หญิงสาวยกมืออีกข้างตะครุบสาบเสื้อเอาใว้ กลับถูกคนตัวใหญ่เอ็ดให้ด้วยสายตา เขาจับมือเธอออกก่อนจัดการกับกระดุมเม็ดสุดท้าย...“สวย..สวยเหมือนวันนั้น”หน้าอกอวบเนียน...สวยลานตาไปหมด ปลายยอดสีชมพูเล็กดังเม็ดทับทิม อวดสายตาชายหนุ่มอยู่ตรงหน้า ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องกลืนน้ำลายลงคอ สะกดความพุ่งพล่านที่กำลังก่อตัวขึ้น มือที่กำลังจับผ้าชุบน้ำเริ่มสั่นไอโกะรู้สึกอายจนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ด้วยไม่มีแรงจะต่อต้านเขาไว้ได้ อีกทั้งสายตาวาวหวานที่กำลังจ้องมองหน้าอกของเธอเหมือนจะจดจำให้ขึ้นใจ ทั้ง ๆ ที่เอ่ยกับเธอเองว่า เห็นหมดทุกซอกทุกมุม...เหมือนกับว่าถ้าเห็นอีกครั้งคงไม่คิดอะไรหญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่า ไม่ใช่ผ้าชุบน้ำที่กำลังลูบเช็ดหน้าอกให้ แต่มันกลับกลายเป็นนิ้วมือเรียวแข็งนั่นต่างหาก ที่กำลังลูบไล้บีบเคล้น จนทำให้ยอดอกของเธอแข็งเป็นไตสู้มือหนา“ไหนคุณบอกว่าจะไม่ฉวยโอกาสกับคนป่วย” หญิงสาวพยายามเอ่ยเตือนชายหนุ่มเสียงแผ่ว“นิดหนึ่งคงไม่เป็นไร ขอแค่ชื่นใจก็พอ”เรียวปากหนาก้มลงมาหาปลายยอดอก ครอบครองมันด้วยริมฝีปากและปลายลิ้นร้อน พอ ๆ กับอุณภูมิในร่างกายของหญิงสาวเวลานี้ระอุจา
“โกโร่ นายเตรียมรถกับบอดี้การ์ดไว้ให้ฉันหรือยัง”ไอโกะตะโกนถาม ขณะวิ่งลงมาจากบันไดชั้นบน“เรียบร้อยแล้วครับ”“ตอนนี้นายใหญ่อยู่ไหน”“ในห้องทำงานครับ”เท้าที่กำลังจะก้าวไปห้องทำงานของบิดาถึงกับชะงัก...หมุนตัวหันมาถามโกโร่อีกทีเพื่อความแน่ใจ“อยู่กับใคร”“ลูกพี่ยูตะครับคุณไอโกะ”เมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่มหญิงสาวจึงเปลี่ยนใจ ถ้าเธอเข้าไปบอกพ่อ เขาจะต้องรู้แน่ว่าเธอกำลังจะไปไหนหลายวันมานี้ ชายหนุ่มเข้ามาดูแลหญิงสาวในเวลาช่วงเช้า และ ก่อนนอน ขโมยหอมแก้มเธอตลอดเวลาถ้ามีโอกาส ไม่เว้นแม้แต่ยามหลับ เธอเงื้อมือจะตบเขาทีไร ถูกจับไว้ได้ทุกที หรือฝีมือของเธอห่วย ไม่เอาไหนเหมือนที่ชายหนุ่มว่าไว้จริงๆมาคราวนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ญี่ปุ่นนานแค่ไหน เธอไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจตามเขาไป เพราะวันหนึ่ง เขาอาจทิ้งเธอเหมือนที่เคยทำมาแล้ว หญิงสาวได้แต่คอยเตือนตัวเองเสมอว่า...เจ็บแล้วต้องจำ “ไปกันเลยโกโร่ เดี๋ยวฉันค่อยโทรบอกพ่อ”“กำลังจะไปไหนกันโกโร่”เมื่อได้ยินเสียงของยูตะทักมาจากด้านหลัง หญิงสาวหันไปทำตาขวางใส่...ออกอาการเซ็งสุดขีด“ไปสวนดอกไม้ครับลูกพี่” โกโร่ตอบชายหนุ่มออกไปทันที“โกโร่!นายบอกเขาทำไม!”“เอ
