เข้าสู่ระบบชาติก่อนนางตายไปด้วยความไม่เป็นธรรม ผู้หญิงคนนั้นทำให้นางกลายเป็นคนร้ายกาจ เมื่อได้มีโอกาสได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง "จางลี่จิ่น" สัญญากับตัวเองว่ากลับมาครั้งนี้ นางจะต้องเอาคืนผู้หญิงคนนั้นให้ได้...
ดูเพิ่มเติมคุยกันสักนิด
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 1
ภายในวัดร้างแห่งหนึ่งมีร่างบางของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ จางลี่จิ่นไม่คิดเลยว่าตอนจะกลายเป็นที่ไม่ต้องการเช่นนี้ ทั้งอดีตคนรักก็ตีตัวออกห่าง ทั้งๆ ที่จางลี่จิ่นไม่เคยทำผิดกับอีกฝ่ายเลยสักครั้ง แต่เพราะหญิงสาวผู้นั้นร่ำไห้พร้อมกับใส่ร้ายทุกอย่าง อดีตคนรักผู้นั้นถึงกับเชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคยคิดที่จะสืบหาความจริงหรือสอบถามเรื่องราวใดๆ เลยสักครั้ง
จางลี่จิ่นร้องไห้ขึ้นมาเบาๆ บาดแผลที่ได้รับจากการคุมขังในค่ายแห่งนั้นยังไม่ทันหายดี ในเวลานี้แม้กระทั่งครอบครัวที่คิดว่าเป็นที่พึ่งเดียวก็ยังตัดขาดและทอดทิ้ง ถึงแม้ว่าก่อนที่ชีวิตของจางลี่จิ่นจะเดินทางมาถึงจุดนี้ หญิงสาวทั้งดูแลและคอยส่งอาหาร รวมไปถึงเงินทองที่หามาได้ไปให้กับครอบครัว แต่เมื่อจางลี่จิ่นถูกส่งกลับมาที่เมืองหลวงแห่งนี้ ครอบครัวที่คิดว่ายังคงเหลืออยู่ กับไม่ต้องการตนเลยแม้แต่น้อย ลมหายใจของจางลี่จิ่นค่อยๆ แผ่วลงทีละนิดทีละนิด จนในที่สุดก็ไม่ปรากฏขึ้นมาอีกต่อไป ร่างอันไร้วิญญาณของจางลี่จินถูกทอดทิ้งไว้ที่วัดร้างดังเดิม จนกว่าจะมีผู้ใดแวะเวียนมายังที่แห่งนี้และพบเจอกับร่างอันแข็งทื่อของหญิงสาว
เฮือก!
สายตาของจางลี่จิ่นกวาดไปมองรอบๆ ตัวด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อเห็นความคุ้นเคยที่ปรากฏเข้ามาภายในสายตาแล้วนั้น หญิงสาวก็ต้องรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อครู่เธอพึ่งนอนอยู่ภายในวัดร้าง แต่ในตอนนี้กับกลายมาเป็นว่าเธอกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของตัวเอง
[กรุณารอสักครู่ ระบบกำลังถูกติดตั้ง]
จางลี่จิ่นมองไปรอบๆ ตัวอีกครั้ง เมื่อเธอได้ยินเสียงบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่ว่างจะมองหาสักเท่าไหร่ เธอก็ไม่รู้ว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อสักครู่นั้นเป็นเสียงของอะไร
“สงสัยเราจะหูฝาด” จางลี่จิ่นลุกขึ้นจากเตียงนอน จากนั้นก็เดินตรงไปยังโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ข้างกาย ก่อนที่สายตาของเธอจะเห็นวันที่ที่ปรากฏอยู่บนปฏิทินซึ่งแขวนอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง ทำให้เธอรับรู้ได้ว่าในตอนนี้เธอได้ย้อนกลับมาในอดีต ก่อนที่เธอจะถูกครอบครัวส่งตัวไปเป็นยุวชนที่ชนบทแทนพี่สาวของตัวเอง
“ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว”
[สวัสดีครับคุณลี่จิ่น กระผมจะเป็นคนดูแลคุณนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปนะครับ]
