เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปทำงานแล้ว เธอจึงได้เข้าไปอาบน้ำและรีบออกมาแต่งตัวแต่งหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วจึงได้สะพายกระเป๋าใบเก่งออกมาจากห้องพร้อมกับล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วจึงได้ขึ้นรถเก๋งคันเก่าที่ซื้อต่อมาจากเพื่อนพนักงานด้วยกันหลังจากที่ไปทำงานที่คาสิโนได้เพียงสองสามเดือน
เพราะไม่อยากจะขึ้นรถประจำทางที่ต้องรอเวลา แถมหากออกจากที่ทำงานช้าไปก็อาจจะพลาดเที่ยวรถทำให้เธอต้องไปรบกวนให้เพื่อนร่วมงานที่พอจะสนิทกัน ให้มาส่ง หรือไม่ก็ต้องเรียกแท็กซี่ที่มีค่าบริการแพง ทำให้รายได้แทบจะไม่เหลือเก็บ
ลี่หลินจึงตัดสินใจซื้อรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันนี้เอาไว้ขับไปทำงานหรือเพื่อออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันหยุดเพื่อความสะดวกและประหยัด หล่อนก้าวขึ้นรถแล้วก็ถอยออกไปจากหน้าห้องพักอย่างรีบด่วน เพราะวันนี้ออกจากห้องพักช้าไปกว่าสิบนาที ทำให้ต้องทำเวลามากกว่าทุกวัน
เมื่อจอดรถลงที่ลานจอดสำหรับพนักงานแล้ว เธอก็ออกจากรถพร้อมกับล็อครถแล้วก็รีบเดินด้วยความเร่งรีบเข้าไปที่ประตูทางเข้าออกของพนักงาน รีบรูดบัตรเข้างานอย่างโล่งใจที่วันนี้ไม่ได้สายอย่างที่คิด
เมื่อเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์แล้วก็มีเสียงที่คุ้นเคยร้องทัก “ ลี่หลินมาแล้วหรือ วันนี้มาสายกว่าทุกวันนะ ”
ลี่หลินหันไปก็พบใบหน้าหล่อตี๋ของหลู้ซานฉีพนักงานแจกไพ่ที่ทำงานอยู่ในห้องโป๊กเกอร์ที่มักจะทักทายเธออยู่เสมอเวลาพบกัน
เธอรู้ว่าเขานั้นชอบเธอ และกำลังเหมือนพยายามจีีบเธออยู่ แต่ลี่หลินยังเข็ดขยาดกับความรัก แม้ไม่ได้รังเกียจมิตรภาพของซานฉี เพราะเขานั้นมีมนุษย์สัมพันธ์ดีและมักจะช่วยเหลือเธอในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เสมอ
“ ค่ะ วันนี้ออกจากที่พักช้าไปหน่อย ไว้คุยกันนะคะ ฉันจะรีบไปเปลี่ยนยูนิฟอร์มก่อน
” เขาพยักหน้า “ โอเค แล้วเจอกันนะ ”
เขายืนโบกมือให้แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องโป๊กเกอร์
ลี่หลินรีบจ้ำตรงไปที่ล็อคเกอร์แล้วหยิบชุดยูนิฟอร์มบันนี่ของตนเองออกมา แล้วก็รีบใส่กระเป๋าสะพายเอาไว้ในล็อคเกอร์ แล้วก็รีบหอบชุดยูนิฟอร์มในมือเดินตรงไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัวทันที เมื่อยืนสำรวจตนเองในกระจกว่าแต่งกายเรียบร้อยดีแล้ว ก็พับเสื้อผ้าที่สวมมาจากบ้าน แล้วนำไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์ของตนเอง
จากนั้นจึงได้รีบไปที่แคนทีนของพนักงานเพื่อกดกาแฟเย็นมาดื่มก่อนสักหน่อยเพื่อเพิ่มพลัง เพราะยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย หยิบแซนวิสที่หั่นเป็นชิ้นที่วางเอาไว้ในถาดที่เป็นสวัสดิการของคาสิโนที่มักจะมีไว้พนักงานหยิบไปกินได้ฟรี และมีคนนำมาเติมเอาไว้ก่อนเวลาที่พนักงานแต่ละกะจะมาเริ่มงานอยู่เสมอ
