LOGINลี่ิหลินเดินบริการเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เธอจึงได้เตรียมจะไปเก็บถาดเครื่องดื่มที่บาร์ตรงมุมห้อง แล้วก็จะได้ออกไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะได้กลับบ้านเสียที เพราะวันนี้เดินขาขวิดไปมาจนร่างแทบจะหลุดออกจากกันอยู่แล้ว วันนี้แขกมากเหลือเกิน เนื่องจากเป็นวันหยุดที่ติดกันสามวัน และเธอจะเหน็ดเหนื่อยอย่างนี้ไปอีกสองวันเต็ม ๆ จึงจะได้มีเวลานั่งพักขาบ้าง หรือแวะไปตรงนั้นตรงนี้เพื่อกินอะไรรองท้องได้บ้าง
“ ลี่หลิน เจอเธอพอดี รับถาดนี้ไปจากฉัน แล้วยกขึ้นไปที่ชั้นผู้บริหารนะ บอสคนใหม่เข้ามาตรวจรับงานแล้ว ข้างบนโทรมาสั่งเครื่องดื่ม เธอช่วยยกขึ้นไปส่งให้พวกเขาที แล้วค่อยกลับบ้านหลังจากนั้นนะ ”
หัวหน้าฟลอร์ของลี่หลินเดินตรงมาหาพร้อมกับออกคำสั่ง และแน่นอนว่าลี่หลินย่อมจะปฏิเสธไม่ได้ จำต้องแลกเปลี่ยนถาดของตัวเองกับถาดใบใหญ่ของหัวหน้าฟลอร์ที่ยื่นมาให้กับเธอ แล้วลี่หลินก็จำต้องเดินมุ่งหน้าออกไปที่ลิฟท์ด้านนอก เพื่อจะนำเครื่องดื่มขึ้นไปส่งให้บอสคนใหม่ที่ชั้นผู้บริหาร
ขณะที่เธอกำลังจะก้าวเดินออกจากลิฟท์ทั่วไปที่สามารถขึ้นไปถึงชั้นผู้บริหารได้ แต่อยู่ ๆ ลิฟท์อีกด้านหนึ่งที่เป็นลิฟท์สำหรับผู้บริหารก็เปิดออก ทำให้เธอหยุดชะงักฝีเท้าเอาไว้ก่อน เพราะไม่อยากจะเดินตัดหน้าขบวนของเจ้านายใหม่ที่กำลังพากันก้าวออกจากลิฟท์
เพราะเธอเห็นผู้จัดการใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง เดินตามหลังผู้ชายคนหนึ่งที่ดูคุ้นตามาก แต่เธอก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหน ผู้จัดการใหญ่เดินตามหลังเขาและดูพินอบพิเทามาก นั่นย่อมหมายความว่าผู้ชายคนนี้คือเจ้านายคนใหม่ของที่นี่แน่ ๆ เธอค่อยเดินตามหลังพวกเขาไปช้าๆ โดยที่พยายามไม่ทำเสียงดังให้พวกเขาหันมาเห็นเข้าได้
แต่ขณะที่มีคนติดตามคนหนึ่งเปิดประตูออกกว้าง เพื่อให้เจ้านายใหม่ก้าวเข้าไปก่อนนั้น เธอเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขา และแม้ว่าวันนี้เขาจะแต่งตัวด้วยชุดสูทหรูหรา ไม่ใช่เสื้อผ้าแบบเรียบง่ายหรือชุดลำลองที่เธอคุ้นตาก็ตาม แต่เธอจดจำเขาได้แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างก็ตาม
เพราะเจ้านายใหม่ที่เธอเข้าใจว่าน่าจะใช่นั้น คือ เฉินเฟยหรง อดีตสามีของเธอ ที่หย่ากันแล้ว เพราะเธอลงนามในหนังสือหย่าและส่งไปให้เขาทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนที่จะออกเดินทางมาที่มาเก๊าแล้ว และแน่ใจว่าเขาได้รับแล้ว เพราะหลังจากนั้นเขาไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีเธออีกเลย เธอจึงคิดว่าการหย่าของพวกเขานั้นสามีรับรู้ และพวกเขานั้นเป็นอิสระต่อกันแล้ว