เสียงที่ดังขึ้นทำให้จางลี่จิ่นสะดุ้งเล็กน้อย “คุณเป็นใครกัน แล้วคุณอยู่ที่ไหนทำไมฉันถึงมองไม่เห็น”
[ผมเป็นระบบที่ถูกติดตั้งขึ้นภายในตัวของคุณ ซึ่งคุณลี่จิ่นจะมองไม่เห็นผมหรอกครับ แต่คุณจะสามารถได้ยินเสียงของผมในหัวเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณอยู่ด้านนอก ผมแนะนำให้คุณลี่จิ่นพูดคุยกับผมในใจดีกว่า ไม่อย่างนั้นคงจะถูกคนอื่นมองว่าคุณเป็นคนไม่ปกติแน่นอนครับ]
“แล้วทำไมนายถึงมาติดตั้งในตัวของฉันล่ะ” จางลี่จิ่นยังคงมึนงงอยู่เช่นเคย “แล้วนายรู้หรือเปล่า ว่าเพราะอะไรฉันถึงได้ย้อนกลับมาในอดีตแบบนี้ หรือว่านายเป็นคนพาฉันกลับมา”
[เนื่องจากเกิดความผิดพลาดของระบบแม่ ซึ่งทำให้คุณเสียชีวิตก่อนกำหนด นอกจากนี้ยังทำให้เรื่องราวทุกอย่างผิดเพี้ยนไปจากเดิม ดังนั้นระบบแม่จึงได้ส่งผมมาช่วยเหลือคุณเพื่อทำการแก้ไขอดีตครับ]
“นายพอจะบอกฉันได้ไหมว่าข้อผิดพลาดของระบบแม่ของนายคืออะไร” ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาแก้ไขอดีตอีกครั้ง แต่เธอก็ยังมึนงงมากเหมือนกันว่าข้อผิดพลาดนั้นคืออะไร ถึงได้ทำให้เธอมีโอกาสได้กลับมาแก้ไขมันอีกครั้งแบบนี้
[เนื่องจากระบบแม่ถูกก่อกวนขึ้น ทำให้ระบบที่ชั่วร้ายสามารถหลุดออกจากที่กักกันและก้าวเข้ามาภายในโลกของคุณได้ ซึ่งระบบชั่วร้ายนั้นก็ถูกติดตั้งเข้ากับคนผู้หนึ่งเพื่อที่มันจะสามารถหลบหนีจากการค้นหาของระบบแม่ได้ แต่กว่าที่ระบบแม่จะกลับมาใช้งานได้ เรื่องราวทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปจนหมดแล้ว รวมไปถึงโชคของคุณที่ถูกใครบางคนฉกชิ่งไปด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้สุดท้ายชีวิตของคุณต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและตายไปในที่สุด ดังนั้นเพื่อที่จะชดเชยข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น ระบบแม่จึงได้ส่งผมให้มาช่วยเหลือคุณเพื่อแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดครับ]
ภายในใจของจางลี่จิ่นรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องราวที่เธอพบเจอในอดีตที่ผ่านมาจะเป็นเพราะข้อผิดพลาดจากระบบเท่านั้น “แล้วระบบชั่วร้ายนั่นล่ะ ถ้าฉันกลับมาได้แบบนี้ มันก็จะกลับมาด้วยเหมือนกันกับฉันหรือเปล่า”
[คุณไม่ต้องเป็นห่วงไป หลังจากที่คุณเสียชีวิตลงในครั้งที่แล้ว ระบบแม่ก็ได้ตรวจพบระบบที่ชั่วร้ายนั้นและได้จับกุมตัวมันไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ความชั่วร้ายของมันยังมีบางส่วนที่ถูกฝังลึกลงไปภายในร่างกายของคนที่ถูกมันติดตั้งระบบ ดังนั้นสิ่งที่คุณลี่จิ่นจะต้องทำก็คือการดึงโชคของคุณกลับคืนมา เพื่อให้เรื่องราวทุกอย่างได้กลับไปเป็นเหมือนเดิม]
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าใครคือคนที่ถูกระบบที่ชั่วร้ายติดตั้งเอาไว้” จางลี่จิ่นขมวดคิ้วด้วยความครุ่นคิด “แล้วฉันจะดึงโชคของตัวเองกลับมาได้ยังไง”
