"ที่รักคะ"
กวินที่กำลังเดินมามองไปด้านหลังของตัวเองทันที เพราะไม่คิดว่าเธอจะเรียกเขาเลยสักนิด "ที่รักคุณทำอะไรอยู่ฉันรอนานแล้วรู้ไหมคะ" เธอกลัวว่าพ่อจะจับพิรุธได้ก็เลยรีบเดินเข้ามาควงแขนเขา "เมื่อกี้คุณเรียกผมเหรอ" "ใช่ค่ะ คุณช่วยฉันหน่อยนะ" ประโยคหลังเธอพูดออกมาให้เขาได้ยินเพียงแค่คนเดียว "จะให้ผมช่วยอะไร" "คุณแค่เล่นตามน้ำไปก่อน ตามมาสิคะ" กวินจ้องใบหน้างามนั้นแทบลืมหายใจ เมื่อเห็นรอยยิ้มหวานๆ ที่เธอส่งมาให้ ไม่รู้ว่าเขาเดินตามเธอมาจนหยุดอยู่หน้าพ่อของเธอตอนไหน "คนนี้ไงคะ ที่ม่านบอกพ่อเมื่อกี้" "พ่อไม่ยอมรับมัน" "......" ได้ยินคำพูดพ่อเธอแล้วอารมณ์เมื่อสักครู่กระเจิดกระเจิงไปไหนไม่รู้ "จะไม่ยอมรับได้ยังไงคะ เขาก็คือลูกเขยของพ่อไง" "หือ?" เขาฟังไม่ผิดใช่ไหม.. "อย่าให้พ่อได้ยินเรื่องแบบนี้อีก" แม้แต่หน้าของคนที่ลูกสาวพามาแนะนำพิทักษ์ก็ยังไม่มองเลย ม่านฟ้ามองตามหลังพ่อที่เดินเข้าไปในงาน แล้วเธอก็ค่อยๆ ปล่อยมือที่ควงแขนเขาอยู่ออก "มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหม" "มีค่ะ" พ่อคงคิดว่าที่เธอทำไปเพื่อประชดท่าน..แต่ท่านคิดผิดแล้ว เพราะครั้งนี้เธอเอาจริง "ตามฉันมา" ในห้องเก็บของห้องเดิม.. "ห๊า? เมื่อกี้ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม" "ไม่ผิดหรอกค่ะ พรุ่งนี้คุณว่างไหม เราจะไปเจอกันที่อำเภอ" "เดี๋ยวก่อนนะครับ ทำไมผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ" กวินพร้อมที่จะรับผิดชอบเธออยู่แล้ว ถ้าเธออยากให้จัดงานแต่งเขาก็พร้อม แม้แต่จดทะเบียนสมรสเรื่องที่เธอขอไปเมื่อสักครู่เขาก็พร้อมอยู่แล้ว แต่ทำไมมันเหมือนมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ "ใช่ค่ะ คุณคิดไม่ผิดหรอก การจดทะเบียนสมรสของเรา ทำเพื่อตบตาพ่อฉัน ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะทำแบบนี้คุณจะไม่ช่วยก็ได้นะคะ" "ผมจะช่วย" เขาไม่รู้หรอกว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างถึงตัดสินใจทำแบบนี้ แต่เขาต้องรู้ให้ได้ "ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันค่ะ" "เดี๋ยวก่อนสิ คุณจะออกไปแล้วเหรอ" "แล้วจะให้ฉันอยู่ทำไมอีก" เธอมองไปรอบๆ ห้อง เหมือนว่าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับห้องนี้เลย ผิดกับอีกคนที่รู้สึกดีมากเมื่อได้อยู่ในห้องนี้ พอออกมาม่านฟ้าก็ต้องไปดูความเรียบร้อยของงานเลี้ยงต่อ กวินก็เข้ามาในงานเลี้ยงนี้เช่นกัน