ลี่หลินหยุดชะงักอยู่กับที่ยังไม่กล้าก้าวเดินต่อไป เธอหยุดยืนอยู่กลางทางเดินที่มีพรมผืนหนาปูไปตลอดแนว เพื่อหยุดคิดปลอบใจตัวเองในแง่ดีว่า เธออาจจะตาฝาดไปจนจำคนผิดก็เป็นได้ เพราะเธอเองมองจากระยะไกลอาจจะทำให้มองผิดไป คนเราบางครั้งอาจจะมีความคล้ายกันมาก คล้ายจนทักคนผิดก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ เธอคิดว่าเธอเองก็อาจจะจำคนผิดก็ได้
เฉินเฟยหรงจะมากลายเป็นเจ้าพ่อบ่อนคาสิโนและโรงแรมห้าดาวอย่างนี้ได้อย่างไรกัน ไม่น่าจะใช่ เขาเป็นแค่เพียงพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ต้องเดินทางติดต่องานกับบริษัทอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น และก็ไม่ได้ร่ำรวยมากถึงขนาดจะซื้อกิจการคาสิโนรวมถึงโรงแรมห้าดาวใหญ่โตขนาดนี้ได้หรอก เธอเองคงจะดูหนังมากไป
ลี่หลินตำหนิตัวเอง แล้วส่ายศีรษะไล่ความฟุ้งซ่านออกไป แล้วก็เดินมุ่งหน้ายกถาดเครื่องดื่มตรงไปที่ห้องที่เธอเพิ่งจะเห็นพวกเขาลับหายเข้าไปในนั้น เมื่อไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องแล้ว เธอก็ยกมือขึ้นเคาะประตู เพียงไม่นานก็มีคนติดตามคนเดียวกับที่เปิดประตูให้เจ้านายใหญ่ก้าวเข้าไปในห้องนั่นแหละมาเปิดประตูรับเธอ เธอยิ้มให้เขาแล้วยื่นถาดใบใหญ่ในมือให้กับเขา
“ เครื่องดื่มมาแล้วค่ะ ”
เขาเพียงพยักหน้าให้เธอแล้ว รับเครื่องดื่มไปจากมือเธอ แล้วประตูก็ปิดลงตามเดิม
“ นั่นไง ไม่เห็นจะมีอะไร เธอคิดมากไปเองน่า ”
ลี่หลินบอกกับตัวเองอย่างสบายใจขึ้น แล้วก็เดินด้วยความร่าเริงไปที่ลิฟท์เพื่อจะได้ลงไปชั้นล่างแล้วเตรียมตัวกลับบ้านเสียที วันนี้เหนื่อยมากแล้ว
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พนักงานกะเดียวกันก็ทะยอยกลับกันจนจะหมดแล้ว
“ ไปกินอะไรด้วยกันสักหน่อยไหม ลี่หลิน ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง
เขาอีกแล้วซานฉีคนเดิม ลี่หลินเปิดประตูรถ แล้วโยนกระเป๋าสะพายเข้าไปที่เบาะข้างคนขับ
” ไม่ล่ะค่ะ วันนี้เหนื่อยมากเลย ไว้วันหลังนะคะ ค่อยนัดกัน "
ลี่หลินบอกเขาไปตามมารยาทเช่นเคย แต่ก็ยังไม่เคยไปกับเขาเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่แน่นะ วันหนึ่งหากเธอพร้อมก็อาจจะรับคำชวนเขาดูสักครั้งก็เป็นได้ ลี่หลินโบกมือให้กับเขาพร้อมกับมุดเข้ารถแล้วเพียงไม่นานก็ขับออกไปจากที่จอด ทิ้งให้ผู้ชายร่างสูงที่ก็รูปร่างหน้าตาดีไม่น้อย ยืนจ้องมองรถคันเล็กของเธอไปจนลับตา