คำบอกเล่าของฮินาตะไม่ได้ทำให้แค่ไอโกะตกใจเท่านั้น แต่ทำให้คนตรงข้าม ขยับ… รู้สึกใจเสีย แต่ยังคงนิ่งเฉย เก็บความรู้สึกเอาไว้ภายใน“หนูไม่แต่ง!”ไอโกะตอบออกไปทันทีที่ได้ยิน“การแต่งงานของหนูกับฮิโรชิจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ไอ้พวกที่จ้องจะทำร้ายเรา จะต้องถอยไปถ้าเรารวมกลุ่มสำเร็จ” ฮินาตะพยายามอธิบาย เหมือนเมื่อห้าปีที่แล้วไม่มีผิด“หนูไม่ชอบผู้ชายแบบนั้น ยังไงหนูก็ไม่แต่ง ถ้าพ่อบังคับหนูจะหนี”“ไอโกะ” ฮินาตะเรียกบุตรสาวอย่างอ่อนใจ“หนูดูแลแก๊งแทนพ่อได้โดยไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องการใครหน้าไหนมาช่วย และหนูจะทำให้อาณาจักรของพ่อกลายเป็นสีขาวไม่ใช่สีเทาแบบทุกวันนี้ ทุกอย่างที่ผิดกฎหมายหนูจะเลิก ล้างมือให้หมด”“มันทำยากนะลูก คนของเราหลายพันคน ที่เห็นด้วยก็มี ไม่เห็นด้วยก็เยอะ” ฮินาตะถอนหายใจยาวยืด“เอาชีวิตหนูเป็นเดิมพัน”หญิงสาวลุกขึ้นตอบผู้ให้กำเนิด อย่างมั่นอกมั่นใจ ดวงตาเด็ดเดี่ยวอย่างที่ฮินาตะไม่เคยเห็น....ก่อนเดินออกไป...ทิ้งให้ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังบอบบางไปอย่างห่วงใย หญิงสาวโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆหลังจากนั้น ฮินาตะ พาไอโกะเข้าร่วมประชุมแก๊ง เพื่อแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ว่าเธอคือ ว่าที่หัวหน้า
บรรยากาศรอบ ๆ เริ่มดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อหญิงสาวยอมให้ชายหนุ่มจูงมือ มานั่งบนโซฟาตัวนุ่ม และฟังเขาอธิบาย“เธอต้องเรียนรู้เกี่ยวกับงานของพ่อเธอ ทุกสาขาที่อยู่ประเทศต่างๆ และฝึกซ้อมการต่อสู้ให้แข็งแกร่ง และชำนาญกว่านี้”“คุณจะบอกว่าคุณจะสอนฉัน..ว่างั้น!”“ใช่..”“จะอยู่สอนฉัน สักกี่วันดีคะ หรือครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบครั้งก่อน” เธอค้อน ไม่วายเหน็บกลับ“ตลอดชีวิต ถ้าเธอยังต้องการ”หญิงสาวมองประสานสายตา สีหน้าไม่อยากเชื่อ“รู้ว่าไม่เชื่อ...แต่ให้เวลาพิสูจน์ฉันดีไหม” เขาอ่านสีหน้าและดวงตาของหญิงสาวออก และรู้ว่าเธอคิดอะไรไอโกะนั่งเงียบ หลุบตาต่ำลงมองอกกว้างของชายหนุ่มอย่างชั่งใจ รู้สึกกลัวความผูกพันระหว่างกัน ขึ้นมาเสียดื้อๆยิ่งชายหนุ่มถึงเนื้อถึงตัวบ่อย ๆ แบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกกับเขามากกว่าเดิม ถ้าถูกเขาทิ้งไปครั้งนี้ แล้วเธอจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาพิสูจน์นี่แหละสำคัญ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน เธอควรให้โอกาสเขาใช่ไหม...“ฉัน...จะให้โอกาสคุณ”ยูตะยิ้มกว้างดึงร่างบางเข้ามาแนบอก...กดจมูกโด่งกับเส้นผมหอมกรุ่น กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น...สัญญากับตัวเองในใจ...ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ช่าง เวลานี้เขาไม่สนใจอะ
