/ โรแมนติก / ยิ้งตี้ตระกูลโจว / บทที่ 4 โจวหมิงเจ๋อ

공유

บทที่ 4 โจวหมิงเจ๋อ

last update 최신 업데이트: 2024-11-20 11:27:39

บทที่ 4 โจวหมิงเจ๋อ

โจวหมิงเจ๋อลงฝีเท้ามั่นคงหนักแน่นเช่นเดิมอย่างที่ทำมาตลอดทั้งชีวิต กลิ่นคาวเลือดของสาวแรกรุ่นยังกรุ่นขึ้นกระทบนาสิกเนือง ๆ ยิ่งเกิดอาการซ่านในทรวงอก

ไม่ว่าตำราเก่าแก่โบราณสั่งสอนให้สะกดจิตใต้สำนึกไว้เพียงไร ทว่าโจวหมิงเจ๋อคร้านจะใส่ใจ เขาถือว่าการเดินทางสายกลางย่อมดีที่สุด หากร่างกายต้องการย่อมต้องปลดปล่อย

“นายท่าน”

เสียงเฉียนฟานหยุดเขาไว้เสียก่อนที่เขาจะเดินขึ้นถึงชั้นสาม ชีพจรรัวกระหน่ำสะกดด้วยยุทธิ์ลมปรารณ หลับตานิ่งกำหนดจุดหันกายไปยังคนสนิท

“ทางคุณหนูฮุ่ยหรูได้นำขบวนสินสอดยิ่งตี้มาด้วยขอรับ”

“อืม”

“เพียงแต่ว่า ...” เฉียนฟานอึ้งไปครู่ไม่รู้จะพูดเช่นไรดี

“อย่าอึกอักอ้ำอึ้ง  เจ้ารู้นิสัยข้าดี”

“ขอรับ  ขบวนยิ่งตี้เอิกเกริกยิ่งทั้งชายหญิงล้วนนับรวมได้เกือบร้อยคน”

“ร้อยคนเชียวหรือ”

“ทางตระกูลฮุ่ยไม่ได้แจ้งข่าวล่วงหน้า  ทำให้เรือนนอนไม่พอ  คืนนี้จึงจัดให้นอนเรือนเล็กด้านหลังกันไปก่อน”

โจวหมิงเจ๋อมองออกไปนอกหน้าต่างชั้นสาม เสียงฝนพรำตั้งแต่ยามซวี[1] อากาศหนาวลมเหนือระลอกแรกพัดเหนือยอดหลังคาปูนปั้นเสือในทุกเช้า

“แล้วฟูกนอน ผ้าห่ม”

“ไม่เพียงพอขอรับ”

“พรุ่งนี้จัดการแบ่งยิ่งตี้ชาย คัดเพียงชายฉกรรจ์แข็งแรงใช้งานได้ไว้ทำงานหนักยี่สิบคน ส่งขึ้นเขาเฝ้ากองโจร ส่วนพวกบอบบางคัดหน้าตาไว้เพียงห้าคน ให้ย้ายไปยังจวนรองสำหรับรับรองแขก”

“แล้วยิ่งตี้หญิง”

“คัดหน้าตาดีไม่เกินสิบหกปีสิบห้าคน ย้ายไปยังจวนเดียวกับยิ่งตี้ชาย ที่เหลือขายทิ้งโรงคณิกาให้หมด”

“ขอรับ”

“อีกเรื่องเฉียนฟาน วังหลวงส่งคนมาแจ้งนัดวันรับตัวองค์หญิงแคว้นฉี  อีกสามวันเจ้าจงเตรียมคนให้พร้อม งานนี้ข้าจะลงมือด้วยตนเอง”

“ขอรับ”

โจวหมิงเจ๋อสะบัดมือไล่ คราแรกตั้งใจไปเยี่ยมเยียนอวี้เจียวอีกสักคราตามสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ถูกปลุกขึ้นจากการร่วมหอ ทำหน้าที่ตามประเพณีของตระกูลโจว