ระหว่างที่นั่งคุยกับเพื่อนเขาก็มองไปดูเธอทุกระยะ เธอทำงานคล่องแคล่วมาก และความสวยของเธอก็ทำให้หนุ่มๆ หลายคนมองเช่นกัน "สวัสดีครับคุณม่านฟ้า เจ้าของโรงแรมจำเป็นต้องสวยขนาดนี้เลยหรือครับ" ม่านฟ้าทำแค่ส่งยิ้มให้กับคนที่เข้ามาทักทาย เธอยังไม่รู้เลยว่า จริงๆ แล้วเธอชอบเพศไหน เพราะเวลาเห็นผู้ชายเธอไม่มีความรู้สึกใจเต้นแรงด้วยเลยสักคน "วันหลังผมขอนัดทานข้าวกับคุณได้ไหมครับ" "ขอโทษนะคะฉันกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เชิญคุณลูกค้าดื่มกินได้ตามสบายค่ะ" หญิงสาวถอยหลังออกมาแล้วก็ไปทำจุดอื่น อึบ! เพล้ง!! อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาชนจนแก้วเหล้าในมือของผู้ชายคนที่ชวนม่านฟ้าคุยเมื่อสักครู่ตกลงไปแตก คนในงานหลายคนต่างก็หันมองมาดู "เมาหรือเปล่าเนี่ย อยู่ดีๆ ก็เดินมาชน" "ขอโทษครับ ผมว่าคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยดีไหมครับ" ผู้ชายคนนั้นหันมองตามม่านฟ้าเพราะเมื่อสักครู่กำลังจะเดินตามไป แต่ถ้าไปในสภาพนี้ก็ไม่ไหว "ก็เป็นเสียแบบนี้ ใครจะรับเป็นลูกเขยได้ลงคอ" "เมื่อกี้คุณพิทักษ์ว่าอะไรนะ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลได้ยินพิทักษ์พูดพึมพำ ตอนที่มองไปตามเสียงแก้วแตก "เปล่าหรอกครับ เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนแล้วนะครับ" "ก็คุยเรื่องหนูม่านฟ้านั่นแหละ ผมเสียใจมากเลยที่ลูกชายผมไม่เอาไหนสักคน" "แล้วพ่อเลี้ยงยังพอมีลูกชายหลงเหลืออยู่ไหมครับ" "ใจเย็นก่อนคุณพิทักษ์แค่นี้ผมก็จะไม่ไหวแล้ว" เพราะตอนเปิดตัวลูกชายคนเล็กที่เรียนจบด็อกเตอร์มาจากต่างประเทศ ก็ทำให้บ้านแทบแตก เช้าวันต่อมา..ที่โรงงานอิทธิพลค้าไม้ "ช่วงบ่ายนี้มีประชุม ผมอยากให้คุณกวิน.." "ช่วงบ่ายผมอาจจะเข้าประชุมด้วยไม่ได้ครับ" "อย่าบอกนะว่าคุณจะไปทานข้าวที่โรงแรมอีกแล้ว" เพธาก็คือบุตรชายคนกลางของพ่อเลี้ยงอิทธิพล เขาคือคนหนึ่งที่พ่อเลี้ยงอิทธิพลให้ดูตัวกับม่านฟ้า และตอนนี้เขาก็ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานชั่วคราว เพราะน้องชายที่อยู่ในตำแหน่งรองประธานตอนนี้พาแฟนไปต่างจังหวัด ส่วนพี่ชายก็กำลังยุ่งอยู่กับครอบครัว "วันนี้ยังไงก็ไม่ได้ครับผมมีธุระสำคัญจริงๆ เคลียร์งานกองนี้เสร็จผมก็จะไปแล้ว" "คุณกวินครับคุณช่วยงานผมก่อนไม่ได้เหรอ" "ไม่ได้ครับ" จะบอกไปดีไหมเนี่ยว่าเขามีนัดจดทะเบียนสมรส แต่ไม่ดีกว่าเดี๋ยวก็ถามว่าจดทะเบียนสมรสกับใครอีก