และได้รู้เดี๋ยวนั้น...เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกับเขาทั้งน้ำตา“ฉันไม่ได้โกรธคุณ..ฉันชอบให้คุณทำทุกอย่างกับฉัน แต่ฉันกลัวว่าวันหนึ่ง คุณจะทิ้งฉันไปอีกยังไงเล่า...ตาบ้า!”ชายหนุ่มถูกกำปั้นเล็ก ๆ ทุบรัวบริเวณหัวไหล่ พร้อมกับใบหน้าแดงเรื่อของเธอซุกลงไปที่เดิมเขาหัวเราะอย่างรู้สึกเอ็นดู และพอใจกับคำตอบตรง ๆ ของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน“ไม่ไปไหนแล้ว ฉันจะอยู่กับเธอ...ดูแลเธอ...ปกป้องเธอ...จนกว่าเธอจะไม่ต้องการฉัน แต่เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเธอบอกให้ฉันหยุด ไม่ใช่ที่นี่ คืออะไร เธอบอกฉันมาให้หมดสิ..”“ถ้าฉันบอกคุณไปตามตรง ฉันจะเป็นผู้หญิงน่าอายไหมคะ แต่ถ้าไม่พูดออกไปมันก็ต้องเก็บไว้ให้อึดอัดใจ”“ไม่เห็นน่าอายตรงไหน เปิดเผยดีออก ฉันจะได้รู้และไม่ต้องคิดไปเองแบบผิดๆ ทำอะไรผิดๆ”“จริงเหรอคะ”“จริงสิ..บอกมาเถอะน่า”เธอหลุบเปลือกตาลงต่ำ ครุ่นคิดอย่างหนัก...ก่อนตัดสินใจ...ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับเขา ตามที่ใจคิด“ฉันอยากรู้ว่า ถ้าคุณได้ฉันแล้ว คุณจะทิ้งฉันไปเหมือนคราวนั้นอีกไหมคะ”“ฮื่อ...ถามอะไรแบบนี้..บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีกแล้ว...ฉันสัญญา...”ชายหนุ่มเอ่ยกับเธออย่างหนักแน่น มอง
หญิงสาวกับชายหนุ่มเดินจับมือกันออกมาจากห้องซ้อม ด้วยใบหน้าและท่าทางอารมณ์ดี จนลูกน้องทั้งสองคน อดแปลกใจในอาการตัวเบา ของลูกพี่ไม่ได้...ช่วงหลังล๊อกประตูห้องซ้อมตลอด และไล่ไม่ให้ยืนเฝ้าด้วย เดินออกมายังหน้าบานขนาดนี้อีก แล้วนั่นกำลังเดินไปที่โรงรถ ลูกพี่ของเขากับลูกสาวเจ้านาย กำลังจะไปไหนกันโกโร่รีบวิ่งมาดักหน้า ทำใจกล้าเอ่ยทักขึ้น“ลูกพี่!จะไปไหนครับ ให้ผมเป็นคนขับให้เหมือนเดิมนะครับ”ฮิบาริ ยืนหอบ เพราะวิ่งมาไกลกว่ารีบเอ่ยตามมาอีกว่า“ให้ผมไปดูแล รับใช้ลูกพี่กับคุณไอโกะด้วยนะครับ”“ใครต้องการพวกแก!” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงเข้ม แถมยังทำตาดุใส่ ผิดกับอาการหน้าบานเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด“เอ้อ...คุณไอครับ...”เมื่อไปทางลูกพี่ไม่ได้ จึงหันมาหาหญิงสาวแทน“ฉันจะพาลูกพี่ของพวกนายไปดูดอกไม้...อย่าร้องตามสิ” หญิงสาวแกล้งแหย่“ไอ!รีบไปกันเถอะ!”ชายหนุ่มหันมาเอ็ดหญิงสาว ที่มัวแต่ต่อปากต่อคำกับลูกน้อง เอ่ยเร่งโดยไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็น และอยากตามไปด้วย ของลูกน้องทั้งสองคน ปล่อยให้ทั้งคู่ยืนงง...ก่อนหันมานินทาลูกพี่ตามหลังอย่างน้อยอกน้อยใจ“พอเขาดีกัน เราก็กลายเป็นหมาหัวเน่า ใช่ไหมวะโกโ
ไอโกะกระโดดกอดคอชายหนุ่ม เอาขาคาบเอวเขาไว้เหมือนลิงอุ้มแตง เมื่อประสานสายตา กับยานพาหนะของเทพเจ้าเข้าอย่างจัง“ไหนคุณบอกว่ามันไปเกิดแล้วไงคะ ทำไมมันยังอยู่อีก” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงสั่นเวลาจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ดันโผล่มาเพื่ออะไร…ช่างไม่รู้เวลาเสียบ้างเลย…“มันมีตัวเดียวซะที่ไหน...เวียนว่ายตายเกิดแบบคนเรานี่แหละ...ยิ่งกลัวเธอยิ่งต้องมอง ต้องอยู่กับมันให้ได้ เคยได้ยินไหม ยิ่งเกลียดยิ่งเจอน่ะ”ชายหนุ่มพยายามสอนให้เธอทำใจ เพราะมันมีอยู่ทุกที่ เหมือนตัวเองไม่ชอบเด็ก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนปกเสื้อกะลาสี แต่กลับมาหลงรักเธอหัวปักหัวปำอยู่นี่...