“คุณพาไปเที่ยวหน่อยได้ไหมคะ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อน ผิดกับเมื่อครู่ หน้ามือเป็นหลังมือ
“บอกให้ฝึกนั่งสมาธิตอนก่อนนอน เวลาฝึกจะได้นิ่ง โฟกัสให้ตรงจุด การเคลื่อนไหวจะได้คล่องแคล่ว การจู่โจมจะแม่นยำ ไม่ได้ทำเลยหรือไง”
ยูตะต่อว่าหญิงสาวเสียงเข้ม ไม่ยอมออกนอกเรื่อง ทำเหมือนหูไม่ได้ยิน ในสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยให้เขาฟัง
“นั่ง!...แต่พอหลับตา มันก็เห็น แต่สถานที่เที่ยวเต็มไปหมดเลยนี่คะ” เธอตอบเขาหน้าง้ำ และบ่นตามมาอีกกระบุง
“ปิดเทอมทั้งที ใคร ๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน มีแต่ฉันที่ต้องมานั่งซ้อม ยูโด คาราเต้ ยิงปืน ปามีด ฟันดาบ ดูมือฉันสิคะด้านไปหมดแล้ว ตัวก็เหมือนกัน ถูกคุณทุ่มจนกระดูก เคลื่อนไปกี่ซี่แล้วก็ไม่รู้ ” ไอโกะหงายมือเรียวเล็กให้ชายหนุ่มดู ประกอบคำพูด เพราะกลัวเขาไม่เชื่อ
ยูตะหลุบเปลือกตาลง มองฝ่ามือเรียวบางตรงหน้า ก่อนเปิดเปลือกตา ประสานดวงตาคู่งาม อย่างรู้สึกหวั่นไหว แต่พยายามตัดใจ เอ่ยถามหญิงสาวกลับไปเสียงขรึม
“อยากไปไหน”
“ฉันอยากนั่งรถไฟไปเที่ยว ทะเลสาบคาวากุจิโกะ อยากนั่งรถดูรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ นั่งเรือโจรสลัด ชิมไข่ดำโอวาคูดานิ ไปดูดอกไม้ที่สวนฮิตาชิซีไซด์ ช่วงนี้ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ดอกนีโมฟิลา ดอกนาร์ซีสซัส ดอกทิวลิป กำลังออกดอกสวยเลย ยูตะ คุณช่วยขอพ่อ ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
“อย่าไปเลย..อันตราย เวลานี้พ่อเธอไม่อยู่ด้วย รอให้ท่านกลับมาก่อน แล้วจะบอกให้”
ไอโกะเม้มปาก หลุบเปลือกตาที่มีขนตางอนยาว ปิดบังสายตาตัวเอง ก่อนจะเหลือบขึ้น ประสานสายตา กับชายหนุ่มตรงหน้า อย่างท้าทาย
“ฉันไม่รอพ่อหรอก คุณเฝ้าฉัน ไว้ให้ดีแล้วกัน” หญิงสาวเอ่ยกับเขาเสียงฉุน แล้วเดินออกจากห้องซ้อมเดี๋ยวนั้น
ยูตะนั่งเอาศอกเท้ากับโต๊ะ แล้วเอามือขึ้นกุมหัวอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ เหนื่อยที่ต้องคอยห้ามใจ เหนื่อยที่ต้องคอยหักใจ
ชายหนุ่มรู้ดีว่า ฮินาตะ ต้องการให้เขา เข้ากลุ่มยากูซ่า โดยเอาไอโกะมาล่อ ให้ชายหนุ่มติดกับ หลงรักลูกสาวของตัวเอง
ไม่ได้บังคับเขาด้วยอำนาจ แต่เหมือนบังคับเขาทางอ้อม ชายหนุ่มได้แต่ฝังเธอไว้ เพียงแค่ในใจของเขาเท่านั้น
โกโร่กับฮิบาริ ยืนเฝ้าประตู อยู่หน้าห้องซ้อม ได้ยินและเห็นทุกอย่าง ทั้งสองคนมองสบตากัน อย่างรู้สึกสงสาร และเห็นใจ คิดว่าคืนนี้ ลูกพี่คงต้องหาที่ระบายอีกแล้ว
ไอโกะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เพียงไม่กี่ชุด และยัดกระเป๋าซ่อนไว้ใต้เตียง โดยไม่ลืมพกอาวุธ ใส่ไว้ในนั้นด้วย
เมื่อก่อนเธอไม่เคยสนใจ อาวุธพวกนี้ ตั้งแต่ถูกตามล่าในวันนั้น มันทำให้หญิงสาว รู้สึกรักพวกมัน ขึ้นมาจับใจ อย่างน้อยมันคือเพื่อนที่ไม่มีปากเสียง และสามารถปกป้องเธอได้ในระดับหนึ่ง
ในเมื่อไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเธอ เธอก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ ความรู้สึกของใครทั้งนั้น...