คิดถึงใบหน้าสวยๆ นั้นแล้วมันก็ทำให้เขามีแรงเร่งงานกองนี้ให้เสร็จไวๆ จนเวลาผ่านไปกวินที่เร่งงานจนเสร็จแล้วกำลังจะออกจากโรงงาน ก็เจอเข้ากับเพธาท่านรองประธานอีกครั้ง "คุณกวินครับ" "ไม่ได้ครับ" "เย็นนี้ผมสั่งอาหารมาเผื่อคุณเลย" "เย็นนี้ผมอาจจะไม่กลับมาค้างที่บ้าน" ทั้งสองพักบ้านในโรงงานหลังเดียวกัน บ้านหลังนั้นสร้างไว้ให้กับคนที่มีตำแหน่ง ส่วนพนักงานก็มีห้องแถวให้พักอีกไม่ไกลกัน "ช่วงนี้คุณชักจะเหลวไหลนะ บ้านช่องก็ไม่อยากกลับ ข้าวที่บ้านคงกินไม่อร่อยแล้วล่ะสิ" "ใช่ครับผมไปก่อนนะ" "อ้าวไม่คิดจะง้อเราเลยเหรอ.." [อำเภอ] "สวัสดีครับ" กวินรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่ารถของเธอจอดสนิทแล้ว "คุณมารอนานแล้วเหรอ" "ก่อนคุณไม่นานครับ" ที่จริงเขากลัวมาก กลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจไม่มาตามนัดแล้ว "คนนี้เหรอม่าน" ผู้หญิงอีกคนที่ติดรถมากับม่านฟ้าถามเพื่อน "ใช่คนนี้แหละ" "หล่อจังเลย" "พูดอะไรของเธอ" "เราว่าเธอแต่งจริงไปเถอะถ้าจะหล่อขนาดนี้" ม่านฟ้าจำเป็นต้องมีพยานมาเซ็นร่วมด้วย เธอก็เลยเลือกคนที่ไว้ใจได้นั่นคือวันวิสา "คุณไม่มีเพื่อนมาด้วยเลยเหรอ" ม่านฟ้ารู้จักคนไม่เยอะ เพราะการจดทะเบียนสมรสต้องใช้พยานถึงสองคน ถ้าจะเอาพนักงานในโรงแรมมาด้วยกลัวว่าเรื่องจะแดงก่อน "ไม่เป็นไรหรอกครับเข้าไปหาในนี้แหละ" "คุณพูดง่ายเกินไปไหมนี่มันอำเภอนะ" "ตามผมเข้ามาเถอะน่า" ม่านฟ้าและวันวิสาเดินตามหลังกวินเข้าไปด้านใน "อ้าวคุณกวินมาหาคุณพ่อเหรอครับ" ด่านแรกเลยคือคนที่นั่งรอรับเรื่องอยู่ด้านหน้า "........" ม่านฟ้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงถามเขาแบบนั้น "เปล่าหรอกครับว่าแต่วันนี้นายทะเบียนคือใครครับ" "ท่านปลัดครับ"ยั่วรักสามีนิตินัย กวิน♡ม่านฟ้า ตอนพิเศษ"จริงเหรอคะ""ใช่.. เดือนกว่าแล้ว""ได้รับข่าวดีทำไมคุณถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ" ข่าวดีที่กวินได้รับคือภรรยาของเจ้าพิภพกำลังตั้งครรภ์อีกคน"เมื่อไรคุณจะใจอ่อนสักที""คุณก็รู้ว่าฉันอยากโฟกัสที่โรงแรมก่อน""ผมก็ช่วยงานคุณอยู่นี่ไง""เรากำลังมีโครงการจะขยายโรงแรม ฉันขอเวลาก่อนได้ไหมคะ""เห็นทีว่าเจ้าขาคงจะแซงผมไปอีกคน""อะไรกันคะ คุณอย่าบอกนะว่างอแงอยากมีลูก"ก๊อก ก๊อก"ใครคะ""ทับทิมเองค่ะ""ผู้จัดการมีอะไรคะ""ถ้างั้นผมออกไปก่อนนะ คุณคุยงานต่อเถอะ""ตอนเที่ยงทานข้าวด้วยกันนะคะ""ครับ" กวินปล่อยให้ม่านฟ้าคุยกับผู้จัดการไป แล้วเขาก็ลงมาดูงานที่ตัวเองรับผิดชอบ"ว่าไงครับเจ้าของโรงแรม""คุณเพธา..""