[เพราะแบบนี้ระบบแม่ถึงได้ส่งผมมายังไงล่ะ เพียงคุณทำภารกิจต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย คุณก็จะได้รับโชคของคุณกลับคืนมา นอกจากนี้คุณยังจะได้รับรางวัลอื่นอีกด้วย]
“แล้วทำไมระบบแม่ของคุณถึงไม่ดึงโชคจากคนๆ นั้นมาให้ฉันเลยล่ะ” จางลี่จิ่นไม่เข้าใจระบบแม่ของอีกฝ่ายเช่นกัน ทั้งๆ ที่เป็นความผิดของระบบแม่ที่ปล่อยให้ระบบชั่วร้ายนั้นสามารถหลุดออกมาได้ แต่ทำไมถึงเป็นเธอที่จะต้องดึงโชคของตัวเองกลับคืนมาแบบนี้
[ถึงแม้ระบบแม่จะมีความทันสมัย แต่ก็ไม่สามารถที่ดึงโชค รูปร่างหน้าตา หรือความสามารถของคนๆ หนึ่งมาให้อีกคนหนึ่งได้โดยตรง ดังนั้นระบบแม่จึงทำได้แค่ส่งผมมาให้มอบภารกิจให้กับคุณครับ]
จางลี่จิ่นพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่พอใจก็ตาม “แล้วในตอนนี้ฉันจะต้องทำอะไรต่อ”
[ถ้าอย่างนั้นผมขอแนะนำระบบเพิ่มเติมนะครับ นอกจากที่คุณลี่จิ่นจะต้องทำภารกิจที่ผมมอบให้ให้เสร็จเรียบร้อย ระบบเช่นผมยังมีร้านค้าให้คุณได้เลือกซื้อสิ่งของได้อีกด้วย ซึ่งคุณลี่จิ่นสามารถเปิดดูร้านค้าได้ด้วยการพูดคำว่าเปิดร้านครับ หลังจากนั้นร้านค้าก็จะเด้งขึ้นมาให้คุณได้เห็น ถ้าหากคุณต้องการของชิ้นไหน ก็เพียงแค่กดเลือกและกดสั่งซื้อเท่านั้นครับ]
“เปิดร้าน” จางลี่จิ่นพูดออกไปตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนที่เธอจะเห็นแถบหน้าต่างโปร่งใสเด้งขึ้นมาตรงหน้า หญิงสาวค่อยๆ กดเลื่อนดูแถบหน้าต่างนั้นอย่างใจเย็น เพียงไม่นานจางลี่จิ่นก็สามารถทำความเข้าใจกับระบบซื้อสินค้าของร้านค้าได้ในที่สุด นอกจากจะมีสินค้าที่เปิดขายมากมายแล้วนั้น
“แล้วฉันจะซื้อของได้ยังไงเหรอ ในเมื่อยอดเงินในระบบของฉันยังเป็นศูนย์แบบนี้”
[อย่างที่ผมบอกไปเมื่อครู่ เมื่อคุณทำภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากจะได้รับโชคกลับคืนมา คุณยังสามารถได้รับรางวัลอื่นอีกด้วย สำหรับเงินที่คุณจะได้รับจากการทำภารกิจนั้น นอกจากคุณจะดึงออกไปใช้ด้านนอกแล้ว คุณยังสามารถใช้สำหรับซื้อของในระบบได้อีกด้วย]
แววตาเป็นประกายของจางลี่จิ่นปรากฏขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “แบบนี้ฉันสามารถซื้อของในร้านค้า แล้วนำไปขายข้างนอกได้หรือเปล่า”
[คุณสามารถทำได้ครับ]
ตึง! ตึง! ตึง!
“ใกล้จะถึงเวลาทำอาหารแล้ว ทำไมแกยังไม่ออกมาจัดการอีก” เสียงทุบประตูดังนั้น พร้อมกับเสียงตวาดของหญิงสาวคนหนึ่ง “รีบออกมาทำอาหารเร็วเข้า ถ้าหากถึงเวลาแล้วแกยังทำอาหารไม่เสร็จ ฉันจะบอกให้พ่อกับแม่ทุบตีแกให้ตายเลยคอยดู”
“แกยังไม่ออกมาจากห้องอีกเหรอ หรือว่าจะต้องโดนฉันตีอีกสักทีสองที” เมื่อไม่ได้ยินเสียงของคนที่อยู่ภายในห้อง ทำให้หญิงสาวที่อยู่ด้านทำการทุบประตูขึ้นมาอีกครั้ง โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าเสียงที่ดังขึ้นมานั้นจะทำให้เพื่อนบ้านรำคาญใจหรือเปล่า
ติ้ง!