ปัง!ๆๆ
“ขอโทษครับลูกพี่! พอดีบอดี้การ์ด โทรมารายงานว่า คุณไอโกะ หนีออกจากบ้านไปแล้วครับ”
โกโร่ทุบประตู เรียกยูตะเสียงดัง ความจริงเขาไม่อยากมาขัดจังหวะ แต่ถ้าช้ากว่านี้ ไอโกะอาจเกิดอันตราย เพราะหญิงสาวหนีออกจากบ้าน ไปคนเดียว
ชายหนุ่มรีบเปิดไฟ ใส่เสื้อผ้า แหย่เงินให้หญิงสาวตรงหน้าทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไร
“คุณยังไม่ได้..”
“ช่างเถอะ!”
หญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่า มองตามหลัง บุรุษรูปงามที่กำลังเดินจากไป อย่างรู้สึกเสียดาย
ไม่ได้เงิน เธอก็ไม่เสียดายเท่า ยังไม่ได้นอนกับเขา อยากให้แก่นกายแข็งแรงของเขา อยู่ในกายของเธอบ้าง สักครั้งก็ยังดี
“โกโร่ ฮิบาริล่ะ”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นโกโร่ ยืนรอเขาอยู่หน้าประตูห้อง
“รอที่รถแล้วครับ”
“รีบไปกันเถอะ”
ทั้งสองจึงรีบไปขึ้นรถ ที่ฮิบาริ สตาร์จเครื่องรออยู่แล้ว ออกไปจากบริเวณนั้นทันที
ความเป็นห่วงไอโกะ มีมากกว่าความต้องการของตัวเอง เขาสามารถตัดทุกอย่างทิ้งไปได้ เพียงเพราะรู้ว่า เธออาจตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น
“โกโร่ โทรหาเธอสิ”
ยูตะออกคำสั่ง แต่เขาก็ไม่ละความพยายาม กดโทรศัพท์หาเธอ จนแทบจะขว้างเครื่องทิ้ง เพราะไม่ทันใจ
“โธ่โว๊ย!เป็นที่สัญญาณ หรือเป็นที่เครื่องกันวะ..โกโร่ ของแกติดไหม”
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับลูกพี่ คุณไอโกะเธอปิดเครื่อง”
“แกรู้ไหมถ้าพวกนั้นได้ตัวเธอไป จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง หาเธอให้เจอ คืนนี้ให้ได้!”