“ฉันต้องรักมันเหรอ...ไม่เอา!รักไม่ลง”หญิงสาวส่ายหัวยิกในขณะที่ชายหนุ่มอธิบาย เขาก็อุ้มเธอท่านั้น พาเดินไปยังเตียงกว้าง โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว...รู้ก็ต่อเมื่อเขาวางเธอลง...หลังของหญิงสาวแนบไปบนที่นอนนุ่ม ร่างใหญ่เกยทับอยู่ด้านบน“มองหน้าฉัน... รักฉัน...คิดถึงแต่ฉัน...แทนมันได้ไหม...”ดวงตาคมที่กำลังประสานสายตากับดวงตาวาวหวาน ทำให้หญิงสาวลืมสิ่งรอบกายไปจนหมดสิ้น ลืมความกลัวที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะมีชายหนุ่มเข้ามาแทนที่ จนไม่เหลือสมอง...จำอย่างอื่นได้อีก
“ตื่นได้แล้ว”เสียงกระซิบและจุมพิตที่ชายหนุ่มพรหมจูบ ไปทั่วทั้งใบหูและแก้มนวลจากด้านหลัง ปลุกหญิงสาวให้ตื่น ทั้ง ๆ ที่เพิ่งหลับตาไปได้เพียงชั่วครู่เธอพลิกตัวหันมาหาร่างสูง ที่นอนตะแคงเท้าศอกกับที่นอน ขยับร่างกลมกลึงแนบชิดอกกว้าง ทอดแขนขึ้นไปรั้งต้นคอของชายหนุ่มให้ริมฝีปากของเขาแนบลงมาหาริมฝีปากของเธอ จูบเขาก่อนอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะในลำคออย่างพอใจร่างกายอันแข็งแกร่งสมส่วน รูบงามไปทุกตารางนิ้ว...สวมกอดร่างกลมกลึงเอาไว้กระชับชิด ดึงร่างเปลือยเปล่าของเธอให้แนบไปกับร่างของเขา ได้สัมผัสกันและกันอย่างแนบแน่นทรวงอกอิ่มเบียดไปกับอกกว้างแข็งแรง.. แนบแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา เอวเล็กถูกกอดไว้ แล้วรั้งให้ขึ้นไปอยู่บนร่างสูงใหญ่มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง เรื่อยลงไปที่เอวเล็กขอด จนถึงแก้มก้นงอนงามนุ่มนวล เต็มไม้เต็มมือไปหมด เขาบีบเค้นอย่างมันเขี้ยว ก่อนพลิกหญิงสาวกลับมาอยู่ใต้ร่าง มองสบตายั่วยวน อย่างหลงใหล ก่อนก้มลงไปจูบเธออีกครั้งอย่างเนิ่นนาน..ก่อนผละออกมาเอ่ยกับหญิงสาวอย่างรู้สึกเกรงใจว่า“ถ้าฉันขอเบิ้ลอีกสักสองสามทีเธอจะไหวไหม”ไอโกะหัวเราะคิก ขณะมือเรียวบางลูบไล้ชายผม ตรงท้า
ยูตะนอนตะแคงทอดสายตามองร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอกำลังหลับสนิท...ชายหนุ่มกดจมูกลงกับแก้มนุ่มหนักๆ จนทำให้อีกคนตื่น...ปรือตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขากำลังจับมือของเธอขึ้นมาแนบข้างแก้มของตัวเอง“นอนไม่หลับเหรอคะ” เสียงหวานอู้อี้ติดจะงัวเงียเอ่ยถามก่อนขยับร่างเข้ามาชิด เอื้อมแขนเล็กกอดเขาไว้ แล้วซุกหน้ากับอกอุ่นเพื่อนอนต่อ“มีหลายเรื่องต้องคิดน่ะ”ประโยคนี้ของเขาทำเอาคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรในหัว...รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง...เพราะห่วง...ความรู้สึกของคนที่เธอกำลังกอดอยู่หญิงสาวเปิดเปลือกตา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วเชิงถามแทนเสียง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันยูตะเลือกที่จะเดินตัวเปล่าไปเปิดตู้ หยิบผ้าขนหนูมาส่งให้เธอ ก่อนพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายไอโกะมองตามร่างสูงที่เดินตัวเปล่าผ่านหน้าไปอย่างงงๆ ทั้ง ๆ ที่มีผ้า แต่เจ้าตัวกลับเอาพาดบ่าซะอย่างงั้น...แล้วนะ ก็ไม่รู้หรือไงว่าเธออาย...ถึงแม้จะเห็นและสัมผัสเขาทั้งตัว แต่มันยังไม่ชินที่จะให้เธอเห็นเขาเดินโทง ๆ ขนาดนี้คำพูดของเขานั่นอีก...มันทำให้เธอหายง่วงไปแล้ว..ตอนนี้