[ภารกิจ ตัดขาดกับตระกูลจาง]
คุณจะต้องตัดขาดกับครอบครัวภายในเวลาสามวัน
ของรางวัลคือ กล่องสุ่มเงินหยวน
บทลงโทษคือ หักเงินหยวน(สุ่ม)[ยืนยัน]
[คุณลี่จิ่นได้รับภาพถ่ายสามใบ กรุณาเปิดร้านค้าเพื่อรับภาพถ่ายทั้งสามใบในโกดังเก็บของ]
จางลี่จิ่นไม่ได้สนใจเสียงทุบประตูของผู้เป็นพี่สาว “ไหนนายบอกว่าถ้าทำภารกิจแล้วจะได้รับโชคอย่างไรล่ะ แล้วทำไมครั้งนี้ถึงได้กล่องสุ่มเงินหยวน”
[ผมน่าจะลืมบอกคุณลี่จิ่นไป ว่าคุณจะได้รับโชคกลับคืนเฉพาะภารกิจที่เกี่ยวข้องกับคนที่ดึงโชคของคุณไป ดังนั้นพยายามเข้านะครับ]
มือบางของหญิงสาวถือรูปถ่ายทั้งสามใบเอาไว้ในมือ หลังจากที่เธอกดถอนรูปทั้งสามใบนี้ออกมาจากโกดังเก็บของในร้านค้าเป็นที่เรียบร้อย รูปถ่ายใบแรกที่จางลี่จิ่นเห็นคือภาพของพ่อของเธอที่กำลังโอบกอดผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ ใบที่สองเป็นภาพของพ่อของเธอที่กำลังยืนจูบกับหญิงสาวคนเดียวกัน และภาพถ่ายใบสุดท้ายก็ยังคงเป็นภาพถ่ายของพ่อของเธออีกเช่นกัน แต่ภาพใบนี้เป็นภาพถ่ายที่ทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปในบ้านพักแห่งหนึ่ง
จางลี่จิ่นอดที่จะดูแคลนอีกฝ่ายไม่ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่ก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม เพราะในชาติที่แล้วหลังจากที่เธอถูกปล่อยตัวออกจากที่คุมขัง จางลี่จิ่นก็ได้เดินทางกลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง แต่ครอบครัวของเธอไม่ได้ให้การต้อนรับเธอสักเท่าไหร่ และทำให้เธอรับรู้เรื่องราวของเธอในที่สุด ครอบครัวที่เธอคิดว่าเป็นครอบครัว สุดท้ายเธอเป็นแค่หลานสาวเท่านั้น ผู้ชายคนนั้นเพียงแค่ต้องการจะครอบครองเงินทอง รวมไปถึงบ้านหลังนี้ที่เคยเป็นบ้านของพ่อและแม่ของเธอ ดังนั้นอีกฝ่ายถึงได้เสนอตัวรับเลี้ยงเธอในวันที่เธอสูญเสียพ่อกับแม่ไป ซึ่งในตอนนั้นเธอมีอายุยังไม่ถึงหนึ่งขวบเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเธอโตขึ้นอีกฝ่ายจึงได้บอกกับเธอว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ เป็นครอบครัวที่แท้จริงของเธอ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย หลังจากที่พวกเขาบอกเรื่องราวทุกอย่างให้เธอฟัง ก็ไล่เธอออกจากบ้านไปในทันที และเธอก็ไม่สามารถแจ้งความในเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเวลาผ่านไปนานมากแล้ว หลักฐานที่เกี่ยวกับพ่อแม่ที่แท้จริงเธอก็ไม่มี ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่นอนถอดร่างกายในวัดร้างและจากไปอย่างโดดเดี่ยวเพียงเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พบกันใหม่ในตอนต่อไปนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 16[คุณทำลายกำไลวงนั่นไม่ได้ จนกว่าคุณจะดึงโชคของคุณกลับคืนมาหมด หลังจากนั่นกำไลวงนั้นจะแตกสลายไปเองครับ]‘ถ้าอย่างนั้นซูเฟยอวี่และหวังจินเยว่ก็ต้องถูกกำไลวงนั้นครอบงำ จนกว่าที่ฉันจะดึงโชคของฉันกลับคืนมาหมดใช่ไหม’ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงสองคนนั้น แต่เธอก็ไม่อยากให้ถังเจียวมิ่งใช้อีกฝ่ายเป็นสะพานข้ามไปข้างหน้าเช่นกัน[ใช่แล้วครับ ดังนั้นระบบหวังว่าคุณจะทำภารกิจที่ระบบแม่มอบให้สำเร็จในทุกภารกิจนะครับ เพื่อที่คุณจะได้ปลดปล่อยทุกคนให้พวกเขาเดินไปตามทางของพวกเขาเอง โดยที่ไม่ถูกครอบงำจากกำไลวงนั้น]‘ฉันจะทำให้เต็มที่’หลังจากที่จางลี่จิ่นเดินกลับมายังจุดนัดพบของเธอและเพื
