พิมพ์พันดาวเลิกตั้งแต่สีโมงเย็นแต่วันนี้เธอมีประชุมต่อกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะหนึ่งทุ่มเธอรีบตรงเข้าไปในบ้านเพราะคิดว่าบิดาจะต้องรอทานอาหารเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมาแต่พอเดินเข้ามาก็ไม่เห็นท่านอยู่มี่โต๊ะทานอาหารจึงเดินขึ้นตามที่ห้องนอนแต่ทั้งห้องก็ปิดไฟมืด
หญิงสาวตะโกนเรียกบิดารอบบ้านแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ พิมพ์พันดาวจึงรีบโทรศัพท์ไปหาแต่รอจนสายถูกตัดก็ไม่มีคนรับหญิงสาวเริ่มใจคอไม่ดีเพราะปกติแล้วเวลานี้ท่านจะไม่ออกบ้านไปไหน เมื่อกดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้งก็มีเสียงสั่นดังมาจากโซฟารับแขก
“พ่อไปไหนเนี่ยแล้วทำไมถึงไม่เอาโทรศัพท์ไปนะ” พิมพ์พันดาวบ่นแล้วนั่งรออยู่สิบนาทีบิดาก็ยังไม่กลับมาจึงเอาโทรศัพท์ของท่านขึ้นมาดูเผื่อว่าท่านจะออกไปพบเพื่อนหรือมีใครโทรนัดออกไปข้างนอก หญิงสาวถือวิสาสะเลื่อนดูรายการโทรออกล่าสุด
“ตรัยคุณ” เธอพึมพำเมื่อนึกถึงชื่อนี้เพราะเหมือนเคยได้ยินบิดาพูดชื่อเขาอยู่บ่อยครั้งว่าเป็นเพื่อนบ้านแต่ก็ยังไม่เคยเจอตัวกันสักครั้ง
พิมพ์พันดาวลังเลว่าจะโทรไปถามเขาดีหรือเปล่าเพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยความเป็นห่วงบิดาหญิงสาวจึงเลือกที่จะโทรศัพท์ไปถามเขาเพราะคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับบิดาของตนเอง
เสียงรอสายดังขึ้นหลายครั้งกว่าเจ้าของโทรศัพท์จะกดรับสาย
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ เบอร์คุณตรัยคุณใช่ไหมคะ”
“ครับ” ตรัยคุณจำเสียงเธอได้และเบอร์ที่โทรเข้ามาก็เป็นเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์เพิ่มศักดิ์ซึ่งตรัยคุณเปลี่ยนมาเรียกลุงตั้งแต่ได้เป็นเพื่อนบ้านกันเมื่อหลายปีก่อน
“ฉันขอโทษที่โทรมารบกวน คือฉันมีเรื่องจะถามคุณค่ะ”
“คุณคงจะถามถึงลุงเพิ่มใช่ไหม”
“ค่ะ พ่อฉันอยู่ที่บ้านคุณหรือเปล่าคะ”
“ค่ะท่านอยู่ที่นี่คุณจะคุยกับท่านไหมครับเดี๋ยวผมจะเอาโทรศัพท์ไปให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่อยากรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนแค่นั้นเอง ขอโทษนะคะที่รบกวน”
“ไม่เป็นไรครับ คุณไม่อยากคุยกับท่านจริงๆ ใช่ไหม” ตรัยคุณถามย้ำเพราะคิดว่าพิมพ์พันดาวน่าจะเกรงใจ
“จริงค่ะ ขอบคุณนะคะ” เมื่อรู้ว่าบิดาอยู่ทีไหนพิมพ์พันดาวก็สบายใจเธอแบ่งกับข้าวที่ซื้อมาเป็นสองส่วนก่อนจะทานในส่วนของตัวเองแล้วไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัว
แต่จนเสร็จแต่บิดาก็ยังไม่กลับมา เธอกำลังช่างใจว่าจะโทรศัพท์ไปหาตรัยคุณอีกครั้งหรือจะเดินไปตามบิดา แต่เพราะไม่อยากจะรบกวนเขาจนเกินไปพิมพ์พันดาวเลยเลือกจะเดินไปตามบิดาเองเพราะอยากจะรู้ว่าท่านไปทำอะไรที่นั้นเป็นนานสองนาน
เสียงออดที่หน้าบ้านทำให้คนที่อยู่ในห้องรับแขกมองหน้ากันเพราะนี่มันก็ดึกมาแล้วไม่น่าจะมีใครมาหาแต่ตรัยคุณก็พอจะเดาออกว่าที่มาคือใครเขาเลยรีบลุกขึ้นเพื่อจะรีบหลับไปยังบ้านของตนเองแต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด
“นั่นจะไปปิดประตูใช่ไหมตรัย” บิดาของชายหนุ่มถาม
“ครับพ่อ” ตรัยคุณจำต้องยอมเพราะตอนนี้ไม่มีใครว่างเลยนอกจากเขา
ชายหนุ่มเดินออกมายังหน้าบ้านซึ่งระยะทางห่างจากประมาณยี่สิบเมตรแต่ก่อนตรัยคุณเคยบ่นว่ามันไกลแต่วันนี้เขาอยากให้มันไกลออกไปมากกว่านี้เพราะตนเองยังหาคำแก้ตัวดีๆ ให้กับคนที่ยืนรออยู่หน้ารั้วไม่ได้
แสงไฟบริเวณประตูรั้งที่เปิดสำหรับคนเดินเข้าค่อนข้างจะสว่างทำให้เขามองเห็นแต่ไกลว่าตอนนี้พิมพ์พันดาวกำลังยืนรออยู่อย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ แต่ในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้เขาก็ต้องยอมให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้น
“มาตามคุณพ่อใช่ไหมครับ”
“นี่นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“สวัสดีครับผมชื่อตรัยคุณเป็นเพื่อนบ้านของคุณ”
“สวัสดีค่ะคุณตรัยคุณ ฉันมาตามพ่อกลับบ้าน”
“เชิญข้างในก่อนสิท่านกำลังคุยธุระกันอยู่”
“ฉันเคยรู้มาว่าบ้านของนายทำไร่ แล้วทำไมถึงไปทำงานส่งของอีกล่ะ” พิมพ์พันดาวชวนคุย
“หนูพิมพ์ครับคือ...”
“นายเลิกเรียกฉันว่าหนูพิมพ์เถอะ ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว”
“ขอโทษครับพอดีว่าผมเรียกตามพ่อคุณน่ะ”
“นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลยว่าทำไมถึงไปทำงานส่งของ”
“คือผมไม่รู้จะตอบยังไงดี”
“ก็ตอบตามความจริงสิ คำถามไม่ได้ยากอะไรเลยไ
“ถ้าให้ตอบตามจริงก็คือผมไม่ได้ทำงานส่งของ”
“แต่นายมากับรถนะ”
“คือผมเพิ่งกลับจากรุงเทพแล้แวะหาเพื่อนกะว่าจะให้มันมาส่งแต่แล้วพอดีมีรถจะมาส่งของที่บ้านคุณผมก็เลยขอติดรถมาด้วย”
“แล้วทำไมถึงไม่บอกฉันว่าไม่ใช่คนส่งของ นายแกล้งให้ฉันเข้าใจผิด”
“ผมไม่ได้แกล้งนะ วันนั้นอากาศมันร้อนแล้วของก็เยอะผมเลยคิดว่าช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ”
“นายคงตลกมาใช่ไหมที่เห็นฉันเข้าใจผิด”
