Share

ร่วมประชันเย็บปัก

last update Last Updated: 2024-12-08 12:39:51

2

ร่วมประชันเย็บปัก

เสียงภายในโรงเตี้ยมชั้นล่างเงียบลงเมื่อหญิงสาวปรากฎตัว คราแรกที่เดินเข้าไปมิได้มีผู้ใดสนใจ แต่ครานี้นางเดินไปกลางโถงผู้คนจึงให้ความสนใจ และเมื่อเห็นใบหน้างดงาม ผิวขาวเนียนราวหิมะโปรยของนาง ผู้คนจึงเงียบเสียงลง

สายตามากมายจดจ้องทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเยื้องย่าง หรือหยิบยื่น พอเสียงเงียบลงนางถึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ หวั่นไหวเพราะกริ่งเกร็ง เดิมทีมีเพียงชั้นล่างเงียบแต่บัดนี้ชั้นบนก็เงียบตามไปด้วย

หญิงสาวพลันหูอื้อไปชั่วขณะ ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจตนเอง มือสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่คุ้นชิน ไม่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองชั้นบนราวขอความช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า

ญาติสนิทสองคนด้านบนมิได้สนใจนาง นางยืนเงียบยื่นผ้าปักให้หญิงชราผู้นั้น จนกระทั่งนางเอ่ยถามจึงค่อยโล่งใจขึ้น “คุณหนูท่านชื่อแซ่ใด”

“ข้าแซ่เหลียง นามฟางหรูเจ้าค่ะ”

“เช่นนี้เอง คุณหนูเป็นบุตรสาวอีกคนของเหลียงซ่างซู” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ รู้สึกว่าเหลียงฟางหรูน่าเอ็นดูนัก นางไม่เหมือนไม่คล้ายบรรดาคุณหนูใหญ่เลยแม้แต่น้อยเพราะบรรดาสตรีเหล่านั้นล้วนวางท่าสูงส่ง เหยียบย่ำผู้ที่ด้อยกว่า ต่างกับเด็กสาวผู้นี้ นางมีท่าทีเกรงอกเกรงใจไม่กล้าพูดไหว้วานหรือรบกวนผู้อื่น

“ใช่แล้ว รบกวนเถ้าแก่ด้วย” หญิงสาวตอบผู้อาวุโสกว่าด้วยท่าทีนอบน้อม ไม่มีวี่แว่วคุณหนูใหญ่ตระกูลเหลียงแม้แต่น้อย เพราะเกิดมาไม่มีบ่าวไพร่ให้เรียกใช้จึงไม่คุ้นเคยหากต้องสั่งผู้อื่นทำงาน

หญิงผู้นั้นพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะหลุบตามองผ้าปักในมือ ใช้ฝ่ามือลูบไล้บนผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนผืนใหญ่ ฝีเข็มปราณีตงดงามระยะห่างของผ้าเนียนละเอียดไร้ที่ติ ลวดลายวิจิตร แม้แต่ตำหนิจากปมเส้นไหมสักที่ก็ไม่มีให้จับสังเกต

นางลูบไล้ผ้าเช็ดหน้าผืนงามสักครู่ก็เหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า ช่างเป็นฝีมืองานที่ยากยิ่งนัก นางยิ้มแล้วกล่าวกับเหลียงฟางหรู “คุณหนูท่านปักผ้านี้เองหรือเจ้าคะ”

หญิงสาวได้ฟังคำถามก็เอียงคอมอง สิ่งแรกที่คิดมาได้คือ หรือผ้าปักนี้ใช้ไม่ได้ “ผ้าปักนี้ใช้ไม่ได้หรือ เช่นนั้นข้ายังมีผ้าปักอีกสองผืน เชิญเถ้าแก่เลือกเองได้เลย” ขณะกล่าวก็ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าอีกสองผืนในแขนเสื้อออกมาให้เถ้าแก่สตรีได้ยล

ดวงตาทั้งสองตรงหน้าเบิกกว้าง ไม่คิดว่าหญิงสาวอายุเท่านี้จะปักผ้าได้งดงามปราณีตเพียงนี้ เดิมทีนางคิดว่าเหลียงฟางหรูอาจเป็นดังคุณหนูหลายตระกูลที่ใช้สาวใช้ส่วนตัวปักผ้า ตนเองนำผ้านั้นมาร่วมแข่งขันด้วย