ฮุ่ยหรู ลูกสะใภ้ร่างเล็กบอบบางวัยเพียงสิบห้า มิใช่สตรีที่น่าอภิรมย์สำหรับโจวหมิงเจ๋อ

เจ้าสำนักตระกูลโจวพาร่างสูงใหญ่เคลื่อนตัวออกนอกระเบียงเพื่อระบายความอึดอัดภายใน กลิ่นเลือดบนฝ่ามือแม้เจือจางแต่ยังได้กระทบนาสิกเนือง ๆ  ทอดสายตาลงเบื้องล่างป่าไผ่ด้านหลังหอสูง

สำนักคุ้มภัยแห่งนี้ถือกำเนิดมาหลายชั่วอายุคน คุ้มกันภัยสิ่งของ คน รวมถึงร้านค้าในเมือง ทุกหัวระแหงต่างไหว้วานใช้บริการตระกูลโจวช่วยคุ้มครอง ยามนี้บ้านเมืองยังมีภัยกบฏภูเขา ทั้งศึกหูเป่ย และยังแคว้นฉีแม้ว่ามีท่าทีอ่อนลง ยอมส่งองค์หญิงมาเชื่อมสัมพันธไมตรี

ใกล้หน้าหนาวเต็มทนคงอีกไม่นาน พื้นด้านล่างจะเต็มไปด้วยหิมะจนขาวโพลน รวมไปถึงหอสูง

โจวหมิงเจ๋อยืนนิ่งทอดสายตาไม่นานพลันสะดุดตาเข้ากับร่างเล็กคล้ายสัตว์เมื่อมองจากมุมสูงบนระเบียง เสียแต่ว่าสัตว์สองตัวนั้นวิ่งเร็วทั้งสวมใส่ชุดเซินอี[2]สีน้ำตาลตุ่น อีกคนคล้ายแต่งกายดีกว่าตัวเนื้อผ้าสีอ่อนมีลวดลาย

ทั้งสองนางพากันลัดเลาะวิ่งเข้าไปในป่าไผ่ก่อนทะลุออกตรงไปทางเรือนหลังเล็กท้ายจวน - - นางเป็นพวกยิ่งตี้

สำนักคุ้มภัยแห่งนี้ยามปกติมีคนเดินยามป้องกันภัยแน่นหนา หากแต่ค่ำนี้ถูกปล่อยปละละเลยเนื่องจากแขกเหรื่อจำนวนมากเป็นชนชั้นสูง เขาหันหลังกลับเข้าไปยังภายในโถงหอ

“เฉียนฟาน”

โจวหมิงเจ๋อเอ่ยเรียกเสียงเบา ด้วยตระหนักดีว่าองครักษ์คนสนิทไม่เคยห่างกาย

“วันพรุ่ง ข้าจะคัดเลือกยิ่งตี้ด้วยตนเอง”

“ขอรับท่านเจ้าสำนัก”

เฉียนฟานใคร่แปลกใจแต่ยังทำสีหน้าเรียบเฉยขณะเดินตามท่านเจ้าสำนักขึ้นไปยังชั้นเก้า ชั้นสูงสุดของเสวี่ยจงโหลว โดยไม่แวะห้องของอวี้เจียวในชั้นที่ห้าอย่างที่ตัวเขาคาดการไว้ก่อนหน้า

โครมคราม เกร้ง!!

“ตื่น ตื่น”

ไป๋หลินเอ๋อร์สะดุ้งพรวดตื่นลืมตาเบิกกว้าง  เมื่อมีเสียงเคาะเหล็กดังอยู่ด้านนอกเรือนเล็ก รวมไปถึงบรรดายิ่งตี้ที่เหลือต่างพากันแตกตื่นตกใจ  คิดว่าเกิดเรื่อง  รีบจัดแจงลุกยืนอลหม่านวิ่งวนชนกัน บ้างล้ม บ้างหวีดร้อง

“พี่หลินเอ๋อร์”

