LOGINอยู่ ๆ เจ้าของคาสิโนที่ลี่หลินทำงานอยู่ก็ขายกิจการให้ผู้บริหารคนใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้หล่อนตกใจอย่างมากก็เป็นเพราะว่านายใหญ่คนใหม่ของที่นี่กลับกลายเป็นอดีตสามีที่หย่าขาดกันไปได้ห้าปีแล้ว เมื่อได้รับรู้ว่าผู้บริหารคนใหม่คืออดีตสามีหล่อนก็พยายามหลบหน้า เพราะยังลาออกในตอนนี้ไม่ได้ เพราะรายได้ที่มากสำหรับหล่อนรวมถึงเสียดายมิตรภาพของเพื่อนร่วมงาน และอีกอย่างคิดว่าตัวเองทำงานกะบ่ายและดึก จึงคิดว่าจะแลกเวรกับเพื่อนเป็นทำงานกะดึกเพื่อจะหลบหน้าบอสคนใหม่ อีกอย่างนางเอกเป็นพนักงานระดับล่าง เจ้านายใหญ่ก็คงไม่ได้สนใจ ทำให้นางเอกคิดว่าจะทนทำงานที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะหางานใหม่ที่คิดว่าจะทำได้รอดได้ เกมส์แมวจับหนูและหนูวิ่งโกยอ้าวหนีแมวก็เริ่มต้น มาเอาใจช่วยสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่แสนสวยไปด้วยกันนะคะ
View Moreรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ค่อย ๆ แล่นเข้ามาในเขตของอพาร์ทเม้นท์สองชั้นที่ตั้งอยู่นอกเมืองมาเล็กน้อย จนกระทั่งมาหยุดนิ่งสนิทลงที่หน้าห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่ริมสุดของชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์
ลี่หลินดับเครื่องยนต์แล้วก็หันไปคว้ากระเป๋าสะพายใบเก่งที่วางอยู่บนเบาะข้างตัวขึ้นมา แล้วก็เปิดประตูรถด้านข้างของคนขับออกแล้วก็ก้าวลงไป พร้อมกับล็อครถเรียบร้อย แล้วก็เดินไปที่ประตูห้องพักที่อยู่ด้านหน้าของตัวรถ
เธอเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่นี่มาได้ห้าปีแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่มาเก๊าและสมัครงานที่คาสิโนชื่อกาแล็คซี่ และก็ทำงานที่นั่นมาได้ถึงห้าปีแล้ว ในตำแหน่งสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่ ที่จะต้องสวมชุดกระต่ายสาวที่มีหูกระต่ายยาว ๆ สีดำสลับขาว รวมถึงผูกโบว์สีดำที่คอเสื้อ สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนกุด ส่วนกางเกงก็แน่นอนว่าสั้นมากแถมยังมีหางกระต่ายสีดำติดที่ก้นอีกด้วย เธอเองก็แทบไม่เชื่อเลยแม้สักนิดว่าตัวเองจะกล้าทำงานนี้แถมยังสามารถทำได้มาจนถึงห้าปีเข้าไปแล้วอีกด้วย
ลี่หลินมักจะได้ทำงานช่วงกะบ่ายหรือไม่ก็กะดึก ที่ต้องเข้างานช่วงบ่ายสามและเลิกงานเวลาเที่ยงคืน หรือไม่ก็เข้ากะเที่ยงคืนเลิกงานเจ็ดโมงเช้า ที่ลี่หลินไม่คิดจะเปลี่ยนงานทั้ง ๆ ที่เริ่มตั้งหลักและเริ่มจะเคยชินกับการใช้ชีวิตในเมืองแห่งนี้แล้ว ก็เพราะเธอไม่ชอบทำงานประจำ เช่นงานในออฟฟิศในตำแหน่งพนักงานระดับล่างสุดหรืองานในพวกร้านสะดวกซื้อ เพราะว่ามันจำเจซ้ำซาก แต่งานเสิร์ฟในชุดบันนี่นี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จำเจซ้ำซาก
แต่ถึงแม้จะจำเจซ้ำซากไม่ต่างกันมากนัก แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ได้เงินดีกว่า เพราะมักจะได้ทิปจากแขกที่เธอเดินถือถาดร่อนไปมาเพื่อบริการเครื่องดื่มให้กับพวกเขาในห้องโถงขนาดใหญ่นั้น ไม่ว่าจะเป็นห้องโป๊กเกอร์ที่มีนักพนันเล่นโป๊กเกอร์อยู่ตามโต๊ะพนันขนาดใหญ่ ที่มีจำนวนมากมายหลายสิบโต๊ะด้วยกัน
