Masukคุยกันสักนิด
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 2
หลังจากที่จางลี่จิ่นกดรับภารกิจแล้วนั้น เธอก็เดินออกจากห้องนอนของตัวเองทันที แต่ก่อนที่จางลี่จินจะได้ก้าวเข้าไปภายในห้องครัว เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับการปรากฏตัวของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่
“ฉันเคาะประตูเรียกแกตั้งนาน ทำไมแกถึงพึ่งจะออกมาฮะ” จางเซียวลี่ตะโกนออกด้วยความโกรธเคือง “หรือจะต้องให้ฉันบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่าวันนี้แกกล้าขัดคำสั่งของฉันฮะ”
จางลี่จิ่นก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเธอเกรงกลัวอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพียงแค่ในตอนนี้เธอไม่อยากทำตัวให้ผิดสังเกต เพราะไม่อย่างนั้นการที่จะออกไปจากตระกูลจางแห่งนี้ คงจะถูกอีกฝ่ายขัดขวางอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ ก็คือการทำตัวให้เหมือนปกติ
“ขอโทษค่ะพี่เซียวลี่ ฉันจะรีบไปทำอาหารเดี๋ยวนี้ค่ะ”
มือบางของจางเซียวลี่ฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของจางลี่จิ่นอย่างไม่อ้อมแรง เธอไม่อยากจะเห็นใบหน้าสวยๆ ของอีกฝ่าย เพราะยิ่งทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบกันระหว่างเธอกับหญิงสาวคนนั้น เพราะอะไรคุณพ่อคุณแม่ของเธอถึงไม่หาน้องสาวที่ขี้เหร่กว่านี้สักหน่อย ไม่อย่างนั้นคนที่เธอแอบชอบคงไม่คอยแต่จ้องจะถามหาน้องสาวปลอมๆ ของเธออยู่แบบนี้
“ก็รีบไปสิ คอยดูเถอะฉันจะให้คุณแม่ขังเธอเอาไว้ในห้อง”
จางลี่จิ่นรีบเดินเข้าไปภายในครัวด้วยท่าทางหวาดกลัว หลังจากที่จางเซียวลี่จากไปเรียบร้อยแล้วนั้น จางลี่จิ่นก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าท่าทางที่หวาดกลัวก่อนหน้านี้หายไปในทันที เหลือเพียงแต่ความโกรธแค้นที่เธอได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากอีกฝ่าย ในอดีตเธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้ครอบครัวของเธอรังเกียจและชิงชังเธอได้ขนาดนี้ แต่เมื่อเธอรู้ความจริงว่าเป็นเพียงหลานสาวของพวกเขาเท่านั้น และที่อีกฝ่ายเกลียดชังเธอขนาดนี้ ก็เพราะพวกเขาเกลียดชังครอบครัวที่แท้จริงของเธอด้วย
สำหรับจางเจี้ยนกั๋วผู้เป็นเพียงลุงก็เธอเท่านั้น เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของพ่อที่แท้จริงของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าอีกฝ่ายเกลียดชังพ่อของเธอมาจนอยากจะให้อีกฝ่ายตายไปตั้งแต่เล็กเลยทีเดียว เนื่องจากลุงของเธอคนนี้เป็นลูกชายคนโตของเศรษฐีคนหนึ่งกับภรรยาคนแรก หลังจากที่ภรรยาคนแรกของเศรษฐีตายไป เขาก็ได้แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง เผื่อหวังที่จะให้ภรรยาคนที่สองช่วยดูแลลูกชายของเขาที่ยังเล็กและขาดแม่ ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาคนที่สองของเศรษฐีคนนั้นได้ดูแลจางเจี้ยนกั๋วมาเป็นอย่างดีและให้ความรักอีกฝ่ายเหมือนกับเป็นแม่ที่แท้จริงของเขา แต่จางเจี้ยนกั๋วก็ไม่ได้รักใคร่อีกฝ่ายอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเขาคิดว่าที่หญิงสาวคนนี้แต่งเข้ามาหลังจากที่แม่ที่แท้จริงของเขาตายไปได้แค่ปีเดียว