“เจ้าไม่ต้องตกใจ”   นางจับมือเด็กสาวไว้แน่นพากันลุกขึ้นเดินออกมาด้านนอก  จึงเห็นคนของสำนักคุ้มกันภัยราวยี่สิบกว่าคน เรียงแถวเป็นระเบียบ  เพียงแต่ผู้ที่ยืนตรงกลางเป็นสตรีหญิงอาวุโสอายุราวปลายสามสิบเห็นจะได้

“พวกเจ้าเมื่อลุกแล้วให้ล้างหน้า ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นตั้งแถวเรียงห้าคน”

ไป๋หลินเอ๋อร์มองหน้ากันกับหญิงอื่น  ในบรรดายิ่งตี้ที่นำมามีทั้งญาติสนิทและสาวรับใช้ปะปนกันไป  ดังนั้นสตรีสูงศักดิ์คนหนึ่งก้าวออกมายืนตรงหน้าพูดด้วยเสียงอันดัง

“ข้าฮุ่ยฟาง เป็นญาติสนิทสายรองของฮุ่ยหรู  เจ้าสาวของท่าน   โจวจางหมิ่น  เดิมแต่แรกมิสมควรให้ข้าพักที่นี่ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเมื่อวานข้าเห็นว่าที่ตระกูลโจววุ่นวายนักจึงไม่ได้ซักไซ้ถาม ทำตามที่พวกเจ้าประสงค์ แต่เช้านี้ ปลุกข้าขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสาง สั่งด้วยน้ำเสียงกรรโชกโฮกฮาก ไร้มารยาท  ข้าขอถามกลับสักคำ  เจ้าเป็นใครกัน”

ไป๋หลินเอ๋อร์ลอบถอนหายใจ  พูดมาเสียยืดยาวอุตส่าห์ตั้งใจฟัง ที่แท้คำถามคือคำสุดท้าย

“ข้าชื่อจื่อลี่  คนที่สำนักเรียกข้าว่าป้าลี่   เป็นผู้ดูแลพวกเจ้า และคนรับใช้ส่วนล่าง   ที่สำนักคุ้มภัยจัดการด้วยระบบระเบียบเข้มงวด แบ่งระดับออกเป็นทั้งสิ้นสามระดับ   คนรับใช้ล่างสุด  ทำงานระดับล่าง ถางป่า ทำสวน ขุดส้วม ซักผ้า งานครัว สวมเสื้อสีน้ำตาลเข้ม”

ป้าลี่หยุดพูดแล้วเดินวนรอบฮุ่ยฟางมองนางหัวจดเท้าแล้วหัวร่อ

“อย่างเจ้าไม่ว่าเป็นคุณหนูร่ำรวยอย่างไร  มาในฐานะยิ่งตี้ สินสอดเจ้าบ่าวก็เทียบเท่าคนรับใช้” นางหยุดเดินแล้วหันกลับมาตรง ๆ

“ส่วนคนรับใช้ระดับกลางทำงานอยู่ในเสวี่ยจงโหลวหรือหอเก้าชั้น  ไม่ว่าปัดกวาดเช็ดถู  ดูแลเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย  อาหาร  น้ำร้อน  สวมเสื้อสีน้ำตาลอ่อน ผู้ดูแลคือแม่นางชางซิงเยียน คนสนิทนายท่าน พวกเจ้าต้องเรียกนางว่านายน้อยหญิง ส่วนนายน้อยโจวจางหมิ่นให้เรียกนายน้อย”

“แล้วอีกระดับคือใครกัน” ไป๋หลินเอ๋อร์ถามขัดขึ้นทันทีเมื่อป้าลี่เงียบเสียงไปนาน

“ระดับบนเป็นคนของสำนักคุ้มกันภัย ซึ่งการแบ่งระดับนั้นพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้เพียงว่าท่านเฉียนฟานเป็นผู้ดูแล สำนักเราเข้มงวดนัก นายใหญ่ชื่นชอบความเงียบ หากไม่มีเรื่องห้ามส่งเสียง ยกเว้นในส่วนของลานฝึกด้านขวาสุด ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม คนที่มีสิทธิ์เข้าคือคนของสำนักคุ้มกันภัยเท่านั้น”

