แชร์

ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา
ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา
ผู้แต่ง: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์

บทที่ 1

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ภายในห้องหับวิจิตรงามสง่า สาวน้อยนางหนึ่งสวมชุดวิวาห์หรูหรานั่งอยู่หน้ากระจก ดวงหน้างามพิลาสของนางเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

มารดาของสาวน้อยกำลังแต่งตัวให้นาง มองดูลูกสาวตรงหน้าอย่างทั้งปลาบปลื้มและปวดใจ ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่กำลังจะออกเรือนแล้ว ดวงตาของนางแดงเรื่ออย่างอดไม่อยู่ “เดิมทีแม่อยากให้เจ้าอยู่ข้างกายอีกสักสองปี คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงวัยปักปิ่นก็มีราชโองการประทานสมรสของฝ่าบาทลงมาเสียแล้ว”

เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยปลอบ “ลูกแต่งเข้าราชวงศ์ไปเป็นชายาอ๋อง พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศทรัพย์ศฤงคาร แพรพรรณอาหารชั้นเลิศ ชีวิตย่อมสุขสบายเป็นแน่แท้ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน”

“จ้ะๆๆ ลูกสาวแม่เป็นคนมีวาสนา คุณหนูสกุลใหญ่มีตั้งมากมาย ฮองเฮาทอดพระเนตรปราดเดียวก็เลือกเจ้าเป็นชายาของเหิงอ๋อง เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของฮองเฮา ฮองเฮายังโปรดเจ้ามากถึงเพียงนี้ วันหน้าจะต้องไม่ดูดายเจ้าแน่นอน” เฝิงจิ้งย่วนปีติยินดีจนน้ำตาไหล คิดถึงว่าเหิงอ๋องหล่อเหลาสง่างาม ความสามารถด้านศิลปศาสตร์โดดเด่น ทรงอำนาจบารมี ลูกสาวโฉมงามล่มเมือง เชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากล้อม เขียนพู่กันและวาดภาพ สกุลเจียงซึ่งเป็นตระกูลบัณฑิตก็ยังเหมาะสมกับเหิงอ๋อง

“ท่านแม่พูดถูกเจ้าค่ะ” เจียงเฟิ่งหัวตอบรับคล้อยตาม

เฝิงจิ้งย่วนเปลี่ยนจากเศร้าโศกเป็นยินดี กำชับอย่างละเอียดว่า “หรวนหร่วน ยามอยู่ในบ้านเจ้าคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ พวกเราย่อมทะนุถนอมเจ้าประหนึ่งของล้ำค่า แต่บัดนี้เจ้าจะออกเรือนแล้ว แต่งงานไปเป็นภรรยาผู้อื่นไม่เหมือนตอนอยู่ที่บ้าน สตรีแต่งงานก็คือการย้ายเข้าไปอยู่ในครอบครัวใหม่ แต่งเข้าไปเป็นสะใภ้ราชวงศ์ยิ่งแตกต่างจากแต่งเข้าครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป ต่อไปเจ้าจะต้องรู้ความ รักษาธรรมเนียมมารยาท จัดการเรื่องราวต่างๆ ด้วยตนเอง สงบเสงี่ยมเจียมตัว สนับสนุนสามีอบรมบุตร กตัญญูต่อพ่อแม่สามี...”

“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ” เจียงเฟิ่งหัวกอดมารดาของนาง ดวงตาฉายแววเย็นเยียบ ความเมตตาของราชวงศ์ก็แค่ลมปากเท่านั้น เย็นชาเป็นที่สุดแล้ว

ชาติก่อนนางก็รักษาธรรมเนียมมารยาท จัดการเรื่องราวต่างๆ ด้วยตนเอง สงบเสงี่ยมเจียมตัว อุทิศตนปรนนิบัติแม่สามี กระทั่งโอนอ่อนเอาใจ นางเป็นชายาที่เปี่ยมคุณธรรมและว่านอนสอนง่ายที่สุดแล้วในบรรดาชายาอ๋อง