หรือไม่ก็เป็นห้องเล่นการพนันอื่น ๆ เช่น เกมรูเล็ตที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นเกมส์ลูกเหล็กที่ปล่อยให้วิ่งไปวงล้อ และหากลูกเหล็กตกที่สีไหนเบอร์อะไรก็รับเงินรางวัลไปได้เลย หรือไม่ก็ห้องด้านนอกที่เชื่อมต่อกันก็มีตู้สล๊อตแมชชีนตั้งเอาไว้เป็นจำนวนมากเพื่อบริการนักเล่นพนันตั้งแต่ปากทางเข้ามายังคาสิโนที่เชื่อมต่อกับบริเวณโรงแรม ที่เป็นส่วนของแผนกต้อนรับของโรงแรมที่สร้างอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน เพียงแต่ส่วนด้านหน้าเป็นพื้นที่ของโรงแรมหรูระดับห้าดาว
ถัดเข้ามาด้านในและมีความยาวจรดด้านหลังและกินพื้นที่ส่วนมากของพื้นที่ด้านล่างของอาคารไปจนแทบจะเต็มพื้นที่คือส่วนของคาสิโนขนาดใหญ่ที่มีทางเข้าด้านหน้าฟากหนึ่งเป็นที่ตั้งของตู้สล็อตจำนวนมาก อีกฟากหนึ่งเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟและคาเฟ่ยี่ห้องดังหลายยี่ห้อด้วยกัน ทั้งมีร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรูหลายแบรนด์ ทั้งร้านรองเท้า ร้านเครื่องเพชร ร้านนาฬิกาหรู ร้านขายที่มีตู้เอทีเอ็มของแทบทุกธนาคารตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า รวมถึงร้านมือถือยี่ห้อดังก็มีด้วยเช่นกัน
แต่สำหรับพนักงานระดับล่างเช่นลี่หลินนั้นไม่เคยได้เข้ามาทำงานทางประตูใหญ่ด้านหน้าโรงแรมกับเขาหรอก เพียงแต่เธอเคยมาเดินเล่นบริเวณนั้นในวันว่าง ๆ เพื่อสำรวจดูส่วนของด้านหน้าคาสิโนที่ตัวเองทำงานเท่านั้น แต่เวลามาทำงานจริง ๆ นั้น เธอมักจะจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านหลังที่เป็นส่วนของพนักงาน และมีประตูทางเข้าที่เป็นประตูเล็กที่เป็นทางเข้าออกสำหรับพนักงานของคาสิโนและโรงแรมที่ลี่หลินทำงานอยู่
เมื่อเปิดประตูห้องพักเข้าไป เธอก็รีบปิดมันลงทันทีเพราะอากาศเย็นด้านนอก และความเหนื่อยล้ามากมายหลังจากเลิกงานที่ต้องเดินวนเวียนไปมาแทบจะตลอดเวลางาน ไม่ค่อยจะได้นั่งพัก จะมีเวลานั่งพาขาจริง ๆ ก็เมื่อเวลาพักหนึ่งชั่วโมงในช่วงเบรคพักทานข้าวเท่านั้นเอง
แต่สิ่งที่ดีอีกอย่างของการเป็นพนักงานคาสิโนก็คือ อาหารฟรีและเครื่องดื่มฟรี ส่วนมากเธอมักจะไปกินกาแฟเย็นรสชาติอร่อยที่ทำงาน เพราะมีบริการตู้กดกาแฟ ชา หรือไม่ก็เครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ฟรี ช่วงพักกลางวันก็ไปกินอาหารที่ห้องอาหารของพนักงาน
อาหารนั้นก็แล้วแต่ว่าโรงครัวจะทำเมนูอะไรในแต่ละวัน แต่รสชาติของอาหารในห้องอาหารสำหรับพนักงานของที่นี่ก็ไม่ได้แย่นัก ซึ่งลี่หลินก็ไม่มีปัญหาใด เธอปรับตัวให้เป็นคนอยู่ง่ายกินง่ายได้อยู่แล้ว
เพราะตอนนี้ลี่หลินนั้นเหลือเพียงตัวคนเดียวในโลกใบนี้ พ่อของเธอที่เป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็จากไปได้เกือบจะหกปีแล้ว หลังจากนั้นเธอก็แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อที่มีชื่อว่าเฉินเฟยหรง เขาทำงานในบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้ถามรายละเอียดเกี่ยวกับงานเขามากมายนัก