ป้าลี่ทำท่าปากมากแต่มีบุรุษหนึ่งเดินมาทีหลัง เพียงป้าลี่เห็นพลันหน้าซีดลงรีบเอ่ยปากไล่

“ในเมื่อรู้เรื่องชัดแจ้งรีบกลับไปล้างหน้าผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมายืนหน้ากระดาน”

ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันทีหลังสิ้นเสียงป้าลี่ บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่วิ่งวุ่น น้ำมีให้ล้างหน้าไม่พอเพียง จึงแย่งกันกระชากถังน้ำมาเป็นของตน บ้างวิ่งชนสิ่งของจนน่าขัน

“ฮะ ฮ่า นี่มันช่างน่าดูยิ่งนัก จริงไหมจางอวี้ เรารอให้พวกนางเรียบร้อยก่อนค่อยจัดการตัวเองดีกว่า”

“เจ้าค่ะพี่หลินเอ๋อร์”

สองนางพาร่างทอดน่องอ้อยอิ่งเข้าห้องแล้วนั่งลงกับพื้น ไม่ทำอันใดนอกจากมองความโกลาหลด้วยความสนุกยิ่ง

“พี่หลินเอ๋อร์ ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่าเหตุใดจึงเรียกพวกเราลุกแต่เช้ามืด”

“อืม ถ้าให้เดาไม่ผิดคงพาไปทำทะเบียนคัดเลือกล่ะมั้ง”

จางอวี้หันควับมามอง “ท่านพี่ฉลาดนัก”

“พี่เพียงคาดเดา เจ้าดู คนมากขนาดนี้ทั้งหญิงชาย หากไม่คัดแยกว่าใครเป็นใคร หรือทำป้ายชื่อ ลงทะเบียน คงสับสนเป็นแน่”

“อืม ๆ ๆ”

ไป๋หลินเอ๋อร์ยกยิ้มด้วยความเอ็นดูเมื่อสาวน้อยหน้าหวานร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

[1] 19.00 - 20.59 น.

[2] เป็นที่นิยมสวมใส่ในยุคชุนชิวจ้านกว๋อ แบบสวมลงทั้งตัว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 29 บทพิเศษ จบบริบูรณ์

    บทที่ 29 บทพิเศษยามเหม่าในทุกวัน โจวหมิงเจ๋อมักลุกขึ้นเพื่อลงไปฝึกยุทธิ์กับคนของสำนักคุ้มภัยด้วยตนเองไป๋หลินเอ๋อร์พลิกกายโอบลำแขนอ่อนนุ่มรัดเขาไว้เอ่ยเสียงเบา“ท่านพี่ ยามเหม่าแล้ว”โจวหมิงเจ๋อตวัดรัดท่อนแขนให้ร่างเล็กบอบบางเกยขึ้นมานอนบนแผ่นอก ลูบฝ่ามือร้อนลงแผ่นหลังเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์“เนื้อเจ้านุ่มมือ” ฝ่ามือใหญ่กางออกลูบแผ่นหลังรั้งนางให้ถดขึ้นกระทั่งริมฝีปากจดกันขยับแผ่วเบา“ป่านนี้เด็ก ๆ คงตื่นกันหมดแล้ว”“แล้วอย่างไร ตื่นแล้วก็ให้ยืนรอหน้าห้องไปก่อน”“ท่านพี่”“ยามเช้าเช่นนี้ ควรอยู่กันแต่ในผ้าห่มดีหรือไม่ กกกอดก่ายรัดร่าง”“ฮะ ฮ่า ท่านพี่ หลินเอ๋อร์ลูกสามแล้วเจ้าค่ะ ไม่อยากท้องอีก”“ถ้าเช่นนั้น พี่จะไม่หลั่งน้ำพิสุทธิ์ข้างในเจ้า เช่นนี้หลินเอ๋อร์ยินยอมหรือไม่”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปากดันร่างตนเองออกแต่ถูกรั้งลงใต้ร่างทันควัน จับนางพลิกคว่ำ จูบขบลงฟันบนแผลเป็นรูปเสือ“คำกล่าวนี้ ท่านพี่บอกข้าเป็นพันครั้ง จนข้าขี้เกียจจดจำจะใส่ใจ”“ฮึ ในเมื่อหลินเอ๋อร์ไม่ใส่ใจ เช่นนั้นพี่จะถือว่าเจ้าอนุญาต” โจวหมิงเจ๋ออมยิ้มขณะพรมจูบไต่ลงแผ่นหลังนวลเนียน มือก่อกวนวนเวียนไม่ห่างทั้งลูบคลำ ทั้งล้

