลาใกล้เลิกงานตามเวลาปกติพอดี วายุภักษ์ไม่มีคิดจะกลับเข้าไปในบริษัทอีก จึงขับรถชมวิวไปเรื่อย เมื่อขับมาถึงเขื่อนเก็บน้ำประจำจังหวัด ก็ขับรถไปจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ รุ่งทิวาลงจากรถไปก่อน ทอดสายตามองฝืนน้ำกว้างใหญ่ ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปตามการกระเพื่อมของน้ำ คิดหาคำพูดดีๆ มาใช้จบความสัมพันธ์กับเจ้านายหนุ่ม เมื่อคนตัวโตเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ก็ตัดสินใจพูดออกไปเสียงเบา “เรื่องของเรา ขอให้มันจบแค่นี้ได้ไหมคะ” “ทำไม?” เพราะสังเกตอยู่ตลอด จึงไม่แปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น แม้เธอจะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่เขารู้ดีว่าเธอมีบางอย่างแปลกไป ร่างสูงขยับไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง วางคางลงบนไหล่เล็กอย่างที่ชอบทำ โอบกอดร่างเย้ายวนไว้หลวมๆ “รุ้งจะกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักค่ะ” มันเป็นเหตุผลที่เธอคิดว่า น่าจะจบความสัมพันธ์ได้ดีที่สุด “ลืมเขาไม่ได้เหรอ” วายุภักษ์หลับตาลงแล้วลืมขึ้นใหม่ เรื่องของหัวใจเขาคงบีบบังคับเธอไม่ได้ ถ้าหากว่าเธอยังลืมผู้ชายคนนั้นไม่ได้ เขาก็พร้อมจะถอย และให้เกียรติการตัดสินใจของเธอ “…ค่ะ รุ้งลืมเขาไม่ได้” พูดจบน้ำตาก็เอ่อขึ้นมารอบดวงตา ที่เสียใจต