ชายหนุ่มหัวเสีย ออกคำสั่งกับลูกน้อง อย่างรู้สึกร้อนใจ
เขาประมาท และพลาดเองทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า หญิงสาวต้องหนีแน่ ถ้าหากเขาไม่ยอมพาเธอไป แต่คิดไม่ถึงว่า เธอจะตัดสินใจไวขนาดนี้ ถือโอกาสในยามที่เขา และลูกน้องไม่อยู่ ใช้ปืนข่มขู่บอดี้การ์ดในบ้าน เพื่อให้ยอมหลีกทาง
ยูตะนอนตะแคงทอดสายตามองร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอกำลังหลับสนิท...ชายหนุ่มกดจมูกลงกับแก้มนุ่มหนักๆ จนทำให้อีกคนตื่น...ปรือตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขากำลังจับมือของเธอขึ้นมาแนบข้างแก้มของตัวเอง“นอนไม่หลับเหรอคะ” เสียงหวานอู้อี้ติดจะงัวเงียเอ่ยถามก่อนขยับร่างเข้ามาชิด เอื้อมแขนเล็กกอดเขาไว้ แล้วซุกหน้ากับอกอุ่นเพื่อนอนต่อ“มีหลายเรื่องต้องคิดน่ะ”ประโยคนี้ของเขาทำเอาคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรในหัว...รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง...เพราะห่วง...ความรู้สึกของคนที่เธอกำลังกอดอยู่หญิงสาวเปิดเปลือกตา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วเชิงถามแทนเสียง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันยูตะเลือกที่จะเดินตัวเปล่าไปเปิดตู้ หยิบผ้าขนหนูมาส่งให้เธอ ก่อนพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายไอโกะมองตามร่างสูงที่เดินตัวเปล่าผ่านหน้าไปอย่างงงๆ ทั้ง ๆ ที่มีผ้า แต่เจ้าตัวกลับเอาพาดบ่าซะอย่างงั้น...แล้วนะ ก็ไม่รู้หรือไงว่าเธออาย...ถึงแม้จะเห็นและสัมผัสเขาทั้งตัว แต่มันยังไม่ชินที่จะให้เธอเห็นเขาเดินโทง ๆ ขนาดนี้คำพูดของเขานั่นอีก...มันทำให้เธอหายง่วงไปแล้ว..ตอนนี้
เขากอดเธอไว้กับตัว พากระโดด แล้วเหวี่ยงเธอขึ้นมาบนชั้นลอยพร้อมกับตัวเองอย่างง่ายๆ ราวกับว่าเขากำลังแบกนุ่นอยู่...แบกเธอขึ้นที่สูงขนาดนี้...โดยไม่ต้องใช้เชือกอีกด้วยเหอะ...เขาเท่...มีเสน่ห์....น่าหลงไหล..เกินไปแล้วนะ...กับชุดที่ใส่นี่ก็ด้วยอ่ะ...ชายหนุ่มปล่อยร่างบางลงกับพื้น แล้วหมุนตัวทำท่าจะกระโดดพุ่งตัวลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว...เหมือนกับตอนที่เอาตัวเธอขึ้นมา....แต่ทว่าเขากลับเสียจังหวะเพราะ...จุ๊บ!แขนเรียวบางที่คล้องคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังเขย่งปลายเท้าจุ๊บปากของชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้าที่ปิดใบหน้าเขาไว้อีกยูตะส่ายหน้าก่อนดึงผ้าที่ปิดปากลงไว้ใต้คาง แล้วโน้มตัวกดริมฝีปากหนัก ๆ กับเธออย่างเร็วแล้วผละออกเพราะรู้ว่าต้อง..แบบนี้เธอถึงจะยอมปล่อย…หญิงสาววิ่งตามไปดู...จนสุดราวที่กั้นไว้... เธอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านล่างซึ่งเวลานี้..ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ..โดยมีชายในชุดดำ.ยืนคุมพวกนั้นอยู่ทั่ว...และมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวอีกด้วยยูตะยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้า จ่อปลายดาบเข้ากับคอหอยของฟุมิโอะที่มีสภาพร่อแร่เต็มที...แต่ยังปากดีท้าทายเจ้าของปลายดาบอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน“ฆ่าฉัน