ดั่งคำกล่าวว่าผู้ใดได้รับเลือกให้ปักผ้าในโรงเตี้ยมถือว่าเป็นผู้มีฝีมือ เพรียบพร้อมเหมาะเป็นภรรยา เช่นนี้หลังจบงานเทศกาลก็จะมีแม่สื่อไปหาถึงหน้าจวน

“คุณหนูมีฝีมือยิ่งนัก เชิญคุณหนูรอก่อนหากปิดการรับเลือกแล้วจะมีผู้แจ้ง”

“รบกวนเถ้าแก่แล้ว” ริมฝีปากสวยได้รูปกล่าวอย่างอ่อนโยนพลางค้อมตัวเล็กน้อย จากนั้นค่อย ๆ เดินเชื่องช้ากลับขึ้นไปยังชั้นสองของโรงเตี้ยม ท่าทีสงบนิ่งมองแล้วให้ความรู้สึกเพลิดเพลินสบายใจอย่างประหลาด ผู้ใดเห็นก็รู้สึกเช่นนั้นเว้นแต่สตรีสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน

ทั้งสองมองท่าทางของเหลียงฟางหรูแล้วกร่นด่ารำพึงรำพันในใจถึงความเกลียดชังมากมาย ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกลียดนางด้วยเหตุผลใดกันแน่ ราวกับมันกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำเสียแล้ว

“พี่ฟางหรูดื่มชานี่เสียหน่อยเถิด ชาที่นี่รสดียิ่งนัก พี่อาจไม่เคยชิมมาก่อน” ถ้วยชาดินเผาเคลือบลวดลายงดงามถูกขยับให้เข้าใกล้นางมากยิ่งขึ้น อวลไอร้อนจากถ้วยชาตรงหน้าพวยพุ่งบดบังใบหน้างามจาง ๆ ผู้คนจากชั้นบนและล่าง บางมองแล้วหลบ บางมองจ้องอยู่เช่นนั้น

เหลียงฟางหรงเห็นเช่นนี้ยิ่งไม่ชอบใจเร่งเร้าให้พี่สาวต่างมารดาดื่มชาเสียจนน่าสงสัย แต่เหลียงฟางหรูไม่รับรู้เห็นน้องสาวตั้งใจดีก็ยกถ้วยชาดื่มครั้งเดียวจนหมดจอก

“รสดีอย่างน้องฟางหรงกล่าวจริง ๆ” กลิ่นหอมละมุน นุ่มลิ้นเป็นที่สุด รสชาติเช่นนี้นางมิเคยลิ้มลองดังน้องสาวว่า เกิดในตระกูลดีใช่ว่าวาสนานางจะดีตาม หญิงสาวสามัญชนยังมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านางเสียอีก นอกจากอาหมู่ที่เพิ่งตายไปเมื่อหกปีก่อนนางก็ไม่มีผู้ใดอยู่ข้างกายอีก

“พี่ฟางหรูข้าจะไปดูเครื่องประทินผิวที่ร้านฝั่งตรงข้ามเสียหน่อย พี่ยังต้องรอดูผลคัดเลือกใช่หรือไม่” เหลียงฟางหรงเห็นชาในถ้วยหมดไม่เหลือจึงกล่าวขึ้น กลัวว่าหากแผนการดำเนินไปแล้วตนยังอยู่ที่นี่อาจถูกมองว่าเป็นผู้กลั่นแกล้งเหลียงฟางหรู แม้สิ่งนั้นจะเป็นจริงแต่ก็ไม่อาจให้ผู้ใดล่วงรู้ได้

“เช่นนั้นพี่ไม่รอก็ได้ หากน้องฟางหรงอยากกลับเรากลับกันเถิด”

“ไม่ได้ พี่สาวนานทีพี่จะได้ออกมานอกจวน พี่รออยู่ที่นี่สักครู่เถอะ ข้ากับท่านแม่ไปครู่เดียว ยังมีเสี่ยวโหรวอยู่ที่นี่ พี่สาวไม่ต้องห่วง”