ลี่หลินหยิบแซนวิสกินไปสามชิ้นเล็ก แล้วก็รีบดื่มกาแฟอย่างรีบด่วน จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำเพื่อสำรวจตัวเองอีกครั้ง แล้วจึงได้ก้าวเข้าไปที่ในห้องโป๊กเกอร์ที่เชื่อมกับห้องรูเล็ต เธอประจำอยู่บริเวณสองห้องนี้ เดินวนไปมา และเดินไปรับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ที่เคาน์เตอร์หากเครื่องดื่มในถาดของตนเองหมดแล้ว
เมื่อเธอมารับถาดเครื่องดื่มของตนเองที่เคาร์เตอร์ บาร์เทนเดอร์ที่อายุมากกว่าเธอประมาณสิบปี และเขานั้นเป็นคนที่อัธยาศัยดีและมักจะชอบเธอคุยกันหากไม่มีแขกที่เคาน์เตอร์มากนัก
“ ลี่หลินเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เกือบจะสายนะ พี่เตรีียมเครื่องดื่มไว้ให้แล้ว ยกไปได้เลย ”
เขาบอกกับเธอ ลี่หลินพยักหน้ารับ ยิ้มให้เขาอย่างสดใส ก่อนจะยกถาดเครื่องดื่มที่วางอยู่บนบาร์ตรงหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มใหญ่ที่หน้าตาดีและมีสาว ๆ แวะเวียนมาทักทายเขาอยู่เสมอ
“ เอ่อนี่รู้หรือยัง เขาพูดกันว่าตอนนี้คาสิโนเปลี่ยนผู้บริหารแล้วนะ ได้ยินว่าบอสคนเก่าของเราขายกิจการให้กับนักธุรกิจจีนคนหนึ่งไปแล้ว ได้ยินว่าเซ็นสัญญากันไปเมื่อวานนี้แล้วนะ และเจ้านายกับคนสนิทของเขาเก็บข้าวของออกไปแล้วเมื่อตอนสาย ๆ นี่เอง แต่ตอนนี้เจ้านายคนใหม่ยังไม่เข้ามานะ ยังไม่ได้เห็นหน้าค่าตาเขาเลย และก็ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบถึงพนักงานอย่างพวกเราไหม ” เขาเอ่ยขึ้นขณะที่ลี่หลินกำลังจะยกถาดไปจากตรงหน้าบาร์
“ อย่างนั้นหรือคะ แต่เราคงจะต้องรอดูไปก่อนว่าเขาจะเป็นอย่างไร ตอนนี้คงจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกคะ ”
ลี่หลินพยายามปลอบใจบาร์เทนเดอร์หนุ่มและก็ตัวเองด้วย ว่างานของพวกเขาจะยังอยู่ดีและไม่มีการลดสวัสดิการหรือเงินเดือนที่ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบ
“ ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น รีบไปเถอะ เดี๋ยววิเวียนจะดุเอา นั่นไงเห็นไหมจ้องมาทางนี้ตาเขียวแล้ว ”
เขาชะโงกหน้าเขามากระซิบ
“ ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ ”
แล้วลี่หลินก็รีบยกถาดขึ้นถือเอาไว้แล้วก็รีบเดินร่อนไปตามส่วนที่ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบเพื่อบริการเครื่องดื่มแก่นักพนันตามโต๊ะต่างๆ
ลี่หลินปัดเรื่องผู้บริหารใหม่ที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มบอกกับเธอไปจากใจ เพราะคิดในแง่ดีว่าไม่น่าจะมีผลอะไรกับพนักระดับล่างที่ยังคงต้องทำงานใช้แรงแลกเงินอย่างเช่นพวกเธอ แล้วก็เดินร่อนไปมาในห้องโป๊กเกอร์บ้าง เฉียดไปที่โซนรูเล็ตบ้าง
