"งามหน้าไหม"
"พ่อต้องการสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอคะ" ที่ถูกพ่อตบเจ็บจนหน้าชา แต่เธอก็ไม่แสดงอาการให้เห็นเลย "ด้อยค่าตัวเอง มีไหมศักดิ์ศรี" พิทักษ์เป็นคนหวงหน้าตาตัวเองมาก ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาจะไม่พูดแบบนี้กับลูกสาวเลย แต่โชคดีคนที่อยู่ด้วยตอนนี้คือหลานชายซึ่งรู้กันดีอยู่แล้ว "ศักดิ์ศรีน่ะหรือคะ.. มันไม่มีตั้งแต่ถูกผู้ชายที่พ่อหามาให้ปฏิเสธคนแล้วคนเล่า พ่อไม่นึกถึงความรู้สึกของม่านเลยเหรอคะ" "ถ้าพ่อไม่นึกถึงความรู้สึกของเรา แล้วพ่อจะทำแบบนี้ไปทำไม" "ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ ถ้าพ่อนึกถึงความรู้สึกของลูกสักนิด พ่อจะไม่ทำแบบนี้ เพราะพ่อนึกถึงแต่ความรู้สึกและหน้าตาของตัวเอง!" "ไม่นะครับคุณอา" มหานครรีบเข้าไปห้าม เพราะเห็นว่าคุณอาสะบัดมือกำลังจะทำร้ายร่างกายลูกสาวอีก "แกดูน้องของแกนะ ไม่รักดี รู้ถึงไหนอายถึงนั่น" "เดี๋ยวผมจะคุยกับน้องเอง" "โธ่เว้ย! ถ้าฉันมีลูกสาวอีกสักคนสาบานได้เลยว่า.." พิทักษ์หยุดคำพูดของตัวเองไว้ได้ทัน "หึ! ดีแล้วล่ะค่ะที่ไม่มีใครเกิดมารับกรรมเหมือนม่าน" "ฟังมันพูดนะ จะไม่ให้ฉันตีสั่งสอนได้ยังไง!" "ตามพี่มาดีกว่า" มหานครจูงแขนน้องออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ของทั้งสอง ยิ่งพูดคุยกันไปก็มีแต่จะทะเลาะ วันต่อมา.. ม่านฟ้าก็ยังคงทำงานปกติ แต่จะเรียกว่าปกติก็ไม่ใช่ เพราะพิทักษ์สั่งให้คนจับตามองดูลูกสาวตลอดเวลา "ของที่ให้สั่งเข้ามาเพิ่มได้หรือยัง" "ทางร้านบอกว่าขอเวลา 2-3 วันค่ะ" "ได้ แต่ถ้านานกว่านี้สั่งจากที่อื่นได้เลย เพราะของเราต้องรีบใช้" "ค่ะ" ขณะที่คุยกับพนักงานอยู่ม่านฟ้าก็เหลือบตามองไปดู ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพ่อให้คนจับตามอง และมันก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบเอามากๆ "ไปไหนแล้ว" คลาดสายตาแป๊บเดียวคนของพิทักษ์ก็มองหาเธอไม่เห็น แกร็ก! ขึ้นมาถึงชั้นบนม่านฟ้าก็เปิดประตูพรวดพราดเข้าไปในห้องทำงานของพ่อแบบไม่ส่งสัญญาณบอกก่อน "ม่านเป็นนักโทษของพ่อตั้งแต่เมื่อไรคะ" "ออกไปก่อน" พิทักษ์สั่งให้คนที่กำลังคุยงานด้วยกันอยู่ให้ออกไปก่อน "พรุ่งนี้พ่อนัดคุยกับพ่อเลี้ยงอิทธิพล เรื่องของเรากับลูกชายคนเล็กท่าน" เพราะแบบนี้แหละพิทักษ์จึงให้คนติดตามตัวลูกสาว กลัวว่าวันนัดลูกจะเหลวไหลอีก "เอาที่พ่อสบายใจเลยค่ะ" เธอคิดว่าถึงเวลานัดค่อยเล่นงานพ่อแล้วกัน ท่านจะได้ไม่ต้องคิดหาคู่ให้กับเธออีก ม่านฟ้ากลับลงมาทำงานเหมือนเดิม เธอพยายามลืมเรื่องในห้องเก็บของคืนนั้น และหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะลืมมันไปแล้วนะ "?" แต่มันไม่เป็นแบบที่เธอคิดไว้เลย แล้วเขามาทำอะไรที่โรงแรมนี้อีก "นั่นไงคะคุณม่านลงมาแล้ว" "ขอบคุณครับ" กวินขอบคุณพนักงานที่เขาถามเมื่อสักครู่แล้วรีบเดินมาหาม่านฟ้า แต่ม่านฟ้าทำเป็นจำเขาไม่ได้กำลังจะเดินสวนไป "สวัสดีครับคุณม่านฟ้า" "......" เธอยอมหยุดแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง "ผมชื่อกวิน หวังว่าคุณคงจะจำผมได้" "ขอโทษนะคะ แต่ละวันฉันเจอคนมากมาย ฉันจำคุณไม่ได้หรอกค่ะ" "ผมไม่เชื่อ ผมอยากจะมาคุยเรื่องของเรา" "อะไรคือเรื่องของเรา ฉันยังไม่รู้จักคุณเลย" ม่านฟ้าพูดแค่นี้ก็รีบเดินจากไป ทำไมเธอถึงไม่เหมือนคนในคืนนั้น หรือว่าเธอมีสองบุคลิก เขาไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ เขาต้องรู้ความจริงให้ได้ หรือว่าเธอมีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำแบบนี้ เย็นวันต่อมาและเป็นวันที่พิทักษ์นัดคุยกับพ่อเลี้ยงอิทธิพล "พ่อเลี้ยงมาแล้ว" พิทักษ์ให้ลูกสาวมานั่งรอ เพื่อให้พ่อเลี้ยงเห็นว่าตัวเองและลูกสาวเต็มใจที่จะดองกับครอบครัวท่าน "สวัสดีครับพ่อเลี้ยง ม่านฟ้าสวัสดีพ่อเลี้ยงสิลูก" ม่านฟ้ายอมยกมือไหว้สวัสดีท่าน พอรับไหว้เสร็จพ่อเลี้ยงอิทธิพลก็นั่งลงเก้าอี้ตัวที่เตรียมไว้ให้ "แล้วด็อกเตอร์ล่ะครับพ่อเลี้ยง" "เรื่องนี้แหละที่ผมอยากมาคุยกับคุณพิทักษ์" "ได้เลยครับ เชิญพ่อเลี้ยงพูดมาได้เลยครับ" "คือว่าลูกชายผมมันไม่รักดี.." "หึหึ" ทีแรกคิดว่าจะทำให้ฝ่ายนั้นขายหน้าบ้าง แต่ไม่คิดเลยเธอจะโดนเทอีกแล้ว ถ้าคนนี้ปฏิเสธก็เป็นคนที่สามแล้วสินะ เพราะตั้งแต่พี่ชายคนโต พี่ชายคนรอง ยังมาน้องชายคนเล็กของบ้านนี้อีก "เมื่อกี้พ่อเลี้ยงว่าอะไรนะครับ" "ลูกชายผมมันไปกับผู้หญิงแล้วครับ" ตอนนี้ดอกเตอร์พันไมล์ได้พาวันศุกร์กลับต่างจังหวัดบ้านเกิดของเธอ ถ้าจะไม่พูดให้ฝ่ายนี้รับรู้ก็กลัวจะเสียเพื่อน อีกหลายวันต่อมา..มีลูกค้าติดต่อมาว่าจะจัดงานในโรงแรม ม่านฟ้าเป็นคนรับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ ตั้งแต่วันนั้นเธอเต็มที่กับงานมาโดยตลอด อยากให้พ่อเห็นว่าถึงแม้จะไม่มีสามีที่มีฐานะคอยค้ำชู เธอก็สามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ จนถึงเวลาใกล้เริ่มงาน.. งานเลี้ยงนี้มีแต่คนที่มีหน้ามีตาในจังหวัดมาร่วมงานกันทั้งนั้น หวังว่าเขาคงไม่มางานนี้ด้วยนะ ทำไมเราต้องคอยระแวงอีตาบ้านั่นด้วย เพราะบางวันม่านฟ้าก็เห็นว่าเขาคนนั้นมาทานข้าวเที่ยงที่นี่ งานการไม่ทำหรือไง โรงงานอิทธิพลค้าไม้ก็อยู่ตั้งไกลจากโรงแรม หญิงสาวช่วยพนักงานดูแลความเรียบร้อยจนแขกที่มาร่วมงานทยอยกันเข้ามา คิดไว้แล้วว่าท่านต้องมาเพราะงานใหญ่ขนาดนี้..