น่าเสียดายที่ความอ่อนโยนโอนอ่อนรู้ความของนางไม่อาจแลกมาซึ่งความเสน่หาของสามี มีเพียงความเพิกเฉยเย็นชาของสามี ความเอ็นดูที่แม่สามีมีต่อนางก็ไม่ใช่เรื่องจริง ที่เลือกนางเป็นชายาของเหิงอ๋องก็เพราะบิดาพอนับได้ว่าเป็นขุนนางมือสะอาดในราชสำนัก สามารถลดความระแวงที่ฝ่าบาทมีต่อเหิงอ๋องได้ก็เท่านั้น รอจนนางหมดคุณค่าให้ใช้สอยเมื่อใดก็จะถูกเขี่ยทิ้งทันที

สุดท้าย เหิงอ๋องได้ครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ แต่กลับแต่งตั้งชายารองซูถิงหว่านเป็นฮองเฮา ส่วนนาง แค่เพราะว่าให้กำเนิดทายาทสองคนจึงฝืนใจแต่งตั้งให้เป็นเสียนเฟย

ที่น่าขันกว่านั้นก็คือคืนเข้าหอของเขากับนางสำเร็จเสร็จสิ้นลงภายใต้ฤทธิ์ของยา มิฉะนั้นเขาคงไม่มีวันแตะต้องนางไปชั่วชีวิต ไม่ได้รับความรักจากสามี ทั้งยังต้องเผชิญกับความเย็นชารังเกียจของสามี ชีวิตของนางในจวนเหิงอ๋องจึงมิเป็นสุข

นางนึกว่าสวรรค์ยังเมตตาต่อนางบ้าง แค่ครั้งเดียวนางก็ตั้งครรภ์หน่อเนื้อราชวงศ์ นางเข้าใจว่าเมื่อมีลูกแล้ว สามีจะเอ็นดูนางเพราะเห็นแก่ลูกน้อยบ้าง อย่างน้อยก็ใกล้ชิดกับนางกว่านี้สักนิด แต่นางก็เข้าใจผิดไปอีกครั้ง การเกิดของลูกน้อยทำให้เขายิ่งชิงชังรังเกียจนางกว่าเดิม

สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาไม่ปรองดอง ลูกทั้งสองก็เริ่มรังเกียจนาง ถึงขั้นไม่ยินดีเข้าใกล้นางผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า สิ่งที่นางเสียใจที่สุดก็คือชั่วชีวิตนี้ไม่เคยได้เลี้ยงดูลูกน้อยทั้งสอง สุดท้าย นางก็ตรอมใจตายไปด้วยวัยเพียงสามสิบห้าปี

อาจเป็นเพราะสวรรค์เวทนานางจึงให้นางย้อนกลับมาตอนอายุห้าขวบอีกครั้ง สิบปีมานี้นางไม่ข้องแวะกับโลกภายนอก พากเพียรพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เพื่อรอราชโองการประทานสมรสของฮ่องเต้นี่เอง

ในเมื่อเซี่ยซางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะได้เป็นบุรุษผู้สูงศักดิ์และทรงอำนาจที่สุดในใต้หล้า นางก็จะไม่ปล่อยให้อำนาจที่มาเคาะประตูถึงที่หลุดลอยไป ขณะเดียวกัน นางก็จะอาศัยอำนาจของเขากลายเป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในใต้หล้า ชาตินี้นางจะไม่ยอมก้มหน้ายอมจำนนอีกแล้ว ยิ่งไม่มีทางเปิดโอกาสให้ซูถิงหว่าน ไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน นางก็จะต้องกลายเป็นมารดาของแผ่นดินให้จงได้

เมืองเซิ่งจิงในวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ เสียงตีฆ้องร้องป่าวดังก้องท้องถนน

ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้เจียงเฟิ่งหัวบุตรีคนรองของภรรยาเอกสกุลเจียงแต่งงานกับเหิงอ๋องเซี่ยซางเป็นชายาอ๋อง โดยให้คนจากกรมพิธีการจัดงานมงคลสมรส ขบวนรับเจ้าสาวยาวเหยียดมาหยุดลงตรงหน้าจวนสกุลเจียง ยิ่งใหญ่อลังการไม่เป็นรองผู้ใดในเซิ่งจิง

เจียงเฟิ่งหัวแต่งกายเต็มยศนั่งลงบนเกี้ยวเจ้าสาวของราชวงศ์ นับแต่วันนี้เป็นต้นไปนางก็คือสะใภ้ราชวงศ์ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของราชสกุล เป็นชายาของเหิงอ๋องอย่างเป็นทางการ ว่าที่ชายารัชทายาท แม้แต่ตำแหน่งฮองเฮาของฮ่องเต้เซวียนจงนางก็จะกุมเอาไว้อย่างแน่นหนา

ขบวนสินเดิมแสนอลังการ รัตนชาติตระการตา ขบวนรับเจ้าสาวแสนยิ่งใหญ่มุ่งหน้าไปยังจวนเหิงอ๋องประดุจมังกรตัวยาว ผู้สัญจรไปมาหยุดเท้าชมแล้วก็ต้องอุทานว่าช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้อย่างอดมิได้

นางคิด ถึงเซี่ยซางจะไม่ยินดีแต่งงานกับนางแค่ไหน วันนี้ก็ยังต้องสวมชุดเจ้าบ่าวมารอนางอยู่หน้าประตูจวนอ๋องแต่โดยดี ฮองเฮาจะเสด็จมาร่วมพิธีและประทานพร

ชาตินี้ นางจะไม่ก้มหน้ายอมจำนนงอมืองอเท้ารอความตายอีกแล้ว

นางรู้เพียงว่า ผู้ใดไม่เห็นแก่ตัวแล้วไซร้ ฟ้าดินจักลงทัณฑ์

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด เสียงขุนนางผู้ดำเนินพิธีกล่าวว่า “เชิญท่านอ๋องเตะประตูเกี้ยว[1]” ดึงความคิดคำนึงของเจียงเฟิ่งหัวกลับคืนมา นางพลันหยัดแผ่นหลังตั้งตรง มงกุฎหงส์ที่ประดับทองฝังหยกกดจนลำคอนางปวดร้าว แต่นางก็ต้องอดทนเอาไว้

นางหนักแน่นสง่างามมาแต่ไหนแต่ไร วังหมัวมัวจากในวังมาสั่งสอนธรรมเนียมมารยาทให้นางในจวนเป็นเวลาหนึ่งเดือน ทุกคนกำชับย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามนางทำผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวในวันพิธีมงคลสมรส นางก็เพียงแต่พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย

ประตูเกี้ยวเปิดออก ขุนนางผู้ดำเนินพิธีวางผ้าไหมแดงลงบนมือนาง ตามด้วยมือขาวผ่องที่เห็นข้อต่อชัดเจนยื่นเข้ามา นางวางนิ้วเรียวงามลงเบาๆ สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบจากปลายนิ้วของเขา นางสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่ไม่ต้องการให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้จากบรรยากาศรอบกายเขา ชาติก่อนนางมัวแต่จมอยู่ในห้วงปีติยินดีจึงไม่ทันสังเกต ยามนี้จึงเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตัวเย็น แต่เป็นสัญญาณที่ร่างกายเขาปฏิเสธสัมผัสของนางซึ่งแสดงออกมาโดยสัญชาตญาณต่างหาก แต่นางก็ไม่สนใจอีกแล้ว

เหิงอ๋องในชุดเจ้าบ่าวหรูหราเดินนำหน้านางด้วยฝีเท้าหนักแน่น เจียงเฟิ่งหัวมีสาวใช้ประคองให้เดินหน้าไปอย่างแช่มช้า นางไม่สนใจเสียงโห่ร้องของแขกเหรื่อด้านข้าง เพียงจดจ่อกับรองเท้าปักลายบุปผาของตนเอง