“เปล่านะผมเครียดมากต่างหากที่คุณเข้าใจผิด”
“ฉันไม่เชื่อคำพูดของนายหรอกถ้านายบริสุทธิ์ใจจริงๆ นายก็จต้องอธิบายให้ฉันฟังแต่นาเลือกที่จะไม่พูด”
“ผมมีโอกาสพูดที่ไหนล่ะ ถ้าจะผมพูดต่อหน้าคนส่งของก็กลัวว่าคุณจะอายหรือถ้าจะให้ไปพูดที่งานวัดคุณก็อยู่กับเพื่อนอีกเห็นไหมล่ะว่าผมไม่มีโอกาสได้พูดเลยนะ”
“นายนี่หาข้อแก้จังเก่งมากเลยนะ ฉันไม่อยากคุยกับนายลัว ฉันแค่จะมาตามพ่อกลับบ้าน”
พิมพ์พันดาวเดินตามเขายังห้องรับแขกซึ่งบิดาของตนเองกำลังคุยอยู่กันอยู่
“สวัสดีค่ะป้านวล ลุงเมฆ”
“สวัสดีจ้ะหนูพิมพ์ นั่งก่อนสิเรากำลังคุยกับเรื่องจะไปทำบุญกันวันเสาร์นี่หนูพิมพ์จะไปกับเราไหม”
“วันเสาร์เหรอคะ”
“ใช่จ้ะ หนูพิมพ์ไปกับพ่อไหม”
“พ่อค่ะ วันเสาร์ช่างจะเริ่มมาทำร้านนะคะ”
“ตายล่ะพ่อลืมไปเลย ฉันคงอดไปแล้วล่ะเมฆ”
“น่าเสียดายนะ อุตส่าห์นั่งคุยกันเรื่องไปทำบุญตั้งนาน”
“ลุงศักดิ์ไปเถอะครับเรื่องคนงานไม่ต้องห่วงเพราะผมจะเป็นคนคุมเอง”
“นี่จะคุมงานเองเหรอตรัยแล้วคนของตะวันล่ะเขาไม่มาดูเหรอ ลุงจ้างเขาไปแล้วนะ”
“ผมบอกมันว่าจะดูให้เองครับลุง ส่วนค่าจ้างตะวันมันจะลดให้ผมเลยว่าจะเอาไปซื้อเครื่องฟอกอากาศ”
“ที่บ้านเราอากาศดีมากนะ ทำไมจะต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศละคุณตรัย” อยู่ต่อหน้าทุกคนพิมพ์พันดาวเลยเรียกเขาว่าคุณไปตามมารยาท
“คุณพิมพ์เพิ่งย้ายมาอยู่เลยไม่รู้ว่าถ้าถึงฤดูตัดอ้อยฝุ่นควันมันจะเยอะเพราะคนมักง่ายบางคนเขาจะใช้วิธีเผาเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น”
“เหรอคะ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องของที่นี่เท่าไหร่ ขอบคุณมากนะคะคุณตรัยที่บอกเรื่องเครื่องฟอกอากาศเดี๋ยวฉันจัดการเองก็ได้”
“หนูพิมพ์กับตรัยน่าจะรุ่นเดียวกันป้าว่าอย่าเรียกคุณเลยมันดูเป็นทางการเกินไปเราเป็นเพื่อนบ้านกันนะ”
“พ่อก็เห็นด้วยกับป้านวล เพื่อนบ้านกันก็ต้องสนิทกันไว้”
“ผมว่าดีเหมือนกันนะ” ตรัยคุณเห็นด้วยเพราะเขาก็อยากสนิทกับเธออยู่แล้ว
“ก็ได้ค่ะ แต่เรื่องเครื่องฟอกอากาศขอพิมพ์จัดการเองนะคะ”
“ได้สิ”
“สรุปว่าพรุ่งนี้จะมีแค่พวกเราคนแก่ๆ ไปทำบุญกันใช่ไหมคะคุณเพิ่ม”
“ผมว่าดีเหมือนกันนะจะได้ไปแบบช้าๆ ขากลับก็แวะทานข้าวกันมาเลยตรัยก็ดูแลพลอยด้วยนะ” เพราะพลอยมนติดสอบส่วนพชรก็ไปฝึกรด.ทั้งบ้านก็เลยเหลือแค่น้าชายกับหลานสาว
“ไม่มีปัญหาครับพ่อ”