เพื่อตามหาแขกประจำที่มักจะทิปเธอมาก ๆ และก็ร่อนไปถามเขาว่าต้องการรับเครื่องดื่มอะไรไหม วันนี้เธอพบกับหนุ่มใหญ่คนหนึ่งที่เคยให้ทิปเธอบ่อย เขาชื่อคุณหวัง และวันนี้เขาดูอารมณ์ดี เมื่อรับเครื่องดื่มไปจากเธอแล้ว เขาก็ส่งชิปให้กับเธอ ลี่หลินรับไว้พร้อมกับยิ้มหวานขอบคุณเขา
บางคนอาจจะคิดว่าบันนี่สาวที่หุ่นเพรียวบางและใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มอย่างเธอนั้นใช้ความสวยงามหลอกล่อแขก และอาจจะรับงานพิเศษนอกเหนือจากงานเสิร์ฟนี้ด้วย แต่ลี่หลินไม่ใช่คนแบบนั้น เธอทำงานเสิร์ฟเพียงอย่างเดียวจริง ๆ แต่ก็มีบ้างที่มีแขกมาเกาะแกะ แต่ก็ยังมีการ์ดที่อยู่ในคาสิโนที่มักจะคอยช่วยดู ๆ ให้บ้าง
เพราะหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ชื่อลุงหว่องนั้นเอ็นดูลี่หลิน และสั่งให้ลูกน้องคอยดูแลลี่หลินในเวลาที่หล่อนทำงานอยู่ในคาสิโนให้ปลอดภัย
ถือว่าเป็นโชคของลี่หลินที่ได้พบคนดีและมีน้ำใจกับเธอ ทำให้เธอสามารถทำงานอยู่ที่คาสิโนแห่งนี้มาได้หลายปี โดยที่ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวกับผู้ชายคนไหนเลย เพราะเธอไม่มีเวลาวัน ๆ ทำแต่งานและก็กลับบ้านนอนอย่างอ่อนแรง
หากเป็นวันหยุดก็มีบ้างที่ขับรถเที่ยวเล่นในเมืองนี้ แวะห้างเพื่อเดินดูข้าวของสวย ๆ งาม ๆ หรือไม่ก็แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อหาข้าวของเข้าบ้าน แวะเดินเล่นตลาดนัดใกล้บ้านที่มีเสื้อผ้าและข้าวของราคาย่อมเยาว์กว่าในห้าง นอกนั้นก็ไม่เคยมีเรื่องอื่น ไม่มีเรื่องผู้ชาย
แม้จะมีคนมาจีบอยู่บ้าง แต่ลี่หลินไม่ได้ชอบพวกเขาถึงกับจะเริ่มเปิดใจรับรักผู้ชายคนไหน นอกจากนั้นก็มีเพื่อนชายที่เป็นเกย์บ้าง รู้จักกันในคาสิโนแต่ทำงานคนละแผนก ชวนกันไปดูหนัง หรือไม่ก็นั่งคาเฟ่คุยกันในวันหยุดบางครั้ง ตั้งแต่อยู่มาเก๊ามาห้าปี ยังไม่เคยได้เดทกับผู้ชายคนไหนเลย และก็ยังไม่อยากจะคิดเรื่องนี้
เพราะหากคิดเรื่องคู่รัก หรือเรื่องความรักขึ้นมาครั้งใด ภาพความหลังที่เคยมีกับใครคนคนหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มักจะปรากฏขึ้นเสมอ และหัวใจของหล่อนก็ยังคงเจ็บปวดกับความรักครั้งเก่าก่อนอยู่มาก จึงยังไม่คิดจะเปิดใจกับใครในเวลานี้ทั้งนั้น
และอาจจะไม่คิดเปิดใจให้ใครอีกเลยก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีชีวิตใหม่นะ เพราะตอนนี้ลี่หลินเริ่มชีวิตใหม่ไปแล้ว ไม่ได้คิดถึงคนใจร้ายคนนั้นเหมือนตอนปีแรก ๆ อีกแล้ว
ความเจ็บปวดที่เกิดความรักครั้งแรกในชีวิตวัยสาวมันค่อย ๆ จางไปทีละน้อยแล้วและลี่หลินหวังว่าในวันหนึ่งเธอจะลืมมันได้หมดสิ้น และพร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้จริง ๆ โดยไม่มีความหลังใด ๆ มารบกวนจิตใจได้อีก
เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปทำงานแล้ว เธอจึงได้เข้าไปอาบน้ำและรีบออกมาแต่งตัวแต่งหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วจึงได้สะพายกระเป๋าใบเก่งออกมาจากห้องพร้อมกับล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วจึงได้ขึ้นรถเก๋งคันเก่าที่ซื้อต่อมาจากเพื่อนพนักงานด้วยกันหลังจากที่ไปทำงานที่คาสิโนได้เพียงสองสามเดือน เพราะไม่อยากจะขึ้นรถประจำทางที่ต้องรอเวลา แถมหากออกจากที่ทำงานช้าไปก็อาจจะพลาดเที่ยวรถทำให้เธอต้องไปรบกวนให้เพื่อนร่วมงานที่พอจะสนิทกัน ให้มาส่ง หรือไม่ก็ต้องเรียกแท็กซี่ที่มีค่าบริการแพง ทำให้รายได้แทบจะไม่เหลือเก็บลี่หลินจึงตัดสินใจซื้อรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันนี้เอาไว้ขับไปทำงานหรือเพื่อออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันหยุดเพื่อความสะดวกและประหยัด หล่อนก้าวขึ้นรถแล้วก็ถอยออกไปจากหน้าห้องพักอย่างรีบด่วน เพราะวันนี้ออกจากห้องพักช้าไปกว่าสิบนาที ทำให้ต้องทำเวลามากกว่าทุกวันเมื่อจอดรถลงที่ลานจอดสำหรับพนักงานแล้ว เธอก็ออกจากรถพร้อมกับล็อครถแล้วก็รีบเดินด้วยความเร่งรีบเข้าไปที่ประตูทางเข้าออกของพนักงาน รีบรูดบัตรเข้างานอย่างโล่งใจที่วันนี้ไม่ได้สายอย่างที่คิด เมื่อเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์แล้วก็มีเสียง
ลี่หลินเดินทางมาที่มาเก๊าทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยมาที่นี่เลย แต่ด้วยมีเพื่อนสมัยเด็กในหมู่บ้านเดียวกัน เดินทางมาทำงานที่นี่และเคยให้ที่อยู่กับเธอไว้ ลี่หลินจึงได้ตัดสินใจเก็บข้าวของเดินทางมาเลย และไปพบเพื่อนเก่าสมัยเด็กตามที่่อยู่นั้น แต่แล้วกลับพบว่าเพื่อนสมัยเด็กคนนั้นได้ย้ายไปแล้วเมื่อสองปีก่อน เพราะพวกเขาขาดการติดต่อกัน ทำให้ลี่หลินแคว้งคว้างนัก ยืนมึนงงอยู่ที่หน้าบ้านเช่าของเพื่อนคนนั้นคนข้างบ้านของเพื่อนนั้นอยู่ ๆ ก็แนะนำกับเธอว่า ให้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์นอกตัวเมืองสักหน่อยจะได้มีราคาถูก และก็เขียนจดหมายให้ลี่หลินไปสมัครงานที่คาสิโนกาแล็คซี่เพราะมีญาติทำงานอยู่ที่นั่น คุณป้าคนนั้นบอกว่า ให้ทำงานที่นี่ไปก่อน ทำได้หรือไม่ได้ยังไง พอเข้าที่เข้าทางแล้วก็ค่อยเปลี่ยนงานใหม่ก็ยังไม่สายลี่หลินเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณป้าผู้อารีคนนั้นเสนอให้กับเธอ ทำให้ลี่หลินตัดสินใจขึ้นรถคันที่คุณป้าติดต่อหาให้เพื่อไปส่งที่ อพาร์ทเม้นท์ที่คุณป้ารู้จักแห่งนั้นทันที เพราะคุณป้าเคยไปเยี่ยมคนรู้จักที่นั่นและคิดว่าน่าจะมีห้องว่างเหลืออยู่ หากพักที่นั่นการเดินทางมาทำงานที่คาสิโนกาแล็คซี่ก็ไม่