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 28 ความลับ

    บทที่ 28 ความลับไป๋หลินเอ๋อร์ดีดตัวออกจากโจวจางหมิ่นทันทีแล้วโผเข้าหาบุรุษตรงหน้า ให้เขาโอบรัดนางไว้ด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ซบดวงหน้าเปื้อนหยาดน้ำลงอกกระเพื่อมไหวจากแรงสูดลมหายใจไร้เสียงร้องใด ๆ จากโจวจางหมิ่น คมลูกธนูปักลงหัวไหล่ขวาที่รัดลำคอนางไว้ สีหน้าโจวจางหมิ่นปวดร้าว มองโจวหมิงเจ๋อด้วยดวงตากล่าวหา มาดร้าย และคล้ายไม่ต้องการเชื่อในที่โจวหมิ่งเจ๋อทำลงไปนางโอบร่างแกร่งไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเข้าไปใกล้โจวจางหมิ่น“จางหมิ่น...” น้ำเสียงระห้อยโหยแรงเอ่ยชื่อในลำคอ ดวงตาแสบร้อนแดงก่ำ แต่ไร้น้ำตา เขามองร่างสูงเกร็งคล้ายเขาถอยหลังไปอีกสองก้าวในยามนี้โจวจางหมิ่นสีหน้าสงบลงแล้วราวกับว่ายอมรับบางอย่าง ริมฝีปากบิดโค้งคล้ายรอยยิ้มก่อนจะทิ้งร่างลงเหวลึกด้วยป่ารกทึบด้านล่าง“จางหมิ่น จางหมิ่น!!! จางหมิ่นนน”บุรุษแกร่งเช่นโจวหมิงเจ๋อ ชั่วชีวิตกระทำการทารุณคน สังหาร มองเลือดและความตายด้วยความเยือกเย็นไร้ความรู้สึก แต่มาบัดนี้โจวจางหมิ่นที่เขาอุ้มชูเลี้ยงมากับมือทิ้งร่างอัตวิบากกรรมต่อหน้าเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงคุกเข่าเท้าฝ่ามือลงพื้นท่ามกลางใบไม้ร่วงหล่นสีส้มแดงในต้นฤดูหนาว“