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณกวิน""นัดลูกค้าคุยงานเหรอครับ""ไม่ได้นัดลูกค้าหรอกครับอยากมาคุยกับคุณม่านฟ้า""มีอะไรจะคุยกับเมียผมครับ""ทำไมเสียงเปลี่ยนไปล่ะครับ" พอได้ยินว่าจะคุยกับม่านฟ้าเท่านั้นแหละ น้ำเสียงกวินก็ดูแข็งกระด้างขึ้นมาทันที"คุยกับผมก็ได้นะ""ผมจะมาคุยเรื่องจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศ รวมถึงอยากจะจองห้องไว้ด้วย""ผมจัดการให้คุณได้"
"หนูจะออกไปไหนเหรอลูก" ลงมาข้างล่างก็เจอแม่..ส่วนคนอื่นคงแยกย้ายกันกลับห้องไปแล้ว"ออกไปข้างนอกค่ะ""ดึกป่านนี้จะออกไปไหนมันอันตราย" คนเป็นแม่ยังเสียขวัญเรื่องที่ลูกเกิดอุบัติเหตุไม่หายเลย"เจ้าขาเอ่อ..เจ้าขา..""จะไปไหน..""เจ้าขาหิวค่ะ""ถ้าหิวก็นั่งรอ เดี๋ยวแม่จะให้ป้าอุ่นอาหารให้"เจ้าขาหันกลับไปมองสามีที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพราะสงสัยวันนี้คงไม่ได้ออกไปแล้วชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบผมเธอเบาๆ เพื่อปลอบ "พรุ่งนี้เดี๋ยวผมซื้อเตรียมไว้" เขากระซิบพูดก่อนที่เจ้าขาจะพยักหน้าตอบแล้วเดินไปนั่งรอทานข้าวเช้าวันต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขาอาจารย์มา" เพื่อนสะกิดบอกเจ้าขาที่ซื้อของจากร้านสะดวกซื้อเมื่อเช้านี้มาแอบทานในห้องเรียน พอได้ยินว่าอาจารย์มาเธอก็รีบเก็บอาจารย์ไตรสูรแอบมองไปเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงก๊อบแก๊บตอนที่เธอเก็บขนม"อาจารย์ครับมีคนแอบทานของในห้องเรียน""หยุดเลยนะไอ้กะลา!""กะลาไหนนั่นหนุ่ม" นกยูงหันมาบอกว่าเพื่อนเรียกผิดแล้ว"อาจารย์ต้องลงโทษอย่างหนักนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง""ใช่ค่ะ//ใช่ครับต้องลงโทษ" นักศึกษาหลายคนต่างก็ใช้สิทธิ์ใช้เสียงช่วยกัน"ได้เดี๋ยวลง
"เรื่องนี้เจ้าขาเป็นคนเริ่มก่อนค่ะ""เจ้าขา!" พริ้มพราวตำหนิลูกสาวไม่ให้พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น"ก็มันจริงนี่คะ เขาไม่ได้บังคับ..