หลังจากนางก้าวข้ามกระถางไฟไป รองเท้าปักลายบุปผาของนางก็เหยียบลงบนชายชุดเจ้าบ่าวของเซี่ยซาง เห็นเขาโซเซวูบ ผ้าไหมแดงในมือหล่นลงในกระถางไฟแล้วติดไฟในบัดดล ต่อจากนั้นสะเก็ดไฟก็ลุกลามไปตามผ้าไหมแดงในมือเจียงหร่วน ทุกคนล้วนหลีกเลี่ยงโดยสัญชาตญาณ เจียงเฟิ่งหัวมองดูผ้าไหมแดงมีไฟลุกพรึ่บ ตกใจจนทำอันใดไม่ถูก ท่ามกลางความลนลานเหมือนว่านางไปสะดุดอะไรบางอย่างจนถลาล้มไปทางกระถางไฟโดยตรง

ชั่วขณะเดียวกัน เซี่ยซางเห็นดังนั้นก็ยื่นมือมารวบเอวนางไว้โดยสัญชาตญาณ เขาสัมผัสได้ว่าเอวของนางบอบบางอ้อนแอ้น อ่อนนุ่มราวไร้กระดูก

เจียงเฟิ่งหัวถลาเข้าซบแผงอกเขาโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ต่อจากนั้นชุดเจ้าสาวของนางก็ตกลงไปในกองไฟเช่นกัน เซี่ยซางเห็นอย่างนั้นก็หมุนตัวอุ้มคนขึ้นมา ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ได้ต้องการใกล้ชิดกับนาง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ถึงขั้นเห็นคนประสบอันตรายแล้วไม่ช่วยเหลือ ต่อหน้าธารกำนัล เขายิ่งไม่อาจผลักนางออกอย่างเสียกิริยา

ผู้ใดจะคาดว่าเจียงเฟิ่งหัวกลับแนบชิดเขามากกว่าเดิม โอบรอบคอเขาเหมือนหวาดกลัวสุดขีด กลิ่นกายหอมกรุ่นของหญิงสาวแทรกเข้ามาในโพรงจมูกเขา

เขาก้มลงมองก็เห็นดวงหน้าพิลาสล้ำที่เครื่องหน้าประณีตงดงามดวงหนึ่ง คิ้วนางดุจจันทร์เสี้ยว ขนตาไหวระริก ดวงตาคู่งามเบิกโพลงทอประกายหวั่นหวาดหลังได้รับความตกใจและความตื่นตระหนก ใครเห็นเป็นต้องหวั่นไหว ริมฝีปากแต้มชาดปานดอกอิงบานสะพรั่ง เป็นโฉมสะคราญดุจภาพวาดโดยแท้

----------------------------------------------

[1] ขั้นตอนหนึ่งในพิธีแต่งงานยุคศักดินาจีน เจ้าบ่าวเตะเกี้ยวเจ้าสาวเพื่อแสดงว่าตนเองมีอำนาจเหนือฝ่ายหญิง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 495