และเมื่อรถคันเล็กถึงหน้าห้องพัก กิจวัตรประจำวันของเธอก็ดำเนินไปทุกอย่างเหมือนเช่นเคยที่ผ่านมาหลายปีแล้ว
ด้านเฉินเฟยหรงผู้บริหารคนใหม่ของคาสิโนกาแล็คซี่ เขากำลังนั่งดูกล้องวงจรปิดเพื่อเช็คความเป็นไปในคาสิโนภายในห้องต่าง ๆ รวมถึงห้องเล่นสล็อตที่ด้านหน้าโรงแรมด้วย
เพราะในห้องผู้บริหารของเขา มีจอมอนิเตอร์ติดตั้งเอาไว้หลายตัวด้วยกัน ไว้เพื่อสอดส่องความเป็นไปในบ่อนคาสิโนนี้ กล้องวงจรปิดนั้นมีติดตั้งเอาไว้จนทั่ว ไม่มีที่ใดที่ไม่มีกล้องวงจรปิดซุกซ่อนเอาไว้
ในคาสิโนแห่งนี้ มีห้องควบคุมที่มีเจ้าหน้าที่นั่งตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในและรอบ ๆ ตัวอาคารของโรงแรมและคาสิโนอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว และในห้องผู้บริหารก็มีเช่นกัน
หากมีความผิดปกติเช่นนักพนันเล่นกลโกงใด ๆ ก็ตาม ก็จะมีคนแจ้งให้บอสใหญ่ทราบและเขาก็สามารถดูเหตุการ์ได้จากในห้องทำงานของเขาได้เลย ไม่ต้องเดินไปที่ห้องควบคุมให้เสียวเวลาอีก
บ่ายวันนี้เขากำลังนั่งจ้องมองกล้องวงจรปิดในห้องเล่นโป๊กเกอร์อยู่ และเพียงไม่นานเขาก็รู้สึกว่ามีพนักงานเสิร์ฟในชุดบันนี่สาวสีดำที่มีหางกระต่ายติดอยู่ที่ก้นของหล่อนนั้น รู้สึกว่าคุ้น ๆ ตาอย่างบอกไม่ถูก หล่อนเหมือนใครบางคน แต่ตอนนี้เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะจำคนผิดไปหรือไม่
เขารีบลุกจากจากเก้าอี้ที่นัั่งเอนกายพิงอยู่ตามสบาย เพื่อมาใกล้ ๆ จอมอนิเตอร์เพื่อจ้องมองผู้หญิงคนนั้นให้ชัด แต่แล้วหล่อนกลับหมุนตัวออกไปจากห้อง หล่อนไปไหน เขายกนาฬิกาขึ้นดู เขาไม่รู้ว่าหล่อนทำงานอยู่กะไหน หรือว่าหล่อนจะออกไปเข้าห้องน้ำ
ผู้บริหารหนุ่มเริ่มร้อนรน ตามเช็ควงจรปิดจนทั่วแต่ก็ยังไม่พบผู้หญิงคนนั้น หล่อนไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนกัน ทำไมเขาพยายามหาจนทั่วก็ยังไม่เห็น หรือว่าเขาจะตาฝาดไป เขาเปลี่ยนกลับมาดูกล้องในห้องโป๊กเกอร์อีกครั้ง
มีสาวบันนี่เดินมาอีกแล้ว แต่เมื่อมองชัด ๆ กลับไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ ๆ เขาคงจะคิดถึงหล่อนมากไป มากจนเที่ยวเห็นคนโน้นคนนี้เป็นหล่อนไปหมด ผู้บริหารหนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ
วันต่อมา เฟยหรงเรียกผู้จัดการใหญ่ที่คุมส่วนของคาสิโนมาสอบถามและให้ไปสืบมาจากใครก็ได้ที่รู้เรื่องของพนักงานสาวเสิร์ฟคนนั้นมากที่สุด แล้วให้มารายงานเขา ผู้จัดการแปลกใจ แต่ก็คิดไปว่าหรือว่านายใหญ่จะสนใจสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่สาวเข้าแล้ว เขาไม่กล้าถามให้มากความ ได้แต่รับคำแล้วก็ลงมาจัดการให้ตามคำสั่งของนายใหญ่ เพราะนายใหญ่อยากได้ผู้หญิงคนไหน เขาก็ต้องจัดการให้ได้ตอนเที่ยงคืนคืนนั้น ร่างสูงสง่าในชุดสูทที่บัดนี้ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อกั๊กสีเข้ากันกับชุดตัวใน ที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตออกแล้ว เพราะเขานั่งดื่มบรั่นดีอยู่ในห้องมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว หลังจากที่เข้ามาอยู่ในห้องนอนของเขาบนชั้นสูงสุดของโรงแรมที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องทำงาน เพราะบนชั้นสูงสุดของโรงแรมแอนด์คาสิโนแห่งนี้ บนชั้นสูงสุดทั้งชั้นนั้นเป็นพื้นที่ของเขาทั้งชั้น แบ่งเป็นฟากหนึ่งเป็นห้องนอน อีกฟากเป็นห้องทำงาน และมีประตูลับที่ทำเป็นพิเศษมีเขาเพียงคนเดียวที่มีรหัสประตูที่เชื่อมต่อกัน ตอนนี้เขาเข้ามาอยู่ในห้องนอนของตัวเองที่อยู่ส่วนด้านหลัง ที่เมื่อมายืนอยู่ในห้องรับแขกห้องใหญ่ของเขา แล้วไปยืนอยู่ที่ผนังกระจก
เมื่อจอดรถที่ชั้นจอดรถของห้างแล้ว ก็พากันเดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่มีโรงหนัง เพื่อจะไปดูโปรแกรมหนังว่ามีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้าง เมื่อทั้งสองเลือกหนังที่ต้องการจะดูพร้อมกับรอบหนังแล้ว ซานฉีก็เข้าไปจองตั๋วแล้วบอกให้ลี่หลินไปนั่งรอที่โซฟาที่ริมทางเดินรอเขา ลี่หลินจึงได้เดินไปนั่งรอตามที่เขาบอกระหว่างที่รอซานฉีไปจองตั๋วนั้น เธอก็หันมองไปมารอบ ๆ แล้วสายตาเจ้ากรรมของเธอก็พลันสบเข้ากับร่างสูงสง่าที่คุ้นตาในชุดลำลอง เขาควงคู่มากับผู้หญิงคนเดิมที่เธอเคยเห็นมาสองครั้งแล้ว ผู้หญิงคนใหม่ของเขา หรือไม่ก็อาจจะเป็นภรรยาคนใหม่ของเขา วันนี้สองคนนั้นเดินมาพร้อมกับบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำที่เดินตามหลังมาเพียงแค่สองคนพวกเขาเดินมุ่งไปที่บันไดเลื่อนเพื่อจะขึ้นไปที่โรงหนังที่อยู่ชั้นบน โดยไม่ได้เดินมาที่บริเวณที่จะซื้อตั๋วหนัง อาจเพราะจองตั๋วเอาไว้แล้ว ลี่หลินเห็นบอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินแยกไปซื้อน้ำอัดลมกับป็อปคอร์นแล้วเดินตามหลังพวกเขาขึ้นบันไดเลื่อนไป ลี่หลินเบือนหน้าไปทางอื่น ตอนนี้เธอคิดว่าเธอคงไม่ต้องหลบหน้าหลบตาเขาแล้วเขาจำเธอไม่ได้ หรืออาจจะไม่คิดจะจดจำเลยก็เป็นได้ เธออาจจะสำคัญตัวผิดไป ว่าผู้หญิงจน ๆ ตัว