ตรัยคุณอาบน้ำเสร็จแล้วแต่พิมพ์พันดาวยังไม่ออกมาจากห้องน้ำชายหนุ่มเลยเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัวซึ่งหญิงสาวกำลังยืนเลือกชุดนอนที่เพื่อนซื้อมาให้แต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะสวมสีไหน เขาเดินเข้ามากอดเธอจากทางด้านหลัง “ตรัยช่วยพิมพ์เลือกหน่อยได้ไหมว่าใส่สีไหนดี” เธอส่งชุดนอนผ้าลูกไม้ตัวบางสีดำกับสีแดงเพลิงให้คนรักช่วยเลือก “เซ็กซี่ทั้งสองตัว แต่คืนนี้อย่าเพิ่งใส่เลยนะ” “ทำไมล่ะ” “พิมพ์จ๋าแกล้งตรัยอยู่ใช่ไหม ตรัยไม่ได้นอนกับพิมพ์มาเกือบเดือนแล้วนะตรัยจะบ้าตายอยู่แล้ว พิมพ์พันดาวยังไม่ทันจะพูดอะไรเรียวปากก็ถูกประกบจูบลงมาเสียก่อนตรัยคุณสอดปลายลิ้นกวาดต้อนความหอมหวานนาทีนี้เขาแทบอยากจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว มือข้างหนึ่งกระตุกปมผ้าเช็ดตัวออกจนหลุด“ไม่ใส่อะไรแบบนี้สวยที่สุด”ปากชมขณะที่ตาคมมองกายขาวเนียนอย่างหื่นกระหายก่อนจะอุ้มเธอมายังที่นอนกว้างซึ่งโรยด้วยกลีบกุหลาบสีหวานอยู่เต็มไปหมด มือร้อนลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มอย่างหลงใหล เลือดในกายสูบฉีดมารวมกันที่กลางแก่นกายอย่างห้ามไม่อยู่ ปลายนิ้วสัมผัสหยอกเย้ากับทรวงอกอิ่มจนส่วนยอดแข็งชูชันพิมพ์พ
ในห้องแต่งตัวของโรงแรมหรูบรรดาสาวกำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสเพราะนี่เป็นการรวมตัวกันในงานแต่งงานของเพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่ม“เจ้าบ่าวของพิมพ์หล่อมาก”“นั่นสิ ทั้งหล่อทั้งน่ากิน” “ให้มันน้อยๆ หน่อยยัยฝ้ายนั่นสามีเพื่อนนะ” “ก็มันจริงนี่คุณตรัยหล่อระเบิดไปเลยหุ่นก็ดีกล้ามก็แน่น” “รู้ได้ยังไงว่ากล้ามเขาแน่น” “เดาเอานะสิ ว่าแต่กล้ามแน่นจริงไหมพิมพ์” “อือ” เจ้าสาวพยักหน้าขณะที่ช่างกำลังทำผมเพื่องานฉลองในตอนเย็นหลังจากที่งานเช้าจัดที่บ้านไปแล้ว“หมิวสงสัยอย่างหนึ่ง” “สงสัยอะไร” “ก็ยัยพิมพ์เคยบอกว่าชายในฝันของเธอต้องขาวตี๋ แต่คุณตรัยหล่อเข้มเลยนะคนละทางกันเลย เขามีอะไรดีพิมพ์ถึงเปลี่ยนใจมาชอบเขาได้ล่ะ” “ก็ตรัยเขาน่ารักนิสัยดี” “แค่นี้แน่นะพิมพ์” “อือ” “พิมพ์ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น” เพื่อนคนหนึ่งรีบพูดเมื่อช่างแต่งหน้าเดินออกจากห้อง “จะพูดอะไรเหรอกานต์” “กานต์กับคนอื่นก็แค่อยากรู้ว่าเรื่องบนเตียงเขาโอเคไหม” “กานต์ถามตรงใจพวกเราที่สุด ตอบมาเถอะพิมพ์คนเองทั้งนั้