“เอาอย่างที่หรงเอ๋อร์ว่า เจ้าอยู่ที่นี่ พวกเราไปไม่นานร้านก็มิได้ไกลนัก กลัวอันใดกัน” ถีเยว่สือกล่าวเสียงเข้ม เสียงนี้ทำให้เหลียงฟางหรูไม่กล้าเอ่ยคำใดออกมาอีก แม้จะกังวลแต่ก็ยอมทำตามอีกฝ่ายว่าโดยง่าย พยักหน้าแผ่วเบา มองหญิงต่างวัยทั้งสองเดินลงจากชั้นสองของโรงเตี้ยมไป

แววตาสุกใสมองตามทั้งสองอย่างอาลัยจนลับสายตา ทั้งเกรงกลัว กังวล นางไม่เคยออกจากจวนบัดนี้ข้างกายมีเพียงสาวรับใช้ของน้องสาวจึงนึกกลัวอยู่ไม่น้อย

รอบใบหน้างดงามเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมา อากาศร้อนแต่ไม่ร้อนพอให้เหงื่อซึมอาบทั้งร่างเช่นนี้ หญิงสาวหัวใจไหวพริ้วดังกิ่งหลิวลู่ลม ในท้องหวั่นไหวแปรปรวน บอกกล่าวไม่ถูก ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร

ยกกาชารินใส่ถ้วยครั้งแล้วครั้งเล่า ชาหมดกาก็มิอาจดับร้อนรุ่มของร่างกายได้ เหลียงฟางหรูล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อเม็ดใหญ่ตามใบหน้า ลำคอ เสียงภายในใจกรีดร้องหวีดหวิว ร่างกายต้องความเร่าร้อนจากกายกำยำของบุรุษ

เหลียงฟางหรูไม่รู้เหตุใดตนเองจึงเป็นเช่นนี้ มองไปตรงไหนก็มีแต่บุรุษเนื้อตัวกำยำ สองแขนโอบร่างตนเองไว้ลุกจากที่นั่งเร็วรี่ วิ่งลงบันไดชั้นสอง ไม่ต้องการอยู่ใกล้ผู้ใดเกรงว่าอีกไม่นานสติที่เริ่มพร่าเลือน จะสร้างเรื่องให้ตนเอง

“คุณหนูใหญ่จะไปไหนเจ้าคะ” น้ำเสียงเล็กเอ่ยอย่างตกใจที่คุณหนูใหญ่วิ่งหนีไปเช่นนี้ เสี่ยวโหรวร้องเรียกแล้ววิ่งตามออกไป โรงเตี้ยวผู้คนพลุกพล่านพอลงถึงชั้นล่างก็ชนผู้คนจนมองไม่ทันว่าเหลียงฟางหรูวิ่งไปทิศไหนแล้ว

สองเท้าวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากโรงเตี้ยม เหงื่อกาฬไหลท่วมร่างกาย ในหัวไม่มีสิ่งใดอยู่เลย นางไม่เคยมาที่นี่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดของตลาด ยามนี้มีสิ่งผิดปกติ สมควรพึ่งพิงคนข้างกายแต่บัดนี้ข้างกายไม่เหลือผู้ใดอยู่เลย

ขณะนางวิ่งออกมาก็วิ่งไปยังร้านเครื่องประดับแต่ไม่พบแม่รองและน้องสาวเลยนางจึงวิ่งกลับออกมา เพราะเรือนร่างอรชรใบหน้างดงามผุดผาดผู้คนจึงพากันเหลียวมองนางแทบทั้งถนน หากอยู่เช่นนี้คงโดดเด่นเกินไป ปลายหางตาสังเกตเห็นตรอกเล็กห่างจากโรงเตี้ยมไม่ไกล อีกทั้งผู้คนไม่พลุกพล่าน

ไม่รอช้าหญิงสาวรีบวิ่งหอบไปยังตรอกเล็ก ตั้งใจหลบลี้ผู้คน แต่นางคิดผิดเสียแล้ว ตรอกเล็กแห่งนี้เต็มไปด้วยบุรุษมากมาย บ้างนั่งบ้างนอน ท่อนบนเปลือยเปล่ากำยำ หญิงสาวทอดถอนหายใจกับสภาพตนเองในตอนนี้