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 27 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 27 โจวจางหมิ่น“เข้าใจผิด!! ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไรบาดหมางกับเจ้า ยิ่งตี้หรือฮูหยินท่านเจ้าสำนัก” โจวจางหมิ่นเดินเข้าใกล้โน้มหน้าลงต่ำ กระชากผมจนดวงหน้าของนางแหงนขึ้น“เจ้าไม่มีสิ่งใดผิด ผิดแค่ว่าเจ้ามาอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่านพ่อต่างหากที่ข้าต้องการให้เขาทุกข์ทรมาน และข้ารู้ว่าท่านพ่อรักเจ้า”“โจวหมิงเจ๋อไม่ได้รักข้า ท่านเข้าใจผิด”“เจ้าไม่รู้จักนิสัยของพ่อข้าดี ท่านพ่อเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ อวี้เจียวจงรักภักดีรับใช้มาเนิ่นนาน เขายังยกให้เฉียนฟานโดยง่ายดาย แต่กับเจ้า..”มือนุ่มดั่งหญิงสาวเชยปลายคางนางขึ้นแล้วบีบ“พบเพียงไม่กี่หนกับยกย่องร่วมชีวิต สัญญาผูกพันนิจนิรันดร์ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้ามีดีอะไร หน้าตาไม่ได้สะสวย ทั้งรูปร่างไม่ได้เสี้ยวหญิงงามเมือง แต่เอาเถิด อย่างไรเสียเจ้าต้องตาย”โจวจางหมิ่นกดริมฝีปากนางล้วงนิ้วเข้า แล้วเผยอปากตัวเองคล้ายแสยะยิ้ม “ให้เขาได้ทุกข์ทนเช่นแม่ข้า ลุกขึ้น บอกลาชีวิตของเจ้าได้แล้ว”แรงบุรุษกระชากดึงนางขึ้นจากพื้น สาบเสื้อหลุดรุ่ยจนพ้นเนินทรวงหนึ่งข้าง โจวจางหมิ่นหลุบตามองก่อนใช้มือบีบขยำลงแรง“ทว่า เจ้าเองก็น่าลิ้มลอง บางคราวข้าก็เคยคิดว่าถ้าได้ร่วมเ

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 26 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 26 โจวจางหมิ่นยามเว่ยในช่วงต้นฤดูหนาวชานเมืองหลวงของสำนักคุ้มกันภัยเสวี่ยจง ที่โอบล้อมด้วยป่าไผ่ ยิ่งพาให้อากาศเย็นขึ้นอีกหลายเท่าตัวไป๋หลินเอ๋อร์กระชับเสื้อคลุมตัวยาวที่ชางซิงเยียนกำชับเป็นหนักหนาให้นางสวมมาด้วย แม้ว่านางบอกแล้วว่ามาแค่เรือนหลักเท่านั้นนางเดินผ่านสวนกลางเรื่อยจนมาถึงเรือนหลัก ไม่ทันได้เอ่ยแจ้งเด็กในเรือนพลันเห็นโจวจางหมิ่นยืนนิ่งตรงโค้งประตูวงเดือนทางออกสวนด้านหลังทุกคราที่นางพบหน้าโจวจางหมิ่น ขนแขนนางมักลุกชันอย่างน่าประหลาด และยามนี้ก็เช่นกัน นางมองสีหน้ากระหยิ่มและมุมปากโค้งขึ้นละม้ายโจวหมิงเจ๋อ แต่ก็แค่ละม้าย เพราะส่วนใหญ่บนใบหน้าของชายร่างเกร็งคนนี้ไม่เหมือนโจวหมิงเจ๋อแม้แต่น้อยนางขยับเข้าไปใกล้วางสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นรัวดั่งกลองศึก ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเห็นความแตกต่าง โจวหมิงเจ๋อแม้ว่าการกระทำเย็นชารุนแรง ทว่ากลับมีความเมตตาต่อผู้อื่น ผิดไปจากบุตรชายที่แผ่กลิ่นอายโฉดชั่วทวีคูณ ยิ่งเห็นรอยแผลบนร่างฮุ่ยหรู ยิ่งรับรู้ว่าชายผู้นี้กระทำต่อสตรีเพศราวกับเป็นสัตว์สิ่งของ“ท่านแม่”นางมองร่างสูงของโจวจางหมิ่นโค้งลงคำนับนางราวกับว่าเป็นบุตรชายแท้จริงของนาง ทว