“ผมชอบผิวพิมพ์ที่สุดทั้งนุ่มทั้งหอม”เสียงทุ้มกระซิบก่อนจะกดจมูกลงบนต้นคอขาวเปียกชื้นเพื่อสูดดมกลิ่นกายของคนรักมือใหญ่ลูบไล้สัมผัสไปตามผิวเนียนนุ่ม“ตรัยไหนว่าจะอาบน้ำ”“ก็กำลังอาบนี่ไงล่ะ” เขากดสบู่ใส่มือก่อนถูไปบนผิวกายของหญิงสาวอย่างเบามือ ถูไปทุกสัดส่วนก่อนจะเปิดน้ำไล่ฟองออกจนหมด“เสร็จแล้วใช่ไหม”“เพิ่งเริ่มจะเสร็จได้ยังไงล่ะที่รัก”“ตรัย...”เธอครางแผ่วเบาเมื่อความร้อนมันโลมเลียไปทั่วทุกจุดที่ฝ่ามือใหญ่เลื่อนผ่านเมื่อหันหน้ามามองตรัยคุณก็จูบลงบนเรียวปากอิ่มอย่างดูดดื่มร้อนแรงราวกับจะกระชากวิญญาณของเธอให้ออกจากร่าง ทุกสัมผัสที่ชายหนุ่มแสดงออกทำให้เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังมีความต้องการ ฝ่ามือร้อนเคล้นคลึงไปทั่วทรวงอกอวบก่อนละไล่ไปยังหน้าท้องต่ำไปเรื่อยๆพิมพ์พันดาวรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่กำลังขยายเหยียดดุนดันบั้นท้ายจนเธอรู้สึกร้อนราวกับไฟที่กำลังแผดเผา ขณะที่ปากก็ยังคงจูบแลกลิ้นกันอย่างหิวกระหาย แล้วผละออกจากกันเล็กน้อยเพื่อสูดอากาศเข้าปอด นัยน์ตาสบประสานสื่ออารมณ์และความต้องการที่ปิดไม่มิด “อาบให้ผมบ้างได้ไหม”“ทำไมไม่อาบเอง”“อยากให้เมียอาบให้”ตรัยคุณจับไหล่มนให้พลิกห
ตรัยคุณจัดการธุระทุกอย่างเสร็จก่อนเวลาเขาจึงรีบเปลี่ยนเที่ยวบินให้เร็วขึ้นและโชคดีที่ได้ตั๋วเที่ยวสุดท้าย พอมาถึงกรุงเทพก็รีบเรียกรถไปยังโรงแรมที่พิมพ์พันดาวพักอยู่ด้วยความคิดถึงพิมพ์พันดาวบอกเขาว่าเย็นนี้หลังจากประชุมเสร็จแล้วเธอกับเพื่อนสมัยเรียนเภสัชจะพากันไปนั่งดื่มที่บาร์บนดาดฟ้าของโรงแรมที่พักอยู่ตรัยคุณขอกุญแจที่ฟร้อนท์แล้วเอากระเป๋าไปเก็บจากนั้นก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงรีบตามเธอไปบนดาดฟ้าของโรงแรมหรูเปิดไฟสลัวๆ แต่ชายหนุ่มก็มองเห็นในทันทีว่าคนรักของตนอยู่ที่ไหนเขาเห็นเธอกำลังสนุกสนานกับเพื่อนๆ จึงไม่ได้เข้าไปทักเพราะอยากให้เธอได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ ตรัยคุณรอจนกระทั่งเที่ยงคืนเมื่อเพื่อนของเธอกำลังจะเตรียมตัวกลับเขาจึงรีบเข้าไปหา“พิมพ์”“อ้าวตรัยมาตั้งแต่ตอนไหน”“ผมมาตั้งแต่สี่ทุ่ม”“แล้วทำไมไม่เข้ามาทักล่ะ”“ผมเห็นพิมพ์กำลังสนุกก็เลยไม่อยากจะกวน”พิมพ์พันดาวแนะนำตรัยคุณให้กับเพื่อนเพื่อนรู้จักจากนั้นทุกคนก็ขอแยกย้ายกันกลับเพราะมีเที่ยวบินกันแต่เช้าส่วนพิมพ์พันดาวนั้นยังจะค้างอยู่ที่นี่อีกสองคืน“ตรัยดื่มอะไรหน่อยไหม”“ไม่เป็นไรผมดื่มมาเยอะแล้ว พิมพ์ล่ะจะดื่มต่ออีกหรือเปล่
ความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันในแต่ละวันผ่านไปอย่างมีความหมายอีกสองเดือนข้างหน้าก็จะถึงวันแต่งงานของทั้งสองคนแล้ว แต่โอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันกลับลดน้อยลงเพราะบ้านของพิมพ์พันดาวกำลังรีโนเวจหญิงสาวจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งห้องนอนของเธออยู่ติดกับห้องของพลอยมน“พี่พิมพ์จัดของจะไปไหนเหรอคะ” พลอยมนถามว่าที่น้าสะใภ้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเก็บของใช้ที่จำเป็นและเสื้อผ้าบางส่วนลงกระเป๋า“พี่ต้องไปอบรมที่กรุงเทพค่ะ น้องพลอยอยากได้อะไรไหมคะเดี๋ยวพี่พิมพ์ซื้อมาฝาก”“ไม่ดีกว่าค่ะ แม่บอกว่าของที่พลอยชอบที่ญี่ปุ่นมีให้เลือกเยอะเลยค่ะ”“น้องพลอยจะเดินทางเมื่อไหร่ล่ะคะ” พิมพ์พันดาวถามเด็กสาวที่เปลี่ยนใจจะย้ายไปอยู่กับมารดา“หลังงานแต่งน้าตรัยค่ะ”“พี่พิมพ์คงคิดถึงน้อยพลอยมากๆ”“พลอยก็คงคิดถึงพี่พิมพ์กับน้าตรัยมาก พี่พิมพ์กับน้าตรัยจะไปเยี่ยมพลอยไหมคะ”“ไปสิคะ น้าตรัยของน้องพลอยบอกว่าจะพาพี่พิมพ์ไปหาน้องพลอยบ่อยๆ”“ได้เลยค่ะพลอยจะรีบฝึกภาษาให้เก่งแล้วจะพาพี่พิมพ์กับน้าตรัยเที่ยวเอง”“ดีเลยเพราะพี่พิมพ์พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้สักนิด”“ใช้แอปแปลภาษาสิคะ พลอยก็ใช้เวลาคุยกับลุงโทชิ”“อีกหน่อยน้องพลอยคงจะเก่งมากข
“เจ็บมากมั้ย” ตรัยคุณล้มตัวนอนข้างเธอแล้วกระซิบถามพิมพ์พันดาวอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ไม่รู้จะตอบเขายังไงเพราะบทรักเร่าร้อนเมื่อครู่ทำเอาเธอหลงลืมตัวไปจนหมดสิ้น รู้เพียงอย่างเดียวว่าตัวเองต้องการเขามากแค่ไหน ร้องขอเขาอย่างไร้ยางอาย“ผมขอโทษ ผมไม่อยากให้คุณเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว”“แต่พิมพ์ก็เจ็บ” หญิงสาวเถียงเพราะตนเองรู้สึกเจ็บมาจริงๆ“เจ็บแล้วมีความสุขไหม”“เรื่องแบบนี้ต้องถามด้วยเหรอ”“ก็อยากรู้ว่าที่ทำให้ถูกใจหรือเปล่า ครั้งหน้าจะได้ปรับปรุงตัวไง” เขาหัวเราะร่วนเมื่อเธออายจนหน้าแดง“ดึกแล้วนอนเถอะ”“ตรัยกอดแน่นแบบนี้จะนอนได้ยังไง”“ไม่แน่นเลยแบบนี้กำลังสบายถ้าไม่ยอมหลับผมไม่รู้นะว่าจะมีต่ออีกรอบไหม”“มันจะเกินไปแล้วนะ”“เกินไปที่ไหน พิมพ์น่ารักออกอย่างนี้ผมไม่อยากพอเลย”“หื่นกามแบบนี้ใครจะไปทนไหว”“ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทนแค่นอนนิ่งๆ”“อย่านะตรัย พิมพ์ไม่มีแรงแล้ว”“ผมรักพิมพ์นะ คืนนี้ผมมีความสุขมากที่สุด” เขากระซิบเบาๆ แล้วกระชับร่างเปลือยเปล่าของเธอเขามากอดอย่างหวงแหน พิมพ์พันดาวซุกหน้าเข้าหาแผงอกกว้าง รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเธออยากอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ไปนานๆ“พิมพ์ก็รักตรัยนะ”เที่ย