อีกฝ่ายจะต้องไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน และเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาแย่งความรักและความใส่ใจของพ่อไป ดังนั้นจางเจี้ยนกั๋วจึงได้ชิงชังอีกฝ่ายเช่นนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายได้คลอดน้องชายออกมาและน้องชายของเขาคนนี้เติบโตขึ้นมาเป็นคนอัจฉริยะ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก
แต่สำหรับจางฟางซินผู้เป็นภรรยาของจางเจี้ยนกั๋วนั้น เธอไม่ได้ชิงชังหรือโกรธแค้นจางหลี่เฉียงหรือพ่อของเธอแต่อย่างใด แต่คนที่เขารู้สึกไม่พอใจและชิงชังกับเป็นจางลู่จื้อผู้เป็นภรรยาของจางหลี่เฉียงมากกว่า เนื่องจากจางฟางซินเป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่ตกหลุมรักจางหลี่เฉียงตั้งแต่ครั้งแรก แต่เพราะจางหลี่เฉียงหลงรักจางเหมยหลินผู้เป็นภรรยาของเขามาก ดังนั้นจางฟางซินจึงทำได้เพียงแค่ตบแต่งเข้ามาในตระกูลจางเพื่อหวังว่าสักวันจางหลี่เฉียงจะหันมามองที่ตนบ้าง เพราะเธอไม่เชื่อว่าความสวยและความงามของเธอไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายหันกลับมามองที่เธอได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างที่เธอทำไปก็เสียเปล่า เพราะนอกจากจางหลี่เฉียงจะไม่ได้ชื่นชอบเธอแล้วนั้น อีกฝ่ายยังรังเกียจที่เธอพยายามยั่วยวนเขาอีกต่างหาก ดังนั้นเมื่อเธอได้รับข่าวการตายของจางหลี่เฉียงและจางลู่จื้อ เธอจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการที่เธอสามารถนำลูกสาวที่คนทั้งสองรักใคร่ มาเป็นที่ลองมือลองไม้ของลูกสาวของนางเช่นนี้
จางลี่จิ่นยืนมองพ่อแม่และลูกสาวกำลังนั่งทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่เธอจะกลับมานั่งทานอาหารของตัวเองอีกครั้ง ถ้าเป็นในอดีตจางลี่จิ่นคงจะน้อยเนื้อต่ำใจว่าเพราะเหตุใดทั้งพ่อแม่และพี่สาวของเธอถึงไม่ให้เธอออกไปนั่งทานอาหารด้วย แต่ในตอนนี้เธอที่รู้ความจริงทั้งหมด จึงไม่มีความรู้สึกนั้นหลงเหลือแต่อย่างใด
หญิงสาวหยิบภาพถ่ายที่ได้รับออกมาถือไว้ในมืออีกครั้ง ในเมื่อคนเหล่านี้ไม่คิดว่าเธอเป็นครอบครัวของพวกเขา ดังนั้นเธอก็จะไม่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นครอบครัวของเธอเช่นเดียวกัน
‘ระบบคุณสามารถหาที่อยู่ของคนๆ หนึ่งให้ฉันได้หรือเปล่า’ จางลี่จิ่นเอ่ยถามระบบภายในใจ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าจางเจี้ยนกั๋วผู้เป็นลุงของเธอกำลังคบชู้กับหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เธอรู้ดีว่าถ้าหากเธอนำภาพถ่ายนี้ไปยื่นข้อเสนอกับผู้เป็นลุงแล้วนั้น อีกไม่นานอีกฝ่ายจะต้องหาหนทางเผื่อแก้แค้นเธอคืนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ลุงของเธอยังคงมีครอบครัวของภรรยาเขาคอยให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าอำนาจของอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากก็ตาม แต่ก็ยังมากกว่าหญิงสาวที่ไม่มีอะไรเลยเช่นเธอ ดังนั้นถ้าหากต้องการไม่ให้อีกฝ่ายสามารถยื่นมือมาแก้แค้นเธอคืนได้ สิ่งที่จางลี่จิ่นต้องทำต่อไปก็คือการทำให้ตระกูลของป้าเธอล้มลงให้ได้