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 25 ฮุ่ยหรู

    บทที่ 25 ฮุ่ยหรูเพียะ เพียะ!!ฮุ่ยหรูล้มคว่ำลงทันทีเมื่อฝ่ามือของโจวจางหมิ่นกระทบใบหน้าเป็นครั้งที่สอง ร่างอ่อนแออย่างหญิงตั้งครรภ์สามเดือนกองบนพื้นน้ำตานองหน้า“ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นไรฮุ่ยหรู”“ฮื้ออ ขะ ข้า ข้ายัง พบ นางไม่ได้”เพล้ง!!โจวจางหมิ่นปัดกระถางกำยานล้มคว่ำเฉียดใบหน้าฮุ่ยหรูจนนางผงะออก ดวงตาหวาดกลัวไหวระริก เหลือบมองสามีที่นางแต่งเข้ามายังตระกูลโจวอันร่ำรวยและมากยศฐา“ยามนี้นางอยู่แต่บนหอ ท่านพ่อไม่ยอมให้นางลงมา อร้าย!! อย่า ข้ากลัวแล้ว”ฮุ่ยหรูยกมือไหว้ประลก ๆ น้ำตาไหลนองจนมองไม่เห็นสีหน้าสามี แต่นางรู้ว่าใบหน้าหล่อราวหยกกำลังบิดเบี้ยวจากแรงโกรธ เขากระชากผมนางดึงขึ้นมาจากพื้นเพียะ!!ใช้หลังฝ่ามือฟาดลงใบหน้าอีกครั้งแล้วผลักนางให้ล้มลงกับพื้น ยกเท้าเหยียบนางไว้“เวลาข้าสั่ง ไม่มีข้ออ้างฝ่าฝืน เข้าใจหรือไม่ภรรยารัก”นางพยักหน้ารับ ดวงหน้าแนบพื้นเย็นเยียบ สะอื้นขึ้นแรงก่อนที่โจวจางหมิ่นจะประคองนางขึ้นมาโอบกอดแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนผิดไปจากคราแรก“วันพรุ่ง เจ้าจงไปหานาง คุยกับนางให้นางคลายใจ ชักชวนนางดั่งที่ข้าบอกไว้ เข้าใจหรือไม่ฮุ่ยหรู”มือร้อนลูบผมนางประคองนางไปนั่งที่เตียง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 24 nc

    บทที่ 24 nc“แผลหายสนิทแล้ว”“หายแค่ภายนอก แต่จิตใจข้าไม่”นางกระชากเสียงใส่ ดึงดันจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่รวบนางไว้ให้นั่งลงซ้อนด้านหน้า“ไหน จิตใจเจ้าที่ตรงใดกัน ข้าจะทำความสะอาดให้หมดจด ขจัดความขุ่นมัวออกไปให้เอง”ไม่เพียงเอ่ยด้วยเสียงกระเส่า มือรั้งร่างเล็กพร้อมผ้าในมือ เช็ดถูแผ่นหน้าท้อง ซบหน้าลงหัวไหล่ เลื่อนผ้านุ่มขึ้นหาทรวงอก นางสะดุ้งทันที“ข้ามือหนักไปหรือ?”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปาก มือจับขอบอ่างไว้ไม่กล้าขยับตัว ผ้านุ่มค่อยถูทำความสะอาดเนื้อนุ่มอวบอิ่มแผ่วเบา ในยามนี้นางรู้ตัวแล้วว่าคงหนีไม่พ้นบุรุษด้านหลังเป็นแน่ หากยังขืนตัวไม่อ่อนลงคงเป็นนางเองที่เจ็บตัว“ท่าน จะเบามือกับข้าสักหน่อยได้หรือไม่”โจวหมิงเจ๋อชะงักไปครู่ เอียงหน้าไปมองดวงหน้างาม ปากกระจับเม้มแน่น พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ นางเอี้ยวกลับมาจ้องตอบ“เหตุใดไม่ตอบข้า”“ไม่ได้”ไป๋หลินเอ๋อร์สะอึกแล้วนิ่งงัน ก่อนจะเอ่ยถามอีก “ถ้าเช่นนั้น สอนข้าให้ ... ให้ข้าเจ็บน้อยที่สุด”โจวหมิงเจ๋อปล่อยผ้าออกจากมือ แล้วแทนที่ด้วยฝ่ามือร้อนจัดกอบกุมเนินทรวง “เจ้าอาจเริ่มจากผ่อนคลาย และสนุกกับสิ่งที่ข้าทำ”“สนุกงั้นหรือ”“ใช่แล้ว ถ้าข้าทำเช่นนี้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status