ซานฉีก็เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง เขามีความคล้ายพระเอกหนังฮ่องกงคนหนึ่ง เขามีผิวสองสีออกไปทางขาว เป็นคนร่าเริงสนุกสนานและที่สำคัญดูเขาจริงจังในการจีบเธออย่างมากเวลาผ่านมาเกือบจะสองปีแล้วก็ยังมุ่งมั่นเช่นเคย ชวนเธอไปนั่นมานี้หลายครั้งแล้ว แต่ลี่หลินไม่เคยรับปากเขาสักครั้ง ครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะภาพที่เธอเห็นเมื่อกลางวันนี้ก็เป็นได้ ที่ทำให้ลี่หลินตัดสินใจรับนัดซานฉีที่โทรมาพอดีบางทีการมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตบ้าง ก็จะทำให้เราไม่หมกมุ่นกับเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้วได้บ้าง เพราะไหน ๆ เธอก็ตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นขีวิตใหม่แล้ว ก็ควรลองเปิดใจคบหาคนอื่นๆ ให้สนิทสนมมากกว่าที่ผ่านมาดูบ้างวันต่อมาลี่หลินก็มาเริ่มงานในคาสิโนเช่นเคย หลังจากพักเบรคทานอาหารแล้ว เธอก็มาเดินถือถาดเครื่องดื่มร่อนไปมาในห้องโป๊กเกอร์ดังเช่นเคย เดินผ่านโต๊ะที่ซานฉีทำงานอยู่ เขาก็หันมาร้องทักทายเธอพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ทำให้ลี่หลินอดจะยิ้มตอบเขาไม่ได้ แล้วก็เดินร่อนถาดเครื่องดื่มต่อไป ขณะที่เธอกำลังเดินไปมาอยู่นั้นอยู่เธอก็เห็นขบวนเล็ก ๆ ของผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของที่นี่ คนที่เธอพยายามเหลือเกินที่จะหลบหน้าแต่วันนี้เขาเดินม
เมื่อเสร็จธุระที่ตั้งใจไว้แล้ว เธอกำลังจะเดินไปที่บันไดเลื่อนเพื่อจะลงไปชั้นล่าง และคิดว่าจะแวะซุปเปอร์สักหน่อยก่อนจะกลับบ้าน สายตาของเธอก็พลันมองไปเห็นคน ๆ นั้นอีกแล้ว วันนี้เขาแต่งชุดลำลองตามสบาย แต่ดูก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดังและแน่นอนว่าราคาแพงโดยมีผู้หญิงสวย ๆ ที่เธอเห็นนั่งรถออกไปด้วยกันเมื่อวานนี้ ควงแขนเขาเดินอยู่ด้วยกัน ทั้งสองกำลังชี้ชวนกันดูสินค้าในตู้โชว์ระหว่างที่เดินผ่าน โดยมีบอดี้การ์ดที่ติดตามด้วยหอบหิ้วถุงช็อปปิ้งจำนวนหลายถุงและในหลายถุงนั้นมีถุงของสินค้าแบรนด์ดัง ๆ แทบจะทั้งสิ้นลี่หลินรีบเร่งฝีเท้าเดินลงบันไดเลื่อนไปก่อนที่ขบวนของเจ้านายใหม่จะเดินมุ่งมาทางนี้ ขณะที่ใบหน้าหล่อคมคายของเฟยหรงที่หันมองไปมาอยู่นั้นบังเอิญหันมาทางบันไดเลื่อนเข้าพอดี และเขารู้สึกว่าผู้หญิงที่หิ้วถุงกระดาษหลายใบนั้นรูปร่างหน้าตารู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แม้การแต่งตัวและบุคลิกไม่น่าจะใช่ผู้หญิงที่เขาเคยพบ แต่มันก็รู้สึกคุ้นๆ ตาอย่างบอกไม่ถูกเขาหยุดชะงัก และจ้องมองร่างของหญิงสาวที่ยืนจับบันไดเลื่อนลงไปด้านล่างแล้วก็หายลับไป เขารีบเดินอย่างเร็วมาที่ขอบระเบียงกระจกกั้นที่อยู่ใก