หากยังอยู่ตรงนี้อีกเพียงเสี้ยวลมหายใจ มิอาจรับรู้ได้เลยว่านางจะทำสิ่งใดลงไปบ้าง ดวงตาสุกใสก่อม่านน้ำตาบางเบาขึ้นจากนั้นความคิดจิตใจของนางก็มิใช่ของนางอีกแล้ว...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ตอนพิเศษ หรูซิน [จบ]

    หรูซิน สามปีแล้ว หลังจากให้กำเนิดบุตร เพ่ยเลี่ยงหลินพาเหลียงฟางหรูและบุตรสาวกลับมาอยู่ในเมืองหลวง คอยช่วยผู้เป็นน้องชายดูแลราชกิจต่าง ๆ เพ่ยฮุยหวงสละบรรดาศักดิ์ให้เพ่ยเลี่ยงหลิงสืบทอดตำแหน่งชินอ๋องครองแคว้นจิ้งขึ้นเป็นจิ้งอ๋อง ส่วนเพ่ยเลี่ยงหลินยังคงเป็นท่านชายของแคว้นพ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาบ้านเมืองสงบขึ้นมากหลังจากสองพี่น้องช่วยกันดูแลบ้านเมือง เพ่ยฮุยหวงยินดียิ่งที่ได้เห็นบ้านเมืองเจริญขึ้น ชาวประชาก็มีสุขบัดนี้ยังมีหลานสาวให้คอยดูแลอีกด้วย เพ่ยหรูซินบุตรสาวคนเดียวของเพ่ยเลี่ยงหลินและเหลียงฟางหรู นางเป็นที่รักไม่ว่าผู้ใดเห็นก็เอ็นดู ยิ่งกับเพ่ยฮุยหวงเรียกร้องให้บุตรชายพาหลานสาวเข้าวังทุกวัน“ซินเอ๋อร์”“ท่านอา” เด็กสาวหันกลับไปมองผู้ที่ส่งเสียงเรียก เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดก็ร้องออกมา ก่อนจะวิ่งถลาเข้าใส่อ้อมกอดผู้เป็นอา เพ่ยเลี่ยงหลิงอุ้มยกเด็กสาวโยนขึ้นสูงแล้วพากันหัวเราะชอบใจ เขาอุ้มเพ่ยหรูซินเดินไปพี่ชายและพี่สะใภ้“เหตุใดหลังท่านพี่เข้า

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ตอนพิเศษ นรกทั้งเป็น

    ตอนพิเศษ นรกทั้งเป็น “ข้าบอกให้ซักเบา ๆ มิใช่หรือ” หญิงสาวตรงหน้าต่อว่าเสียงดังพลางโยนอาภรณ์สีเหลืองอ่อนใส่สตรีวัยใกล้เคียงกันที่นั่งอยู่ตรงอ่างไม้ ในมือข้างหนึ่งถือไม้ซักผ้าไว้ มืออีกข้างก็จับอาภรณ์เปียกน้ำ เมื่อถูกโยนอาภรณ์ใส่หัวอย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยโดน ของทุกอย่างในมือจึงถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดีอีก ใบหน้างดงามขมวดเกร็งหมายจะเอาคืนสักที ไม่ทันคิดให้รอบครอบฝ่ามือเปียกชื้นก็ตวัดฟาดเสี้ยวแก้มของหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มตรงหน้าอย่างแรง “เป็นแค่คณิกาชั้นต่ำ ข้าทำให้ก็เป็นบุญของเจ้าแล้ว อย่าได้คืบจะเอาศอก” “เจ้ากล้าตีข้าเชียวหรือ ข้าจะฟ้องนายท่าน” หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคณิกายกมือประคองใบหน้าตน พลางกัดริมฝีปากทดสอบว่ากลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งนี้มาจากริมฝีปากนางใช่หรือไม่ “สตรีต่ำช้า เป็นแค่อนุกลับกล้าวางท่าราวกับตนเองเป็นนายหญิงของตระกูล” เหลียงฟางหรงกล่าวเสียงต่ำพลางพุ่งเข้าไปใช้มือจิกกลุ่มผมของสตรีตรงหน้าอย่างแรง