“พ่อคะ..พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”ประโยคแรกที่ได้ยินคือหญิงสาวเอ่ยถามคนเป็นบิดา...ที่ยืนอยู่หลังโต๊ะอีกฝั่ง บนนั้นมีแฟ้มเอกสารที่พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายกำลังบังคับให้ทำอะไรบนใบหน้าฮินาตะมีสีช้ำ หางตาบวมปูด..หางคิ้วแตกยับ ยังเห็นเลือดเกาะกรังจนมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ออกเลย มันบังคับ และซ้อมพ่อของเธอ …หญิงสาวพยามกลืนน้ำตาของความอ่อนแอเข้าไปข้างใน...สั่งใจตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้สารเลว....รู้แบบนี้เธอฆ่าลูกมันทิ้งแต่ทีแรกไปแล้ว“พ่อไม่เป็นไรลูก”ฮินาตะตอบลูกสาวกลับมาเพราะไม่อยากให้เธอกังวล เขารู้ว่า ยังไงยูตะต้องมาช่วย เขาจึงไม่ยอมเซ็นเอกสารมอบอำนาจ ยอมให้พวกมันซ้อมเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับตัวมาด้วยแบบนี้“หุบปาก!พวกแกหมดเวลาพูดกันแล้ว ถ้าแกไม่ยอมเซ็นเอกสารนะฮินาตะ ลูกสาวแกกลายเป็นศพตรงนี้แน่...ว่าไง...”สองพ่อลูกเงียบเสียงลง มองสบนัยน์ตาด้วยความหมายที่ต่างคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว พอดีกับที่ฟุมิโอะรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นลูกชายตัวเองเข้ามาเสียที เขาจึงหันไปเอ่ยถามกับลูกน้องที่ยืนคุมตัวของไอโกะเอาไว้ว่า“แล้วฮิโรชิลูกพี่แกไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”ฟุมิโอะเลิกคิ้วส
ดื้อ!แต่ก็ชอบ...ดีกว่าตอบแต่ค่ะๆๆๆ นั่นมันก็จืดชืดไปหน่อย...“เธอใส่ชุดราตรี มันเด่น ไม่คล่องตัว...แล้วฉันเป็นห่วง ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง”เขาพยายามอธิบายตามมา แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมฟัง…นอกจากไม่ฟังแล้วยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกนะนั่นน่ะ“คุณพอจะมีชุดดำแบบคุณให้ฉันใส่บ้างไหมล่ะคะ แบบครบชุดทั้งอาวุธด้วย”ยูตะหัวเราะหึในลำคอ...ก็เดาใจเธอไม่เคยผิดเลยสินะ...ว่าเมียดื้อของเขาต้องพูดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่ใช่ไอโกะ“มันต้องปีนป่าย โรยตัวจากเชือกลงมา ต้องทำให้ตัวเบา เธอยังไม่เคยฝึกอะไรแบบนี้ ทำไม่ได้หรอกนะ”“ทำได้ค่ะ...คุณก็ทำตัวเบา แล้วให้ฉันขี่หลังพาปีนขึ้นไป แล้วก็พาไต่ลงมา มันก็เหมือนเป็นการฝึกไปในตัวนะฉันว่า...”แล้วมาบอกเขาว่ามีผัวแล้วไม่ใช่เด็ก...แต่ที่พูดออกมาแต่ละประโยคนั่น มันใช่ผู้ใหญ่แล้วเถอะ“นินจามันต้องใช้ความเบา ความเร็ว..และคล่องตัว....แล้วฉันจะอุ้มเธอกระเตงไปได้ยังไงล่ะ...ไม่อยากให้ลูกศิษย์กับลูกน้องฉันมาหัวเราะเรา แล้วฝ่ายนั้นอีกพวกมันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ แล้วฉันจะคุมคนได้ยังไง…รอฉันอยู่ที่นี่เถอะนะ”“...!!...”“............นะ”“..........ไอ..นะ”เขาอ้อนก่อนทิ้งหัวที่มีผ้าคลุมสีด