เขาเคยบอกเพียงว่าเกี่ยวกับเรื่องการเงิน แต่ว่าชีวิตคู่ของทั้งสองก็ดำเนินมาได้ไม่ถึงปีก็มีอันต้องจบสิ้นลง ขณะนั้นเธอมีวัยเพียงแค่สิบแปดปี ถือว่ายังเด็กมาก ยังไม่เข้าใจชีีวิตมากมายนัก และยังเอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างมาก
ส่วนเฟยหรงมีวัยที่แก่กว่าเธอเกือบแปดปี เขาอายุยี่สิบเจ็ดปีในขณะที่แต่งงานกับเธอ สาเหตุที่เขาแต่งงานกับเธอในเวลาไม่นานหลังจากที่พ่อของลี่หลินเสียนั้น อาจเป็นเพราะความสงสาร ลี่หลินคิดเช่นนั้น เขาสงสารที่เธอโดดเดี่ยวและยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสีย
ในเมื่อเขาและเธอก็เคยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่วัยเด็ก แต่มาห่างเหินไปก็เพราะเขานั้นไปเรียนหนังสือที่ฮ่องกง ส่วนเธอนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับพ่อของเธอในหมู่บ้านที่ใกล้กับบ้านของคุณพ่อของเฟยหรง
เฟยหรงกลับมาเยี่ยมพ่อเมื่อตอนที่เขาเรียนจบและทำงานแล้ว และก็ได้มาเยี่ยมที่บ้านของลี่หลินกับพ่อของเขาด้วย และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี พ่อของลี่หลินเสียด้วยอุบัติเหตุและจากไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน คุณลุงเฉินพ่อของเฟย หรงเป็นธุระช่วยจัดการงานศพให้กับพ่อของลี่หลิน
รวมถึงวิ่งวุ่นช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่องด้วยกัน เฟยหรงเองก็คอยช่วยด้วย และคอยอยู่เป็นเพื่อนและปลอบใจเธอที่ร้องไห้และทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่เคยเผชิญกับเรื่องพวกนี้มาก่อน และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ลี่หลินเอาแต่ร้องไห้และสมองก็เบลอไปหมด
ทุกอย่างถูกจัดการโดยคุณลุงเฉินและพี่เฟยหรงของเธอ และเมื่อทุก ๆ อย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว ลี่หลินก็เหลืออยู่ตัวคนเดียวภายในบ้านและเอาแต่เก็บตัวเงียบ เพราะเธอไม่อยากจะพบใคร และยังทำใจไม่ได้ดีนัก เธอเรียนจบเพียงมัธยมปลายและยังไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยพ่อก็มาจากไปเสียก่อน ลี่หลินจึงไม่มีอารมณ์จะคิดอ่านเรื่องอนาคตใด ๆ ในตอนนี้ทั้งสิ้น
และเมื่อเฟยหรงเห็นความเศร้าโศกและว้าเหว่ของลี่หลิน เขาจึงได้ตัดสินใจขอเธอแต่งงานหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนในการที่เขาไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านเขากับบ้านของลี่หลินด้วยความเป็นห่วง
ลุงเฉินไม่ได้ขัดข้องใด ๆ เพราะพี่เฟยหรงนั้นอายุแก่กว่าเธอเกือบจะแปดปีย่อมมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ และสามารถตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเองได้