เขากอดเธอไว้กับตัว พากระโดด แล้วเหวี่ยงเธอขึ้นมาบนชั้นลอยพร้อมกับตัวเองอย่างง่ายๆ ราวกับว่าเขากำลังแบกนุ่นอยู่...แบกเธอขึ้นที่สูงขนาดนี้...โดยไม่ต้องใช้เชือกอีกด้วยเหอะ...เขาเท่...มีเสน่ห์....น่าหลงไหล..เกินไปแล้วนะ...กับชุดที่ใส่นี่ก็ด้วยอ่ะ...ชายหนุ่มปล่อยร่างบางลงกับพื้น แล้วหมุนตัวทำท่าจะกระโดดพุ่งตัวลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว...เหมือนกับตอนที่เอาตัวเธอขึ้นมา....แต่ทว่าเขากลับเสียจังหวะเพราะ...จุ๊บ!แขนเรียวบางที่คล้องคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังเขย่งปลายเท้าจุ๊บปากของชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้าที่ปิดใบหน้าเขาไว้อีกยูตะส่ายหน้าก่อนดึงผ้าที่ปิดปากลงไว้ใต้คาง แล้วโน้มตัวกดริมฝีปากหนัก ๆ กับเธออย่างเร็วแล้วผละออกเพราะรู้ว่าต้อง..แบบนี้เธอถึงจะยอมปล่อย…หญิงสาววิ่งตามไปดู...จนสุดราวที่กั้นไว้... เธอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านล่างซึ่งเวลานี้..ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ..โดยมีชายในชุดดำ.ยืนคุมพวกนั้นอยู่ทั่ว...และมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวอีกด้วยยูตะยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้า จ่อปลายดาบเข้ากับคอหอยของฟุมิโอะที่มีสภาพร่อแร่เต็มที...แต่ยังปากดีท้าทายเจ้าของปลายดาบอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน“ฆ่าฉัน
“พ่อคะ..พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”ประโยคแรกที่ได้ยินคือหญิงสาวเอ่ยถามคนเป็นบิดา...ที่ยืนอยู่หลังโต๊ะอีกฝั่ง บนนั้นมีแฟ้มเอกสารที่พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายกำลังบังคับให้ทำอะไรบนใบหน้าฮินาตะมีสีช้ำ หางตาบวมปูด..หางคิ้วแตกยับ ยังเห็นเลือดเกาะกรังจนมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ออกเลย มันบังคับ และซ้อมพ่อของเธอ …หญิงสาวพยามกลืนน้ำตาของความอ่อนแอเข้าไปข้างใน...สั่งใจตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้สารเลว....รู้แบบนี้เธอฆ่าลูกมันทิ้งแต่ทีแรกไปแล้ว“พ่อไม่เป็นไรลูก”ฮินาตะตอบลูกสาวกลับมาเพราะไม่อยากให้เธอกังวล เขารู้ว่า ยังไงยูตะต้องมาช่วย เขาจึงไม่ยอมเซ็นเอกสารมอบอำนาจ ยอมให้พวกมันซ้อมเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับตัวมาด้วยแบบนี้“หุบปาก!พวกแกหมดเวลาพูดกันแล้ว ถ้าแกไม่ยอมเซ็นเอกสารนะฮินาตะ ลูกสาวแกกลายเป็นศพตรงนี้แน่...ว่าไง...”สองพ่อลูกเงียบเสียงลง มองสบนัยน์ตาด้วยความหมายที่ต่างคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว พอดีกับที่ฟุมิโอะรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นลูกชายตัวเองเข้ามาเสียที เขาจึงหันไปเอ่ยถามกับลูกน้องที่ยืนคุมตัวของไอโกะเอาไว้ว่า“แล้วฮิโรชิลูกพี่แกไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”ฟุมิโอะเลิกคิ้วส