ยูตะไม่รอช้า รีบพิมพ์ข้อความลับส่งถึงโกโร่...หลังจากที่ไอโกะได้วางสายไปแล้ว...ที่เลือกส่งข้อความลับนั่นก็เพราะว่า...ถ้าเขาเลือกใช้โทรศัพท์ คนอยู่ใกล้ ๆ อาจได้ยินด้วยนี่สิ...ฝ่ายโกโร่..เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็รู้แล้วว่า ลูกพี่ของเขามีคำสั่ง...และต้องปฎิบัติตามโดยไม่ให้คุณไอโกะรู้นั่นแหละคำสั่งมีอยู่ว่า ให้ถ่วงเวลาหญิงสาวเอาไว้...ก็แค่นั้น...“ โกโร่ นายรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่ามันจับตัวพ่อฉันไปไว้ที่ไหน ” ไอโกะเอ่ยถาม...เพราะรู้สึกคุ้นตากับบริเวณที่ผ่านมารอบ ๆ ตัวรถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาทางด้านหลังนั่น ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมคันหน้าของเจ้านาย ถึงได้ขับรถวนไปวนมาแบบนั้น ในเมื่อใกล้จะถึงที่หมายอยู่แล้วนั่นน่ะพวกเขาขับติดตามรถคันหน้าของเจ้านายไปสักพัก...จึงเข้าสู่เส้นทางหลักที่นายใหญ่ของพวกเขาถูกจับตัวไปจริง ๆ เสียทีก่อนถึงที่หมาย ยูตะได้ส่งข้อความไลน์บอกโกโร่ว่า..."อย่าเพิ่งบุกเข้าไปด้านหน้า เพราะเวลานี้พรรคพวกของฟุมิโอะ ได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน...พาเธอมาหาฉันที่จุดนัดพบตอนนี้เลย"เมื่อถึงจุดรวมพล...โกโร่มองเห็นรถตู้ที่จอดอยู่ในระยะไกลเป็นจำนวนมาก เขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือล
ร่างสูงของยูตะลงมาจากเวทีแล้วเดินตรงปรี่เข้ามาหาฮิบาริที่รอเขาอยูด้านล่าง เพื่อรับฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท ขณะเดินตามกันออกมาจากงานพร้อมกับคนของเขาที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้ครึ่งหนึ่ง“คนของเรามาถึงแล้วใช่ไหมฮิบาริ” เขาเสหน้าหันมาถาม ขณะรูดเน็คไทล์ลง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถแล้ว“ถึงแล้วครับ กำลังรอคำสั่งของลูกพี่”“ส่งโลเกชั่นให้แล้วบอกให้รีบตามมา...ได้เวลาตัดริบบิ้นเสียที” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงขรึม “รู้ใช่ไหมว่าพวกที่โจมตีนายใหญ่ของเราคือใคร...” เขาถามต่อ“แก๊งของคุณฟุมิโอะครับ...” ฮิบาริหันมาตอบ...ต่อเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบเสียงของตัวเองลง เพื่อรอฟังรายงานของฮิบาริต่อจากนั้น“โกโร่โทรมาบอกว่า...เมื่อกี้คุณไอกับพวกของเราถูกคุณฮิโรชิเอาลูกน้องมาขวางไว้...ดันโผล่มาตอนที่เธอกำลังรีบ...เลยโมโหซัดมีดเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน...ปักกลางตูดเข้าไปเต็มๆ”ยูตะหัวเราะพรืด...นึกภาพเวลาเธอโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วต้องขำ..น่าฟัดจะตายเหอะ...ขัดขืนนิดๆ พอมีจริตจกร้านหน่อยๆ มันทำให้เขาคึกคักทุกทีด้วยสิ..ยิ่งนึกถึงเสียงครางเรียกชื่อเขาหวานๆนั่น มันทำให้รู้สึก...คึกขึ้นมาอีกแล้วเหอะ...เวลาหน้าสิ่วหน