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 15ถังเจียวมิ่งมองหญิงชราคนดังกล่าวด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมาเหมือนกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าหญิงชราคนนี้เป็นใครกันแน่ เพราะในวันที่เธอมาถึงที่หมู่บ้านเทียนเหอแห่งนี้และตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายวัน เธอก็ไม่เคยพบเจอหญิงชราคนนี้เลยสักครั้งเดียว“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะคะ ฉันก็แค่...” เมื่อหาเหตุผลอะไรมาอธิบายให้หญิงชราคนดังกล่าวไม่ได้ จินจื่อเถียนจึงได้แต่ยืนเงียบเคียงข้างเพื่อนของตัวเองหลี่ซินอวี่กวาดสายตามองไปยังหญิงสาวชาวบ้านคนดังกล่าว ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่ที่ร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น “ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา ควรที่จะคิดให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคนเขาจะคิดว่าเธอไม่มีคนส
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 14“อาหารพวกนี้น่าทานมากเลยลี่จิ่น” อู๋เจิ้งเซียวมองอาหารตรงหน้าด้วยความละลานตา เธอไม่ผิดหวังกับอาหารที่จางลี่จิ่นเป็นคนทำเลยสักครั้ง หลังจากที่สูดดมอาหารตรงหน้าสักพัก ในที่สุดอู๋เจิ้งเซียวก็ยื่นมือออกไปเพื่อตักอาหารมาไว้ในกล่องอาหารของตัวเอง ถึงแม้ว่าเธอจะเคยทานอาหารของจางลี่จิ่นมาหลายครั้งแล้ว แต่ยิ่งได้ทานเธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ เธออยากจะทานมันอีกเรื่อยๆ“นั่นสิ ฉันก็คิดเหมือนกับเจิ้งเซียว อาหารที่เธอทำแต่ละอย่างน่าทานตลอดเลย” เผิงอวี๋หลานค่อยๆ เคี้ยวอาหารที่เธอตักเข้าปากอย่างช้าๆ เพื่อลิ้มรสอาหารตรงหน้า “เธออย่ามัวแต่มองพวกเราสองคนซิ” เผิงอวี๋หลานเขยิบอาหารที่อยู่ใกล้เธอไปทางจางลี่จิ่น เมื่อเห็นอ
คุยกันสักนิดขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาติดตามผลงานของไรท์นะคะ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะ >//<+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++บทที่ 13“ทำไมทำหน้าแบบนั่นละอวี๋หลาน” อู๋เจิ้งเซียวเอียงคอมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่นี้อีกฝ่ายยังอารมณ์อยู่เลย “หรือว่าคนที่มาเคาะประตูทำอะไรให้เธอไม่พอใจกัน”เผิงอวี๋หลานถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ใครว่าละ คนที่ฉันไม่พอใจเป็นผู้หญิงสามคนนั้นมากกว่า ฉันยืนอยู่หน้าบ้านพักโดยที่ไม่ได้ขวางประตูทางเข้าออกพวกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเธอทำเหมือนว่าฉันไปติดหนี้พวกเธอยังไงยังงั้น แถมยังชักสีหน้าใส่ฉันอีกด้วย” เผิงอวี๋หลานรู้สึกไม่พอใจยุวชนหญิงสามคนนั้น โดยเฉพาะถังเจียวมิ่งที่ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ค่อยมีปากเสียง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับอีกฝ่ายเสียงอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ในตอนแรกที่พบเจอกัน เธอรู้สึกว