ม่านฟ้าเห็นพ่อเลี้ยงอิทธิพลเดินมาก็รีบหลบเข้าไปในงานก่อน แต่ทำไมเธอต้องหลบด้วยนี่มันเป็นโรงแรมของเธอยังไงก็ต้องเจอกัน พอหลบเข้ามาแล้วแอบมองออกไปก็เห็นว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลยืนคุยกับคุณหมอท่านหนึ่งอยู่..เพียงไม่นานท่านก็จูงมือคุณหมอท่านนั้นเข้าไปคุยกับพ่อ หวังว่าคงไม่ใช่คนต่อไปนะ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงน่าสมเพชมาก ม่านฟ้ามองซ้ายมองขวากำลังจะรีบเดินออกจากงาน แต่จังหวะนั้นก็เห็นพ่อกวักมือเรียก ถ้าจะไม่เข้าไปก็กลัวว่ามันจะเป็นการหักหน้าพ่อเกินไป "คนนี้คือคุณหมอคีตะคนที่พ่อเลี้ยงอยากแนะนำให้ลูกรู้จัก" "สวัสดีค่ะ" "สวัสดีครับ" แต่จังหวะนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาควงแขนคุณหมอท่านนี้ไว้ เหมือนกับแสดงความเป็นเจ้าของ "พี่หมอมาแล้วหรือคะ เข้าไปในงานกันเถอะค่ะ" ผู้หญิงคนนี้ชื่อนุ่น ม่านฟ้ากรอกตามองไปดูพ่อเล็กน้อย แล้วก็หันหลังให้ "ม่านฟ้าฟังพ่อก่อนสิ" "พอเถอะค่ะพ่อ ม่านบอกความจริงพ่อก็ได้ พ่อจะได้หยุดเรื่องนี้สักที" "บอกความจริงอะไร" จังหวะที่ม่านฟ้ากำลังจะพูด สายตาเธอมองไปเห็นผู้ชายคนที่ในหลายวันผ่านมาเธอไม่อยากเห็นหน้าเขาเลย แต่ทำไมวันนี้เธอถึงดีใจที่เขามาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย "ม่านมีผัวแล้วค่ะพ่อ""ซี๊ดดด" ความใหญ่โตค่อยๆ แทรกเข้าไปในร่องเล็กช้าๆ"คุณตอบตกลงมาก่อนสิว่าจะไม่เอาเรื่องพ่อ" กำปั้นเล็กทุบลง ลำแขนของคนร่างหนาเบาๆ แบบไม่จริงจังนัก เพราะเธอก็คล้อยตามเขาไปมากแล้ว"ผมก็บอกแล้วไงว่าจะช่วยเท่าที่ช่วยได้" มือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกันให้กว้างก่อนที่จะเพิ่มความเร็ว เพื่อกระตุ้นให้เธอมีอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน "ม่าน อาาา เสียวไหม"หญิงสาวไม่ได้ตอบเป็นคำพูดแต่เธอตอบด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ถึงแม้จะเสียวแต่ก็อยากได้ยินเขาตกลงว่าจะช่วยพ่อก่อน"ซี๊ดด ยิ่งทำแบบนี้รู้ไหมว่าผมยิ่งมีอารมณ์""โรคจิต อื้ออ คุณ!" ร่างเล็กถูกยกลอยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนเธอตกใจ "คุณทำอะไร""ขออุ้มหน่อย""โอ๊ย เจ็บนะ" มือเรียวตวัดโอบรัดต้นคอแกร่งไว้แน่น เขายอมรับว่าชอบท่านี้มากเพราะมันถึงใจดี ยิ่งเธอร้องเจ็บมันก็ยิ่งทำให้เลือดในกายไหลเวียนไม่ปกติ"โอ๊ย คุณกวิน ฉันไม่ได้พูดเล่นนะฉันเจ็บจริง""ผมใกล้แล้ว""โอ๊ยโอ๊ยโอ๊ย" กระแทกเข้ามาแต่ละที เหมือนกับช่องคลอดมันจะทะลุ เพราะท่านี้เธอจะหลบเขาไม่ได้เลย"ซี๊ดดดดด ตะ ตะ แตกแล้วว" ความใหญ่โตถูกกดแช่ไว้กับคนร่างเล็กที่ยังถูกอุ้มอยู่"อึกอึกอึก" เสียงสะอื้นดังออกมาจากลำคอระหง