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ข้าเองก็เช่นกัน

    56ข้าเองก็เช่นกัน ขุนนางกังฉินทั้งหมดถูกโบยคนละหนึ่งร้อยไม้ ผู้ที่รอดจากการโบยก็ถูกเนรเทศจากแคว้นพร้อมครอบครัว ทรัพย์สินถูกยึด มีเพียงเหลียงจินฮ่าวและฮุ่ยฉีเลี่ยที่ถูกโบย ถูกวาดอักษรกังฉินไว้บนหน้า ขับไล่ไปเป็นทาสที่แถบชายแดนซึ่งกำลังสร้างกำแพงเมืองอยู่เหลียงจินฮ่าวถูกพาไปเป็นทาสใช้แรงงานพร้อมถีเยว่สือที่ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอลงมาก เพราะก่อนหน้านี้ถูกคุมขังในคุกนาน ถูกลงโทษได้แผลมาไม่น้อยหากไม่ใช่เพราะเหลียงฟางหรูตั้งครรภ์จึงไม่เอยากเอาชีวิตผู้ใด คนเหล่านี้คงถูกประหารไปจนสิ้น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีผู้ใดได้รับโทษน้อยเลยโทษตายเว้นได้แต่โทษเป็นนั้นยากหลีกหนี เหลียงจินฮ่าวและถีเยว่สือต้องใช้แรงงานของตนเพื่อแลกอาหารกิน เหลียงฟางหรูไม่แม้แต่จะเอ่ยปากกับผู้เป็นบิดาตอนถูกขับไล่ นางเพียงปลายตามองแวบเดียวก็กลับไป แต่เพราะเหลียงฟางหรงเป็นคนสกุลเฉิงไปแล้วจึงมิได้ถูกเนรเทศขับไล่ไปเป็นทาสด้วย“เจ้าพอใจหรือไม่” ผู้เป็นสามีเอ่ยถามขณะกอดประคองนางอยู่บนกำแพงเ

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ข่าวดีหลังข่าวร้าย

    55ข่าวดีหลังข่าวร้าย การไต่สวนเหล่าขุนนางมากมายเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ละคนล้วนให้การกล่าวโทษผู้อื่นเพียงเพื่อให้ตนเองมีโทษน้อยที่สุด เพ่ยเลี่ยงหลิงที่ไม่ได้มีความอดทนดังผู้เป็นพี่ชายจึงใช้วิธีทรมานเพื่อให้ได้รับคำสารภาพเดิมการทรมานเพื่อให้รับผิดไม่ควรถูกใช้ แต่ยามนี้เป็นยามที่ราชสำนักต้องกำจัดสิ่งไร้ประโยชน์จิ้งอ๋องจึงยอมหลับตาข้างหนึ่ง ท่านชายรองยิ่งชอบใจที่ทำแล้วไม่ถูกผู้เป็นบิดาดุด่าไม่เกินสามวันจึงได้คำตอบที่น่าพึงพอใจให้แก่ชาวประชาทั่วแคว้น สามวันก่อนเพ่ยซื่อจื่อรีบเร่งกลับตำหนักเพื่อไปดูเหลียงฟางหรูที่อยู่ ๆ ก็หมดสติ เขาคงไม่กังวลมากนักหากมิใช่เพราะนางอ่อนแอกว่าคนทั่วไป ภายในใจร้อนดังถูกเปลวไฟแผดเผา ขณะที่ยืนรอฟังหมอหลวงอยู่หลังฉากกั้นก็เดินวนไปวนมา หลังฉากกั้นมีเสี่ยวไป๋และซ่านซ่านคอยดูนางอยู่เกือบสองเค่อจึงเดินออกมาจากหลังฉากกั้น หมอหลวงทำท่าจะคุกเข่ารายงาน แต่เพ่ยซื่อจื่อร้อนใจจนไม่อาจทน

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ทั่วทั้งแคว้นมีเพียงท่านชายรอง