หลังจากแต่งงานกันในช่วงแรกลี่หลินมีความสุขมาก เธอกับพี่เฟยหรงนอนกอดกันอยู่บนเตียงในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนมาพร้อม ๆ กัน และเวลาเข้านอนเธอก็ซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของพี่เฟยหรงที่บัดนี้กลายมาเป็นสามีอย่างถูกต้องของเธอแล้ว หลังพวกเขาแต่งงานได้ไม่กี่วัน ลุงเฉินก็เดินทางออกท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ เพราะต้องการไปเยี่ยมญาติมิตรเก่า ๆ ที่อยู่ต่างเมือง เพราะตอนนี้เขาเกษียณจากงานแล้ว ยังเดินเหินได้คล่องแคล่วจึงได้อยากจะไปเยี่ยมญาติมิตรที่อยู่ตามเมืองต่าง ๆ ทั้งในเมืองจีนและที่เมืองไทยบ้าง พี่เฟยหรงก็ไม่ได้ว่าอะไร ดังนั้นลุงเฉินจึงได้ปิดบ้านของเขาทิ้งเอาไว้ และฝากให้คนข้างบ้านช่วยดูแลเพราะเขาจะเดินทางไปหลายแห่งยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับเมื่อใด พอลุงเฉินจากไปแล้ว เพียงไม่นานพี่เฟยหรงก็จากไปบ้าง เพราะเขาต้องออกเดินทางไปทำงานต่างเมืองตามสาขาของบริษัทรวมถึงต่างประเทศอีกด้วย ทำให้ติดต่อกันได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เขาก็ส่งเงินมาให้ใช้ทุก ๆ เดือน ลี่หลินเหงามากหลังจากทั้งสามีและพ่อสามีพากันออกเดินทางไปหมด เธออยู่เพียงลำพังอย่างเงียบเหงา จะมีออกไปนอกบ้านบ้างก็ไปซื้อหาข้าวของ และพูดคุ
รถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ค่อย ๆ แล่นเข้ามาในเขตของอพาร์ทเม้นท์สองชั้นที่ตั้งอยู่นอกเมืองมาเล็กน้อย จนกระทั่งมาหยุดนิ่งสนิทลงที่หน้าห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่ริมสุดของชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์ ลี่หลินดับเครื่องยนต์แล้วก็หันไปคว้ากระเป๋าสะพายใบเก่งที่วางอยู่บนเบาะข้างตัวขึ้นมา แล้วก็เปิดประตูรถด้านข้างของคนขับออกแล้วก็ก้าวลงไป พร้อมกับล็อครถเรียบร้อย แล้วก็เดินไปที่ประตูห้องพักที่อยู่ด้านหน้าของตัวรถ เธอเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่นี่มาได้ห้าปีแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่มาเก๊าและสมัครงานที่คาสิโนชื่อกาแล็คซี่ และก็ทำงานที่นั่นมาได้ถึงห้าปีแล้ว ในตำแหน่งสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่ ที่จะต้องสวมชุดกระต่ายสาวที่มีหูกระต่ายยาว ๆ สีดำสลับขาว รวมถึงผูกโบว์สีดำที่คอเสื้อ สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนกุด ส่วนกางเกงก็แน่นอนว่าสั้นมากแถมยังมีหางกระต่ายสีดำติดที่ก้นอีกด้วย เธอเองก็แทบไม่เชื่อเลยแม้สักนิดว่าตัวเองจะกล้าทำงานนี้แถมยังสามารถทำได้มาจนถึงห้าปีเข้าไปแล้วอีกด้วยลี่หลินมักจะได้ทำงานช่วงกะบ่ายหรือไม่ก็กะดึก ที่ต้องเข้างานช่วงบ่ายสามและเลิกงานเวลาเที่ยงคืน หรือไม่ก็เข้ากะเที่ยงคืนเลิกงานเจ็ดโมงเช้า ที่ลี่หลินไม่ค