เจ้าขาเต็มใจเอง""หึหึ" จากที่กำลังตึงเครียดอยู่พอเจ้าสมุทรขำน้องสาวเท่านั้นแหละทุกคนก็หันมาที่เขา "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทั้งสองก็รักกัน เรื่องที่คุณตาเป็นกังวลเราค่อยหารือกันอีกทีดีกว่าไหมครับ""ยังไงคืนนี้เราต้องกลับกับตาก่อน""ไม่ค่ะ""ตาไม่แยกเราสองคนหรอกน่า""จริงนะคะ""จริง""ผมต้องขอโทษเรื่องทุกอย่างที่เด็กทำไปโดยไม่ไตร่ตรองด้วยนะครับ" พ่อของไตรสูรเป็นห่วงความรู้สึกท่านเจ้าสัวมาก กลัวว่าท่านจะเห็นแก่หลานสาวถึงไม่เอาเรื่องลูกชายเจ้าสัวพิศาลรับคำขอโทษก่อนที่จะพาลูกหลานออกมา รวมถึงหลานเขยก็ตามออกมาด้วย[บ้านอัครพิศาล]นายทะเบียนแยกตัวกลับตั้งแต่ตอนอยู่บ้านท่านอธิการบดีแล้ว และก่อนกลับมาที่บ้านเจ้าสัวพิศาลได้พาหลานแวะหาคุณหมอก่อน เพราะอยากให้หมอแนะนำเด็กๆ เรื่องคุมกำเนิด ถึงแม้ท่านอยากจะอุ้มเหลนมากแต่ยังไงอนาคตของหลานสาวก็ต้องมาก่อน"เจ้าขาขอบคุณคุณตามากนะคะ" ลงจากรถเจ้าขาก็เข้าไปกอดคุณตาไว้แน่น"ไม่ว่าให้ตาอีกแล้วเหรอ""ใครจะกล้าว่าให้คุณตาล่ะคะ""ก็เรานี่ไง"
"คุณตา?" เห็นแค่รถที่วิ่งเข้ามาเจ้าขาก็รู้แล้วว่าเป็นรถของคุณตา..ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงหลังเลิกเรียน ตอนที่เจ้าขาตัดสินใจว่าจะไปกับเขา ไตรสูรก็พาเธอมาบ้านหลังหนึ่ง และก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าสัวพิศาลนั่งรอหลานสาวกลับบ้านเพื่อจะไปเซ็นใบหย่า"บ้านใครคะ?" เจ้าขาเห็นเขาขับรถเลี้ยวเข้ามา ที่เธอถามเพราะมันไม่ใช่บ้านหลังเล็กๆ เลย ถ้ามีบ้านหลังขนาดนี้อยู่ในเมืองหลวง นั่นหมายถึงฐานะไม่ธรรมดาแล้ว"ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะพากลับมาอยู่บ้านด้วยกัน""บ้านของคุณเหรอคะ?""ตามมาสิครับ" ชายหนุ่มเดินอ้อมไปเปิดประตูให้เธอลงจากรถ แล้วก็พาเข้ามาในบ้าน"........." เจ้าขามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกที ทำไมหน้าท่านถึงดูคุ้นๆ "...ใช่ท่านอธิการบดีไหมคะ?" ถึงแม้เธอจะไม่เคยเจอท่าน แต่ก็เห็นรูปของท่านที่แปะอยู่บอร์ดของมหาวิทยาลัย"ใช่ พ่อผมเอง""พะ..พ่อของอาจารย์เหรอคะ?""พ่อให้คนเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะ""สะ.. สวัสดีค่ะ" หญิงสาวพนมมือไหว้ท่าน เธอยังไม่ค่อยเชื่อสายตาเลย ..แล้วทำไมเขาถึงพูดเหมือนตัวเองต้อยต่ำนัก เขาเป็นถึงลูกชายของอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่เลยนะ"พาน้องเอาของไปเก็บบนห้องก่อนไป แล้วค่อยลงมาทานข้า