[ระบบสามารถทำได้ แต่ในตอนนี้คุณไม่มีเงินในระบบ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการให้ระบบช่วยหาที่อยู่ของใครบางคนนั้น คุณสามารถนำเงินในชีวิตจริงของคุณเข้ามาใส่ไว้ในระบบได้ครับ โดยการค้นหาตัวบุคคลจะใช้เงินจำนวนหนึ่งหมื่นหยวน]
‘ฉันต้องทำยังไงบ้าง’ จางลี่จิ่นให้ความสนใจในทันที เธอเชื่อว่าในอนาคตเธอจะสามารถหาเงินมาคืนระบบได้อย่างแน่นอน
[เติมเงินเข้าระบบ]
กรุณากรอกจำนวนเงินที่ต้องการเติมเงินเข้าระบบ
[ยืนยัน]
[คุณลี่จิ่นกรุณายืนยันยอดที่ต้องการเติมเงินได้เลยครับ เพียงแค่พูดหรือคิดถึงยอดที่จะเติมก็ได้]
‘เติมเงินหนึ่งหมื่นหยวน’ จางลี่จิ่นคิดถึงยอดที่ต้องการเติมเข้าระบบ
[เติมเงินสำเร็จ]
[คุณลี่จินต้องการให้ระบบค้นหาบุคคลคนนั้นเลยหรือไม่ครับ การค้นหาจะหักเงินในทันที]
‘ค้นหาได้เลย’ เห็นทีหลังจากออกจากตระกูลจางเรียบร้อยแล้ว เธอต้องรีบหาหนทางทำเงินต่อในทันที ไม่เช่นนั้นเธอคงต้องอดตายเหมือนในอดีตแน่ ถึงแม้ว่าในตอนเธอจะยังมีเงินอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีมากสักเท่าไหร่ ในเมื่อเธอมีสถานะเป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลจาง ดังนั้นอีกฝ่ายจึงมอบเงินให้เธอใช้เพียงแค่ไม่กี่หยวนเท่านั้น อีกทั้งในอดีตเธอก็ไม่เคยหาหนทางในการหาเงินเพิ่มแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ก้มหน้ารับใช้พวกเขาสามคนเพียงเท่านั้น
[ค้นหาตัวบุคคล]
กรุณาแจ้งชื่อ-นามสกุลของบุคคลนั้น
[ยืนยัน]
‘โจวฮุ่ยหมิง’ จางลี่จิ่นระบุชื่อสามีของซูเม่ย ซึ่งหญิงสาวคนนั้นก็คือชู้รักของจางเจี้ยนกั๋วนั้นเอง และถือได้ว่าโจวฮุ่ยหมิงคนนี้มีอำนาจภายในเมืองนี้อยู่พอตัว เนื่องจากในอดีตเธอเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลโจวอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งตระกูลโจวนี้ก็ยังให้ความช่วยเหลือตระกูลจางมาหลายครั้งเช่นเดียวกัน เนื่องจากจางเซียวลี่เป็นคนรักของลูกชายโจวฮุ่ยหมิงนั้นเอง
[กำลังดำเนินการ กรุณารอสักครู่]
………
[เสร็จเรียบร้อย]
เวลาผ่านไปไม่นาน หน้าจอของแผนที่ก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าของจางลี่จิ่น นอกจากจะมีที่อยู่ปัจจุบันของโจวฮุ่ยหมิงขึ้นมาแล้ว ยังมีรายชื่อที่พักของโจวฮุ่ยหมิงทั้งหมดที่โจวฮุ่ยหมิงครอบครองอยู่ อีกทั้งระบบยังแจ้งที่พักปัจจุบันในตอนนี้ของโจวฮุ่ยหมิงมาให้เรียบร้อยด้วย ทำให้จางลี่จิ่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านั้นเธอคิดว่าการค้นหาคนในครั้งนี้ จะได้ที่อยู่เพียงที่เดียวเท่านั้น
‘ขอบคุณมากนะ’
[ยินดีรับใช้ครับผม คุณลี่จิ่นสามารถใช้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ตลอดเลยนะครับ ถ้าหากโจวฮุ่ยหมิงเปลี่ยนที่อยู่ปัจจุบันเมื่อไหร่ ระบบจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง]