ถามแบบนี้จะให้ตอบยังไง เราเองก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่มันคืออะไร "ฉันไม่รู้"กวินที่โน้มตัวทับร่างของม่านฟ้าอยู่ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้น ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจคิดว่าผู้หญิงหึง"แต่.."ชายหนุ่มที่ขยับกลับมานอนที่ของตัวเองหันไปมองคนข้างๆ อีกครั้งว่าเธอจะพูดอะไร"แต่ฉันไม่อยากให้คุณใกล้ผู้หญิงคนอื่น""ผมจะไม่ใกล้" เขาคิดว่าที่เธอหวงคงเพราะเขาอยู่ในฐานะสามีของเธอ พูดแค่นั้นกวินก็หันหลังให้ พร้อมกับนอนกอดอกเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในห้องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ม่านฟ้าจะขยับผ้าห่มไปคลุมร่างให้เขาด้วย"คุณห่มเถอะ""เดี๋ยวก็ได้หนาวตายหรอก" เมืองเหนือใครก็รู้ว่าช่วงเย็นอากาศเป็นยังไงถึงแม้ไม่เปิดแอร์ก็หนาวมากอยู่ดีผ้าห่มยาวไม่พอถ้าจะนอนห่างกัน ม่านฟ้าขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนร่างของทั้งสองชิดกันทันใดนั้นกวินก็หันกลับมาแล้วดันตัวขึ้นคร่อมร่างของเธอทีแรกคิดว่าเขาจะไม่สนใจแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร จนใบหน้าคมนั้นโน้มลงมาฝังจูบที่ซอกคอโดยไม่พูดไม่จา ชายหนุ่มแค่ลองเชิงดูว่าเธอจะอนุญาตให้เขาทำมากไปกว่านี้ไหม พอเห็นว่าอีกฝ่ายนอนนิ่งเขาก็เริ่มขยับต่ำลงมา"อื้อ คุณกวิน" ขาเรียวหนีบเข้าหากันเมื
"ขอเปลี่ยนที่นั่งนิดนะ" ยังไม่ทันได้ขึ้นนั่งประจำที่คนขับกวินก็เดินวนกลับมาใหม่อีกรอบลินินที่เพิ่งจะขึ้นนั่งข้างคนขับรีบเปิดประตูลงจากรถ ที่จริงลินินก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมือหนาเอื้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังลงมา"ฉันจะนั่งตรงนี้" ทีแรกคิดว่าจะไม่สนใจกันแล้ว แต่คนมันงอนไปแล้วนี่จะให้หายง่ายๆ ได้ยังไง "อุ๊ยคุณจะทำอะไร" ม่านฟ้าตกใจแทนที่เขาจะบอกให้เธอลงอีกครั้ง แต่เขาดันอุ้ม พออุ้มม่านฟ้าวางไว้เบาะข้างคนขับได้ มือหนาก็เอื้อมไปดึงเซฟตี้เบลท์ล็อกให้กับเธอกวินค่อยๆ เลื่อนรถออกจากสถานีตำรวจ ม่านฟ้ามองเข้าไปด้านในอดเป็นห่วงพ่อไม่ได้ ท่านก็อายุเยอะแล้ว จะปล่อยให้อยู่ในห้องขังแบบนั้นได้ยังไงขับรถอยู่ร่วมชั่วโมงได้ก็มาถึงบ้านพักในโรงงาน.."ขอบคุณนะคะ" ลินินกล่าวขอบคุณก่อนที่จะลงจากรถแต่พอเพธาเห็นว่ากวินมาก็รีบออกมาหา "เข้ามาข้างในก่อนสิ"กวินหันมองไปดูม่านฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่มองอยากรู้ว่าเธอจะลงไปด้วยไหม"คุณไปเถอะฉันจะรออยู่นี่""เข้ามาข้างในก่อนสิครับ" เพธาเห็นว่าม่านฟ้าไม่ยอมลงจากรถก็ก