    “ใช่แล้ว อีกหลายปีข้างหน้า ข้าก็อยากยกตำแหน่งนี้ให้เจ้า” ซูเต๋อไห่กล่าว “เซี่ยซางเป็นกษัตริย์องค์ถัดไป แม้แต่จุดนี้เราก็เดาไม่ผิด ก็แค่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาจึงไม่เชื่อใจพวกเราสกุลซูแล้ว อันที่จริงหากเซี่ยซางเป็นคนฉลาด เขาเพิ่งขึ้นครองตำแหน่งองค์รัชทายาท คิดอยากนั่งตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างมั่นคง หรือแม้กระทั่งอนาคตขึ้นครองบัลลังก์อย่างมั่นคง เขาก็ไม่ควรทอดทิ้งพวกเราสกุลซู”“ท่านพ่อ หวานหว่านบอกว่าเจียงเฟิ่งหัวไม่มีทางได้เป็นฮองเฮาของเซี่ยซางเด็ดขาด ตำแหน่งฮองเฮาของเซี่ยซางเป็นของสกุลซู แต่ดูสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ลูกรู้สึกว่าต้องมีจุดไหนที่เกิดปัญหาแน่ สิ่งดี ๆ ถูกคนสกุลเจียงยึดครองไปหมดแล้ว หวานหว่านกลายเป็นคนคนนั้นที่ถูกเซี่ยซางละเลย”“หวานหว่านหมดประโยชน์แล้ว” ซูเต๋อไห่ได้แต่รู้สึกอับโชค “เลือกคนที่สวยที่สุดมา หัวสมองกลับโง่ที่สุด แค่มัดใจผู้ชายคนหนึ่งยังทำไม่ได้ นางยังมีประโยชน์อะไรอีก ข้าบอกหลิ่วเอ๋อร์แล้วว่า ให้รับลูกสาวของนางมา ใช้สถานะของสกุลซูเรา หากรัชทายาทจะเลือกพระชายารอง ก็ส่งลูกสาวสกุลซูเข้าไปให้เขาอีกคน ถึงอย่างไรก็ยังมีโอกาสเสมอ”ซูเซวี่ยนกลับไม่มีความหวังนี้แล้ว เซี่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 494

    ตกกลางคืน ทั้งถนนเงียบงันปราศจากเสียง มืดมิดไปหมด ที่หน้าประตูจวนสกุลเจียง สิงโตหินสองตัวจ้องมองอย่างองอาจ แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามและสูงศักดิ์ของจวนแม่ทัพดึกสงัดไร้ผู้คน ทุกคนหลับใหลหมดแล้ว ทันใดนั้นที่หน้าประตูจวนสกุลซูก็มีคนแบกโลงศพโลงหนึ่งมาวางขวางหน้าประตูจากนั้นก็มีเสียงทุบประตูตึง ๆ ดังขึ้นติดต่อกันยามเฝ้าประตูได้ยินเสียงเคาะประตูติด ๆ กันก็เปิดประตู พอเห็นก็ตกใจถอยกรูดจนล้มไปกองที่พื้น “โลงศพ?”เพียงไม่นาน คนสกุลซูก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวแล้ววิ่งออกมาดู ก็เห็นโลงศพโลงหนึ่งขวางอยู่ตรงกลางทางเวลานี้เอง ซูเต๋อไห่กับซูเซวี่ยนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็เร่งรุดมา ทุกคนต่างไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้า ซูเต๋อไห่กล่าวเสียงเย็นชา “แค่โลงศพโลงหนึ่งก็กลัวจนเป็นเช่นนี้ รีบไปเปิดสิ”ซูเซวี่ยนก็รู้สึกว่าแปลกเขาก็กลัวว่ามีอะไรน่าตกใจจึงไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้า เลยให้ทหารจวนสกุลซูออกไป “เปิดมันเสีย ข้าก็อยากเห็นหน่อยเหมือนกันว่าในนั้นมีอะไรอยู่”ทหารรวบรวมความกล้าเปิดโลงศพออก ก็เห็นว่าข้างในมีชายคนหนึ่งที่ถูกโบยทั้งตัวจนร่างเละไปหมด ชายคนนั้นน่าจะขาดใจแล้วด้วย ทำให้ทหารตกใจจนฉี่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 493