หลังจากทำความสะอาดห้องครัวเรียบร้อยแล้วนั้น จางลี่จิ่นก็นั่งรอสักพัก เมื่อเห็นจางฟางซินและจางเซียวลี่ออกจากบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบเดินตรงไปยังห้องทำงานของจางเจี้ยนกั๋วในทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใคร” เสียงทุ้มดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดพอสมควร เนื่องจากในตอนนี้เขากำลังสนทนาอยู่กับคนรักของเขานั้นเอง ดังนั้นจางเจี้ยนกั๋วจึงรู้สึกไม่พอใจที่มีคนมาขัดจังหวะตอนนี้
“ลี่จิ่นเองค่ะ” จางลี่จิ่นไม่เคยเรียกอีกฝ่ายว่าพ่อมานานมากแล้ว ยกเว้นก็แต่ยามที่เธอถูกอีกฝ่ายพาออกไปในที่สาธารณะ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการสร้างภาพเรื่องครอบครัวที่รักใคร่กันของอีกฝ่าย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พบกันใหม่ในตอนต่อไปนะคะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 16[คุณทำลายกำไลวงนั่นไม่ได้ จนกว่าคุณจะดึงโชคของคุณกลับคืนมาหมด หลังจากนั่นกำไลวงนั้นจะแตกสลายไปเองครับ]‘ถ้าอย่างนั้นซูเฟยอวี่และหวังจินเยว่ก็ต้องถูกกำไลวงนั้นครอบงำ จนกว่าที่ฉันจะดึงโชคของฉันกลับคืนมาหมดใช่ไหม’ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงสองคนนั้น แต่เธอก็ไม่อยากให้ถังเจียวมิ่งใช้อีกฝ่ายเป็นสะพานข้ามไปข้างหน้าเช่นกัน[ใช่แล้วครับ ดังนั้นระบบหวังว่าคุณจะทำภารกิจที่ระบบแม่มอบให้สำเร็จในทุกภารกิจนะครับ เพื่อที่คุณจะได้ปลดปล่อยทุกคนให้พวกเขาเดินไปตามทางของพวกเขาเอง โดยที่ไม่ถูกครอบงำจากกำไลวงนั้น]‘ฉันจะทำให้เต็มที่’หลังจากที่จางลี่จิ่นเดินกลับมายังจุดนัดพบของเธอและเพื
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 15ถังเจียวมิ่งมองหญิงชราคนดังกล่าวด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมาเหมือนกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าหญิงชราคนนี้เป็นใครกันแน่ เพราะในวันที่เธอมาถึงที่หมู่บ้านเทียนเหอแห่งนี้และตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายวัน เธอก็ไม่เคยพบเจอหญิงชราคนนี้เลยสักครั้งเดียว“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะคะ ฉันก็แค่...” เมื่อหาเหตุผลอะไรมาอธิบายให้หญิงชราคนดังกล่าวไม่ได้ จินจื่อเถียนจึงได้แต่ยืนเงียบเคียงข้างเพื่อนของตัวเองหลี่ซินอวี่กวาดสายตามองไปยังหญิงสาวชาวบ้านคนดังกล่าว ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่ที่ร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น “ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา ควรที่จะคิดให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคนเขาจะคิดว่าเธอไม่มีคนส
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 14“อาหารพวกนี้น่าทานมากเลยลี่จิ่น” อู๋เจิ้งเซียวมองอาหารตรงหน้าด้วยความละลานตา เธอไม่ผิดหวังกับอาหารที่จางลี่จิ่นเป็นคนทำเลยสักครั้ง หลังจากที่สูดดมอาหารตรงหน้าสักพัก ในที่สุดอู๋เจิ้งเซียวก็ยื่นมือออกไปเพื่อตักอาหารมาไว้ในกล่องอาหารของตัวเอง ถึงแม้ว่าเธอจะเคยทานอาหารของจางลี่จิ่นมาหลายครั้งแล้ว แต่ยิ่งได้ทานเธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ เธออยากจะทานมันอีกเรื่อยๆ“นั่นสิ ฉันก็คิดเหมือนกับเจิ้งเซียว อาหารที่เธอทำแต่ละอย่างน่าทานตลอดเลย” เผิงอวี๋หลานค่อยๆ เคี้ยวอาหารที่เธอตักเข้าปากอย่างช้าๆ เพื่อลิ้มรสอาหารตรงหน้า “เธออย่ามัวแต่มองพวกเราสองคนซิ” เผิงอวี๋หลานเขยิบอาหารที่อยู่ใกล้เธอไปทางจางลี่จิ่น เมื่อเห็นอ