ดื้อ!แต่ก็ชอบ...ดีกว่าตอบแต่ค่ะๆๆๆ นั่นมันก็จืดชืดไปหน่อย...“เธอใส่ชุดราตรี มันเด่น ไม่คล่องตัว...แล้วฉันเป็นห่วง ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง”เขาพยายามอธิบายตามมา แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมฟัง…นอกจากไม่ฟังแล้วยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกนะนั่นน่ะ“คุณพอจะมีชุดดำแบบคุณให้ฉันใส่บ้างไหมล่ะคะ แบบครบชุดทั้งอาวุธด้วย”ยูตะหัวเราะหึในลำคอ...ก็เดาใจเธอไม่เคยผิดเลยสินะ...ว่าเมียดื้อของเขาต้องพูดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่ใช่ไอโกะ“มันต้องปีนป่าย โรยตัวจากเชือกลงมา ต้องทำให้ตัวเบา เธอยังไม่เคยฝึกอะไรแบบนี้ ทำไม่ได้หรอกนะ”“ทำได้ค่ะ...คุณก็ทำตัวเบา แล้วให้ฉันขี่หลังพาปีนขึ้นไป แล้วก็พาไต่ลงมา มันก็เหมือนเป็นการฝึกไปในตัวนะฉันว่า...”แล้วมาบอกเขาว่ามีผัวแล้วไม่ใช่เด็ก...แต่ที่พูดออกมาแต่ละประโยคนั่น มันใช่ผู้ใหญ่แล้วเถอะ“นินจามันต้องใช้ความเบา ความเร็ว..และคล่องตัว....แล้วฉันจะอุ้มเธอกระเตงไปได้ยังไงล่ะ...ไม่อยากให้ลูกศิษย์กับลูกน้องฉันมาหัวเราะเรา แล้วฝ่ายนั้นอีกพวกมันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ แล้วฉันจะคุมคนได้ยังไง…รอฉันอยู่ที่นี่เถอะนะ”“...!!...”“............นะ”“..........ไอ..นะ”เขาอ้อนก่อนทิ้งหัวที่มีผ้าคลุมสีด
ยูตะไม่รอช้า รีบพิมพ์ข้อความลับส่งถึงโกโร่...หลังจากที่ไอโกะได้วางสายไปแล้ว...ที่เลือกส่งข้อความลับนั่นก็เพราะว่า...ถ้าเขาเลือกใช้โทรศัพท์ คนอยู่ใกล้ ๆ อาจได้ยินด้วยนี่สิ...ฝ่ายโกโร่..เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็รู้แล้วว่า ลูกพี่ของเขามีคำสั่ง...และต้องปฎิบัติตามโดยไม่ให้คุณไอโกะรู้นั่นแหละคำสั่งมีอยู่ว่า ให้ถ่วงเวลาหญิงสาวเอาไว้...ก็แค่นั้น...“ โกโร่ นายรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่ามันจับตัวพ่อฉันไปไว้ที่ไหน ” ไอโกะเอ่ยถาม...เพราะรู้สึกคุ้นตากับบริเวณที่ผ่านมารอบ ๆ ตัวรถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาทางด้านหลังนั่น ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมคันหน้าของเจ้านาย ถึงได้ขับรถวนไปวนมาแบบนั้น ในเมื่อใกล้จะถึงที่หมายอยู่แล้วนั่นน่ะพวกเขาขับติดตามรถคันหน้าของเจ้านายไปสักพัก...จึงเข้าสู่เส้นทางหลักที่นายใหญ่ของพวกเขาถูกจับตัวไปจริง ๆ เสียทีก่อนถึงที่หมาย ยูตะได้ส่งข้อความไลน์บอกโกโร่ว่า..."อย่าเพิ่งบุกเข้าไปด้านหน้า เพราะเวลานี้พรรคพวกของฟุมิโอะ ได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน...พาเธอมาหาฉันที่จุดนัดพบตอนนี้เลย"เมื่อถึงจุดรวมพล...โกโร่มองเห็นรถตู้ที่จอดอยู่ในระยะไกลเป็นจำนวนมาก เขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือล
ร่างสูงของยูตะลงมาจากเวทีแล้วเดินตรงปรี่เข้ามาหาฮิบาริที่รอเขาอยูด้านล่าง เพื่อรับฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท ขณะเดินตามกันออกมาจากงานพร้อมกับคนของเขาที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้ครึ่งหนึ่ง“คนของเรามาถึงแล้วใช่ไหมฮิบาริ” เขาเสหน้าหันมาถาม ขณะรูดเน็คไทล์ลง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถแล้ว“ถึงแล้วครับ กำลังรอคำสั่งของลูกพี่”“ส่งโลเกชั่นให้แล้วบอกให้รีบตามมา...ได้เวลาตัดริบบิ้นเสียที” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงขรึม “รู้ใช่ไหมว่าพวกที่โจมตีนายใหญ่ของเราคือใคร...” เขาถามต่อ“แก๊งของคุณฟุมิโอะครับ...” ฮิบาริหันมาตอบ...ต่อเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบเสียงของตัวเองลง เพื่อรอฟังรายงานของฮิบาริต่อจากนั้น“โกโร่โทรมาบอกว่า...เมื่อกี้คุณไอกับพวกของเราถูกคุณฮิโรชิเอาลูกน้องมาขวางไว้...ดันโผล่มาตอนที่เธอกำลังรีบ...เลยโมโหซัดมีดเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน...ปักกลางตูดเข้าไปเต็มๆ”ยูตะหัวเราะพรืด...นึกภาพเวลาเธอโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วต้องขำ..น่าฟัดจะตายเหอะ...ขัดขืนนิดๆ พอมีจริตจกร้านหน่อยๆ มันทำให้เขาคึกคักทุกทีด้วยสิ..ยิ่งนึกถึงเสียงครางเรียกชื่อเขาหวานๆนั่น มันทำให้รู้สึก...คึกขึ้นมาอีกแล้วเหอะ...เวลาหน้าสิ่วหน
“รอลูกพี่ก่อนดีกว่านะครับคุณไอ..”เหมือนเคย..โกโร่เอ่ยเตือนเจ้านาย...ขณะที่เขาเดินแกมวิ่งตามเธอออกมา...เมื่อเห็นว่าเธอใจร้อน....รีบออกมาจากงานเพื่อจะตามไปช่วยบิดาโดยไม่ยอมรอลูกพี่ของเขา...เพราะความห่วงใยผู้ให้กำเนิด“เรานำหน้าไปก่อน เดี๋ยวฮิบาริก็คงบอกเอง ลูกพี่นายคงตามเรามาทัน หรือว่า...” เธอหันมาเอ่ยกับโกโร่แล้วเว้นคำพูดไว้ในตอนท้าย ขณะเดินเร็ว ๆ แล้วเปลี่ยนป็นวิ่งเหยาะๆ แทน“ครับ ๆ..เรานำไปก่อนเดี๋ยวนี้เลยครับคุณไอ”โกโร่รีบทำตามคำสั่ง เพราะรู้ว่าประโยคสุดท้ายที่เธอจะเอ่ยตามมานั้น คือคำว่าอะไร...ถ้าไม่บอกว่า...นายจะรอลูกพี่นายอยู่ที่นี่ก็ได้....หรือไม่ก็....นายใช่คนของฉันหรือเปล่า...อย่างน้อยถ้าห้ามไม่ได้ ก็ต้องตามไปคุ้มกัน...หากหญิงสาวเป็นอะไรไปแม้เพียงปลายเล็บ เขาอาจมีรูระบายอากาศทั้งตัว...และผู้เป็นคนติดตั้งให้ ก็คงเป็นเจ้านายอีกคนที่ยังอยู่ในงานนั่นเหอะบอดี้การ์ดที่ตามมาทางด้านหลัง...พากันเร่งฝีเท้าและรอทำตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง...ทุกคนรู้หน้าที่โดยไม่ต้องให้หญิงสาวเอ่ยอะไรมากนักทันทีที่ไอโกะและบอดี้การ์ดส่วนหนึ่ง เดินมาถึงลานจอดรถ...ฮิโรชิและลูกน้องของเขา ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ข