    “แม้แต่หรวนหร่วนกับจิ่นเหยียนก็ยังรู้ ท่านยังปิดบังข้าอีก” เฝิงจิ้งย่วนไม่เคยรู้สึกเสียใจขนาดนี้มาก่อน น้ำตาไหลพรากเต็มหน้า อ่อนไหวไปหมดเดิมทีเจียงจิ่นเหยียนอยากอธิบายแทนพ่อ แต่ถูกเจียงเฟิ่งหัวลากออกไปนอกประตู แถมยังปิดประตูให้พวกเขาอีกด้วย“ท่านพ่อแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้นแล้วจริงๆ” เจียงจิ่นเหยียนกล่าว“ท่านพ่อก็ไม่ได้มีหญิงอื่นเสียหน่อย มีอะไรให้ต้องแก้ตัวกัน” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว “วางใจเถิด ไม่มีอะไรหรอก เรื่องแค่นี้ท่านพ่อยังจัดการไม่ได้อีกหรือ ท่านก็ดูถูกท่านพ่อเกินไปแล้ว พวกท่านอยู่กันมาจะสามสิบปีแล้ว มีเรื่องโกรธโมโหอะไรกันพวกท่านก็เข้าใจกันได้”“หรวนหร่วน คำพูดเจ้านี่ไม่เหมือนอายุสิบหกเลยนะ กลับเหมือนสามสิบหกเสียอย่างนั้น” เจียงจิ่นเหยียนกล่าวเจียงเฟิ่งหัวตะลึงงัน “ข้าแค่ตั้งครรภ์ก็ดูแก่ขนาดนี้เลยหรือ? พวกท่านผู้ชายเหมือนกันหมดหรืออย่างไร ผู้หญิงพอมีครรภ์ก็ไม่สวยแล้ว จากนั้นก็เริ่มรังเกียจ รอพี่สะใภ้ใหญ่ตั้งครรภ์แล้ว ท่านก็จะพูดกับนางเช่นนี้ใช่ไหม?”พูดจบเจียงเฟิ่งหัวก็ยกกระโปรงเดินจากไป นางทำตัวสุขุมเกินวัยขนาดนั้นเลยหรือ?ภรรยาสงสัยว่าสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อยข้างนอกก็คว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 492

    “สกุล…สกุลซูของซูเต๋อไห่นั่นน่ะหรือ?” เจียงหวยเพิ่งรู้ตัวทีหลัง “มิน่าเล่า เขาคอยเล่นงานข้าทุกจุดในท้องพระโรง”เจียงเฟิ่งหัวนึกถึงท่าทางที่พ่อโจมตีซูเต๋อไห่กลับ จงใจกล่าวว่า “เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่เชียวนะ ท่านพ่อไม่กลัวเขาเลยหรือเจ้าคะ”“กลัวสิ…กลัวอยู่แล้ว แต่พอข้าคิดว่าถ้าเขายืนยันได้จริงว่าข้ารับสินบน ไม่เพียงแค่การสอบของจิ่นเหยียนจะเป็นโมฆะ ศิษย์เหล่านั้นของข้าก็จะไม่รอดสักคน แล้วก็เจ้า หรวนหร่วน จะพลอยเดือดร้อนไปเพราะพ่อด้วย ต่อให้ตอนนั้นฝ่าบาทจะตัดหัวข้า ข้าก็ต้องพูดออกมา”“หลักแหลมนัก จุดนี้ท่านพ่อทำถูกเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่ตอนนั้นท่านโต้แย้งด้วยเหตุผล จึงทำให้ฝ่าบาททรงเชื่อท่านได้ หากท่านกลัวหัวหด เกิดความเกรงกลัวเขาในใจ พลาดโอกาสไป ถึงเวลาไม่ว่าท่านพูดอะไร คนเขาก็ต่างคิดว่าท่านกำลังแก้ตัว ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ท่านก็จะแพ้ นี่ก็คือโอกาสทองในการโจมตีกลับ ท่านทำได้แล้วเจ้าค่ะ”“อีกอย่างก็คือ จริง ๆ แล้วในใจฝ่าบาททรงลำเอียงเข้าข้างท่าน เพราะฉะนั้นพระองค์จะทรงอยากให้โอกาสท่านได้พูดเยอะ ๆ หน่อยโดยไม่รู้ตัว”เจียงหวยถูกลูกสาวชม ในใจเขาก็เกิดความรู้สึกภูมิใจขึ้นมาทันที เขาจ้องเจียงเฟ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 491