เมื่อลุงเฉินไม่ขัดข้อง การแต่งงานเรียบง่ายและเชิญเพียงคนรู้จักไม่กี่คนมาร่วมพิธีแต่งงานเล็ก ๆ พร้อมกับจดทะเบียนสมรสก็เกิดขึ้น ในที่สุดลี่หลินก็กลายเป็นคุณนายเฉิน ภรรยาของพี่เฟยหรง และเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่กับเธอที่บ้านของเธอ เพราะไม่อยากจะปิดบ้านหลังนี้ทิ้งเอาไว้ ลุงเฉินก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายินดีเพราะเอ็นดูลี่หลินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หลังจากนั้นชีวิตของลี่หลินอดีตสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่สาวแสนสวยก็กลายเป็นเพียงอดีต เพราะสามีที่เป็นเจ้าของโรงแรมและคาสิโนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้หล่อนสวมชุดบันนี่สาวเดินถือถาดร่อนไปมาอวดรูปร่างแบบนั้นอีกแล้ว ที่แล้วมาเขาถือว่าแล้วไป แต่หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้นอีกแล้ว เพราะเขากำลังจะหางานให้หล่อนทำ นั่นก็คือเป็นแม่ของลูกเขาหล่อนจะได้วุ่นจนไม่มีเวลามาอ้อนวอนของงานเขาทำอีก ขนาดเขาให้เครดิตการ์ดหล่อนไปรูดเพื่อจะช็อปปิ้งอะไรก็ได้ที่หล่อนอยากได้ เขาให้หล่อนไปเลือกมา หากไม่มีให้สั่งที่ช็อปด้านล่างให้พวกเขาจัดการให้ แล้วเมื่อได้แล้วก็ให้นำมาส่งให้ถึงบนห้อง ร้านสปาในโรงแรมนี้ก็มี เขาให้หล่อนไปใช้เวลาที่นั่นได้ตามใจหล่อน เพราะที่โรงแรมมีสปาเป็นของตัวเอง แต่อันที่จริงก็มีทุก ๆ อย่าง พร้อมสรรพในโรงแรมแห่งนี้ที่แทบจะกลายเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม ไม่ว่าเมียของเขาต้องการสิ่งใด เขาพร้อมจะนำมาประเคนให้กับหล่อนทั้งนั้น หล่อนก็ยังมีเวลาว่างคิดจะหางานทำเพิ่มอีก จนเขาอยากจะตีก้นงอน ๆ ของคนดื้อนั่นสักหลาย ๆ ทีดังนั้นระหว่างรอลูกมาเกิด ลี่หลินจึงได้ลงเรียนคอร์สทำอาหารและขนมต่าง ที่สามีให้เชฟในโรงแรมผลัดกันมา
“ลี่เอ๋อรักพี่เฟยหรงค่ะ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย” ใบหน้าหล่อคมเชยคางมนของลี่หลินให้สบตากัน “พี่ก็รักเธอ ที่รัก ต่อไปเราจะใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนผัวเมียอย่างเมื่อก่อน ไม่ต้องสนใจใคร เธอเป็นเมียพี่ เมียเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่าไปฟังใคร นอกจากพี่ที่เป็นสามีของเธอเท่านั้น จำเอาไว้ และครั้งนี้เราจะไม่แยกจากกันอีก”ลี่หลินเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของสามีหนุ่ม “ที่รักคะ แล้วเรื่องที่จะหมั้นกับคุณลินดาคนนั้นล่ะ ที่รักจะทำยังไงต่อไปคะ” ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังไม่ตอบคำถามใด ๆ แต่กลับจูบแก้มนวลฟอดใหญ่“ที่รัก เราเป็นผัวเมียกันแล้ว พี่จะดูแลเธออย่างดี ส่วนเรื่องของลินดาพี่จะจัดการเอง พี่ไม่ได้รักลินดา เพียงแต่เอ็นดูเห็นหล่อนเป็นเพียงน้องสาว เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว หากพี่รักลินดาพี่ก็คงจะแต่งงานกับเธอไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมานานถึงขนาดนี้หรอก รู้ไหม……ตั้งแต่เราแยกกันพี่นอนไม่ค่อยหลับเลย ลี่เอ๋อ ต่อไปต้องอยู่กับพี่นะ เราจะเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของเราอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณหยางหรือเรื่องของลินดาทั้งนั้น พี่จะบอกพวกเขาเองว่าพี่มีเมียแล้ว ยังไม่ได้หย่าขาดกัน ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว และเมียพี่กำลังท้