"คุณตำรวจมาขอพบพ่อฉันทำไมคะ" ทีแรกยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจจะเป็นพี่ชาย แต่พอลงมาเห็นตำรวจแล้วไม่มีสารวัตรมหานครพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอมาด้วยเลย"ทางเราอยากรู้ว่าตอนนี้คุณพิทักษ์อยู่ที่ไหน คุณเป็นลูกสาวพอรู้ไหม""พ่ออาจจะอยู่บ้านกับแม่ค่ะ""ไม่ได้อยู่ครับ""คุณตำรวจไปบ้านฉันมาแล้วเหรอคะ""อีกชุดหนึ่งไปที่นั่นแล้วครับ""ฉันเป็นลูกสาวอยากทราบว่าพวกคุณมาขอพบพ่อทำไม""เรื่องหุ้นครับ""คะ?"ยังไม่ทันได้อธิบายมากกว่านี้ก็มีสายโทรเข้ามาหาตำรวจท่านที่มาขอพบ"เจอแล้ว" ตำรวจคนนั้นพูดกับเพื่อนที่มาด้วยกันแล้วก็รีบเดินออกไปเลย"เดี๋ยวก่อนสิคะคุณตำรวจ" ม่านฟ้าเดินตามไปในขณะที่เดินเธอก็กดโทรหามหานครอยากรู้ว่าพี่ชายรู้เรื่องนี้ด้วยไหมแต่ทางนั้นก็ไม่ได้รับสาย หรือว่าจะเป็นฝีมือของเขา เธอนึกขึ้นได้เมื่อวานนี้ที่เขาบอกว่าวิธีของเขาเธออาจจะไม่ชอบก็ได้ ม่านฟ้ารีบโทรไปเบอร์ที่ได้มาจากคุณปู่ถ้าไม่เพราะเรื่องด่วนเธอคงไม่โทรมา ขณะที่รอปลายสายรับหัวใจเธอเต้นแรงมากกลัวว่าจะเป็นเสียงผู้หญิงคนเดิมที่รับสาย>>{"เดี๋ยวผมโทรกลับ"} พอรู้ว่าเป็นฝ่ายของเธอ กวินก็รีบรับ แต่ตอนนี้เขายังติดธุระด่วนอยู่ {"เดี๋ยวก่
"แค่ตอบมาว่าคุณได้เซ็นอะไรให้พ่อของคุณไหม""เซ็นค่ะ ทำไมคะ" ม่านฟ้าเริ่มใจไม่ดีต้องเกี่ยวกับลายเซ็นที่เธอเซ็นให้พ่อเมื่อเช้านี้แน่เลย>>{"ลายเซ็นนั้นเป็นของเธอจริง..เดี๋ยวผมติดต่อกลับไป"} พูดแค่นี้กวินก็วางสาย"พ่อทำอะไรหรือคะ" สายตาที่สำนึกผิดจ้องมองดวงตาคมคู่นั้น เธอสร้างปัญหาให้เขาใช่ไหม "ไม่เป็นไรไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวผมจัดการเอง""คุณกวินคุณจะไม่ให้ฉันคิดมากได้ยังไง คุณเล่นถามแบบนั้นแล้วก็ไม่อธิบายอะไร" ม่านฟ้ารีบเดินตามเข้ามาในห้อง"หุ้นทั้งหมดมันเป็นชื่อของคุณ""อะไรนะคะ?""เมื่อวานนี้ มันถูกโอนลอยเป็นชื่อของคุณไว้แล้ว""แล้วไงต่อคะ""ตอนนี้มันกลับไปเป็นชื่อของพ่อคุณ แล้วท่านก็กำลังเอาหุ้นไปเทรด""คะ?""ม่าน" กวินเข้าไปรับร่างของเธอที่ทรุดลงเกือบไม่ทัน "คุณเป็นอะไรไหม""ทำไมพ่อถึงทำแต่เรื่อง""ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก""พ่อเอาไปเทรดแค่ครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ใช่ไหมคะ""เปล่า""อะไรคือเปล่า""ท่านเอาหุ้นทั้งหมดไปเทรด""แต่หุ้นส่วนของพ่อเหลือแค่ครึ่งเดียวไม่ใช่เหรอคะ""เปล่าหรอกหุ้นทั้งหมดยังคงอยู่เหมือนเดิม""มันต้องเป็นของคุณครึ่งหนึ่งสิเพราะคุณเป็นผู้ร่วมหุ้น""ผมใส่เป็นชื่อคุ