    จางอวี่มั่วก็ยังหวาดกลัวอยู่ โชคดีที่นางเตรียมใจไว้นานแล้ว แต่นางก็นึกไม่ถึงว่าคนที่ต้องการทำร้ายพวกนางจะคิดวิธีแบบนี้ได้ ที่เอาเงินสกปรกไปยัดไว้ในคลังของสกุลเจียง ศัตรูจ้องเล่นงานเรา จะป้องกันอย่างไรก็ป้องกันไม่ได้จริง ๆเจียงเฟิ่งหัวถาม “พี่หญิงรองมาแล้วใช่ไหม?”จางอวี่มั่วตอบ “มาแล้ว ที่บ้านยังมีลูกอยู่ นางไม่วางใจก็เลยกลับไปแล้ว แต่น้องหญิงสามไม่ต้องเป็นห่วง พวกเรากำชับเป็นอย่างดีแล้ว พี่หญิงรองบอกว่านางกลับไปแล้วก็จะเสริมการคุ้มกันในจวน”เจียงเฟิ่งหัวคิด ผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ทุกคนต่างก็มีความระแวดระวัง ดีเหมือนกัน ไม่เหมือนชาติที่แล้วที่พวกเขาไม่ได้เตรียมการไว้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่ถูกกระทำฝ่ายเดียว ท้ายที่สุดแล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเจียงก็ล้วนถูกสกุลซูเล่นงานจนพังพินาศทั้งสิ้นนางยังคิดไว้ว่ารอคลอดลูกก่อนแล้วค่อย ๆ ขุดคุ้ยหาข้อผิดพลาดของสกุลซู ดูแล้วตอนนี้ก็ไม่ต้องรอให้ถึงเวลานั้นแล้ว สกุลซูก็ไม่ได้ย้ายไปชายแดนหมดทั้งบ้าน บ้านเดิมของสกุลซูก็ยังอยู่ที่เมืองเซิ่งจิง ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็ไม่ได้มีซูเต๋อไห่เป็นลูกชายคนเดียวเสียหน่อยเวลานี้เจียงหวยก็ไม่กล้ากอดเฝิงจิ้งหยวนไว้เพื่อปล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 490

    หลินเฟิงนำทหารไปส่งเจียงเฟิ่งหัวถึงหน้าประตูจวนสกุลเจียง จากนั้นก็ดึงเย่อิ่งไปอีกด้าน “องค์รัชทายาทให้ข้ากำชับเจ้า ว่าต้องปกป้องความปลอดภัยของพระชายารัชทายาทให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องลอบสังหารแบบครั้งก่อนเป็นอีกอันขาด หากพระนางเป็นอะไรไป ให้เจ้าหิ้วหัวมาพบ เจ้าเองก็ระวังสักหน่อย ระวังหัวจะไม่ปลอดภัยเข้าล่ะ”ดวงตาของหลินเฟิงมีประกายอำมหิตสายหนึ่งวาบผ่าน มือทำสัญลักษณ์ปาดคอขึ้นมา เย่อิ่งรู้สึกเพียงว่าศีรษะเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน นับตั้งแต่องครักษ์หลินเปลี่ยนจากองครักษ์ของท่านอ๋องกลายเป็นองครักษ์ของรัชทายาท คนก็เปี่ยมไปด้วยพลังเสียเหลือเกิน!สีหน้าของเย่อิ่งไม่เปลี่ยนแปลง และดูเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ในอ้อมอกกอดกระบี่ไว้เล่มหนึ่ง “ได้ยินว่าในวังมีนางกำนัลหลายคนชอบเจ้า พวกนางล้วนอยากแต่งงานกับเจ้า”หลินเฟิงประหลาดใจ “หน้าน้ำแข็งก็ชอบพูดล้อเล่นแล้วหรือนี่ พระอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วกระมัง”“ข้าไม่ได้ล้อเล่น” สีหน้าของเย่อิ่งดูทื่อๆ ทว่าจริงจังยิ่งหลินเฟิงตะลึงไป รีบหันไปดูที่หน้าประตูใหญ่ของจวนสกุลเจียงอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเหลียนเย่กับพระชายารัชทายาทเข้าไปแล้ว ก็กระซิบเสียงเบา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status