เมื่อขบวนนั้นลับหายไปจากประตูนั้นแล้ว ลี่หลินก็แทบจะถอนหายใจด้วยเสียงดัง ๆ ออกมา เธอยกนาฬิกาข้อมือเรือนจิ๋วขึ้นมาดู เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงเธอก็จะเลิกงานแล้ว ลี่หลินแทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ การทำตัวเหมือนโจรผู้ร้ายที่ต้องคอยหลบหนีตำรวจที่กำลังตามจับตัวเองอยู่นั้นมันลำบากลำบนอย่างนี้นี่เอง ลี่หลินเพิ่งจะเข้าใจหัวอกโจรก็คราวนี้เมื่อเวลาเลิกงานมาถึง ลี่หลินรีบนำถาดไปคืนที่บาร์ “ ลี่หลินเมื่อกี้ บอสใหม่มาตรวจงาน เธอเห็นเขาแล้วหรือยัง ยังหนุ่่มอยู่มาก ๆ เลย พี่คิดว่าเขาจะอายุมากกว่านี้เสียอีก ” บาร์เทนเดอร์ชวนลี่หลินคุย “ เห็นแล้วค่ะ แต่วันนี้แขกน้อยกลัวจะไม่ค่อยได้ทิปก็เลยร่อนไปมาตลอด ไม่ค่อยได้สนใจพวกเขาเท่าไหร่ค่ะ ” ลี่หลินตอบไปเสียอย่างนั้น แล้วก็รีบขอตัวบอกว่ามีธุระแล้วก็รีบตรงไปที่ห้องล็อคเกอร์ เพื่อจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแจ้นไปตั้งหลักที่บ้านก่อน ลี่หลินกุมหน้าอกตัวเองเอาไว้ หัวใจมันเต้นตึกตักเพราะกลััวว่าเขาจะหันมาพบเธอเข้า การต้องคอยหลบหน้าคนนี่ช่างเหนื่อยเหลือเกิน แต่ว่าเธอจำเป็นต้องอยู่แบบนี้ไปก่อน เพราะยังหางานที่คล้ายกันแบบนี้ไม่ได้ แต่ก็จะลองพ
ขณะที่เฟยหรงเอนกายพิงพนักเก้าอี้ทำงานของเขาอยู่ โดยที่มองเหม่อไปด้านหน้าอย่างไม่มีจุดหมาย มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น เขาก้มมองที่หน้าจอก็พบว่าเป็นลินดาที่โทรมา เขาจึงได้ยกมือถือขึ้นมากดรับสายของหล่อนทันที ลินดาเป็นคู่ควงที่เขากับหล่อนเพิ่งจะคบหากันได้เพียงไม่กี่เดือนนี้ หล่อนเป็นลูกครึ่งอเมริกันฮ่องกง หล่อนเป็นลูกสาวของผู้พระคุณของเขา คุณหยาง ที่ทำให้เขามีวันนี้ได้ เขารู้ว่าคุณหยางเองก็อยากจะได้เขาเป็นลูกเขย แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น แค่เพียงถูกอัธยาศัยและเอ็นดูลินดาดังเช่นน้องสาว จึงได้ตัดสินใจคบหากับหล่อน และก็เพราะว่าเขาไม่มีใคร วันเวลาที่แยกจากลี่หลินอดีตภรรยานั้นผ่านมาถึงห้าปีแล้ว และก็ยังตามตัวหล่อนไม่พบ ไม่มีข่าวคราวใดๆ เลย จึงได้ลองเปิดใจคบหาผู้หญิงดูบ้าง เพื่อจะได้มีคนไปดินเนอร์ด้วย หรือมีคนไปเที่ยวด้้วยบ้าง จะได้ไม่เงียบเหงาและว่างเปล่าเหมือนหลายปีที่ผ่านมาอีกต่อไป“ ว่าไง ” เขาทักหล่อนไป “ เฟยหรงคะ เย็นนี้ไปดินเนอร์กันไหมคะ ฉันเพิ่งจะมาถึงมาเก๊าเมื่อตอนบ่ายนี้เอง เข้าที่พักเรียบร้อยก็เลยโทรหาคุณ ฉันพักที่โรงแรมของคุณนะคะ เซอร์ไ