    54ทั่วทั้งแคว้นมีเพียงท่านชายรอง “กล่าวว่าก่อกบฎก็ไม่ถูกนัก อย่างไรเสียท่านชายรองก็เป็นบุตรชายของพระชายาเอก มีสิทธิ์สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อจิ้งอ๋องได้อย่างชอบธรรม” เพ่ยเลี่ยงหลิงยืนนิ่งปล่อยให้ฮุ่ยฉีเลี่ยเป็นผู้ออกหน้าเอ่ยวาจาทั้งหมดเอง ฮุ่ยฉีเลี่ยเดิมทีกังวลว่าจะถูกประหารเพราะจิ้งอ๋องคงตรวจพบความผิดเขาจากบันทึกของเหลียงจินฮ่าว แต่เมื่อเพ่ยเลี่ยงหลิงปรากฎตัวความกลัวก็มลายหายไป เปลี่ยนเป็นขวัญกล้ากล่าวทุกสิ่งออกมา“ท่านชายใหญ่แม้จะเป็นบุตรพระชายาแต่ก็ไม่มีความชอบมากเท่าท่านชายรอง แคว้นนี้ยังคงต้องการท่านอ๋องที่ปรีชาสามารถ ออกรบไม่เกรงกลัว ควบคุมทหารได้ดุจเทพเซียน เช่นนี้ทั่วทั้งแคว้นก็มีเพียงท่านชายรองเท่านั้น แต่ท่านอ๋องไม่ทรงทอดพระเนตรใช้เพียงความชอบของพระองค์แต่งตั้งซื่อจื่อโดยไม่ดูความเหมาะสม อย่าได้กล่าวโทษข้าเลย”“เช่นนั้นผู้ที่วางยาซื่อจื่อก็เป็นเจ้าเองใช่หรือไม่ฮุ่ยฉีเลี่ย หลิงเอ๋อร์เจ้าเองก็ร่วมมือกับฮุ่ยฉีเลี่ยลอบทำร้ายพี่ชายตนเองหรือ” จิ้งอ๋องถามขึ้นอย่างปวดใจ น้ำเสียงแ

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   อย่าทรงมีโทสะ

    53อย่าทรงมีโทสะ บุรุษใกล้วัยชราภาพเต็มทีเดินเข้ามาด้วยท่าทางนอบน้อม มาถึงได้ก็ถวายบังคมจิ้งอ๋องพลางกล่าวเชยชมก่อนยื่นฎีการายงานความผิดของเหลียงซ่างซู“ถวายบังคมท่านอ๋อง ยามนี้ซื่อจื่อถูกพิษจ็บป่วยไม่รู้ชะตา เรื่องนี้สืบไปสืบมาก็มิพ้นตระกูลเหลียง ข้าน้อยในฐานะขุนนางของพระองค์จึงได้เร่งตรวจสอบการทำงานของเหลียงจินฮ่าว พบว่าเหลียงจินฮ่าวผู้นี้ทุจริตเงินและรับสินบนจำนวนมากตลอดการเป็นขุนนางจึงนำรายงานมาถวายให้ท่านอ๋อง” จิ้งอ๋องได้ฟังจนจบก็พยักหน้าให้กงกงรับฎีกาและบันทึกรับสินบนจากอำมาตย์ฮุ่ยมาดู อ่านฎีกาและบันทึกรับสินบนอยู่ครู่หนึ่งก็ขมวดคิ้ว ใบหน้าเครียดเกร็ง วางกระแทกสิ่งของในมือลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง“ต่ำช้านัก แม้แต่เสบียงบรรเทาภัยพิบัติก็ไม่เว้น ข้าเลี้ยงขุนนางสวะเช่นนี้ไว้มีประโยชน์อันใดต่อประชา” จิ้งอ๋องผรุสวาทออกมาเสียงดังลั่นห้องทรงอักษร น้ำเสียงมีเพียงเกรี้ยวกราด ฮุ่ยฉีเลี่ยเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มย่องในใจ ใส่ใจอีกเพียงเล็กน้อยไม่แคล้วเหลียงจินฮ่าวถูกสั่งประหาร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status