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 13“ทำไมทำหน้าแบบนั่นละอวี๋หลาน” อู๋เจิ้งเซียวเอียงคอมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่นี้อีกฝ่ายยังอารมณ์อยู่เลย “หรือว่าคนที่มาเคาะประตูทำอะไรให้เธอไม่พอใจกัน”เผิงอวี๋หลานถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ใครว่าละ คนที่ฉันไม่พอใจเป็นผู้หญิงสามคนนั้นมากกว่า ฉันยืนอยู่หน้าบ้านพักโดยที่ไม่ได้ขวางประตูทางเข้าออกพวกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเธอทำเหมือนว่าฉันไปติดหนี้พวกเธอยังไงยังงั้น แถมยังชักสีหน้าใส่ฉันอีกด้วย” เผิงอวี๋หลานรู้สึกไม่พอใจยุวชนหญิงสามคนนั้น โดยเฉพาะถังเจียวมิ่งที่ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ค่อยมีปากเสียง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับอีกฝ่ายเสียงอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ในตอนแรกที่พบเจอกัน เธอรู้สึกว
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 12จางลี่จิ่นก้าวลงจากรถบรรทุกตามลำดับ หลังจากที่ยุวชนต่างก็เริ่มทยอยกันลงจากรถบรรทุกกันไปทีละคน หลังจากที่จางลี่จิ่นเดินลงมาจากรถบรรทุกเรียบร้อยแล้ว เธอก็กวาดสายตามองไปยังชาวบ้านเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองเห็นอดีตคนรักของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าอีกฝ่ายกำลังมองไปที่ถังเจียวมิ่งด้วยแววตาที่เหมือนกับในอดีตนั้นเอง ทำให้เธอรับรู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นชื่นชอบถังเจียวมิ่งก่อนที่จะมาคบกับเธอนั่นเอง“เอาล่ะทุกคน ตอนนี้ก็ถึงหมู่บ้านเทียนเหอเรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำตัวให้ชาวบ้านทุกคนได้รู้จักกันก่อนนะครับ” ฟู่หยวนติงขึ้นไปยืนบนเวทีเล็กๆ ที่ถูกทำเอาไว้ เพื่อเขาจะได้มองเห็นชาวบ้านในหมู่บ้านได้อย่างชัดเจน “เอาละ เริ่มจากยุวชนชายคนนั้นก่อนเลยครับ”จางลี่จิ่นยืนมองยุวชนทั้งชา
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์ ขอให้นักอ่านทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 11จางลี่จิ่นยืนขึ้นเพื่อไปรวมตัวกับยุวชนคนอื่นๆ เพื่อเดินลงจากรถไฟ หลังจากที่เธอเดินทางมาเกือบสามวัน ในที่สุดเธอก็เดินทางมาถึงอำเภอยวี๋เป่ยเสียที จางลี่จิ่นเหลือบมองไปทางถังเจียวมิ่งเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินลงตามยุวชนคนอื่นลงจากรถไฟ เนื่องจากพวกเธอเดินทางมาถึงที่อำเภอยวี๋เป่ยในช่วงสายของวัน แต่ที่สถานีแห่งนี้ก็ไม่ได้มีผู้คนพลุ่งพล่าน อีกทั้งบริเวณรอบๆ ยังไม่มีร้านค้าเปิดเหมือนกับในเมืองที่เธอจากมา“ยุวชนทุกคน กรุณาแยกย้ายไปตามตำบลของตัวเอง” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยืนอยู่บริเวณทางขึ้นลงของขบวนรถไฟ เพื่อคอยแจ้งข้อมูลให้กับเหล่ายุวชนที่กำลังลงจากขบวนรถไฟนั่นเอง “กรุณาเดินกันอย่างมีระเบียบด้วย ถ้าหากใครก่อกวนหรือสร้างความวุ่นวาย พวกค