ลิ้นหนาเลียผ่านร่องกลางของคนที่พยายามจะดันศีรษะเขาออก แต่ก็พอได้ชิมดู เห็นว่าเธอไม่ยอมเขาก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น"ไม่ร้อนแล้วเหรอ" อาการเมื่อสักครู่ของเธอเหมือนจะหายไปแล้ว"คุณลุกขึ้นมาเลยนะ" ทำงานมาทั้งวันใครจะกล้าให้เขาทำแบบนั้นให้ล่ะ สงสัยว่าเขาจะจับโป๊ะเธอได้ไม่รู้จะอายอันไหนก่อนดีกวินทำตามอย่างว่าง่ายค่อยๆ ดันกายลุกขึ้น พอยืนขึ้นได้คนร่างสูงก็โน้มริมฝีปากลงมาจูบซอกคอนิ้วแกร่งเขี่ยยอดเม็ดที่ดันพ้นเสื้อชั้นในออกมาเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่าย แต่เพียงไม่นานเขาก็ขยับต่ำลงไปลูบคำเนินน้องสาวที่ตอนนี้มีแค่กางเกงชั้นในตัวบางปิดอยู่แต่ก็ไม่มิด เพราะเขาขยับมันออกมาเกือบครึ่งทางแล้ว"อือ" เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การลูบคลำนิ้วร้ายกาจนั้นยังแทรกเข้ามาในร่อง ขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันให้เขาทำสิ่งนั้นได้สะดวกชายหนุ่มเริ่มจะทนไม่ไหว อีกมือเอื้อมมารูดซิปแล้วก็ล้วงเอาสิ่งที่มันแข็งดันกางเกงอยู่นั้นออกมา"มะ ไม่นะคะ" คนตัวเล็กขยับสะโพกออกก่อนที่เขาจะสอดใส่"ทำไม" ฟังจากน้ำเสียงของคนที่ถามแล้วเขาคงต้องการเธอมาก และนี่แหละมันคือสิ่งที่เธอต้องการ"ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องร่วมหุ้น" ที่จริงวันนี้เธอพยายามหาห
"ถึงแม้โรงแรมนี้จะไม่ได้เป็นชื่อของม่านฟ้า แต่อีกหน่อยก็คงเป็นของเธอทำไมต้องรีบโอนด้วยล่ะ""ถ้างั้นผมก็ไม่สะดวกใจที่จะร่วมลงทุนกับคุณ""เดี๋ยวก่อนสิกวิน.. คุณกวิน" เผลอเรียกแบบจิกหัวพอเขาหันกลับมาก็รีบใช้คำพูดใหม่"เอาไงดีล่ะครับ""ให้ผ่านวิกฤตตอนนี้ไปก่อน เราค่อยคุยกันเรื่องนั้น""ได้ครับถ้างั้นคุณผ่านวิกฤตไปแล้วค่อยมาคุยกับผม""ถ้าคุณไม่เซ็นแล้วผมจะผ่านได้ยังไง""ก็ถึงว่านี่ไงครับ เราก็ต้องวนกลับมาพูดเรื่องเดิม""ผมยังมีเรื่องต้องทำอีกยังโอนให้ลูกสาวไม่ได้" เพราะถ้าโอนให้ม่านฟ้าทุกอย่างที่คิดไว้คือจบ ม่านฟ้าคงไม่ยอมให้พ่อนำไปต่อยอดอีกแน่"ถ้างั้นก็รอให้คุณพร้อมโอน แล้วค่อยมาคุยกับผม""ไอ้นี่!" พิทักษ์กัดฟันพูดเบาๆ แต่กวินก็พออ่านปากออก"คุณยังมีเวลาคิดอีกจนถึงเย็นวันนี้ แล้วค่อยให้คนขึ้นไปตามผมบนห้องแล้วกัน""ถึงเย็นมันก็ไม่ทันน่ะสิครับ""ไหนบอกสามวัน" "ผมต้องรีบแจ้งทางธนาคารไปให้เขารับรู้ในวันนี้""มันก็คงแล้วแต่คุณแล้วล่ะ ว่าคุณจะยอมทำตามที่ผมต้องการไหม""ก็ได้ เรื่องนั้นผมจะคุยกับลูกเอง""ครับ ผมจะรอให้คุณคุยกับเธอเสร็จก่อน""นี่จะเอายังไง" "เมื่อกี้คุณขึ้นเสียงใส่ผมหรือครับ""