เมื่อจูบใบหน้าหวานของลี่หลินจนพอใจแล้ว จึงซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องอย่างเมามัน ขบเม้มทำรอยเอาไว้เหนือคอเสื้อที่เห็นได้ชัดเจน แล้วไล้เลียร่องอกอวบของหล่อนที่มันมองเห็นรำไร“ลี่เอ๋อ ชุดนี้คอเสื้อมันกว้างไปนะ โชว์ร่องอกทำไม ผัวหวง วันหลังอย่าใส่ชุดนี้อีก นมแทบจะปลิ้นออกมาทั้งเต้าแล้วรู้ไหม "เขาเงยหน้าจ้องมองใบหน้าหวานที่ปรือตาหรี่ลงเพราะถูกเขาจู่โจมจนเคลิบเคลิ้มไปหมด ผู้บริหารหนุ่มก้มลงช้อนร่างอ่อนระทวยของเมียรัก เดินดุ่มเข้าไปในห้องนอนเล็กของหล่อน แล้ววางร่างอวบลงนอนราบบนฟูกนุ่มด้านหลังของทั้งสอง แล้วถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนร่างล่ำสันเปลือยเปล่า แล้วก้าวขึ้นไปบนเตียงหนาแล้วก็ลงมือถอดเสื้อผ้าของลี่หลินออกจนหมดอย่างช่ำชอง ชุดลำลองสีครีมของหล่อนเป็นผ้ายืดเนื้อนุ่มผ้าบางเบาจึงถอดออกได้อย่างง่ายดายนัก เหลือเพียงบราเซียเกาะอกและชั้นในตัวเล็กจิ๋วที่ดูเซ็กซี่เหลือเกิน มันโปร่งบางจนเห็นเนินอวบและแถมยังเป็นจีสตริงอีกด้วย ชุดชั้นในใหม่เซ็กซี่อย่างนี้เลยหรือคงจะเป็นชุดที่เขาสั่งให้มาส่งให้หล่อนบนห้องเมื่อวันก่อน แต่เสียใจ ชุดเซ็กซี่แค่ไหนก็มีแค่ผัวเก่าคนนี้ที่จะได้เห็น ไม่มีทางได้ใส่ไปโชว์ให้ใครเห็นได
" ใครบอกคุณว่าผมจะแต่งงานกับลินดา จริงอยู่ คุณหยางเขาต้องการอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้ต้องการด้วย ผมเอ็นดูลินดาเหมือนน้องสาว แต่ไม่ใช่แบบคนรัก แล้วจะแต่งงานกับเขาได้อย่างไร ใครบอกคุณว่าผมจะแต่งงานกับเขา ผมยังไม่ได้หย่าเมีย แล้วจะแต่งงานซ้อนได้อย่างไร”เขาบอกกับลี่หลินอย่างหน้าตายแต่เธอไม่อยากจะเชื่อเขาหรอก เดินควงแขนกันร่อนไปมา ทำท่าเหมือนคู่รักที่สวีทหวานกันขนาดนั้น แล้วจะบอกว่ารักเหมือนน้องสาว ใครเชื่อก็โง่แล้ว“นั่นเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่อยากจะรับรู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันกับคุณหย่าขาดกันมาห้าปีแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน และตอนนี้ฉันเป็นโสด ไม่มีสามี เอาละ คุณออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว ฉันลาออกจากงานที่โรงแรมของคุณแล้ว ไม่ได้เป็นพนักงานที่นั่นอีก เพราะฉะนั้นอย่ามาออกคำสั่งอะไรกับฉันและก็ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว แต่ฉันไม่ได้เกลียดคุณนะคะ ยังเคารพคุณเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเพราะคุณก็เคยดีกับฉัน ฉันขอเพียงให้เราจากกันด้วยดี หากมีโอกาสพบกันวันหน้าเราก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันได้อีก”ลี่หลินบอกกับเขาแล้วก็พยายามแกะมือหนาของเขาออกไปจากเอวของหล่อนเฟยหรงชักจะโมโหขึ้นมาอีกแล้ว เพราะเมียที่ง้ออยากง้อเย็น แถม