เมื่อใกล้ถึงเวลารับรางวัล แต่ฮินาตะยังมาไม่ถึง เขาโทรมาบอกกับลูกสาวว่า ให้เป็นตัวแทนของท่านขึ้นไปรับรางวัลได้เลย เพราะเครื่องบินที่นั่งมานั้นดีเลย์...เนื่องจากสภาพอากาศจึงเลื่อนเวลาลงจอดออกไปนิดหน่อย...“ไอ...”ยูตะเรียกให้ไอโกะหันมา...แล้วโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างกกหูของหญิงสาว เอ่ยย้ำกับเธออีกครั้ง ขณะที่ทั้งคู่นั่งรอรับรางวัลอยู่ด้านล่างของเวที รวมกับแขกวีไอพีคนอื่นๆ“เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลก่อนฉัน...ระหว่างที่ฉันขึ้นไปรับรางวัล นั่งอยู่ตรงนี้รอฉันลงมา เธอห้ามไปไหนเด็ดขาดเลยนะ...สัญญามาก่อนสิ”ไอโกะได้แต่บึนปาก...เพราะถูกย้ำเป็นครั้งที่ร้อย...ตั้งแต่แต่งตัวให้เธอที่บ้าน จนถึงเวลานี้ก็พูดอยู่แค่สองสามประโยควนลูปอยู่นี่เหอะ...เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็อดเถียงเขากลับไปไม่ได้อีกนั่นแหละ“ฉันมีผัวแล้ว...ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้น่า...อย่าได้ห่วง..”เขายิ้มกว้างกับประโยคแรกที่เธอเอ่ยถึงสถานะของตัวเองออกมา อย่างเต็มปากเต็มคำเป็นครั้งแรก และเขาก็เพิ่งเคยได้ยินในวันนี้น่ารักชิบ!...จนอยากจะชวนออกไปหามุมมืด...ก็หื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยนะมึงเนี่ย... “ผูกเอวฉันติดไว้กับตัวคุณเลยดีไห
เมื่อถึงวันงานสมาคมนักธุกิจภาคพื้นเอเชีย ไอโกะถึงได้รู้ว่าทำไมยูตะถึงต้องการให้เธอใส่ชุดแบบนี้มากระโปรงบานยาวย้วยที่หญิงสาวใส่ มันสามารถปิดบังด้านใน ที่เธอติดปืนพกเล็ก ๆ เอาไว้ได้นี่เอง...ชายหนุ่มกำลังขมักเขม่นกับการแต่งตัวให้หญิงสาว พร้อมกับติดอาวุธให้เธอด้วยตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ และตั้งสติตัวเองไว้ไม่ให้เขวไปกับของของเธอที่อยู่...ใกล้ตา...ใกล้มือ...และใกล้ปากขนาดนี้..เพราะไม่อยากให้เสียงาน... “ฉันว่าเธออย่าใส่ส้นสูงเลยนะ ใส่ผ้าใบน่าจะดีกว่าคล่องตัวดี”เขาแหงนหน้าขึ้นบอกกับหญิงสาว ขณะกำลังนั่งยองขา ติดปืนบริเวณปลีน่องด้านข้างให้“ก็ได้ค่ะ เพราะถึงใส่รองเท้าสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดี”หญิงสาวเห็นด้วยเพราะไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เธอก็ไม่ควรประมาทและไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็นห่วงหรืองกังวลใจกับเธอมากนักเขาบอกให้เธอระวังตัว...ไว้ตลอดเวลา อย่างห่างจากเขาไปไหน แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำก็ตามทีบริเวณงานมีทั้งตำรวจ และบอดี้การ์ดของบรรดานักธุรกิจ หรือยากูซ่าทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมงานนี้มากมาย แทบไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่ที่เธอจำได้...ก็คือหล่อนคนนั้น อิจิโอะ เธอยืนอยู่ข้างกันกับฮิโรชิ หล่อนโปร