"โอ๊ย" นิ้วที่กำลังกดรหัสมัวแต่มองเขาก็เลยกดพลาดจนทำให้เล็บฉีก "......" จังหวะนั้นม่านฟ้าอดมองไปดูคนที่เพิ่งเดินเข้าลิฟต์ไม่ได้ ว่าเขามีความเป็นห่วงเธอไหมเพราะเสียงร้องโอ๊ยไม่ได้เบาเลย แต่พอเข้าไปในลิฟต์เขาก็กดลงชั้นล่างโดยไม่ได้หันมองมาเขาไม่เป็นห่วงเราแล้วจริงๆ เหรอ ทำกับเขาขนาดนี้มันก็ไม่แปลกหรอก คิดถึงวันนั้นวันที่พ่อใช้ไม้ฟาดท้ายทอยของเขาจนแตก แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลย แถมพ่อยังไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา มันคงถึงเวลาที่ต้องชดใช้ให้เขาแล้วจริงๆหน้าห้องอาหาร.."สวัสดีค่ะคุณกวิน คุณกวินจะมาทานอาหารเหรอคะ" พนักงานในโรงแรมนี้ถูกเรียกมาอบรมกันเกือบทุกแผนกแล้ว ว่าถ้าเห็นกวินผู้ร่วมหุ้นคนใหม่ไปแผนกไหนต้องต้อนรับให้เป็นอย่างดี "ใช่""เชิญคุณกวินทางนี้เลยค่ะ"ชายหนุ่มเดินตามพนักงานบริการในห้องอาหารมาจนถึงโต๊ะที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้"เรื่องอาหารเดี๋ยวทางเราจะจัดออกมาให้นะคะ""ไม่ถามก่อนเหรอว่าผมอยากทานอะไร""เอ่อ..คุณกวินต้องการทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ""เอาเท่าที่จัดเตรียมมานั่นแหละ""ค่ะ"เขาทานอยู่แค่ไม่กี่คำก็เรียกพนักงานมาเช็คบิล"อาหารไม่อร่อยเหรอคะ" บางอย่างเขาไม่ได้แตะเลย
แกร็ก.. ไหนบอกว่ารหัสนี้มันเดาง่ายไงทำไมเขาถึงตั้งมันล่ะ ..คงไม่ใช่แบบที่คิดหรอกมั้ง เธอคิดว่าที่เขาตั้งแบบนี้เพื่อให้เธอเปิดเข้ามาหาได้ง่ายหน่อยไหนๆ ก็เปิดประตูได้แล้ว ม่านฟ้าก็เลยเข้าไปในห้องนั้น".......กรี๊ดดด" หญิงสาวที่เปิดประตูเข้ามารีบเอามือปิดตาแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น "ทำไมคุณไม่ใส่ผ้า"ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังยืนเช็ดผมให้แห้ง มองไปทางคนตัวเล็กแต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจเหมือนเธอ"ใส่ผ้าหรือยัง" ม่านฟ้าค่อยๆ หันหลังกลับไปมองแต่พอเห็นว่าเขายังคงเช็ดผมแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวเธอก็รีบหันกลับมาทางเดิม "รีบใส่ผ้าหน่อยสิ ฉันมีธุระจะคุยด้วย""คุณเข้าห้องแขกแบบนี้ประจำเลยเหรอ""หมายความว่ายังไง""คุณก็รู้ว่าห้องนี้ผมเปิดใช้แล้ว""ฉันอยากคุยธุระกับคุณ" หญิงสาวยังคงยืนหันหลังคุยเพราะไม่กล้าหันกลับไปมอง"คุยธุระในห้องพักแขกเนี่ยนะ""คุณว่างออกไปคุยกับฉันข้างนอกไหมล่ะ""ไม่ว่าง""นี่คุณกวิน" ม่านฟ้าหันกลับไปมอง และหายใจโล่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเอาผ้าเช็ดตัวผืนนั้นพันรอบท่อนล่างไว้แล้ว "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ เรื่องร่วมหุ้นเป็นแบบที่พ่อพูดไหม""คุณไม่เชื่อว่าผมจะมีเงินมาร่วม