"ขอบใจเรามากนะไตรสูรที่ช่วยเรื่องนี้""...ครับ" ชายหนุ่มตอบรับคำของท่านแบบใจไม่ดี"เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้ว ต่อไปนี้คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นกับเจ้าขาอีก""คุณตาหมายความว่ายังไงคะ""ตาอยากให้เราโฟกัสที่การเรียนมากกว่า อย่างน้อยก็ควรจะได้ใบปริญญา" อนาคตข้างหน้าพิศาลไม่รู้ว่าหลานสาวจะไปพบเจออะไรบ้าง แต่ตอนที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ อยากทำให้หลานมีรากฐานที่ดี ยิ่งกับครอบครัวที่ทำธุรกิจแล้วการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก"เจ้าขาจะตั้งใจเรียนค่ะ""ดีแล้วล่ะ ส่วนเรื่องของเราทั้งสอง.."ในเวลาต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขา.." เพื่อนในห้องเห็นว่าเจ้าขามาเรียนได้แล้วต่างก็ดีใจเจ้าขาส่งยิ้มให้เพื่อนแบบเศร้าๆ จนมินนี่รู้สึกได้"มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"เธอส่ายหน้าตอบเพื่อน เรื่องนี้คงพูดกับใครไม่ได้"หน้าเธอสวยกว่าเดิมนะ" คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมาคุยด้วยเจ้าขายกมือขึ้นมาแตะดูใบหน้าตัวเองเล็กน้อย เพราะส่วนหนึ่งที่อยู่บนใบหน้าของเธอ มันได้มาจากร่างกายของเขา"เจ้าขาเธอร้องไห้เหรอ?" มินนี่เห็นน้ำตาเจ้าขาหยดลงมา ตอนที่นกยูงชมว่าสวยขึ้น จนเพื่อนหันไปมองหน้านกยูง"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เมื่อกี้พวกเธอก็เห็นว่าฉันชม
เย็นวันนั้น.."ทานข้าวหน่อยนะครับ""แม่ไปไหน""มีผัวแล้วนะเรา ยังจะเรียกหาแม่อยู่อีก""ฉันทานเองได้ค่ะ""อ้าปาก""นี่คุณไตรสูร""ได้..จะเอาแบบนี้ใช่ไหม" ชายหนุ่มตักข้าวใส่ปากตามด้วยอาหารแล้วเคี้ยว"คุณจะทำอะไร?""อืม..อืม.." เขากำลังเคี้ยวอยู่ก็เลยพูดไม่ได้"คุณ!!" หญิงสาวรีบหันหน้าหลบเพราะอีกฝ่ายขยับริมฝีปากเข้ามาใกล้ และตอนนี้รู้แล้วว่าเขาทำอะไร "อืมมม! ฉันทานเองได้" จะขยับแรงก็ไม่ได้เพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงได้ยินเธอบอกว่าจะทานเองไอ้ที่เขาเคี้ยวอยู่เมื่อสักครู่ก็ถูกกลืนลงไปในคอ"พูดง่ายๆ แบบนี้หน่อย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรง" ช่วงนี้เธอทานอาหารได้หลายอย่างแล้ว แต่ยังทานรสชาติจัดๆ ไม่ได้หลังทานข้าวเสร็จไตรสูรก็เอายามาให้เธอทานตาม"ลืมไปเลย" เห็นยาที่เขาส่งมาให้เธอถึงนึกได้"ลืมอะไร""ฉันเพิ่งทานยาคุมไปได้แค่ไม่กี่เม็ดเอง""เรื่องนั้นช่างมันเถอะ" พอเธอได้รับอุบัติเหตุยาที่เหลือก็เลยไม่ได้ทานต่อ"จะช่างมันได้ยังไง""เดี๋ยววันหลังไปตามนัดคุณหมอค่อยคุยกับคุณหมอเรื่องนี้" เขาก็ลืมเหมือนกัน มัวเป็นห่วงเธอก็เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนั้นด้านนอกในเวลาต่อมา.."เดี๋ยวแม่ให้คนเข้าไปยกออกมา วันหล